Thai VI

ไม่รู้จะเริ่มต้นยังงัยดีนะครับ เอาเป็นว่าถ้าพี่ ๆ สนใจหุ้นตัวนึงพี่จะทำอย่างไรบ้างครบ  ขอคร่าว ๆ พอนะครับ



ถ้าเป็นผมต้อนนี้นะครับ ถ้าผมสนใจบริษัทใดบริษัทหนึ่งขึ้นมาคิดว่ามันจะดี

1.ผมจะดูค่า p/e ว่าต่ำรึยังเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมของมัน

2. เช่นเดียวกันจะดูค่า p/b ว่าต่ำขนาดไหนเมื่อเปรียบเทียบกับการเจริญเติบโตของกิจการ

3. Roe ครับ ผลตอบแทนที่เราลงไปจะได้กลับคืนมาในหุ้น

แต่ก็ยังมีคำถามตามมาครับ เชื่อได้แค่ใหน ......?

บางครั้งบางบริษัท roe สูงมั่ก ๆ แต่หุ้นลงเอา ๆ (ขยันลงเจง)

บางพีอีเรโชว์ พีบีวี ต่ำมากกยังลงได้เรื่อย ๆ  .....???



เลยอยากถามพี่ ๆว่ามีอะไรที่มากกว่านี้ในการดูไหมครับหรือว่าต้องดูงบตรงไหยอีกบ้าง

เคยเรียนมาบ้างน่ะครับแต่ว่านานพอสมควรแล้ว เลยต้องมานั่งอ่านใหม่ตั้งแต่แรก  

เซมเบ้ เขียน: ถ้าผมสนใจบริษัทใดบริษัทหนึ่งขึ้นมาคิดว่ามันจะดี

"คิดว่ามันจะดี"

keyword อยู่ตรงนี้แหละครับ ว่าอะไรทำให้คิดว่ามันจะดี?

ดูอยู่ตัวหนึ่งครับ ที่คิดว่ามันจะดีก็เพราะในอนาคตผมชอบอะไรที่สามารถขายได้เรื่อย ๆ   แต่ไม่รู้เท่านั้นแหละครับว่าราคาที่จะซื้อณ. ตอนนี้จะแพงไปไหม... ??

 -บลจ.เค้าเป็นสินค้าที่คนต้องใช้อยู่เป็นประจำ แบรนด์เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี

 -กำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปี.......  roe ก็ค่อนข้างสูงครับ

ข้อสังเกตของผมนะครับ (ไม่รับประกันว่าถูกหรือผิด เพราะเป็นความเห็นส่วนตัว)

หุ้นที่ประกาศกำไรออกมาโตไปเรื่อยๆ (กำไรปกตินะครับ ไม่นับรายการพิเศษ) ราคาหุ้นจะไม่ตก (ส่วนใหญ่จะขึ้นต่อ หรืออย่างแย่ๆ ก็ราคาทรงๆ) ไม่ว่าจะเทรดที่ P/E สูงๆ ก็ตาม เพราะที่สุดแล้ว กำไรที่เพิ่มขึ้นก็จะทำให้ P/E ลดต่ำลงเอง แต่ให้ระวังว่าหากหุ้นนั้นๆ เทรดอยู่ที่ P/E สูง เมื่อไหร่ที่ประกาศกำไรออกมาตกต่ำลง จะเจอราคาหุ้นไหลเป็นน้ำตก (Waterfall effect)

หุ้นที่มี margin สูง (ระดับ 2 digits) จะเทรดที่ P/BV สูงเช่นกัน และส่วนใหญ่จะเป็นบริษัททีมี Brand แข็งแกร่ง ไม่ก็มี Competitive Advantage ในด้านใดด้านหนึ่งเสมอ

ดังนั้นในความเห็นผม หากเจอหุ้นอย่างที่คุณบอกมา คือ ในอนาคตสินค้าขายได้เรื่อยๆ มีแบรนด์ คนต้องใช้ประจำ และกำไรจะสูงขึ้นต่อเนื่องไปทุกปี  คำแนะนำคือ "ซื้อเลยครับ ไม่ต้องรอ"

ดู growth ด้วยก็ดีครับ

ไม่ควรใช้เงินซื้ออนาคตครับ
  ใครจะไปรู้อะไรจะเกิดขึ้น ตามหลักอนิจจัง
  ดูอดีต เเลปัจจุบันให้หนัก  เเน่ใจ เเล้วค่อยซื้อ
  ถ้าอดีตดี ปัจจุบันดี อนาคตก็มีเเนวโน้มที่จะดีตามมา   ตามหลักของกฏเเห่งกรรม เเละปฏิจสมุทปปาท(law of causation)
  ใช้ข้อเท็จจริงในการใคร่ครวญ ไม่ใช่ข้อมูล ซึ่ง ข้อมูลต้องผ่านการกรองตามหลักกาลามสูตรก่อน ถ้าผ่าน 60% ก็น่าจะเป็นข้อเท็จจริงได้
   มีสติเเละตัดสินใจอย่างมั่นคง

มือใหม่เหมือนกัน แต่ที่คิดไว้และพยายามทำอยู่คือดูธุรกิจของบริษัทก่อนครับ ว่าอนาคตบริษัทเป็นอย่างไร ถ้าเข้าท่าหรือคิดว่าน่าสนใจ(56-1)

ก็ดูงบการเงินต่อครับ
ผมขี้กลัวก็จะดูงบดุลก่อนว่าหนี้สินระยะยาว  เป็นอย่างไรเทียบกับกำไรสุทธิ
และ ก็ดูว่าคุณภาพของกำไรเป็นอย่างไร มาจากไหน  งบกระแสเงินสดว่ารายได้มาจากกิจกรรมอะไรบ้าง(operating )

และก็ลองประมาณหยาบๆว่ากำไรในอนาคตจะเป็นอย่างไร เพิ่มขึ้นกี่% เทียบดูว่าราคาหุ้น สะท้อนมูลค่านั้นำไปแล้วแค่ไหนคุ้มไหมที่จะลงทุน

ยังหัดอ่านงบการเงินให้ทะลุมากขึ้นอยู่ครับ