SPSU อันตรายของธุรกิจสินเชื่อ
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 16, 2006 10:45 am
SPS.209/2549 15 พฤษภาคม 2549
เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานรวมสำหรับงวดบัญชีไตรมาส 1 ปี 2549
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับ
งวดบัญชีไตรมาส 1 ปี 2549 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิ 183.77 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับ
งวดเดียวกันปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 39.44 ล้านบาท โดยมีสาเหตุคือ
รายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อย 1,083.45 ล้านบาท ลดลง 16.70% เมื่อเปรียบเทียบกับ
งวดเดียวกันปี 2548 โดยรายได้หลักจากการขายและให้เช่าซื้อ 1,028.63 ล้านบาท ลดลง 18.23%
เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันในตลาดรถจักรยานยนต์สูงขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายการขายและ
บริหาร 415.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143.74% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น
ตามภาวะการแข่งขันที่รุนแรง นอกจากนี้การที่ภาวะเศรษฐกิจผันผวนเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมัน
ปรับเพิ่มสูงขึ้นมาก อาจส่งผลกระทบต่อฐานะของลูกหนี้ของบริษัท บริษัทและบริษัทย่อยจึงได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัย
จะสูญอีก 201.18 ล้านบาท เพื่อรองรับความเสี่ยงดังกล่าวให้เพียงพอ ทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่าย
รวม 1,249.31 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายสถิตย์พงษ์ พรประภา) (นายสมจิตต์ ชัยชนะลาภ)
กรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการ
จากหมายเหตุประกอบงบ
บริษัทย่อยกำหนดแนวทางการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญข้างต้นตามสถิติของหนี้สูญที่เกิดขึ้นจริงในอดีต ซึ่งจากช่วงสามปีที่ผ่านมา (ปี 2546 ถึงปี 2548) มีหนี้สูญที่เกิดขึ้นจริงเฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 4.60 ของลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิ และค่าเผื่อหนี้สูญเฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 4.18 ของลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิ ในปี 2549 ค่าเผื่อหนี้สูญที่ได้ประมาณไว้ตามแนวทางดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 11.35 ของลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิ อย่างไรก็ตาม การตั้งค่าเผื่อหนี้สูญตามนโยบายดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นไปตามวิธีปฏิบัติทางบัญชีเกี่ยวกับการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญสำหรับธุรกิจ Consumer Finance ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดร่วมกับสภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งกำหนดให้ตั้งค่าเผื่อหนี้สูญเต็มจำนวนตามยอดหนี้คงเหลือของลูกหนี้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป โดยไม่นำหลักประกันมาหักจากยอดหนี้คงเหลือ
มีบริษัทไหนยังไม่ตั้งสำรองไหม
เรื่อง ชี้แจงผลการดำเนินงานรวมสำหรับงวดบัญชีไตรมาส 1 ปี 2549
เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท เอส.พี.ซูซูกิ จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับ
งวดบัญชีไตรมาส 1 ปี 2549 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนสุทธิ 183.77 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับ
งวดเดียวกันปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 39.44 ล้านบาท โดยมีสาเหตุคือ
รายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อย 1,083.45 ล้านบาท ลดลง 16.70% เมื่อเปรียบเทียบกับ
งวดเดียวกันปี 2548 โดยรายได้หลักจากการขายและให้เช่าซื้อ 1,028.63 ล้านบาท ลดลง 18.23%
เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันในตลาดรถจักรยานยนต์สูงขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายการขายและ
บริหาร 415.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143.74% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้น
ตามภาวะการแข่งขันที่รุนแรง นอกจากนี้การที่ภาวะเศรษฐกิจผันผวนเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมัน
ปรับเพิ่มสูงขึ้นมาก อาจส่งผลกระทบต่อฐานะของลูกหนี้ของบริษัท บริษัทและบริษัทย่อยจึงได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัย
จะสูญอีก 201.18 ล้านบาท เพื่อรองรับความเสี่ยงดังกล่าวให้เพียงพอ ทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่าย
รวม 1,249.31 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายสถิตย์พงษ์ พรประภา) (นายสมจิตต์ ชัยชนะลาภ)
กรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการ
จากหมายเหตุประกอบงบ
บริษัทย่อยกำหนดแนวทางการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญข้างต้นตามสถิติของหนี้สูญที่เกิดขึ้นจริงในอดีต ซึ่งจากช่วงสามปีที่ผ่านมา (ปี 2546 ถึงปี 2548) มีหนี้สูญที่เกิดขึ้นจริงเฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 4.60 ของลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิ และค่าเผื่อหนี้สูญเฉลี่ยปีละประมาณร้อยละ 4.18 ของลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิ ในปี 2549 ค่าเผื่อหนี้สูญที่ได้ประมาณไว้ตามแนวทางดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 11.35 ของลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิ อย่างไรก็ตาม การตั้งค่าเผื่อหนี้สูญตามนโยบายดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นไปตามวิธีปฏิบัติทางบัญชีเกี่ยวกับการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญสำหรับธุรกิจ Consumer Finance ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดร่วมกับสภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งกำหนดให้ตั้งค่าเผื่อหนี้สูญเต็มจำนวนตามยอดหนี้คงเหลือของลูกหนี้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป โดยไม่นำหลักประกันมาหักจากยอดหนี้คงเหลือ
มีบริษัทไหนยังไม่ตั้งสำรองไหม