Thai VI

it hmpro bigc makro cp7-11 minor mint bgh bh kh erawan grand ticon pttep และ pb

หุ้นที่ผมดูไม่แพง ณ วันนี้ เช่น aeonts ktc

อืมเพื่อนๆคิดไงครับ

แถวบนผมดูว่าถูกนะครับ
เนื่องจากเงินเฟ้อ จะต้องมีการขึ้นราคาสินค้า
พวกบ.พวกนี้สามารถขึ้นราคาได้ในทันที
ไม่ต้องรอกรมการค้าภายใน ก่อนนะครับ

ชื่อหุ้น ราคา ราคาทั้งบริษัท pe ep

it 9.6 3093.78 150.35 20.57 4.85
hmpro 10.20 9731.68 504.80 19.27 5.18
bigc 39.25 31454.42 1882.77 16.71 5.98
makro 80 19200 1136.47 16.89 5.91
cp7-11 7.45 33037.56 1507.73 21.91 4.56
minor 12.80 4775.36 250.26 23.18 5.24
mint 11.40 32668.98 1061.11 31.47 3.24
bgh 29.75 35135.87 832.11 42.23 2.36
bh 37 26924.58 1052.74 25.66 3.90
kh 5.35 5082.50 248.98 20.41 4.89
ERAWAN 5.40 7852.94 257.79 30.46 3.28
ticon 18.10 9725.35 680.30 14.30 6.99
grand 4.52 4525.42 47.34 95.59 1.04
pttep 128 419193.15 23734.69 17.66 5.66
pb 95 2850 191.49 22.33 6.71

หุ้นที่ผมดูไม่แพง ณ วันนี้ เช่น aeonts ktc

aeonts 47.50 11875 980.52 12.11 8.25
ktc 23.20 5965.12 652.70 9.14 10.94

บันทึกเก็บไว้เป็นหลักฐาน อีก 2-3 จะได้กลับมาดูครับ

ดีคับ ที่เราเห็นไม่ตรงกัน เราจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

เหอๆ

Jeng เขียน:

โค้ด: เลือกทั้งหมด

แถวบนผมดูว่าถูกนะครับ 
เนื่องจากเงินเฟ้อ จะต้องมีการขึ้นราคาสินค้า 
พวกบ.พวกนี้สามารถขึ้นราคาได้ในทันที 
ไม่ต้องรอกรมการค้าภายใน ก่อนนะครับ

ดีคับ ที่เราเห็นไม่ตรงกัน เราจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

เหอๆ

มีแถวถูกแถงแพงยังกะราคา ปลาหมึก 55555

ผมว่า KTC AEONTS ตอนเศรษฐกิจขาลงดูไม่จืดแน่ครับ
ตอนนี้คนรอบข้างผม เป็นหนี้บัตรเครดิตกันคนละหลายแสน
ผมว่าถ้ามีการปลดคนงานรอบใหม่
NPL ระดับรากหญ้าแก้ยากกว่าเิดิมนะครับ

uI7J3w เขียน: มีแถวถูกแถงแพงยังกะราคา ปลาหมึก 55555

โหคิดได้ไงเนี่ยมุขเนี่ย

NURINGRX เขียน:ผมว่า KTC AEONTS ตอนเศรษฐกิจขาลงดูไม่จืดแน่ครับ
ตอนนี้คนรอบข้างผม เป็นหนี้บัตรเครดิตกันคนละหลายแสน
ผมว่าถ้ามีการปลดคนงานรอบใหม่
NPL ระดับรากหญ้าแก้ยากกว่าเิดิมนะครับ

ต้องดูครับว่าลงแบบไหน ถ้า soft landing ก็มีปัญาไม่มาก
แต่ถ้าลงแบบฟองสบู่แตกก็ตัวใครตัวมันครับ

สำหรับ pttep ณ เวลานี้ pe 14-15 เท่า ผมก็ว่ายังไม่แพง เพราะดูตัวบริษัทแล้วมี Growth อย่างต่อเนื่อง ถ้าถือลงทุนยาว ๆ อาจได้เห็น 200 บาทในเร็ววันนี้ อีกทั้งน้ำมันโลกก็ยังขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตอบเฉพาะตัวที่ถือ ละกันครับ

mint ผมว่าชักแพงแล้วอ่ะ  กำลังว่าจะขาย
minor ผมว่ายังโอเคนะ  ค่าเงินแข็ง  ได้ประโยชน์เพราะสินค้าเค้าหลายตัว นำเข้ามาน่ะ

