Thai VI

หลักทรัพย์   MINT  
  หัวข้อข่าว สรุปข้อสนเทศ:MINT-W3
  วันที่/เวลา 21 เม.ย. 2549 13:57:03



 

                                     - สรุปข้อสนเทศ -
           
                       ลักษณะ เงื่อนไข และสาระสำคัญใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ
                    ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3 (MINT-W3)

วันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
        เมื่อวันที่ 25 เดือน เมษายน พ.ศ.2549 (เริ่มทำการซื้อขายวันที่ 25 เมษายน 2549)

ประเภทหลักทรัพย์จดทะเบียน
        ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ชนิดระบุ
ชื่อผู้ถือและโอนเปลี่ยนมือได้

ตลาดรอง                  ตลาดหลักทรัพย์ (SET)

จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ        292,403,987  หน่วย

จำนวนหุ้นที่รองรับการใช้สิทธิ   292,403,987  หุ้น

ผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ           บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ")  

สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
        ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัท  ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
ได้ 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิ 6 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ราคาการใช้สิทธิอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้หากมีการปรับอัตราการใช้สิทธิ
และ/หรือราคาการใช้สิทธิตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ

ชนิดของใบสำคัญแสดงสิทธิ      ชนิดระบุชื่อผู้ถือและโอนเปลี่ยนมือได้

อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ
        23 เดือน 29 วัน นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 29 มีนาคม 2551)

ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ           หน่วยละ 0 บาท (ศูนย์บาท)

การกระจายการถือใบสำคัญแสดงสิทธิ     ณ วันที่ 1 เมษายน 2549
                                           จำนวนราย      จำนวนใบ      % ของใบสำคัญแสดงสิทธิ
                                                             สำคัญแสดงสิทธิ    ที่จดทะเบียนในครั้งนี้
1.    ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็น:  
      1.1  รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ     -         -                -
      1.2  กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหาร รวมถึง    10    25,526,150           8.73
             ผู้ที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่มีความสัมพันธ์    
      1.3   ผู้ถือหุ้นที่ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ > 5 %     8    152,692,243          52.22
             โดยนับรวมผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย    
      1.4   ผู้มีอำนาจควบคุม                      -          -             -
      1.5   ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีข้อตกลงในการ      -          -             -
             ห้ามขายใบสำคัญแสดงสิทธิภายในเวลาที่กำหนด        
2.   ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายย่อยที่ถือไม่ต่ำกว่า 1   1,145       114,178,497         39.05
     หน่วยการซื้อขาย      
3.  ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิต่ำกว่า 1 หน่วยการซื้อขาย    288           7,097               0
        รวมผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งสิ้น             1,451        292,403,987       100
หมายเหตุ : กำหนดให้ 1 หน่วยการซื้อขาย เท่ากับ 100 หลักทรัพย์        

ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายใหญ่    ณ วันที่ 1 เมษายน 2549      
                                       จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ   ร้อยละของใบสำคัญแสดงสิทธิ
                                                                                                                   ที่ยื่นจดทะเบียนในครั้งนี้
1. บริษัท ไมเนอร์ โฮลดิ้ง (ไทย) จำกัด            50,226,852              17.18
2. บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)      50,201,303               17.17
3. นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู้ด ไฮเน็ค                  20,839,809              7.13
4. นายนิติ โอสถานุเคราะห์                      18,261,013               6.24
5. บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)    17,791,764               6.08
6. SOMERS (U.K.) LIMITED                   16,211,311           5.54
7. นายจอห์น สก็อต ไฮเน็ค                       9,465,304             3.24
8. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช       5,988,407            2.05
9. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนต่างด้าว     5,861,601             2.00
  โดยลงทุนในหุ้นของ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล 1
10. HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD     5,639,388              1.93
               
   
    รวม                                 200,486,752            68.56

นายทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ         บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด

ผู้รับชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญตามสิทธิ    บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)  
ของใบสำคัญแสดงสิทธิ
       
การใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
        1.  วันใช้สิทธิและวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
             ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นรองรับของบริษัทฯได้ทุกเดือน ในวันทำการสุดท้ายของเดือน
ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ ("วันใช้สิทธิ") และในวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย โดยวันใช้สิทธิครั้งแรกคือวันที่ 28 เมษายน
2549 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายคือวันที่ 29 มีนาคม 2551  ในกรณีที่วันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายไม่ใช่วันทำการ ให้เลื่อนวันใช้
สิทธิครั้งสุดท้ายขึ้นมาเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวันที่กำหนดให้เป็นวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย

        2.   ระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ
              ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งประสงค์จะใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นรองรับของบริษัทฯ จะต้องแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ
ซื้อหุ้นรองรับของบริษัทฯตามข้อ 1 ข้างต้น ตามวิธีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ในวันทำการระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง
15.30  น. โดยให้แสดงความจำนงในการใช้สิทธิดังกล่าวภายใน 3 วันทำการก่อนวันใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ("ระยะเวลาแสดง
ความจำนงในการใช้สิทธิ") ยกเว้นวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถแสดงความจำนงในการใช้สิทธิได้
ภายใน 15 วันก่อนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
              ทั้งนี้ บริษัทฯจะไม่ทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นใบสำคัญ
แสดงสิทธิในการที่จะใช้สิทธิซื้อหุ้นรองรับของบริษัทฯ ยกเว้นในกรณีของการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายจะมีการปิดสมุดทะเบียน
พักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นเวลา 21 วันก่อน (และรวม)วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ในกรณีที่วันเริ่มปิดสมุดทะเบียนพัก
การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ใช่วันทำการ ให้เลื่อนวันเริ่มปิดสมุดทะเบียนเป็นวันทำการถัดไป ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ
จะถูกสั่งพักการซื้อขาย (หรือขึ้นเครื่องหมาย SP) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 3 วันทำการก่อนวันปิดสมุดทะเบียน
พักการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือภายในระยะเวลาตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด
              บริษัทฯจะแจ้งข่าวเกี่ยวกับระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ อัตราการใช้สิทธิ ราคาการใช้สิทธิวันปิด
สมุดทะเบียน พร้อมทั้งสถานที่ที่ใช้สิทธิ แล้วแต่กรณี ไม่น้อยกว่า 7 วันก่อนวันเริ่มระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ
แต่ละครั้งหรือก่อนวันปิดสมุดทะเบียน แล้วแต่กรณี ผ่านทางระบบเผยแพร่ข้อมูลสื่ออิเล็คโทรนิคส์ของตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทยหรือระบบอื่นใดตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด และสำหรับการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย นอกเหนือ
ไปจากการแจ้งข่าวดังกล่าวผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว บริษัทฯจะดำเนินการให้
นายทะเบียนและ/หรือบุคคลที่ผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิมอบหมาย ส่งจดหมายทางไปรษณีย์ลงทะเบียนหรือไปรษณีย์อากาศ
(ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิอยู่ในต่างประเทศ) แจ้งข่าวดังกล่าวถึงผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิตามรายชื่อที่ปรากฏอยู่ใน
สมุดทะเบียน ณ วันปิดสมุดทะเบียนด้วย

วิธีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ      
        1. ในการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ (ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน) ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องแจ้งความจำนง
ในการใช้สิทธิภายในระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิตามที่กำหนดไว้ข้างต้นในวันทำการระหว่างเวลา 9.00 น. ถึง
15.30 น. โดยให้แสดงความจำนงในการใช้สิทธิดังกล่าวภายใน 3 วันทำการก่อนวันใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ("ระยะเวลาแสดง
ความจำนงในการใช้สิทธิ") ยกเว้นวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถแสดงความจำนงในการใช้
สิทธิได้ภายใน 15 วันก่อนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย โดยต้องปฏิบัติดังนี้  
              (ก) ในกรณีผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมีใบสำคัญแสดงสิทธิอยู่ในครอบครอง (Scrip) ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
สามารถติดต่อขอรับหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิได้ที่นายทะเบียน และ/หรือผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ เพื่อ
ดำเนินการใช้สิทธิต่อไป
               (ข) ในกรณีใบสำคัญแสดงสิทธิอยู่ในระบบไร้ใบหุ้น (Scripless) ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ต้องการใช้สิทธิต้อง
กรอกและลงลายมือชื่อในแบบคำขอถอนใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทยกำหนด และยื่นคำขอดังกล่าวต่อบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker)
ของตน โดยที่บริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวจะดำเนินการแจ้งกับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ เพื่อขอถอนใบสำคัญแสดงสิทธิหรือ
ใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิสำหรับนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิซื้อหุ้นรองรับกับบริษัทฯ  เพื่อดำเนินการ
ใช้สิทธิต่อไป
        2.  ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นรองรับจะต้องปฏิบัติตาม
เงื่อนไขการแจ้งความจำนงการใช้สิทธิ โดยยื่นเอกสารต่อไปนี้ที่บริษัทฯ (ทั้งนี้บริษัทฯจะไม่รับการแจ้งความจำนงในการ
ใช้สิทธิทางไปรษณีย์)
             (ก)  หนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิที่ได้กรอกข้อความโดยถูกต้อง ชัดเจน และครบถ้วนแล้วทุกรายการ
พร้อมทั้งลงลายมือชื่อของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
             (ข) หลักฐานใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิตามแบบที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กำหนดตามจำนวนที่ระบุอยู่ในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ
             (ค) หนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นมารับใบสำคัญแสดงสิทธิใบใหม่สำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิส่วนที่ยังมิได้ใช้สิทธิ
(ถ้ามี) พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจซึ่งรับรองสำเนาถูกต้องเรียบร้อยแล้ว และ
             (ง)  ชำระเงินตามจำนวนที่ใช้สิทธิตามที่ระบุในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ โดยผู้ถือใบสำคัญ
แสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นรองรับ ทั้งนี้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถ
ชำระเงินได้ 2 วิธี ดังนี้
                   1) ชำระเป็นเช็ค ดร๊าฟท์ ตั๋วแลกเงินธนาคารหรือคำสั่งจ่ายเงินของธนาคารที่สามารถเรียกเก็บได้ใน
เขตกรุงเทพมหานคร โดยลงวันที่ตามวันใช้สิทธิ และขีดคร่อมสั่งจ่ายเฉพาะ"บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
(มหาชน) เพื่อการซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิ" หรือ "Minor International Plc., for share subscription with
warrants" หรือ
                    2) โอนเงินเข้าบัญชี "บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เพื่อการซื้อหุ้นตามใบสำคัญ
แสดงสิทธิ" หรือ "Minor International Plc., for share subscription with warrants"
เลขที่บัญชี 035-3-03480-5 ประเภทบัญชีกระแสรายวัน  ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาพระรามสี่
โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิต้องแนบสำเนาเอกสารการรับฝากเงิน (Pay-in Slip) โดยเขียนชื่อ-สกุล
ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ด้านหลัง
             (จ) หลักฐานประกอบการจองซื้อหุ้นรองรับตามการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
                   (1)  บุคคลสัญชาติไทย    : สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ หรือบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ พร้อม
ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง กรณีที่บัตรข้าราชการ หรือบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ ไม่ระบุเลขประจำตัวประชาชน
ให้แนบสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องด้วย กรณีผู้ใช้สิทธิเป็นผู้เยาว์ ให้แนบคำยินยอมของ
ผู้ปกครอง สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง บิดา มารดา และสำเนาทะเบียนบ้านที่ผู้เยาว์อาศัยอยู่พร้อม
ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้ปกครอง บิดา มารดา
                    (2) บุคคลต่างด้าว : สำเนาหนังสือเดินทาง หรือใบต่างด้าว พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง กรณี
ผู้ใช้สิทธิเป็นผู้เยาว์ ให้แนบสำเนาหลักฐานตามที่กฎหมายประเทศนั้นๆ กำหนด
                    (3)  นิติบุคคลในประเทศ : สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคล และ/หรือเอกสารจัดตั้ง ซึ่งเป็นผู้ถือใบสำคัญ
แสดงสิทธิซึ่งออกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีอายุไม่เกิน 1 ปีและ/หรือภายในเวลาที่นายทะเบียนกำหนด พร้อม
รับรองสำเนาถูกต้องและเอกสารหลักฐานของผู้มีอำนาจ   ลงลายมือชื่อตาม (1) หรือ (2) พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
                    (4) นิติบุคคลต่างประเทศ : สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนของนิติบุคคล และหนังสือรับรองที่ออก
โดยเจ้าหน้าที่ของนิติบุคคลนั้น หรือหน่วยงานของประเทศที่นิติบุคคลนั้นมีภูมิลำเนา ซึ่งรับรองถึงชื่อนิติบุคคล ชื่อ
ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และอำนาจหรือเงื่อนไขในการลงลายมือชื่อผูกพันนิติบุคคล
ซึ่งสำเนาเอกสารประกอบที่ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว ต้องได้รับการรับรองโดย Notary Public ของประเทศนั้นๆ
ที่ออกให้ไม่เกิน 1 ปี และให้เจ้าหน้าที่ของสถานทูตไทย หรือกงสุลไทยในประเทศที่เอกสารดังกล่าวได้จัดทำหรือ
รับรองความถูกต้องทำการรับรองลายมือชื่อและประทับตราของ Notary  Public และแนบสำเนาเอกสารหลักฐานของ
ผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อตาม (1) หรือ (2) พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
                    ทั้งนี้ นายทะเบียนอาจร้องขอเอกสารอื่นใดเพิ่มเติมได้เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบ การจองซื้อหรือ
ตามที่กฎหมายกำหนด
        3.  ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องใช้สิทธิในการซื้อหุ้นรองรับไม่น้อยกว่า 100 หุ้นสามัญ หรือในจำนวนทวีคูณ
ของ 100  เว้นแต่ (ก)ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่มีสิทธิในการซื้อหุ้นน้อยกว่าหรือเท่ากับ 100 หุ้นสามัญ จะต้อง
ใช้สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญในครั้งเดียวทั้งจำนวน และ (ข) ในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะใช้สิทธิ
ในการซื้อหุ้นรองรับในจำนวนเท่าใดก็ได้ โดยอัตราการใช้สิทธิเท่ากับใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ
1 หน่วย ต่อ 1 หุ้นสามัญ เว้นแต่จะมีการปรับสิทธิ
        4.  ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะเป็นผู้รับภาระอากรแสตมป์ที่เกิดขึ้นอันเนื่องจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
        5.  จำนวนหุ้นรองรับที่ออกให้เมื่อมีการใช้สิทธินั้น จะคำนวณโดยการนำจำนวนเงินตามราคาใช้สิทธิซึ่งผู้ถือ
ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิชำระตามที่กล่าวในข้อ 2 (ง) ข้างต้นหารด้วยราคาใช้สิทธิในขณะ
ที่มีการใช้สิทธินั้น โดยบริษัทฯจะออกหุ้นรองรับดังกล่าวเป็นจำนวนเต็มไม่เกินจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิ
หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ คูณด้วยอัตราการใช้สิทธิ หากมีเศษหุ้น เหลืออยู่จากการคำนวณดังกล่าว บริษัทฯ จะ
ไม่นำเศษหุ้นดังกล่าวมาคิดคำนวณและจะชำระเงินที่เหลือจากการใช้สิทธิดังกล่าวคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือ
ใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 14 วันนับจากวันถัดจากวันใช้สิทธิแต่ละครั้งโดยไม่มี
ดอกเบี้ยให้ไม่ว่าในกรณีใดๆ
        6. หากบริษัทฯได้รับหลักฐานใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิไม่ครบหรือบริษัทฯตรวจสอบ
ได้ว่าข้อความที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิกรอกลงในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธินั้นไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง
หรือปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนถูกต้องตามข้อบังคับหรือกฎหมายต่าง ๆ ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญ
แสดงสิทธิจะต้องทำการแก้ไขเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขก่อนใช้สิทธิในครั้งนั้น ๆ มิฉะนั้นบริษัทฯจะถือว่าการใช้สิทธิ
ในครั้งนั้นสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการใช้สิทธิ และบริษัทฯจะจัดส่งเงินที่ได้รับและใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญ
แสดงสิทธิคืนให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 14  วัน  นับจากวันถัดจากวันใช้สิทธิในแต่ละครั้ง โดยไม่มีดอกเบี้ยให้
ไม่ว่าในกรณีใดๆ
            อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิชำระเงินตามราคาใช้สิทธิไม่
ครบถ้วน บริษัทฯมีสิทธิที่จะดำเนินการประการใดประการหนึ่งต่อไปนี้ตามที่บริษัทฯ เห็นสมควร
             (ก)  ถือว่าจำนวนหุ้นรองรับที่ใช้สิทธิจองซื้อมีจำนวนเท่ากับจำนวนที่พึงจะได้รับตามจำนวนเงินในการใช้สิทธิ
ซึ่งบริษัทฯได้รับชำระไว้จริงตามราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิในขณะนั้น หรือ
              (ข)  ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ ชำระเงินเพิ่มเติมตามจำนวนที่ประสงค์จะใช้สิทธิ
ให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้น หากบริษัทฯได้รับเงินไม่ครบตามจำนวนตามราคา
ใช้สิทธิภายในระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯจะถือว่าการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้นสิ้นสภาพลงโดยไม่มีการ
ใช้สิทธิ เว้นแต่เป็นการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย บริษัทฯจะดำเนินการตามข้อ (ก) ข้างต้น
              ในกรณีตามข้อ (ก) บริษัทฯจะส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิส่วนที่เหลือจากการ
ใช้สิทธิทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 14 วัน นับจากวันถัดจากวันใช้สิทธิในครั้งนั้นๆ พร้อมเงินส่วนที่เหลือ (ถ้ามี)
โดยไม่มีดอกเบี้ย เว้นแต่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ อย่างไร
ก็ดี ใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่เหลือจากการใช้สิทธิดังกล่าวยังมีผลและสามารถใช้สิทธิต่อไป
ได้จนถึงวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย
        7. เมื่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นรองรับได้ปฏิบัติตาม
เงื่อนไขการแจ้งความจำนงในการใช้สิทธิ กล่าวคือ ได้ส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญแสดงสิทธิ
หนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ ชำระเงินค่าใช้สิทธิจองซื้อหุ้นรองรับและส่งมอบเอกสารหลักฐานประกอบการ
จองซื้อหุ้นรองรับตามการใช้สิทธิโดยถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ตามข้อ 2 แล้ว ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิหรือใบแทนใบสำคัญ
แสดงสิทธินั้นไม่สามารถยกเลิกหรือ เพิกถอนการใช้สิทธิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากบริษัทฯ
        8.  บริษัทฯจะดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัทฯและลงทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ
ที่ได้ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯโดยเร็วที่สุดเท่าที่บริษัทฯ
สามารถจะปฏิบัติได้ภายหลังจากที่ได้มีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิตามข้อกำหนดสิทธินี้ แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ช้ากว่า
