Thai VI

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่1(F45-3)
                       บริษัท ไว้ท์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

                                                         สอบทาน
                                                     (หน่วย : พันบาท)
                                               สิ้นสุดวันที่  31 มีนาคม
                                                   ไตรมาสที่ 1
              ปี                              2549             2548

     กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                      42,922           21,392
     กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)              2.40             1.20

 ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
     ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต


 หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
               ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

 "ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
  การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
  ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"


                              ลงลายมือชื่อ _______________________
                                         ( อารยา  เตชานันท์ )

                              ตำแหน่ง      รองกรรมการผู้จัดการ
                                       ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

ที่  ตล018/49
                                   วันที่  15  พฤษภาคม  2549

เรื่อง  ชี้แจงผลประกอบการสำหรับงบการเงินสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549
เรียน  กรรมการและผู้จัดการ
        ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

     บริษัทฯ ขอชี้แจงผลประกอบการสำหรับงวดสามเดือนเพิ่มเติมจากงบการเงินสิ้นสุด ณ วันที่
31 มีนาคม 2549   ดังนี้

     บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 42.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.5 ล้านบาทจากปีก่อน ทั้งนี้
เนื่องมาจาก

           1.  บริษัทฯ มีรายได้รวม 241.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 9
มีผลทำให้กำไรจากการขายและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 7
           2.  ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวนเงิน 16.7 ล้านบาท
ในขณะที่ปีที่ผ่านมามียอดส่วนแบ่งขาดทุน 4.4 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรที่เกิดขึ้นนี้เนื่องมาจากกำไรที่ได้จาก
การขายที่ดินและอาคาร และผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัทร่วม

         บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวด เพิ่มขึ้นจาก 1.20 บาทต่อหุ้นในปีก่อนเป็น 2.40 บาท
ในงวดปัจจุบัน

         จึงเรียนมาเพื่อทราบ


                                   ขอแสดงความนับถือ



                                   (อารยา  เตชานันท์ )
                                   รองกรรมการผู้จัดการ

โห ไรกันนี่ สุดยอดจริง

ปันผลปีนี้มากหน่อยนะ

เดาว่า

1. ซีเค says: ตัดขาดทุนแอมคอร์หมดแล้ว
2. ซีเค says: ได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
3. ซีเค says: ค่าเช่าเพิ่ม
Jeng says: อ๋อ
Jeng says: โห
4. ซีเค says: ยอดขายเพิ่ม

Jeng says: ต้นทุนลด
Jeng says: เมียน้อย เลิกแล้ว

ล้อเล่น

CONGRATS!

 :cheers:  :cheers:

ผู้ถือหุ้น WG อย่าดีใจมากนะครับ

เพราะว่ามีรายได้พิเศษที่จะมาเฉพาะงวดนี้จำนวน 16.74 ล้านบาท

เมื่อหักรายการนี้ออก  จะเหลือกำไร 26.18 ล้านบาท  ประมาณ 1.47 บาทต่อหุ้น

แต่ถ้าได้ไตรมาสละ 1.47 บาทต่อหุ้น  ทั้งปีก็จะได้ 5.87 บาทต่อหุ้น  ก็ถือว่าน่าพอใจมากทีเดียวครับ

ไตรมาสที่ 2  น่าจะมี Margin ที่ดีขึ้น  เพราะค่าเงินบาทแข็งอย่างมีนัยสำคัญ

ที่ยอดนะคุณ ฉัตรชัยมากว่า คำนวน ไว้ 17 ล้าน ใกล้เคียงมากครับ  :shock:

อย่าดีใจมาก พรุ่งนี้ลิ่งๆไปเลย

เหอๆ

จำได้สมัยก่อน ตอนคุณ ฉัตรชัยบรรยายเสร็จ

ทุกคนก็ประทับใจ ปลาบปลื้ม

พอกลับมา วันรุ่งขึ้น พี่ดู ราคา wg เหอๆ นิ่งสนิท ไม่ไปไหนเลย

เฮ้อ ฟังๆกันไปได้อะไรบ้างนี่

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... sc&start=0
ดูเซียนวิเคราะไว้ในอดีตเป็นหลักฐาน

สักวันผมจะวิเคราะให้ได้แบบพี่เขา

ยินดีด้วยครับ
 :cheers:  :cheers:

สุดยอด ครับ

อย่าพึ่งลิ่งนะครับ รอๆ กันก่อน

อย่าพูดเลยครับ ล่ง ลิ่ง น่ะ พรุ่งนี้ได้เกิน 2 บาทก็เก่งแล้ว ว่าแต่ อย่างที่พี่ฉัตรชัยบอกแหละครับ อย่าไปหลงที่ 2.40 บาท ให้มองที่ 1.47 บาทดีกว่า

ว่าแล้ว เมษา 2550 ขอซัก 2.75 อย่างต่ำ เถอะ  8)

จากการโทรไปสอบถามที่บริษัท  ได้ความว่า

1. กำไรที่ได้พิเศษในงวดนี้  จะส่งผลให้เงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 49  ที่จะจ่ายในปีหน้า  คงได้เพิ่มขึ้นมากทีเดียว

2. ผลการดำเนินงานของแอมคอร์ในงวดล่าสุด  ถึงแม้จะยังคงขาดทุนอยู่  แต่ก็ลดลงมากกว่าครึ่งแล้วเมื่อเทียบกับปีก่อน

ขอบคุณครับ คุณพี่ chatchai

พี่ฉัตรชัยครับ ผมขอถามหน่อยเรื่องงบของ WG กับ แอมคอร์ ครับ

1. ในเมื่อเงินลงทุนแบบส่วนได้ส่วนเสียในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 41 ล้าน (หมายเหตุ 3) ทำไมกำไรจากบริษัทร่วม ถึงเป็น 16.7 ล้าน ครับ?