มีสองตัวเอง

pttep 128 419193.15 23734.69 17.66 5.66
ทำไมยังบอกว่า ณ เวลานี้ 14-15 เท่า ( ถ้า pe 14 ราคาเท่ากับ 101.5 ถ้า pe 15 ราคาเท่ากับ 108.75 ถ้า pe 17.66 ราคาเท่ากับ 128 ) หรือคิดว่า ให้รอราคาที่ pe

ก็คิดว่าแพงเหมือนกัน
ยิ่งกลัวมันก็ยิ่งแพง
ต้องรอโคตรมหาแพง
คนถึงจะเลิกซื้อกันมั้ง

ผมก็ว่าแพงนะ  แต่ตอนนี้มันเป็นช่วง ซื้อตามโมเมนตัม ซึ่งกว่าจะรู้ตัวว่าแพง  ก็อีก 6-12 เดือน ข้างหน้า  

กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์  ผมว่าคุณเจ๋ง น่าจะคาดเดาได้ถูกในกรณีนี้

Jeng เขียน:ชื่อหุ้น ราคา ราคาทั้งบริษัท pe ep

หุ้นที่ผมดูไม่แพง ณ วันนี้ เช่น aeonts ktc


ktc 23.20 5965.12 652.70 9.14 10.94

บันทึกเก็บไว้เป็นหลักฐาน อีก 2-3 จะได้กลับมาดูครับ

Agree.All the bad news was priced in already.As long as China,India,Japan and East Asian countries still have such the growth like this,u don't have 2 b worried about Thailand's economics.

จริงแล้วแล้วพี่บอกว่าแพง ในมุมมองของพี่นะ

แต่ใครว่าถูกก็ว่ากันไป

ส่วนใครต้นทุนต่ำแล้วคิดว่าจะถือให้ได้กำไรมากขึ้นก็ว่ากันไป

อิอิ

ไม่ได้เจตนาจะถล่มหุ้นใครนะ

ของแบบนี้ พูดไว้ จะได้มองหลายมุม

ส่วน aeonts ktc พี่อยากให้ลงนะ อยากให้ราคาลง 50 %

เหอๆ

พี่เงินน้อย จะได้หาเงินมาซื้อเพิ่ม

ไม่มีไรหรอก

เห็นด้วยครับว่าแพง

ลางสังหรมันบอกว่า รอบนี้ใกล้จบแล้ว

มือใหม่มักจะถูกภาพลวงให้ซื้อของแพงเสมอ

555

เดี๋ยวบอกเจตนาก่อน

1. ข้อแรกที่บอกว่าหุ้นเหล่านี้แพง

it hmpro bigc makro cp7-11 minor mint bgh bh kh erawan grand ticon pttep และ pb

ไม่ได้แปลว่า หุ้นเหล่านี้จะไม่ขึ้น

2. ข้อสองที่บอกว่าหุ้นเหล่านี้ถูก

aeonts ktc

ไม่ได้แปลกว่า หุ้นเหล่านี้จะไม่ลง

3. เนืองจากมีมือใหม่เข้ามาเยอะ และบางครั้งแยกไม่ออก ระหว่างคำว่า หุ้นพื้นฐานดี คำว่าหุ้น vi เห็นพี่ๆ เค๊าเล่นกัน ก็เลยเล่นตาม ซึ่งไม่ผิด

4. แต่อยากให้หัดคำนวณเป็นว่า อะไรคือพื้นฐาน ถ้าเรารู้ว่า อะไรเกินพื้นฐานไปมาก แต่สถานะการให้ เช่นตอนนี้ต่างชาติ ขนเงินลงตลาดหุ้น 3 แสนล้าน ค่าเงินแข็ง ถ้าซื้อ set50 เข้าไปอีก แค่ปั่น pttep ขึ้นไป ก็กำไร 3 เด้ง คือ

4.1 กำไรค่าเงิน
4.2 กำไร set50
4.3 กำไร ตัวหุ้น

เพราะฉะนั้น หุ้นทีพี่คิดว่าแพงมันก็ขึ้นไปได้อีกมหาศาล

5. อยากให้น้องๆไม่ติดดอย คือถ้าจะเล่นหุ้น ที่ราคาแพง เวลากำไร ก็ถือไปเลย แต่ถ้ามันพลิกตัว ก็ต้อง cut loss เพราะคำว่าพื้นฐานดี กับกิจการดี ไม่เจ๊ง คนละเรือง

เช่น ถ้าเราไปซื้อ pttep สมมุติ ราคา 1900 บาท pe 52 เหอๆ ยังไงกิจการมันก็ไม่เจ๊งหรอก แต่ เวลามันลงมานี่ดิ เราติดดอย