14 วันนับแต่วันใช้สิทธิในแต่ละครั้ง และบริษัทฯจะดำเนินการยื่นขอนำหุ้นออกใหม่ดังกล่าวเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเร็วที่สุด แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ช้ากว่า 30 วันนับแต่วันใช้สิทธิแต่ละครั้ง
        9.  ในการออกและส่งมอบใบหุ้นสามัญที่ออกใหม่ตามการใช้สิทธิภายใต้ใบสำคัญแสดงสิทธินี้ ชื่อที่ระบุใน
ใบหุ้นสามัญที่ออกใหม่จะใช้ชื่อเดียวกับชื่อที่ปรากฏอยู่ในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ โดยบริษัทฯจะจัดส่ง
ใบหุ้นที่ออกใหม่จากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิไปยังผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่อยู่ของผู้ถือใบสำคัญ
แสดงสิทธิโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน 15 วันทำการ นับแต่วันใช้สิทธิในแต่ละครั้ง หรือบริษัทฯ
อาจตกลงกับผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นการล่วงหน้าให้บริษัทฯเก็บใบหุ้นสามัญนั้นไว้ที่บริษัทฯเพื่อให้ผู้ถือใบสำคัญ
แสดงสิทธิมารับไปด้วยตนเองก็ได้ หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิอาจใช้บริการของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ และฝากหุ้น
ในระบบซื้อขายแบบไร้ใบหุ้น (Scripless System) ก็ได้ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะต้องระบุชื่อและบัญชี
ของบริษัทสมาชิกของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์โดยถูกต้องไว้ในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ และบริษัทฯ
จะนำหุ้นดังกล่าวฝากไว้ในบัญชีดังกล่าวภายใน 7 วัน นับแต่วันใช้สิทธิแต่ละครั้ง
             ในกรณีที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิใช้สิทธิซื้อหุ้นรองรับไม่เต็มจำนวนที่ตนมีสิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
บริษัทฯ จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิใบใหม่ที่ระบุจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิให้แก่ผู้ถือ
ใบสำคัญแสดงสิทธิภายใน 14 วัน นับจากวันถัดจากวันใช้สิทธิในแต่ละครั้ง ยกเว้นในการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายจะไม่มี
การออกใบสำคัญแสดงสิทธิใดๆ อีก
        10.  (ก)  ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าว จะสามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อ
หุ้นรองรับของบริษัทฯทั้งหมด หรือบางส่วนได้ภายใต้เงื่อนไขว่าเมื่อได้ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิในวันใช้สิทธิ
ในครั้งนั้นๆ แล้วไม่ทำให้การถือหุ้นของบริษัทฯโดยบุคคลต่างด้าวดังกล่าวขัดต่อข้อบังคับของบริษัทฯหรือกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลต่างด้าวซึ่ง ณ วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิอยู่ที่ร้อยละ 39 ในการนี้
บริษัทฯสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธไม่ออกหุ้นรองรับใหม่ให้แก่บุคคลต่างด้าวที่ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ หาก
การใช้สิทธิดังกล่าวขัดต่อข้อบังคับของบริษัทฯหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าว โดยบริษัทฯไม่จำเป็นต้องจ่าย
ค่าเสียหาย หรือค่าชดเชยใด ๆ ต่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวดังกล่าว
               (ข)  อย่างไรก็ตาม หากข้อจำกัดการถือหุ้นดังกล่าวใน (ก) ข้างต้น มีผลทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็น
บุคคลต่างด้าวซึ่งได้ใช้สิทธิตามวิธีการใช้สิทธิดังที่กล่าวมาแล้วโดยครบถ้วน ไม่สามารถใช้สิทธิได้ตามจำนวนที่ระบุ
ในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน บริษัทฯจะอนุญาตให้ดำเนินการใช้สิทธิได้เพียง
ส่วนที่ไม่ขัดต่อข้อจำกัดข้างต้นและให้บริษัทฯคืนใบสำคัญแสดงสิทธิและเงินที่เหลือตามราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญ
แสดงสิทธิในส่วนที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้ โดยไม่มีดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวดังกล่าว
ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 30 วันนับจากวันถัดจากวันใช้สิทธิในครั้งนั้นๆ  
               (ค)  หากในวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวไม่สามารถใช้สิทธิเนื่องจากข้อจำกัด
เรื่องสัดส่วนการถือครองหุ้นของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวได้ ให้ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว
หมดอายุลง โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวดังกล่าวไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าชดเชยใดๆ
ต่อบริษัทฯ และบริษัทฯจะไม่ดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าชดเชยที่เกิดขึ้นจากการดังกล่าวทั้งสิ้น
        11.  หลังจากวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ใบสำคัญแสดงสิทธิที่เหลือทั้งหมดจะเป็นอันสิ้นผลทันทีและให้สิทธิใน
ใบสำคัญแสดงสิทธิ รวมทั้งสิทธิในการซื้อหุ้นรองรับตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่ไม่ได้มีการใช้สิทธิเป็นอันสิ้นสุดลง
        12. ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งได้แสดงความจำนงในการใช้สิทธิโดยถูกต้องสมบูรณ์
แล้วนั้นจนถึงวันก่อนที่นายทะเบียนหุ้นสามัญของบริษัทฯได้จดแจ้งชื่อของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวป็นผู้ถือหุ้น
ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และกระทรวงพาณิชย์ได้รับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วอันเนื่องมาจากการใช้
สิทธินั้น  บริษัทฯจะถือว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว มีสิทธิและสภาพเหมือนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายอื่นที่
ยังไม่ได้แสดงความจำนงในการใช้สิทธิ และนับแต่วันที่นายทะเบียนหุ้นสามัญของบริษัทฯได้จดแจ้งรายชื่อผู้ถือ
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้แสดงความจำนงในการใช้สิทธิโดยถูกต้องสมบูรณ์แล้วนั้นลงในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของ
บริษัทฯ และกระทรวงพาณิชย์รับจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วอันเนื่องมาจากการใช้สิทธินั้น บริษัทฯจะถือว่าสิทธิ
ของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นรองรับออกใหม่ของบริษัทฯตามจำนวนที่เกี่ยวข้องโดยสมบูรณ์

การเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ
        บริษัทฯ จะดำเนินการปรับราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิ ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ เมื่อเกิด
เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งดังต่อไปนี้
        (ก)  บริษัทฯเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัทฯ อันเป็นผลมาจากการรวมหรือการแบ่งแยกหุ้นที่
ออกแล้วของบริษัทฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันทีนับตั้งแต่วันที่ได้มีการ
จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัทฯกับกระทรวงพาณิชย์

               ราคาใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
               Price 1 =       Price 0 x (Par 1) /  (Par 0)
       
              อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
               Ratio 1 =       Ratio 0 x (Par 0) / (Par 1)

              โดยที่    Price 1  คือ    ราคาใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                          Price 0  คือ    ราคาใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
                          Ratio 1  คือ    อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                          Ratio 0  คือ    อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
                          Par 1     คือ    มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นหลังการเปลี่ยนแปลง
                          Par 0     คือ    มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นก่อนการเปลี่ยนแปลง

        (ข) บริษัทฯเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสิทธิ และ/หรือ ให้แก่บุคคลใดๆ ในราคาสุทธิ
ของหุ้นสามัญที่ออกใหม่คำนวณได้ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ" ซึ่งการเปลี่ยนแปลง
ราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ถือหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อ
หุ้นสามัญที่ออกใหม่ (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XR) สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights
Issue) และ/หรือ วันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่แก่บุคคลใดๆ แล้วแต่กรณี

              ในการนี้ "ราคาสุทธิของหุ้นสามัญที่ออกใหม่" คำนวณได้จากจำนวนเงินทั้งสิ้นที่บริษัทฯจะได้รับจากการ
เสนอขายหุ้น หักด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการออกหลักทรัพย์นั้น หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้นที่ออกใหม่

              "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ" ได้กำหนดไว้เท่ากับ ราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญ
ของบริษัทฯในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 5 วันทำการ ที่มีการซื้อขายล่าสุดก่อนวันที่ใช้ในการคำนวณ (โดย
ที่ราคาตลาดเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักเท่ากับมูลค่าการซื้อขายหุ้นทั้งหมดหารด้วยจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายทั้งหมด)

               "วันที่ใช้ในการคำนวณ" หมายถึง วันแรกที่ผู้ถือหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญที่
ออกใหม่ สำหรับกรณีที่เป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (วันแรกที่ขึ้นเครื่องหมาย XR) และ/หรือ วันแรกของการ
เสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่แก่บุคคลใดๆ แล้วแต่กรณี

              อนึ่ง ในกรณีที่มีการเสนอขายหุ้นสามัญพร้อมกันมากกว่า 1 ราคาเสนอขายในเงื่อนไขที่จะต้องจองซื้อด้วยกัน
ให้นำราคาสุทธิของหุ้นสามัญที่ออกใหม่มาใช้ในการคำนวณการเปลี่ยนแปลง แต่ในกรณีที่การเสนอขายพร้อมกันดังกล่าว
ไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องจองซื้อด้วยกัน ให้นำราคาเสนอขายที่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของ
บริษัทฯ" มาคำนวณการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น

ราคาใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
        Price 1 =       Price 0 x [(A x MP) + BX] /  [MP (A + B)]
        อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรคำนวณดังนี้
        Ratio 1 =       Ratio 0 x [MP (A + B)] /  [(A x MP) + BX]

        โดยที่    Price 1  คือ    ราคาใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                    Price 0  คือ    ราคาใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
                    Ratio 1  คือ    อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                    Ratio 0  คือ    อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
                    MP        คือ   ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ
             A          คือ   จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
                              เพื่อการจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ และ/หรือ ก่อนวันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญ
                             ที่ออกใหม่แก่บุคคลใดๆ แล้วแต่กรณี
           B           คือ   จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่จากการเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ การเสนอขาย
                              แก่บุคคลใดๆ แล้วแต่กรณี
            BX        คือ  จำนวนเงินที่จะได้รับทั้งสิ้นหลังหักค่าธรรมเนียมการจำหน่ายและรับประกันการ
                           จำหน่ายของหุ้นสามัญที่ออกนั้น ทั้งในกรณีการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ
                            การเสนอขายแก่บุคคลใด ๆ
        (ค)  บริษัทฯเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ ให้แก่บุคคลใดๆ โดยที่หลักทรัพย์นั้น
มีสิทธิที่จะแปลงสภาพหรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้ หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ (เช่น หุ้นกู้แปลง
สภาพหรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ) โดยที่ราคาสุทธิของหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธิ
ดังกล่าวต่ำกว่าร้อยละ 90 ของ "ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ" ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคาใช้สิทธิและอัตรา
การใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ถือหุ้นสามัญจะไม่ได้รับสิทธิในการจองซื้อหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ
ข้างต้น และ/หรือ วันแรกของการเสนอขายหลักทรัพย์ออกใหม่ใดๆ ข้างต้นที่มีสิทธิจะแปลงสภาพ/เปลี่ยนเป็น
หุ้นสามัญได้ หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญแก่บุคคลใดๆ แล้วแต่กรณี

ราคาใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
        Price 1 =       Price 0 x [(A x MP) + BX] /  [MP (A + B)]

อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
        Ratio 1 =       Ratio 0 x [MP (A + B)]  /  [(A x MP) + BX]

        โดยที่    Price 1   คือ    ราคาใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                    Price 0   คือ    ราคาใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
                    Ratio 1   คือ    อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                    Ratio 0   คือ    อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
                    MP         คือ    ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ
       A           คือ    จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนวันปิดสมุดทะเบียน
                          ผู้ถือหุ้นเพื่อการจองซื้อหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ที่มีสิทธิจะแปลงสภาพหรือเปลี่ยน
                         เป็นหุ้น[สามัญ]ได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ และ/หรือ วันก่อนวันแรก
                        ของการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ที่มีสิทธิที่จะแปลงสภาพหรือเปลี่ยนเป็น
                       หุ้นสามัญได้หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญแก่บุคคลใดๆ
      B            คือ    จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์ใดๆ ที่มีสิทธิ
                        ที่จะแปลงสภาพหรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้ หรือให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ
                        ตามที่เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายแก่บุคคลใดๆ
     BX         คือ    จำนวนเงินที่จะได้รับทั้งสิ้นหลังหักค่าใช้จ่ายจากการออกหลักทรัพย์ใดๆ ที่มีสิทธิ
                      ที่จะแปลงสภาพหรือเปลี่ยนเป็นหุ้นสามัญได้ หรือใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ
                     สำหรับการเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม และ/หรือ เสนอขายแก่บุคคลใดๆ รวมกับเงิน
                      ที่จะได้รับจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ

        (ง)  บริษัทฯจ่ายปันผลทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลง
ราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ถือหุ้นสามัญจะไม่มีสิทธิได้รับหุ้นปันผล (วันแรก
ที่ขึ้นเครื่องหมาย XD)
               ราคาใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
                Price 1 =       Price 0  x  (A) / (A + B)
               อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
                Ratio 1 =       Ratio 0  x  (A + B) / A
                โดยที่    Price 1  คือ      ราคาใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                            Price 0  คือ      ราคาใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
                            Ratio 1  คือ      อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                            Ratio 0  คือ      อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
         A          คือ      จำนวนหุ้นสามัญที่ได้เรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว ณ วันก่อนวันปิดสมุดทะเบียน
                            ผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับหุ้นสามัญปันผล
         B          คือ     จำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในรูปแบบของหุ้นสามัญปันผล

        (จ)  บริษัทฯจ่ายเงินปันผลเกินกว่าอัตราร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของบริษัทฯสำหรับ
การดำเนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีใดๆตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคาใช้สิทธิ
และอัตราการใช้สิทธิจะมีผลบังคับทันทีตั้งแต่วันแรกที่ผู้ถือหุ้นสามัญจะไม่มีสิทธิรับเงินปันผล (วันแรกที่
ขึ้นเครื่องหมาย XD)

               อัตราร้อยละของเงินปันผลที่จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น คำนวณโดยนำเงินปันผลที่จ่ายออกจริงจากผลการ
ดำเนินงานในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี หารด้วยกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของผลการดำเนินงานของรอบ
ระยะเวลาบัญชีปีเดียวกัน โดยที่เงินปันผลที่จ่ายออกจริงดังกล่าว ให้รวมถึงเงินปันผลที่จ่ายระหว่างกาลในแต่ละ
รอบระยะเวลาบัญชีดังกล่าวด้วย

ราคาใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
        Price 1 =       Price 0 x [MP ? (D ? R)] /  MP
        อัตราการใช้สิทธิจะเปลี่ยนแปลงตามสูตรการคำนวณดังนี้
        Ratio 1 =       Ratio 0 x (MP) / [MP ? (D ? R)]

        โดยที่    Price 1   คือ    ราคาใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                    Price 0   คือ    ราคาใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
                    Ratio 1   คือ    อัตราการใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง
                    Ratio 0   คือ    อัตราการใช้สิทธิเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลง
                    MP         คือ    ราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ
                    D           คือ    เงินปันผลต่อหุ้นที่จ่ายจริงแก่ผู้ถือหุ้น
                    R            คือ    เงินปันผลต่อหุ้นที่จ่ายหากนำกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ
                                          70 มาคำนวณจากจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล

        (ฉ)  ในกรณีที่มีเหตุการณ์ใดๆ อันทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเสียสิทธิและผลประโยชน์อันพึงได้ โดยที่
เหตุการณ์ใดๆ นั้นไม่ได้กำหนดอยู่ในข้อ 1.3 (ก) ถึง (จ) ให้บริษัทฯพิจารณาเพื่อกำหนดการเปลี่ยนแปลงราคาใช้สิทธิ
และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิใหม่โดยไม่ทำให้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิด้อยไปกว่าเดิม โดยให้ถือว่าผลการ
พิจารณานั้นเป็นที่สุด

        (ช)   การคำนวณเปลี่ยนราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 1.3 (ก) ถึง (ฉ) เป็นอิสระต่อกัน และจะ
คำนวณการเปลี่ยนแปลงตามลำดับเหตุการณ์ก่อนหลังของการเปรียบเทียบกับราคาตลาดของหุ้นสามัญของบริษัทฯ
สำหรับในกรณีที่เหตุการณ์ต่างๆ จะเกิดขึ้นพร้อมกันให้คำนวณการเปลี่ยนแปลงเรียงลำดับดังนี้ ข้อ 1.3 (ก) --> (จ)
-->  (ง) --> (ข) -->  (ค) --> (ฉ) โดยในแต่ละลำดับครั้งที่คำนวณการเปลี่ยนแปลงให้คงสภาพของราคาใช้สิทธิเป็น
ทศนิยม 3  ตำแหน่ง และอัตราการใช้สิทธิเป็นทศนิยม 5 ตำแหน่ง

        (ซ)  การคำนวณการเปลี่ยนแปลงราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 1.3 (ก) ถึง (ฉ) จะไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้ราคาใช้สิทธิใหม่สูงขึ้น และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิลดลง เว้นแต่กรณีการรวมหุ้น และจะใช้
ราคาใช้สิทธิใหม่หลังการเปลี่ยนแปลง (ทศนิยม 3 ตำแหน่ง) คูณกับจำนวนหุ้นสามัญ (จำนวนหุ้นสามัญคำนวณ
ได้จากอัตราการใช้สิทธิใหม่คูณกับจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่แสดงความจำนงในการใช้สิทธิ เมื่อคำนวณได้
จำนวนหุ้นออกมาเป็นเศษหุ้นให้ตัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง) สำหรับจำนวนเงินที่คำนวณได้จากการใช้สิทธิในกรณีที่มีเศษ
ของบาทให้ตัดเศษของบาททิ้ง ทั้งนี้ ไม่ว่ากรณีใดๆ การปรับราคาใช้สิทธิจะไม่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญ
ของบริษัทฯ ในขณะนั้นๆ ในกรณีที่มีการคิดคำนวณการปรับราคาใช้สิทธิอันเป็นผลให้ได้ราคาใช้สิทธิต่ำไปกว่ามูลค่า
ที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ให้ถือว่าราคาใช้สิทธิที่ปรับลงมานั้น เท่ากับราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญ
ของบริษัทฯ ในขณะนั้น

        (ฌ)  การเปลี่ยนแปลงราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิตามข้อ 1.3 (ก) ถึง (ฉ) บริษัทฯจะดำเนินการแจ้งผล
การเปลี่ยนแปลงโดยบอกถึงรายละเอียดวิธีการคำนวณและเหตุผลที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต่อสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อแจ้งราคาใช้สิทธิ
และอัตราการใช้สิทธิที่กำหนดใหม่ รวมทั้งวันที่ราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิใหม่มีผลบังคับใช้ และบริษัทฯ
จะแจ้งรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงราคาใช้สิทธิ และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลอิเล็คโทรนิคส์
ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิทราบภายใน 15 วันนับจากวันที่มีผลบังคับใช้
ราคาใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น

