Thai VI

ssc

16 นางเพาพิลาส เหมวชิรวรากร  2,000,000 0.76

ปีนี้หุ้นที่ ดร แกถือครองนั้น
ปันผลฟรีหมดเลย
ไม่มีร่วงให้เห็นเลยอ่ะเนี่ย

เฮี้ยนจริงๆๆ (ไม่ต้องจุดธูปด้วยงานนี้)
(แซวเล่น)
:lol:

สาเหตุของความเฮี้ยน

1. เห็นว่าจะขึ้นราคา อีก 1 บาท

2. ดูแล้วเงินสด 1158 ล้าน

3. สินค้าคงเหลือ 2252 ล้าน

4. ที่ดินอาคารและอุปกรณ์ 8000 ล้าน ตัดค่าเสื่อม เหลือ 3125 ล้าน

หนี้ก็มีนะ 149 ล้าน

เอาเป็นว่าสินทรัยพ์ทั้งหมด - หนี้สินทั้งหมด คือ book 22 บาทต่อหุ้น

ราคาตอนนี้ 20.80 บาท

อืม เป็บซี่นี่นะซื้อต่ำกว่า book

ที่สำคัญกำไร 510 ล้าน ค่าเสื่อม 488

อย่างนี้น่าจะทำ DCF นะว่า อีก 10 pepsi จะมีเงินกลับมากี่บาท

ถ้า ดร. มาอ่าน คงบอกว่า

ตถตา
มันก็เป็นเช่นนั้นเอง

:lol:  :lol:  :lol:

Beta = 0.0309 (ข้อมูลจาก Seamico ไม่รู้ว่ามั่วหรือเปล่า ไม่แกว่งตามตลาดเลย)
Long term government bond (risk-free) = 6.4%

Return on market = Market capital gain + Dividend yield
SET @ 31 Dec 1975 => 84.08
SET @ 31 Dec 2005 => 713.73
Market capital gain => 84.08 x (1 + r)^30 = 713.73 => r = 7.4%
Average dividend yield 1975 - 2005 => 4.7%
Total return on market = 7.4 + 4.7 = 12.1%

SSC หนี้น้อยมาก ให้ cost of capital = cost of equity ไปเลย
WACC = rf + b(rm - rf) = 6.4% + 0.0309(12.1% - 6.4%) = 6.6%
ปัดเป็น 7% ไปเลยก็ได้

สมมุติว่า SSC ไม่ growth เลย กำไรอยู่ที่ปีละ 510 ล้านไปตลอดชาติ (perpetuity)
PV = C/r = 510/7% = 7,285 ล้าน
หรือคิดเป็นหุ้นละ 7,285/265 = 27.50 บาท

ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 27.50 บาท ฟันธง!!!

อ้าวค่าอะไรไม่รู้
ดูไม่รู้เรื่อง
รู้ว่า ตัวนี้ต่ำกว่าbv
แถมด้วยเงินสดเพียบ
หนี้มันเป็นหนี้ไม่จริงในส่วนของขวดอ่ะ

ค่าขวดที่อยู่ในตัวงบดุล 2 พันล้านบาท
ตัวนี้จริงๆๆมันไม่ใช่หนี้อ่ะ
เพราะว่า ร้านค้า ถ้าเลิกถึงจะเอาคืน ส่วนใหญ่ ร้านค้าจะทำขวดแตกซักมากกว่า
ส่วนลังนั้น ก็มีค่าประกันเหมือนกัน จะได้คืนก็ต่อเมื่อร้านเลิกซื้อ

เงินสดมีอยุ๋ 1 พันล้าน
มีสินค้าคงเหลืออีก 2 พันล้านบาท

Macroart นายแน่มาก ว่าแต่ WACC 7 % แปลเป็นไทย ว่าอะไรอะ ช่วยบอกหน่อยซิ

ฟังแล้วเหมือน นักบินอวกาศ กำลังจะบินด้วยความเร็ว WACC หรือ ว๊าบไปที่พิกัดอะไรซักอย่าง

WACC = Weighted Average Cost of Capital
หรือ ต้นทุนทางการเงิน นั่นเองครับ

WACC คือค่าที่เอามาหา DCF นั่นแหละครับ เป็นต้นทุนที่นักลงทุนมองว่ากิจการที่มีความเสี่ยงในระดับนี้ นักลงทุนต้องการผลตอบแทนเท่าไหร่ ยิ่งกิจการที่มีความเสี่ยงมาก นักลงทุนก็ต้องการผลตอบแทนมาก ค่า WACC ก็จะสูงขึ้น

SSC ไม่ว่าจะคำนวณด้วยวิธีคิดมูลค่าทรัพย์สินหักออกด้วยหนี้สิน หรือคิดด้วยวิธี DCF ผลที่ออกมาคือราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาที่คำนวณได้ทั้งสิ้นครับ

