ราชันบนหลังม้า
โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ค. 15, 2006 10:48 am
กลางทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งแอฟริกา มีชายแก่คนนึงนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ ท่ามกลางสิงห์สาราสัตว์ และอากาศที่ร้อนผ่าว แกคือตาชื่น ปีนี้แกมีอายุ 60 ปีแล้ว แกไม่มีครอบครัว ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แกมีความฝันตั้งแต่ครั้งยังวัยเด็กว่า จะต้องไปเยือนทุ่งหญ้าแอฟริกาให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต คนเราเมื่ออายุครบ 60 ปี พระท่านว่าเป็นโชคดีแล้ว อายุยืนถึงป่านนี้ ครบห้ารอบนักษัตรย์ จึงนับว่าเป็นการสมควรแล้ว ที่แกจะทำความฝันให้เป็นจริง
ระหว่างที่แกนั่งเพลินๆอยู่นั้น ก็มีฝูงม้าป่าวิ่งผ่านมา เสียงกึกก้องไปทั่ว ตาชื่นยืนหลิวตาดูด้วยความตื่นเต้น ท่ามกลางฝูงม้าป่านั้น แกสังเกตเห็นชายหนุ่มนายหนึ่งกำลังควบม้าอยู่ด้วยความชำนาญ สักพักเขาก็กระโดดข้ามไปขี่ม้าอีกตัว แล้วก็กระโดดไปควบม้าอีกตัวหนึ่งอย่างสนุกสนาน
“โทษทีนะพ่อหนุ่ม เหตุไฉนท่านจึงกระโดดไปมาบนหลังม้าละ” ตาชื่นตะโกนถาม ชายหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้า เดินดุ่มๆมาหาตาชื่น “ท่านไม่ใช่คนแถวนี้” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมา “เรามาจากเมืองไทย ท่านคงไม่รู้จักหรอก” ตาชื่นตอบ
“เราเป็นราชันของผืนป่าและทุ่งหญ้าแห่งนี้” ชายหนุ่มบอกตาชื่นให้รู้ถึงฐานะของเขา “แล้วท่านกระโดดไปมาบนหลังม้าทำไมละ” ตาชื่นถามต่อ “เราต้องเดินทางไปทั่วดินแดน เพื่อตรวจตราความเรียบร้อย ดินแดนของเรากว้างใหญ่นัก เราต้องใช้ฝูงม้าป่าพวกนี้ในการเดินทาง ม้าตัวไหนอ่อนแรง วิ่งช้าลง เราก็จะกระโดดไปควบม้าตัวที่วิ่งเร็วกว่า” ราชันตอบ
“แล้วในระหว่างที่ท่านกระโดดไปมานั้น ท่านเคยตกบ้างหรือเปล่า” ตาชื่นถามอย่างสงสัย “ไม่เคย” ราชันบอกอย่างภูมิใจ “แล้วถ้าเกิดม้าตัวที่วิ่งเร็วที่ท่านกระโดดไปควบนั้น แท้จริงกำลังโดนสิงห์โตไล่กวดมาละ” ตาชื่นพยายามถามต่ออย่างไม่ลดละ ราชันนิ่ง ขบปาก ใช้ความคิดสักครู่ แล้วตอบว่า “ข้าคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก”
“ท่านเคยคิดบ้างไหมว่า ทุกครั้งที่ท่านกระโดดข้ามม้าแต่ละตัว ท่านอาจจะตกม้าเมื่อไหร่ก็ได้นะ และนั่นท่านอาจถึงตายได้” ตาชื่นกล่าวด้วยความเป็นห่วง แม้จะรู้จักกันเพียงครู่เดียว “แต่วิธีนี้มันทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็ว” ราชันอ้าง “เราไม่อาจทนขี่ม้าอืดอาดยืดยาดได้หรอก และที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยตกสักครั้ง” ราชันกล่าวเสริม