อืม พอจะเข้าใจกันนะ

อีกอย่างนะ ก่อนนอนคือ

เห็นหลายคนมาเห็นด้วยว่าแพง เหอๆ ถ้าคุณเล่นเก็งกำไรนี่ แพงนี่มีแพงกว่านะ

เพราะฉะนั้นคำว่าแพง ไม่ได้แปลว่า ไม่ซื้อนะ

เพียงแต่เราต้องเล่นให้ถูกเกม

ไปก่อนดีกว่า

กระทู้นี่ พี่ว่ามันส์ดี

คําว่าแพงและถูกในความหมายของพี่ Jeng ใช้เกรณฑ์อะไรวัดครับ

เช่น pe  พื้นธุรกิจ หรือ อื่นๆ ครับ

สมมุตินะเอา mintละกันสมมุติต่อว่าtradeที่ pe 14เท่า ยังงี้เรียกแพงใหมโดยที่โครงสร้างกิจการทุกอย่างเหมือนเดิม
กับ mint ที่โตแน่ๆอย่างน้อย15-20%และ trade ที่ pe 14 เท่า ยังนี้จะเรียกว่า
ถูกหรือแพงครับ

โดยส่วนตัวนะครับถ้าเป็นธุรกิจที่ผมเข้าใจและงบการเงินok
แล้ว สมมุติว่า tradeกันที่ pe 15-16เท่าละกันส่วนกําลังการผลิตในปัจจุบัน
อยู่ที่ 40% และกําลังเพิ่มการผลิดเพราะสินค้ามีdemand มากอีกทั้งgrowthปีละ15-20%  ส่วนตัวผมก็ว่าไม่แพง เพราะยังไม่เต็มกําลังการผลิต

หากทําการผลิตเต็มกําลังแล้วtradeที่ 15 เช่นกัน อีกทั้งdemandเท่าเดิม
ยังงี้ผมเรียกว่าแพง

การบอกว่าถูกหรือแพงที่ผมกล่าวไปอยู่ภายใต้สมมุติฐานว่าผมเข้าใจธุรกิจดี
หากผมไม่เข้าใจธุรกิจผมก็ไม่สามารถบอกได้ว่าถูกหรือแพง


ปล ผมฟังbuffetบรรยายและจับใจความได้คือ UNDERSTANDING ครับ
ผมสรุปเองนะครับเป็น Engนะครับ

Key to investment is to understand business otherwise you cannot evaluate the value


ทั้งหมดคือความเห็นส่วนตัวครับ ซึ่งอาจผิดก็ได้ หากผิดตรงใหนช่วยชี้แนะด้วยครับท่านจอมยุทธทั้งหลาย

________
กระบี่อยุ่ที่ใจ

ตามความเห็นส่วนตัวของพี่ ถ้า mint pe 14 เท่า แล้วโต แน่ๆ 15-20 % อาจจะไม่แพง ถ้าไม่มีการเพิ่มทุนเลย

เท่าที่มองห่างๆ mint โตด้วยเงินเพิ่มทุนครับ เพิ่มทุกปีเลย

ถ้าไม่นับราคาที่ขึ้นไปแล้วทำให้เราดีใจ

ลองคิดดูว่า หุ้นกับ mint มาซัก 5 ปี สมมุติคุณลงไป 1 ล้าน และต้องเพิ่มทุนกี่ครั้ง รับปันผลมากี่ครั้ง และส่วนของ book ของคุณโตขึ้นเท่าไรครับ

คุณ Rokcer

ถ้าจะให้โตไปอีกผมว่าคงต้องใช้เงินทุนอีกนะผมว่า
เพียงแต่ต้องโอกาศ และการขยายที่เหมาะสม

ถูกหรือแพงควรมีตัวเทียบครับ
เช่น น้ำเปล่าใส่ขวด แพงกว่าน้ำประปา
แต่ในบางกรณี เช่นไปเที่ยวน้ำตก แล้วกระหาย
มีให้เลือก คือ กินน้ำตก กับกินน้ำขวดละ 15 บาท
อันนี้ทุกคนเห็นตรงกันว่ากินน้ำขวด

เช่นเดียวกะหุ้น แถวบน
ยกเว้น erawan grand ticon pttep
เป็นหุ้นค้าปลีก ขายสินค้าเป็นหน่วยเล็กๆ
สามารถขึ้นราคาได้โดยไม่มีคู่แข่ง
PB ขายขนมปัง ปอน 27 บาท ถ้าเขาขึ้นราคามา 30 บาทจะกินไหม ?
หรือพิซ่า 290 บาท ถ้าขึ้นเป็น 350 จะสั่งไหม ?