เป็นไปได้ว่าที่ราคาอยู่ที่ระดับนี้ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าผลประกอบการของหุ้นตัวนี้จะไม่ growth หรืออาจจะถดถอยลง แถมหุ้นยังไม่ค่อยมีสภาพคล่องอีก แต่ถ้า VI วิเคราะห์ดีแล้วว่ายังไงเป๊บซี่ก็ยังขายได้ หรือแม้ว่าตลาดน้ำอัดลมมีปัญหา แต่ SSC ก็ยังมีลิปตัน คริสตัล คาราบาวแดงอยู่ ตัดสินใจเข้าไปลงทุนอย่างอดทน ยังไงวันหนึ่งราคามันก็ต้องสะท้อนถึงผลประกอบการครับ

MacroArt เขียน:แต่ถ้า VI วิเคราะห์ดีแล้วว่ายังไงเป๊บซี่ก็ยังขายได้ หรือแม้ว่าตลาดน้ำอัดลมมีปัญหา แต่ SSC ก็ยังมีลิปตัน คริสตัล คาราบาวแดงอยู่

พอจะทราบมั้ยครับว่า SSC มีการแบ่ง Product Portfolio อย่างไร
ยอดขายและกำไรที่มาจากสินค้าแต่ละชนิดเป็นอย่างไร

ความเห็นส่วนตัวผม เกี่ยวกับน้ำอัดลม จำพวกน้ำดำ
ขนาดเอาไปเทลงชักโครก ทิ้งไว้ ยังกัดซะ ชักโครกสะอาดได้
อีกทั้งความหวานก็เกินกว่าร่างกายต้องการมาก
เคยดูรายการเพื่อสุขภาพที่พูดเกี่ยวกับพิษภัยของมันแล้วอยากจะหลีกเลี่ยงครับ
ผมเลยไม่มองหุ้นน้ำอัดลมเลย

แต่ถ้าบริษัทไม่ได้พึ่งยอดขายจากน้ำอัดลมเพียงอย่างเดียว
และหุ้น Undervalue มากๆ ก็น่าสนใจครับ

นอกจากน้ำดำแล้ว
ผลิตภัณฑ์คือน้ำดื่มตราคริสตัล ที่โฆษณาว่าเป็นยี่ห้อแรกที่ได้รับมาตราฐานอาหารจากประเทศสหรัฐอเมริกา

เกเตอเรด ก็ใช่คับ
เป็นสายส่งให้แก่ คาราบาวแรด ด้วย
มีส่งให้โอเอชิ โอรสสภาด้วย

ต้องหากันต่อไปครับ
ว่ามีอะไรบ้าง

นับวัน
นักลงทุนแนวทางวีไอเพิ่มขึ้น
มากกว่าหุ้นดีๆที่มีอยู่
เรื่อยๆ   :lol:

จากรายงานประจำปี 2548 (56-1)

1. ผลิตและจำหน่าย
น้ำอัดลมโดยใช้เครื่องหมายการค้า เป๊ปซี่  เป๊ปซี่ ทวิสต์  เป๊ปซี่ แม๊กซ์  เป๊ปซี่ ไฟร์ เป๊ปซี่ ไอซ์  เป๊ปซี่ลาเต้
มิรินด้า เซเว่นอัพ เมาเทนดิว และ คลับ
ชาพร้อมดื่ม ภายใต้เครื่องหมายการค้า ลิปตัน รสมะนาว รสพีช  รสมะม่วง และ ชาเขียว ลิปตันเวฟ
น้ำดื่ม โดยใช้เครื่องหมายการค้า คริสตัล
เครื่องดื่มเกลือแร่ โดยใช้เครื่องหมายการค้า เกเตอเรด

2. ผู้จัดจำหน่าย
เครื่องดื่ม คาราบาวแดง และ คาราบาว เอ็กซ์โอ ให้กับ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด
ชาเขียวพร้อมดื่ม โออิชิ ให้กับบริษัท โออิชิ เทรดดิ้ง จำกัด

HVI เขียน: พอจะทราบมั้ยครับว่า SSC มีการแบ่ง Product Portfolio อย่างไร
ยอดขายและกำไรที่มาจากสินค้าแต่ละชนิดเป็นอย่างไร

ความเห็นส่วนตัวผม เกี่ยวกับน้ำอัดลม จำพวกน้ำดำ
ขนาดเอาไปเทลงชักโครก ทิ้งไว้ ยังกัดซะ ชักโครกสะอาดได้
อีกทั้งความหวานก็เกินกว่าร่างกายต้องการมาก
เคยดูรายการเพื่อสุขภาพที่พูดเกี่ยวกับพิษภัยของมันแล้วอยากจะหลีกเลี่ยงครับ
ผมเลยไม่มองหุ้นน้ำอัดลมเลย