            ทั้งนี้บริษัทฯอาจทำการปรับจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิใหม่โดยการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
เพิ่มเติมทดแทนการปรับอัตราการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นก็ได้
       
การออกและส่งมอบหุ้นสามัญออกใหม่      
        ในการออกและส่งมอบใบหุ้นสามัญที่ออกใหม่ตามการใช้สิทธิภายใต้ใบสำคัญแสดงสิทธินี้ ชื่อที่ระบุใน
ใบหุ้นสามัญที่ออกใหม่จะใช้ชื่อเดียวกับชื่อที่ปรากฏอยู่ในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ โดยบริษัทฯ
จะจัดส่งใบหุ้นที่ออกใหม่จากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิไปยังผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่อยู่ของผู้ถือ
ใบสำคัญแสดงสิทธิโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน 15 วันทำการ นับแต่วันใช้สิทธิในแต่ละครั้ง หรือ
บริษัทฯอาจตกลงกับผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นการล่วงหน้าให้บริษัทฯเก็บใบหุ้นสามัญนั้นไว้ที่บริษัทฯเพื่อให้
ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิมารับไปด้วยตนเองก็ได้ หรือผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิอาจใช้บริการของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์
และฝากหุ้นในระบบซื้อขายแบบไร้ใบหุ้น (Scripless System) ก็ได้ โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวจะต้อง
ระบุชื่อและบัญชีของบริษัทสมาชิกของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์โดยถูกต้องไว้ในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้
สิทธิ และบริษัทฯจะนำหุ้นดังกล่าวฝากไว้ในบัญชีดังกล่าวภายใน 7 วัน นับแต่วันใช้สิทธิแต่ละครั้ง

ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถจัดให้มีหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ  
        1. การเพิ่มจำนวนหุ้นรองรับ
           ในกรณีที่หุ้นรองรับมีจำนวนไม่เพียงพออันเนื่องมาจากการปรับราคาใช้สิทธิหรืออัตราการใช้สิทธิ บริษัทฯ
จะใช้ความพยายามที่จะดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อออกหุ้นสามัญใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้มีจำนวนหุ้นรองรับ
เพียงพอกับการใช้สิทธิดังกล่าว
        2.  การชดใช้ค่าเสียหาย
            หากบริษัทฯไม่สามารถที่จะดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนดังกล่าวในข้อ 1 ได้ภายในเวลา 45 วันหลังจาก
วันใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ บริษัทฯจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ เฉพาะในกรณีที่
ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิแสดงความจำนงในการใช้สิทธิในช่วงเวลานั้นๆ และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิรายนั้นไม่ได้
รับหุ้นรองรับเต็มตามจำนวนที่ตนแสดงความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้นๆ
        3.  การชำระค่าเสียหาย
             การชดใช้ค่าเสียหายตามข้อ 2 บริษัทจะชำระเป็นเช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายเฉพาะและจะจัดส่งทางไปรษณีย์
ลงทะเบียนตอบรับให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิตามที่อยู่ ณ วันปิดสมุดทะเบียนภายใน 45 วัน นับจากวันใช้สิทธิ
ที่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิแสดงความจำนงในการใช้สิทธิในครั้งนั้นๆ โดยไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยให้ ทั้งนี้หาก
บริษัทฯไม่ส่งคืนเงินค่าจองซื้อหุ้นดังกล่าวภายในกำหนดเวลา ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่ไม่ได้รับการจัดสรรมีสิทธิ
ได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่พ้นกำหนดเวลาส่งคืนเงินค่าจองซื้อหุ้น อย่างไรก็ตามไม่ว่ากรณี
ใดๆหากได้มีการส่งเช็คค่าจองซื้อหุ้นทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตามที่อยู่ ณ วันปิดสมุดทะเบียนโดยถูกต้องแล้ว
ให้ถือว่าผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิได้รับเงินค่าจองซื้อหุ้นแล้วโดยชอบ และผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิจะไม่มีสิทธิ
เรียกร้องดอกเบี้ย และ/หรือ ค่าเสียหายใดๆ อีกต่อไป
        4.  การคำนวณค่าเสียหาย
             การคำนวณค่าเสียหายที่บริษัทฯจะชดใช้ให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิตามข้อ 2 มีสูตรการคำนวณดังนี้
             ค่าเสียหายต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย  =       B x (MP ? EP)
             โดยที่    B       คือ  จำนวนหุ้นรองรับที่ไม่สามารถจัดให้มี และ/หรือ เพิ่มขึ้นได้ตามอัตราการใช้
                                        สิทธิที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นต่อ 1 หน่วย
                         MP    คือ  ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯในวันใช้สิทธิในแต่ละครั้งที่ผู้ถือ
                                        ใบสำคัญแสดงสิทธิมาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิ
                         EP     คือ  ราคาใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือราคาใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่
                                        ได้เปลี่ยนแปลงตามที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
       