“เราเสียเวลามามากแล้ว เราขอตัวก่อน” ว่าแล้วราชันก็กระโดดขึ้นหลังม้าที่กำลังวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ตาชื่นไม่ทันได้กล่าวอำลา ได้แต่นั่งมอง ราชันควบม้าอย่างองอาจ สักพักเขาก็กระโดดข้ามไปขี่ม้าอีกตัว แล้วก็กระโดดไปควบม้าอีกตัวหนึ่ง จนสุดสายตา
ทุ่งหญ้าเงียบสงบลงอีกครั้ง ตาชื่นนั่งลงในท่าเดิม สายตาเหม่อมองท้องฟ้า ฝูงนกแร้งบินวนในทิศที่ราชันมุ่งตรงไป
ระหว่างที่แกนั่งเพลินๆอยู่นั้น ก็มีฝูงม้าป่าวิ่งผ่านมา เสียงกึกก้องไปทั่ว ตาชื่นยืนหลิวตาดูด้วยความตื่นเต้น ท่ามกลางฝูงม้าป่านั้น แกสังเกตเห็นชายหนุ่มนายหนึ่งกำลังควบม้าอยู่ด้วยความชำนาญ สักพักเขาก็กระโดดข้ามไปขี่ม้าอีกตัว แล้วก็กระโดดไปควบม้าอีกตัวหนึ่งอย่างสนุกสนาน
“โทษทีนะพ่อหนุ่ม เหตุไฉนท่านจึงกระโดดไปมาบนหลังม้าละ” ตาชื่นตะโกนถาม ชายหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้า เดินดุ่มๆมาหาตาชื่น “ท่านไม่ใช่คนแถวนี้” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นมา “เรามาจากเมืองไทย ท่านคงไม่รู้จักหรอก” ตาชื่นตอบ
“เราเป็นราชันของผืนป่าและทุ่งหญ้าแห่งนี้” ชายหนุ่มบอกตาชื่นให้รู้ถึงฐานะของเขา “แล้วท่านกระโดดไปมาบนหลังม้าทำไมละ” ตาชื่นถามต่อ “เราต้องเดินทางไปทั่วดินแดน เพื่อตรวจตราความเรียบร้อย ดินแดนของเรากว้างใหญ่นัก เราต้องใช้ฝูงม้าป่าพวกนี้ในการเดินทาง ม้าตัวไหนอ่อนแรง วิ่งช้าลง เราก็จะกระโดดไปควบม้าตัวที่วิ่งเร็วกว่า” ราชันตอบ
“แล้วในระหว่างที่ท่านกระโดดไปมานั้น ท่านเคยตกบ้างหรือเปล่า” ตาชื่นถามอย่างสงสัย “ไม่เคย” ราชันบอกอย่างภูมิใจ “แล้วถ้าเกิดม้าตัวที่วิ่งเร็วที่ท่านกระโดดไปควบนั้น แท้จริงกำลังโดนสิงห์โตไล่กวดมาละ” ตาชื่นพยายามถามต่ออย่างไม่ลดละ ราชันนิ่ง ขบปาก ใช้ความคิดสักครู่ แล้วตอบว่า “ข้าคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก”
“ท่านเคยคิดบ้างไหมว่า ทุกครั้งที่ท่านกระโดดข้ามม้าแต่ละตัว ท่านอาจจะตกม้าเมื่อไหร่ก็ได้นะ และนั่นท่านอาจถึงตายได้” ตาชื่นกล่าวด้วยความเป็นห่วง แม้จะรู้จักกันเพียงครู่เดียว “แต่วิธีนี้มันทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็ว” ราชันอ้าง “เราไม่อาจทนขี่ม้าอืดอาดยืดยาดได้หรอก และที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยตกสักครั้ง” ราชันกล่าวเสริม
“เราเสียเวลามามากแล้ว เราขอตัวก่อน” ว่าแล้วราชันก็กระโดดขึ้นหลังม้าที่กำลังวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ตาชื่นไม่ทันได้กล่าวอำลา ได้แต่นั่งมอง ราชันควบม้าอย่างองอาจ สักพักเขาก็กระโดดข้ามไปขี่ม้าอีกตัว แล้วก็กระโดดไปควบม้าอีกตัวหนึ่ง จนสุดสายตา
ทุ่งหญ้าเงียบสงบลงอีกครั้ง ตาชื่นนั่งลงในท่าเดิม สายตาเหม่อมองท้องฟ้า ฝูงนกแร้งบินวนในทิศที่ราชันมุ่งตรงไป