แต่ถ้าบริษัทไม่ได้พึ่งยอดขายจากน้ำอัดลมเพียงอย่างเดียว
และหุ้น Undervalue มากๆ ก็น่าสนใจครับ

ว่างๆผมต้องลองเอาเป๊ปซี่ไปล้างชักโครกดูบ้างแล้ว ต้องใช้ขวดขนาดเท่าไรถึงจะพอดีครับ ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องใช้มาจิคลีน
แล้วเรื่องความหวานนี่ ผมเข้าใจว่าเป็ปซี่น่าจะมีน้ำตาลน้อยกว่าพวกน้ำผลไม้ซะอีกนะครับ เพราะไอ้ฟองซ่าๆนี่ มันช่วยให้เค้าใช้น้ำตาลน้อยลง โดยที่ยะงให้ความหวานเท่าเดิม เป็นการลดต้นทุนทางนึงครับ

worapong เขียน: ว่างๆผมต้องลองเอาเป๊ปซี่ไปล้างชักโครกดูบ้างแล้ว ต้องใช้ขวดขนาดเท่าไรถึงจะพอดีครับ ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องใช้มาจิคลีน
แล้วเรื่องความหวานนี่ ผมเข้าใจว่าเป็ปซี่น่าจะมีน้ำตาลน้อยกว่าพวกน้ำผลไม้ซะอีกนะครับ เพราะไอ้ฟองซ่าๆนี่ มันช่วยให้เค้าใช้น้ำตาลน้อยลง โดยที่ยะงให้ความหวานเท่าเดิม เป็นการลดต้นทุนทางนึงครับ

จริงเท็จอย่างไรต้องลองพิสูจน์กันดูครับ
http://www.howtocleananything.com/docs_ ... e_coke.htm
http://www.osh.com/Cultures/en-US/Artic ... ipsOct.htm

งานวิจัยด้านโภชนาการ เกี่ยวกับความหวาน
http://medinfo.psu.ac.th/mednews/n129/n18.pdf
http://dental.anamai.moph.go.th/oralhea ... bank17.php

[quote="MacroArt"]จากรายงานประจำปี 2548 (56-1)

1. ผลิตและจำหน่าย
น้ำอัดลมโดยใช้เครื่องหมายการค้า เป๊ปซี่

นางเพาพิลาส เหมวชิรวรากร  คนนี้เขาแน่จริงๆครับ ของเขาแรงครับ

แค่ดูผ่านๆนะครับ เหมือนว่า5ปีที่ผ่านมานี่ ยอดขายกับกำไรสาละวันเตี้ยลงนะครับ

ตามที่พี่เจ๋งบอกเลยอ่ะ
เฮี้ยนสุดๆๆ XDแล้วร่วงมาตลอดตอนนี้
จะกลับไปที่ราคาที่ขึ้นXDแล้วอ่ะ

ข้อมูล น้ำอัดลม เพิ่มเติม นะครับ

  สัดส่วนของส่วนแบ่งตลาด ของ โค้ก และ เป็ปซี่ ในประเทศไทย จะอยู่ สลับกัน ระหว่าง 51 : 49 , 50:50 , 49 : 51 .... แล้วแต่ว่า ช่วงไหน ใครทำโปรโมชั่น   และ ทั้ง 2 บริษัท มีจุดอ่อน แข็ง ในช่องทางการจัดจำหน่าย ต่างกัน โดย
  - เป็ปซี่ จะมีการกระจายสินค้า เข้าสู่ร้านค้าปลีก ขนาดเล็ก ลึกกว่า ประมาณ 200,000 กว่าร้านค้า ในขณะที่ โค้ก มีประมาณ 130,000 ร้านค้า เนื่องจาก เสริมสุข มีหน่วยรถ 2,000 คัน ( ค่าเสื่อมที่ มาก ๆ คือ ค่าเสือม รถส่วนใหญ่ นะครับ ) ขณะที่ โค้ก มีหน่วย รถ 1,000 คัน
( คิดดุดีๆ นะครับ ถ้าราคา น้ำมัน ขึ้น ใครต้นทุน สูงกว่า ในขณะ ที่ปรับราคาสินค้า ขึ้นได้เท่ากัน)
  - โค้ก มียอดขาย ที่แข็งแกร่งกว่า ในร้านค้า ซุปเปอร์ สโตร์ เกือบทุก สโตร์ ให้ สังเกตจาก การจัดเรียง ขาสินค้า ในชั้นโชว์ และ ความร่วมมือ ในการตั้งโชว์ โปรโมชั่น ใน Big C , Lotus ....รวมถึง 7 - 11 ที่มี Partner คือ โค้ก ( ใช้โค้ก ทำ สเลอบี้ด้วย )
 -  ในส่วนร้านค้า ภัตราคาร ร้านอาหาร ผับ หรือ แหล่งเที่ยวกลางคืน เป็ปซี่ เจาะได้มากว่า ครับ เนื่องจาก ทีมขายกลางคืน ของเสริมสุข มีประสบการณ์ที่ชำนาญกว่า