ส่วน แถวล่าง บัตรเงินผ่อน คิดดอก 1% ต่อเดือน ถ้าขึ้นเป็น 1.25
ผมคิดว่าทุท่านคงเปลี่ยยี่ห้อของบัตร

ณ เวลานี้ผมมองความสามารถในการขึ้นราคาสิ้นค้าเป็นหลักครับ
เงินมันเฟ้อ บ. ใดขึ้นราคาสินค้าไม่ได้ กำไรตกฮวบแน่ๆ (เป็นความเห็นส่วนตัว) โดยไม่มอง PE และ ROE เลย เพราะเป็น PE และ ROE ของปีที่แล้ว

เห็นด้วยครับ เรืองการขึ้นราคาได้ตามภาวะเงินเฟ้อ

ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากครับ

ส่วนการไม่มอง PE ROE ในอดีตเลย ฝากเป็นการบ้านครับ ว่าท่านอื่นคิดอย่างไร

ดีใจ discuss กันเรื่อง MINT ดีครับดี

โดยปกตินะครับ บริษัทที่มี ROE สมมุติ 30 % ทุกปี และปันผล 35 % ทุกปี

ถ้าเราซื้อ pe 15 ปีนี้ แล้วถือไว้ 5 ปี โดยสมมุติ แล้วเราก็ขายได้ ที่ pe 15

ผลคือ เราจะได้กำไรจากการลงทุน เท่ากับ 30*.65 เท่ากับ 19.5 % เป็นดอกเบี้ยทบต้นครับ

แต่ในกรณี mint ROE 21.93 มีปันผลและมีเพิ่มทุน ทำให้การคำนวณ Growth ต้องคำนวณโดยใช้ปัจจัยการเพิ่มทุนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยคับ

เชื่อแล้วครับว่าทำไมเมื่อก่อนหุ้น pe 30 เท่าได้

MO101 เขียน: ส่วน แถวล่าง บัตรเงินผ่อน คิดดอก 1% ต่อเดือน ถ้าขึ้นเป็น 1.25
ผมคิดว่าทุท่านคงเปลี่ยยี่ห้อของบัตร

ณ เวลานี้ผมมองความสามารถในการขึ้นราคาสิ้นค้าเป็นหลักครับ
เงินมันเฟ้อ บ. ใดขึ้นราคาสินค้าไม่ได้ กำไรตกฮวบแน่ๆ (เป็นความเห็นส่วนตัว) โดยไม่มอง PE และ ROE เลย เพราะเป็น PE และ ROE ของปีที่แล้ว

คือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ไม่มีทางได้เปรียบเสียเรียบเชิงนโยบายครับ
เพราะเพดานดอกเบี้ยโดนกำหนดโดยรัฐบาล นะครับ

ไม่มีทางที่เพดานกำหนดไว้ 28 จะทะลึ่งไปคิด 30 ได้
เว้นแต่ว่ามีบางเจ้าที่คิด น้อยกว่าชาวบ้านแล้วขัยบขึ้น ใหเล็กน้อย หรือเท่ากับเจ้าอื่น

ซึ่งมองดูแล้วงานนี้ไม่เสียเปรียบกันเรื่องนี้หรอกครับ

ปัญหาที่มองคือ การรักฐานฐานลูกค้าและการกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า
งานนี้เรียกว่าใครการตลาดดีกว่า กินไปครับ

ผมว่าอ่านกระทู้นี้แล้ว ต้องตามไปอ่านอีกกระทู้หนึ่งที่คุณฉัตรชัยตั้งไว้  ในเรื่องของกำไรต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้นกับกระแสเงินสดของบริษัท   หุ้นส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงในกระทู้นี้มีการเติบโตของกำไรที่สูงขึ้นทุกปี  แต่หุ้นอย่าง mint หากวิเคราะห์เชิงคุณภาพ  เอาตราสินค้า เอาการลงทุนในจีนมาพิจารณาด้วย  ส่วนตัวผมก็มึนๆว่าตกลงมันแพงหรือยังที่พีอีขนาดนี้   ได้อ่านกระทู้ที่ว่าของคุณฉัตรชัยก็ดีใจว่ามีการถามคำถามที่แตกต่างออกไปจากเพียงเรื่องกำไร  แต่ดูเหมือนพี่ท่านจะมาตั้งคำถามเตือนสติอย่างเดียว  ไม่ได้ให้ความเห็นอย่างอื่น  ผมเปิดรออ่านมาวันสองวันแล้วครับ