หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 7:54 am
โดย miracle
เอามาตั้งเป็นประเด็นดีกว่า
เพราะว่า จะได้เห็นหลากหลายมุมมองในเรื่องนี้
จากนักลงทุนในกลุ่มของVIว่าคิดอย่างไงกับเรื่องนี้

เงินสดจริง กับ เครดิตการซื้อขายอย่างไงบริษัทและบุคคลธรรมดา ทำให้มันอำนาจในการซื้อที่แท้จริง
และถ้าใช้แล้วอะไรมีปัญหาอะไรไม่มีปัญหากว่ากัน

เงินสดข้อดี  มีอำนาจต่อรองราคา ทำให้ราคาลดลงได้
ข้อเสีย มันต้องซื้อในระดับที่สูงมากๆๆ ในแต่ละครั้งถึงจะเห็นผล

เครดิต ข้อดี ช่วยให้เรา ไม่ต้องถือเงินสด สามารถเอาเงินสดไปทำอย่างอื่นได้ และที่สำคัญมีการบริหารเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้
ข้อเสีย คือ ต้องบริหารเงินดีๆๆ เพราะอาจจะเกิด พรรคคนขอเชยหนี้ได้เลย (ไม่ใช่คนขอปลดหนี้)

งานนี้ขอความคิดเห็นคนอื่นเพิ่มเติม

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 8:16 am
โดย สุมาอี้
เครดิตดีกว่าครับเพราะจ่ายช้าแต่ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย

การซื้อของเครดิตเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเรามีอำนาจต่อรองเหนือกว่าซัพพลายเออร์ เพราะสามารถอาศัยเงินของซัพพลายเออร์เป็นแหล่งเงินทุนของเราได้

การซื้อสดได้ลดก็จริง แต่คิดแล้วก็คือดอกเบี้ยที่หายไปนั้นแหละ

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 10:04 am
โดย jaychou
มองในฐานะผู้ซื้อก็ต้องอยากได้เครดิต คือเอาของมาก่อน

มองในฐานะผู้ขายก็อยากได้เดบิต คือเอาเงินเค้ามาก่อนเป็นเงินรับล่วงหน้าค่าสินค้า

ลองดูงบ MCS เป็นตัวอย่าง มีทั้งสองรายการที่ว่าไว้

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 11:13 am
โดย Dech
เครดิต ดีกว่าครับ

เอาเงินสดไปหมุนทำอย่างอื่นๆดีกว่า

แต่ก็อย่างเครดิตมากเกินไปนะครับ เอาแค่พองาม

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 8:27 pm
โดย miracle
แต่เจ้าตัวนี้ UEC เล่นเอาเงินสดไปกดราคาซัพพรายเออร์ ที่เป็นเหล็ก
จึงต้องมาถามว่า ทั่วๆๆไป ใครดีกว่ากันอ่ะ
เอ๋สงสัยมากเลยอ่ะ ตอนนี้ว่า

เงินสดกับเครดิต ใครกดราคามากกว่ากัน
ถ้ามองกันลึกๆๆ เครดิตน่าจะได้สองเด้งคือ เด้งแรก ดอกเบี้ย เด้งสองคือเงินเฟ้อ
แต่เงินสดดีที่กดเอาเลย ตั้งแต่เริ่มแรก

น่าสนใจ caseของMCSด้วยอ่ะ

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 9:46 pm
โดย jaychou
ซื้อเงินสด ได้แค่ discount นิดหน่อยพอค่าดอกเบี้ยเหมือนท่านแม่ทัพว่าแหละ

เกมการกดราคา supplier ต้องใช้วิธีโหดกว่านั้นพอสมควร คือต้องหา supplier 2 รายขึ้นไปมาแข่งราคา คุณภาพและการส่งมอบกัน นั่นหมายถึงคุณมีปริมาณสั่งซื้อน่าดึงดูดใจพอ ถ้าเดิมมี supplier เดียว ให้ตัด volume จำนวนหนึ่งไปให้ supplier ที่ 2 โดยยื่นข้อเสนอให้ supplier ที่ 2 ลดราคาให้ระดับหนึ่ง ...ลดอีก เพิ่ม volume ให้อีก

พอโดนดึง volume มากเข้า supplier 1 เริ่มร้อนตัว ก็จะดัมพ์ราคา แย่ง volume กลับไป เข้าแผน... คุณก็ weight เอาว่า จะแบ่งเค้กให้ 1 หรือ 2 เท่าไหร่ จะใช้ KPI/BSC มาเป็นเครื่องมือกำหนดโควต้าให้ดูมีหลักการก็ได้ แต่สุดท้ายแล้ว นี่คือกลยุทธ์กดราคาที่ใช้ได้ดีถ้าคุณเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ แต่ถ้าคุณเป็นรายย่อย volume น้อย ทำแบบนี้พวก supplier จะรำคาญคุณและบอกเลิกเอาดื้อๆ สุดท้ายถ้าต้องบากหน้าไปง้อ จะโดนโก่งราคากลับ