ในประเทศไทย เป็ปซี่ มีทีมบริหาร ที่ทำงานต่อเนื่องกว่า โค้กครับ   โค้กเปลี่ยนทีมบ่อยกว่า  ทำให้เป็ปซี่ มีกลยุทธ์ ในตลาดเมืองไทย ที่ชัดกว่า และ ด้วยความที่ เป็บซี่ ได้ เสริมสุข เป็น partner มานาน ทำให้ Brand ของเป็บซี่ เมืองไทย ฟาดฟันกับ โค้ก ได้สูสี และ ชนะ ในส่วนของน้ำดำ

ที่ราคาหุ้น SSC ไม่ไปไหน น่าจะเกิดจาก  ไม่มี Catalize story มากกว่า ครับ และคาดว่า ยัง Shock จากการไม่ได้กระจายสินค้า M-150เหมือนในอดีต มากกว่า ( M 150 ส่วนแบ่งตลาด สูงกว่า บาวแดงมาก )

มีตัวนึงที่ราคาไม่ค่อยขยับคือ IRC

ส่วน stanly ไม่ทราบว่าท่านขายไปหรือยัง

STANLYขายไปเยอะแล้วครับแต่ไม่รู้ว่าหมดหรือยัง

Kao เขียน:STANLYขายไปเยอะแล้วครับแต่ไม่รู้ว่าหมดหรือยัง

ไม่แน่ใจครับ มีเพื่อนๆเคยตั้งข้อสังเกตุว่าขายไปซื้อ HMPRO  
ดูแล้วก็มีความเป็นไปได้สูง และท่านก็กำไรจาก HMPRO มากเสียด้วย

สุดท้ายผมเดาว่าท่านจะขาย IRC
เพราะเป็นธุรกิจที่ไม่เข้ากับ concept การลงทุนของท่านเลย

เชื่อเจ๋งแล้วรวยจริงๆด้วย

วันนี้ ssc ไป 23.20 แล้ว

กอดแน่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณเจ๋งนะคะ

ยิ่งดีด้วยพี่ซี

ใครถือตั้งแต่ปันผลคงจะได้ยิ้มกันเสียที

 :D  :D

ผมว่าธุรกิจที่น่าสนใจและต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ทำให้กำไรตก เริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง.....

อย่างเช่น irc+bat-3k กำไรไม่ได้ตกลงเท่าไหร่ แต่ถ้าเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อไหร่ หุ้นพวกนี้ล่ะครับน่าสนใจ......

ยิ่งเป็นเจ้าssc ยิ่งใช่ใหญ่ ยังไงผมก็ดื่มpepsiมากกว่าชาเขียวแล้วกัน.......

แถมเจ้าgmmm อีกตัว ถ้าเข้าที่เมื่อไหร่ อะไรก็ฉุดไม่อยู่....... :lol:

ผมชักเบื่อหุ้นของดร.แล้วซิ ขึ้นจนลืมตัว มันมีขีดสุดนะครับpe20เท่าเนี่ย  อตร. :lol:  :lol:  :lol:

:lol:  :lol:  :lol:

:lol:  :lol:  :lol:

:lol:  :lol:

สำหรับเมืองไทย ข้อมูลที่ถูกต้อง
สัดส่วนไม่ใช่ 50/50 นะครับ

แต่เป็น 63/37   นะครับ ข้อมูลเมื่อ2 ปีก่อน  เป๊บซี่นำ
เป็น1 ใน 5 ประเทศในโลก มั๊งครับ  ที่เป๊บซี่เหนือกว่าโค๊ก


ปล.ข้อมูลอาจเปลี่ยนไปบ้างแล้ว  แต่คาดว่าคงไม่คลาดเคลื่อนไปกว่านี้เท่าไหร่  อิอิ  
เมื่อปี 2539  เทรดกันที่ P/E 30 นะครับ  ประมาณ 60 บาท
อิอิ....  ตอนนี้ ชาเขียว อ่อนแรงสุดๆ คาดว่าน้ำดำคงกลับมาผงาดได้ไม่ยากในเร็วๆวันนี้  อิอิ..


:lol:  :lol:

ถ้าน้ำดำไม่ผงาดนี่น้ำผลไม้อาจจะผงาดแซงได้นะ