2. อย่างนี้ ไตรมาสต่อ ๆ ไปก็ต้องรับรู้ผลขาดทุน (ถ้าจะมี) ไปอีกอย่างน้อย 41 ล้าน ใช่เปล่าครับ

ขอบคุณครับ ขอไปทำงานต่อก่อน เดี๋ยวอ่านงบ + หมายเหตุเสร็จอาจมีคำถามเพิ่มจะมาปรึกษาอีกครับ

3. เงินลงทุนซึ่งบันทึกโดยวิธีส่วนได้เสีย (ต่อ)

ในระหว่างปี พ.ศ.2538 บริษัทร่วมได้มีการเพิ่มทุนแต่บริษัทไม่ได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทร่วมมีส่วนเกิน
มูลค่าหุ้น 78.6 ล้านบาท เนื่องจากส่วนได้เสียได้ลดลงจากร้อยละ 99.96 มาเป็นร้อยละ 48.96 และบริษัทผู้ถูกลงทุนกลายมาเป็น
บริษัทร่วม (ก่อนหน้านั้นเป็นบริษัทย่อย) บริษัทไม่ได้บันทึกส่วนเกินมูลค่าหุ้นส่วนในบัญชีงบการเงินของบริษัทในปี พ.ศ. 2538
บริษัทได้แก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าวในงบการเงินนี้ การแก้ไขข้อผิดพลาดไม่ได้มีการปรับงบการเงินย้อนหลังเนื่องจากพิจารณาไม่ได้เป็นข้อผิดพลาดที่สำคัญ (fundamental error)  การแก้ไขข้อผิดพลาดนี้มีผลทำให้เงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 25.1 ล้านบาทและบันทึกจำนวนเงินดังกล่าวในบัญชีส่วนเกินทุน

อีก 25.1 ล้านบาท  มาจากการปรับปรุงบัญชีครับ  ทำให้มูลค่าเงินลงทุนในแอมคอร์เพิ่มขึ้น

กรณีนี้  ผมเคยบอกไว้นานมาพอควร  และได้บอกกับผู้บริหาร  ผู้ตรวจสอบบัญชี  ในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อครั้งก่อนๆ

 


คือพี่พยายามคิดย้อนกลับไปว่า WG จะมีกำไรเท่าไร  เมื่อคิดจากเงินลงทุนที่ WG บันทึกในงบนะครับ

เงินลงทุนที่ลงในงบ WG นั้นไม่รับรู้  มูลค่าที่ดินและโรงงานที่ทางแอมคอร์ประเมินใหม่  

แต่พอไปดูหลักเกณฑ์ทางบัญชีแล้ว  ทาง WG จะไม่มีการรับรู้จากการขายที่ดินและโรงงานนะครับ

อันนี้หรือเปล่าครับ ที่พี่เคยพูดถึง
ผมยังไม่เข้าใจเต็มร้อย แต่เริ่มจะเข้าใจมากขึ้นแล้ว

ที่ผมเคยพูดว่า  ส่วนผู้ถือหุ้นในงบการเงินของแอมคอร์นั้นมีมูลค่ามากกว่าที่ลงในงบการเงินของ WG

ซึ่งมีสาเหตุมาจาก 2 ส่วน  คือ

1. แอมคอร์มีการปรับมูลค่าที่ดิน  ทำให้ในส่วนผุ้ถือหุ้นมีส่วนเกินจากการประเมินราคา

2. ตอนที่แอมคอร์ ออสเตรเลีย มาซื้อหุ้นเพิ่มทุนนั้น  ไม่ได้ซื้อในราคาพาร์  ดังนั้นจึงมีส่วนเกินมุลค่าหุ้นอีก 78.58 ล้านบาท

เราจะใช้การวิเคราะห์อย่างไรครับ ว่าจะเข้าซื้อ wg ในช่วงราคาเท่าไหร่ถึงจะถูกต้อง

rote4058 เขียน:เราจะใช้การวิเคราะห์อย่างไรครับ ว่าจะเข้าซื้อ wg ในช่วงราคาเท่าไหร่ถึงจะถูกต้อง

อันนี้แล้วแต่ความพอใจของแต่ละคนครับ บางคนประเมินราคาด้วย FCF บางคนแค่ใช้ P/E,P/BV บางคนใช้ ROE  เพียงแต่ราคาปัจจุบัน (46.75) ถ้าคุณต้องการประมาณ 12.5% ต่อปี (Divd + Gained) ก็ซื้อ WG หมดพอร์ตได้เลยครับ แต่ต้องตามติดเป็นระยะ ๆ ด้วยนะ ว่ามีเหตุการณ์อะไรทำให้ปัจจัยพื้นฐาน (การเติบโต, การลงทุน) เปลี่ยนแปลงเปล่า