Thai VI

คือว่ากราฟที่เห็นในไฟล์ EPS12Years นะครับ

สเกลค่าด้านซ้าย และขวามันไม่เท่ากัน
เลยสงสัยว่าเพราะคนทำตั้งใจให้เป็นอย่างงั้นหรือเปล่าครับ

เพราะผมเข้าใจว่าค่าบางค่ามันควรจะมีสเกลเท่ากันเพื่อที่จะได้
วิเคราะง่ายๆ

อย่างเช่นกราฟ BV เทียบ Price
มันก็ควรที่จะเท่ากัน  แต่พอเปิดดู BV บางทีเริ่มจาก 0-50
แต่ Price เริ่มจาก 0-100

ไม่ทราบว่าเพื่อนๆคิดกันว่าไงครับ

ค่า มาตราส่วนทั้งสองแกน ผมตั้งไว้ แบบอัตโนมัติ ครับ
โปรแกรม Excel จะตรวจดูค่า สูงสุด-ต่ำสุด ของแต่ละแกน ทุกแกน
แล้วจะวางแสดงให้เหมาะสมกับขนาดของรูปกราฟ

ไม่ว่าเราจะเลือกหุ้นตัวไหนมาดู มันก็จะจัดให้พอดีกับขนาดรูปกราฟ


วิธีตั้งรูปแบบของแกน
โดยใช้เมาส์ชี้ไปที่แกนที่ต้องการดูรูปแบบ
กดปุ้มขาว จะขึ้นทางเลือก

ขอบคุณครับ

แล้วผมสงสัยครับว่าอย่าง BV vs Price ควนจะดูแบบให้เป็น Scale เดียวกันหรือเปล่าครับ

หรือว่าการตั้งค่าที่ทำอยู่แบบอัตโนมัติเอาไว้เพื่อดูจุดตัด หรืออะไรที่เป็นพิเศษรึเปล่าครับ

ที่ถามเพราะว่าพอดีผมไปอ่านไฟล์ที่แนบมาเรื่องเกี่ยวกับคำอธิบายการดูกราฟที่หน้าสองแล้วมีข้อความดังนี้ครับ

>>
การแปลความหมาย
เมื่อเทียบกับความสัมพันธ์ในอดีต
ราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวอยู่เหนือเส้น EPS อาจแสดงความหมายว่าแพงเกินไป
ราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าเส้น EPS อาจแสดงความหมายว่าถูกเกินไป
ดูจากตัวอย่าง
1. ราคาหุ้น TTA ตอนนี้อาจเรียกได้ว่าแพงเกินไปเมื่อเทียบกับความสัมพันธ์ในอดีต เพราะเคลื่อนไหวอยู่เหนือ EPS ทั้งด้าน Bullish และ Bearish

คือว่าในกราฟนั้น Price มีช่วงค่าอยู่ที่ -5 ถึง 45
แต่ EPS มีช่วงค่า -4 ถึง 16
แล้วเราจะเอามาใช้เพื่อพิจารณาได้หรือครับว่าราคาหุ้นมันเคลื่อนไหวอยู่เหนือหรือต่ำกว่า EPS อาจแสดงความหมายว่าอย่างไร

เพราะถ้าจัดให้กราฟมีสเกลเท่ากันแล้ว ยังไงๆ  Price ก็ต้องควรจะมากกว่า  EPS อยู่แล้ว หรือว่ามันจะมีหุ้นที่ EPS สูงกว่า Price รึเปล่าครับ

สำหรับ EPS กับ PRICE นี้ควรจะให้อยู่ต่างแกน เพราะต่างสเกลกันมาก
ถ้ามาให้อยู่แกนเดียวกันจะมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของ EPS
เช่น PTTEP
EPS สเกลแถวๆ 10 แต่ PRICE สเกลเป็น 100

แต่สำหรับ
BV กับ PRICE ค่ามันใกล้เคียงกัน อยู่แกนเดียวกันก็ดีเหมือนกัน
เราสามารถดูว่าระยะห่างว่า แคบลง หรือ ถ่างออก หรือแซงหน้ากันไป อย่างไรได้