คำถามเกี่ยวกับภาษีหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 27, 2006 6:27 am
ยินดีรู้จักทุกๆท่านค่ะ เป็นนักลงทุนมือใหม่จริงๆ โดยตั้งเป้าจะเป็น VI ให้ได้ ลงทุนซื้อหุ้นไว้ 4-5 ตัว ซึ่งจะทะยอยได้รับเงินปันผลเดือนหน้า จึงมีคำถามมาถึงท่านผู้รู้เกี่ยวกับภาษีที่ผู้ลงทุนซื้อขายหุ้นต้องเสีย ดังนี้
1. ต้องเสียภาษีสำหรับเงินปันผลกี่ % คะ
2. ผู้ลงทุนไม่ต้องเสียภาษีสำหรับ capital gain (ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น) ที่เพิ่มขึ้นไช่มั๊ยคะ ยกตัวอย่างเช่น ต้องการขายหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมด และหุ้นทุกตัวมีราคาสูงกว่าที่ซื้อไว้ ต้องเสียภาษีอะไรมั๊ยคะ
เหตุที่ถามเพราะขณะนี้อยู่ที่อเมริกาค่ะ(แต่ก็กลับไปเมืองไทยทุกปี) คุณแม่ของสามีซึ่งเป็นคนอเมริกันชอบแจก stock ให้ลูกหลานเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ ตัวเองก็ได้รับมาบ้าง แต่เก็บไว้เฉยๆ ไม่ได้สนใจ พอเริ่มศึกษาและลงทุนในตลาดหุ้นไทย ก็หันไปดู port หุ้นอเมริกาที่มีอยู่ บางตัวให้ผลตอบแทนดีมากก็คิดจะเก็บไว้ แต่มีบางตัวที่แย่เลยมีความคิดจะขายและนำเงินไปซื้อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดี พบว่าที่อเมริกาต้องเสียภาษีสำหรับ capital gain จากหุ้นที่จะขายค่ะ แต่หากเกิดเป็น capital loss เค้าให้นำไปหักภาษีรายได้ที่จะเสียตอนสิ้นปี ก็เลยศึกษาข้อมูลต่อ เพราะเกิดอาการสงสัยกรณีพวกที่เป็น Day Trader หากเค้าต้องเสียภาษี capital gain มันจะคุ้มหรือ เพราะจะต้องเสียค่า commission ให้แก่ broker ด้วย ก็ได้คำตอบน่าสนใจมาก ว่า กรมสรรพากร (IRS) ของที่อเมริกาเค้าแบ่งผู้ซื้อขายหุ้นเป็น 2 ประเภท ได้แก่ investor และ trader หากคุณไม่ต้องการเสียภาษี capital gain คุณต้องเป็น trade โดยมีคุณสมบัติตามที่ IRS ตั้งไว้ เช่น ไม่ประกอบอาชีพอื่นใดนอกจากการซื้อขายหุ้น ปริมาณและมูลค่าการซื้อขายหุ้นแต่ละวัน/สัปดาห์ต้องไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หากคุณสามารถพิสูจน์ว่าคุณเป็น Day Trader นอกจากคุณไม่ต้องเสียภาษี คุณสามารถเอาอุปกรณ์ที่คุณใช้ในการซื้อขาย stock เช่น คอมพิวเตอร์ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ มากหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ด้วย ดังนั้น หากคุณซื้อขายหุ้นต่อสัปดาห์/เดือน/ปี คุณเป็น investor ของที่อเมริกาค่ะ ต้องเสียภาษีทั้งรายได้รับจากเงินปันผลและ captal gain
จากเหตุผลที่กล่าวมา เลยเกิดความไม่แน่ใจกรณีการซื้อขายหุ้นที่เมืองไทยเรา ขอความรู้จากท่านๆทั้งหลายด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
1. ต้องเสียภาษีสำหรับเงินปันผลกี่ % คะ
2. ผู้ลงทุนไม่ต้องเสียภาษีสำหรับ capital gain (ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น) ที่เพิ่มขึ้นไช่มั๊ยคะ ยกตัวอย่างเช่น ต้องการขายหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมด และหุ้นทุกตัวมีราคาสูงกว่าที่ซื้อไว้ ต้องเสียภาษีอะไรมั๊ยคะ
เหตุที่ถามเพราะขณะนี้อยู่ที่อเมริกาค่ะ(แต่ก็กลับไปเมืองไทยทุกปี) คุณแม่ของสามีซึ่งเป็นคนอเมริกันชอบแจก stock ให้ลูกหลานเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ ตัวเองก็ได้รับมาบ้าง แต่เก็บไว้เฉยๆ ไม่ได้สนใจ พอเริ่มศึกษาและลงทุนในตลาดหุ้นไทย ก็หันไปดู port หุ้นอเมริกาที่มีอยู่ บางตัวให้ผลตอบแทนดีมากก็คิดจะเก็บไว้ แต่มีบางตัวที่แย่เลยมีความคิดจะขายและนำเงินไปซื้อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดี พบว่าที่อเมริกาต้องเสียภาษีสำหรับ capital gain จากหุ้นที่จะขายค่ะ แต่หากเกิดเป็น capital loss เค้าให้นำไปหักภาษีรายได้ที่จะเสียตอนสิ้นปี ก็เลยศึกษาข้อมูลต่อ เพราะเกิดอาการสงสัยกรณีพวกที่เป็น Day Trader หากเค้าต้องเสียภาษี capital gain มันจะคุ้มหรือ เพราะจะต้องเสียค่า commission ให้แก่ broker ด้วย ก็ได้คำตอบน่าสนใจมาก ว่า กรมสรรพากร (IRS) ของที่อเมริกาเค้าแบ่งผู้ซื้อขายหุ้นเป็น 2 ประเภท ได้แก่ investor และ trader หากคุณไม่ต้องการเสียภาษี capital gain คุณต้องเป็น trade โดยมีคุณสมบัติตามที่ IRS ตั้งไว้ เช่น ไม่ประกอบอาชีพอื่นใดนอกจากการซื้อขายหุ้น ปริมาณและมูลค่าการซื้อขายหุ้นแต่ละวัน/สัปดาห์ต้องไม่น้อยกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หากคุณสามารถพิสูจน์ว่าคุณเป็น Day Trader นอกจากคุณไม่ต้องเสียภาษี คุณสามารถเอาอุปกรณ์ที่คุณใช้ในการซื้อขาย stock เช่น คอมพิวเตอร์ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ มากหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ด้วย ดังนั้น หากคุณซื้อขายหุ้นต่อสัปดาห์/เดือน/ปี คุณเป็น investor ของที่อเมริกาค่ะ ต้องเสียภาษีทั้งรายได้รับจากเงินปันผลและ captal gain
จากเหตุผลที่กล่าวมา เลยเกิดความไม่แน่ใจกรณีการซื้อขายหุ้นที่เมืองไทยเรา ขอความรู้จากท่านๆทั้งหลายด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