กรณี MCS เข้าใจว่าการผลิตโครงสร้างเหล็กมี demand สูงกว่า supply ในระดับหนึ่ง ลูกค้าเกิดการง้อ supplier โดยให้เอาเงินไปล่วงหน้าเลย แต่ในตลาดเหล็กแผ่นรีดร้อน supplier แย่งลูกค้า จึงได้เครดิตมา สังเกตว่า MCS มี supplier 2 เจ้า คือ GFE 70%และ POSCO 30% (ผมเชื่อว่าเป็นเกมกดราคา มากกว่าเรื่องปริมาณ หรือคุณภาพ) แม้จะขายให้กับ Kajima เป็นสำคัญ แต่จากงบการเงิน แสดงให้เห็นอำนาจการต่อรองที่สูงในระดับหนึ่ง

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 10:04 pm
โดย สุมาอี้
สุดยอดแห่งการบีบซัพพลายเออร์ก็ต้องทั้งกดและดึงครับ (กดราคาให้ต่ำยังไม่พอยังดึงเครดิตให้ยาวๆ อีก) พวกโมเดิร์นเทรดชำนาญที่สุด แถมซัพพลายเออร์ยังต้องจ่ายแป๊ะเจี้ยอีกต่างหาก (ค่าเปิด SKU Number ใหม่)

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 10:24 pm
โดย CK
ส่วนใหญ่ผมใช้เครดิตครับ

เพราะสะสมป๊อยท์ได้ นานๆ เข้าก็ได้บินฟรีบ้าง

:lol:

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 23, 2006 10:37 pm
โดย nanchan
ถ้าธุรกิจอยู่ในช่วงขยาย ช่วงเริ่มต้น ก็คงไม่ต้องพูดถึงเงินสดหละครับ
เพราะเงินสดยังน้อยและต้องการอีกมาก งั้นเครดิตน่าจะดีกว่าแน่

ถ้าอยู่ในช่วง เก็บเกี่ยว หรือมีเงินถุงเงินถัง ถ้าได้ส่วนลดเยอะๆ
ก็เงินสดอาจจะดีกว่า

บางคน ชอบใช้เงินสดเป็นเครื่องต่อรองกับซัพ ที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่อง
หรือลดความเสี่ยงในการสต๊อค
โดยอาจจะเหมาซื้อทั้งล๊อต เป็นการเก็งกำไรอีกแบบ
ตรงนี้ส่วนลดอาจจะไม่เกี่ยวด้วยซ้ำ แต่เป็นการเก็งตลาดซะมากกว่า

เคยได้ยินธุรกิจเล็กๆ (แบบโมเดิร์นเทรด)ขายของถูกพอๆกับโลตัสและอาจจะถูกกว่าด้วย ใช้เงินสดซื้อมาขายไป ก็เห็นว่าเค้าก็ทำได้
แสดงว่าใช้เงินสดก็อาจจะดีกว่า

บางทีการขอเครดิต ก็อาจจะมีเหตุผลด้านการบริหารจัดการมาเกี่ยวข้องด้วย

การใช้เครดิตก็ช่วยในแง่ความเสี่ยงของสินค้าที่ส่งมา
ถ้าสินค้ามีปัญหา ก็อาจจะระงับการจ่ายเงินได้

สรุป เงินสด
1.ดีในแง่ส่วนลดที่คุ้มดอกเบี้ย
2.แง่การเหมาซื้อสินค้าทั้งล๊อต เพื่อคุมตลาด หรือเก็งกำไร

เครดิต
1.ดีแง่ การบริหารจัดการ
2.ต้องการสภาพคล่องการเงิน

แต่คุณก็อย่างหวังว่าซัพพลายเออร์ จะให้เครดิตคุณนะครับ
ถึงอยากจะได้ก็ตามเหอะ 555

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 24, 2006 12:12 am
โดย miracle
มาเพิ่มประเด็นอีกนิดหน่อย

ดอกเบี้ยไงล่ะ ตอนนี้ขาขึ้น
มีผลกระทบอย่างไงในการจ่ายสดและเครดิต

ค่อยๆๆที่ประเด็น
ประเด็นบนๆๆเริ่มเข้าใจแล้ว
:)

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 24, 2006 1:19 am
โดย Rocker
credit สิครับ ได้มีเงินไว้หมุน
อีกทั้งหากสินค้ามีปัญหาได้คุยง่ายขึ้น

เงินสดกับเครดิต ใครดีกว่ากัน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 24, 2006 1:25 am
โดย jojosati
พูดเรื่องดึงเครดิต
นึกถึง DM
ไม่รู้ว่าสำรองหนี้สูญ 51 ล้าน เมื่อปีที่แล้ว
จะได้แจ็คพอต มาตกปีนี้หรือเปล่าครับ