ข้อจำกัดในการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ    
        ใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกในครั้งนี้สามารถโอนได้โดยไม่มีข้อจำกัดเว้นแต่การโอนเกิดขึ้นในช่วงปิดสมุด
ทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อพักการโอนสิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ ทั้งนี้บริษัทฯอาจปิดสมุดทะเบียนใบสำคัญ
แสดงสิทธิเพื่อพักการโอนหรือการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิสำหรับการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย โดยจะปิด
สมุดทะเบียนใบสำคัญแสดงสิทธิ 21 วันก่อนวันครบกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย  
        1.   การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิที่มิได้ฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
             1.1  แบบการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิระหว่างผู้โอนและผู้รับโอน  การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะสมบูรณ์
เมื่อผู้โอนใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งเป็นผู้ที่สมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิระบุชื่อเป็นเจ้าของใบสำคัญแสดงสิทธิ
จำนวนที่จะทำการโอนหรือผู้รับโอนคนสุดท้ายโดยมีการสลักหลังแสดงการโอนต่อเนื่องครบถ้วนจากผู้ที่ปรากฏชื่อ
ดังกล่าว  (แล้วแต่กรณี) ได้ส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้รับโอนโดยลงลายมือชื่อสลักหลังแสดงการโอนให้
ไว้ด้วยผลการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิระหว่างผู้รับโอนกับผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะ
ใช้ยันกับผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิได้ก็ต่อเมื่อนายทะเบียน ได้รับคำขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ
พร้อมทั้งใบสำคัญแสดงสิทธิที่ผู้รับโอนใบสำคัญแสดงสิทธิได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้รับโอนในด้านหลังของใบสำคัญ
แสดงสิทธินั้นครบถ้วนแล้ว
                      ผลของการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิระหว่างผู้รับโอนกับบุคคลภายนอก การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ
จะใช้ยันกับบุคคลภายนอกได้ก็ต่อเมื่อนายทะเบียนได้ลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิใน สมุดทะเบียนผู้ถือ
ใบสำคัญแสดงสิทธิเรียบร้อยแล้ว
              1.2  การขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิจะต้องกระทำ  ณ สำนักงานใหญ่ของนายทะเบียนใน
วันและเวลาทำการของนายทะเบียน และจะต้องทำตามแบบและวิธีการที่นายทะเบียนกำหนด  โดยนายทะเบียนมี
สิทธิปฏิเสธไม่รับคำขอลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ หากนายทะเบียนเห็นว่าการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ
นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย  โดยผู้ขอลงทะเบียนจะต้องส่งมอบใบสำคัญแสดงสิทธิที่ลงลายมือชื่อครบถ้วนตามหลักเกณฑ์
ในข้อ 1.1  พร้อมทั้งหลักฐานอื่น ๆ ที่ยืนยันถึงความถูกต้องและความสมบูรณ์ของการโอนและการรับโอนใบสำคัญ
แสดงสิทธิตามที่นายทะเบียนกำหนดให้แก่นายทะเบียนด้วย ซึ่งนายทะเบียนจะลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิ
ในสมุดทะเบียนผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิให้แล้วเสร็จภายใน 7 (เจ็ด) วันทำการ หลังจากวันที่นายทะเบียนได้รับคำขอ
ลงทะเบียนการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิพร้อมทั้งใบสำคัญแสดงสิทธิและหลักฐานอื่นๆ ที่จะต้องส่งมอบครบถ้วน
เรียบร้อยแล้ว
        2. สำหรับการโอนใบสำคัญแสดงสิทธิที่ฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์นั้นให้เป็นไปตามข้อบังคับของตลาด
หลักทรัพย์ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์และหน่วยงานอื่น ๆ รวมทั้งตลาดรอง และศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง

            ทั้งนี้การโอนใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวมีข้อยกเว้นการโอนอันสืบเนื่องมาจากข้อบังคับของบริษัทว่าด้วย
เรื่องอัตราสัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทย ดังมีรายละเอียดดังนี้
            (ก)   ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าว จะสามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อ
หุ้นรองรับของบริษัทฯทั้งหมด หรือบางส่วนได้ภายใต้เงื่อนไขว่าเมื่อได้ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิในวันใช้สิทธิ
ในครั้งนั้นๆ แล้วไม่ทำให้การถือหุ้นของบริษัทฯโดยบุคคลต่างด้าวดังกล่าวขัดต่อข้อบังคับของบริษัทฯหรือกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลต่างด้าวซึ่ง ณ วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิอยู่ที่ร้อยละ 39 ในการนี้
บริษัทฯ สงวนสิทธิที่จะปฏิเสธไม่ออกหุ้นรองรับใหม่ให้แก่บุคคลต่างด้าวที่ใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ หากการ
ใช้สิทธิดังกล่าวขัดต่อข้อบังคับของบริษัทฯหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าว โดยบริษัทฯไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหาย
หรือค่าชดเชยใด ๆ ต่อผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวดังกล่าว
            (ข)  อย่างไรก็ตาม หากข้อจำกัดการถือหุ้นดังกล่าวใน (ก) ข้างต้น มีผลทำให้ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็น
บุคคลต่างด้าวซึ่งได้ใช้สิทธิตามวิธีการใช้สิทธิดังที่กล่าวมาแล้วโดยครบถ้วน ไม่สามารถใช้สิทธิได้ตามจำนวนที่ระบุ
ในหนังสือแสดงความจำนงในการใช้สิทธิไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน บริษัทฯจะอนุญาตให้ดำเนินการใช้สิทธิได้เพียง
ส่วนที่ไม่ขัดต่อข้อจำกัดข้างต้นและให้บริษัทฯคืนใบสำคัญแสดงสิทธิและเงินที่เหลือตามราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญ
แสดงสิทธิในส่วนที่ไม่สามารถใช้สิทธิได้ โดยไม่มีดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวดังกล่าว
ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 30 วันนับจากวันถัดจากวันใช้สิทธิในครั้งนั้นๆ
            (ค) หากในวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวไม่สามารถใช้สิทธิเนื่องจากข้อจำกัดเรื่อง
สัดส่วนการถือครองหุ้นของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวได้ ให้ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว
หมดอายุลง โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นบุคคลต่างด้าวดังกล่าวไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าชดเชยใดๆ
ต่อบริษัทฯ  และบริษัทฯจะไม่ดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าชดเชยที่เกิดขึ้นจากการดังกล่าวทั้งสิ้น

ระยะเวลาห้ามจำหน่ายหุ้น (ถ้ามี)       -ไม่มี-
       
อื่น ๆ ที่สำคัญ (ถ้ามี)
        -ไม่มี-

ที่ปรึกษาทางการเงิน (ถ้ามี)       บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน)  

จัดทำโดย                                บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

ทำไมคุณปรัชญาเรียกขวัญใจครับ

Mr. Big เขียน:ทำไมคุณปรัชญาเรียกขวัญใจครับ

ถือหุ้นน้อยแต่ผลตอบแทนสูง
กิจการหลากหลาย  ได้อุดหนุนประจำ
โดยเฉพาะไอศครีมลูกชายชอบมาก
เมื่อวานนี้ก็ไป  มีบัตรKTC  พิเศษเป็นแบบคูปอง  
แมงโก้  59บาท  ได้2ชุดครับ  ดับร้อน
ขวัญใจลุงขวด  ด้วยครับ

ครับ เมื่อวานผมยังได้อุดหนุน dairy queen เลย vbvb

ธุรกิจไอศครีม  
เพื่อนทำบอกว่า  ราคาขาย100  ทุนแค่10ก่าๆ
ไม่รู้ผมถูกเขาอำมาหรือเปล่า 8)

ธุรกิจอาหาร ไม่น่าแปลกใจหรอกครับ

ปกติผมไม่ชอบไอติมนะ  แต่เมื่อวานแอบชิม mango ของลูกชสยแล้วชอบจริงๆครับ  ต้องสั่งมากินเองซะเลย........อิอิ