Thai VI

ผมเป็นนักลงทุนหน้าใหม่ในตลาดครับ และเป็นนักลงทุนสมัครเล่นเสียด้วย และที่หันมาลงทุนในหุ้นก็เนื่องมาจากต้องการแบ่งปันเงินออมอันน้อยนิดส่วนหนึ่งมาเพิ่มมูลค่า แต่ยังมีประสบการณ์เกี่ยวกับการลงทุนแบบ Value Investor ไม่มากนัก ช่วยแนะนำผมหน่อยน่ะครับ

ตอนนี้ผมมีหุ้นอยู่ในพอร์ต 4 ตัว คือ BAFS, CPF, PAF และ PRANDA ครับ เท่าที่ศึกษาทั้ง 4 ตัว คิดแล้วว่าน่าจะถือยาวได้ ไม่ทราบว่ามีข้อแนะนำเกี่ยวกับหุ้นทั้ง 4 อย่างไรครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำครับ

ช่วยไล่ให้ฟังทีละตัวหน่อยซิ ว่าคิดอย่างไร ทำไมต้องเป็น 4 ตัวนี้ที่น่าจะถือยาว พี่ก็อยากรู้เหมือนกันครับ

BAFS
CPF
PAF
PRANDA

ที่คุณ somyoss บอกว่าศึกษามาแล้ว คิดแล้วว่าน่าจะถือยาวได้ ช่วยแจงหน่อยสิครับว่ามีแนวทางศึกษาอย่างไร จะได้ช่วยกันออกความเห็นได้ เช่น อ่าน 56-1 อ่านบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ วิเคราะห์ทางเทคนิค ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมนั้นๆ ฯลฯ

กระจายความเสี่ยงดีนะครับ

มีน้ำมันเครื่องบิน

มีครัวของโลก

มีรองเท้า

มีอัญมณี

แต่ผมไม่ได้ศึกษาหุ้น4ตัวนี้เลยไม่ขอออกความเห็นครับ
ชอบแต่น้ำมัน เขาผูกขาด ถ้าสุวรรณภูมิเสร็จคงจะดี
ไม่มีข้อมูลนะครับ ใช้สามัญสำนึกครับ
ผิดถูกก็อย่าว่ากันผมไม่เก่งเรื่องแกะงบครับ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจว่าทำไมผมถึงคิดว่าหุ้นทั้ง 4 ตัวพอจะถือยาวได้ และต้องขอโทษครับที่ตอบคำถามช้าไปนิด เนื่องจากงานค่อนข้างเยอะครับ

วิธีการกรองหุ้นของผม มีดังต่อไปนี้ครับ
1. ผมเลือกดูหุ้นที่มีราคาไม่สูงมากนัก คือ ไม่เกิน 15 บาทต่อหุ้น เพราะยังไม่กล้าเล่นราคาแพง
2. หุ้นทั้ง 4 ตัว มีการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องมาแล้ว 2-3 ปีครับ
3. ความชอบส่วนตัวในการเลือกบริษัท คือ CPF, PAF, PRANDA เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมานาน มีความเชี่ยวชาญ และเน้นธุรกิจที่เป็น core activity ของตนเอง
4. ราคาซื้อขายปัจจุบันอยู่ในระดับใกล้เคียง (สูงหรือต่ำกว่า) Book Value
5. ผมมีความเชื่อว่าบริษัททั้ง 4 มีความได้เปรียบในเชิงการตลาด และมีตลาดหลักรองรับอยู่ เช่น CPF มีชื่อเสียงและมีการควบคุมคุณภาพของสินค้าอย่างมีระบบ ทำให้สินค้าของตนเองไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการกีดกันทางการค้าซักเท่าไหร่ หรือหากมีก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว เพราะมีฐานการเงินที่มั่นคง และมีหน่วยงานที่คอยศึกษาและติดตามอยู่สม่ำเสมอ, PAF ทำธุรกิจกับ NIKE มาเป็นระยะเวลานาน และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ NIKE, PRANDA มีบริษัทลูกอยู่ในต่างประเทศเพื่อเป็นผู้รองรับการจำหน่ายสินค้าสู่ตลาดในสหรัฐ ส่วน BAFS ตัดสินใจโดยความชอบส่วนตัวเป็นหลัก

ทั้งหมดนี้ คือ หลักที่ผมพิจารณา แต่คิดว่ายังมองไม่ครบถ้วนเสียทีเดียว เพราะใช้ความรู้สึกส่วนตัวค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงอยากขอความคิดเห็นจากผู้รู้ในที่นี้ช่วยแนะนำ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ้าง จักเป็นพระคุณยิ่งครับ

สวัสดีครับ มาต้อนรับเพื่อนใหม่ครับ

สำหรับหุ้น 4 ตัวนั้น ที่เคยสนใจก็มี CPF กับ PAF
แต่ก็ไม่ได้ติดตามในระยะหลังๆ นี้ เลยเนื่องจาก
ผมไม่ชอบหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร เท่าใดนัก,
ส่วนกลุ่มสิ่งทอ ผมไปชอบตัวอื่นมากกว่า รวมทั้งมีช่วงหนึ่งที่เคยสนใจ PAF แต่ตอนนั้นมีการเพิ่มทุนจำนวนมาก ซึ่งกำไรต่อหุ้นจะ Dilute ไป ผมก็เลยไม่ได้สนใจมาดูมันอีกเลย ไม่รู้ว่า ตอนนี้การทำกำไร กับราคาเป็นอย่างไรแล้ว ก็เลยไม่มีความเห็นครับ

คุณ somyoss ครับ ผมขอเสนอความเห็นของผมดังนี้ครับ

"วิธีการกรองหุ้น ข้อ 1. ผมเลือกดูหุ้นที่มีราคาไม่สูงมากนัก คือ ไม่เกิน 15 บาทต่อหุ้น เพราะยังไม่กล้าเล่นราคาแพง"

นิยามคำว่าหุ้น "ราคาแพง" ของคุณออกจะแปลกๆ นะครับ ลองปรึกษาท่านอื่นๆ ดูแล้วกัน

ส่วน "แนวคิด" ข้ออื่นๆ ผมว่าใช้ได้ครับ

เรียนคุณ Somyoss หุ้นทั้ง 4 ตัวนีื้ ดิฉันเองก็เคยคัดมาเพื่อที่จะลงทุนเหมือนกันด้วยเหตุผลด้านการตลาด แต่ไปเลือกตัวอื่นแทนเมื่อเข้าไปวิเคราะห์เพิ่มขึ่น ที่พอจำได้ว่าไม่ได้ซื้อก็เพราะ

BAFS ราคาขึ้นไปสูงแล้วมาเทียบกับตอนที่ทำ IPO
PAF ดูงบการเงิน แล้วเห็นมีรายการแปลกๆ เช่นเงินให้กู้ยืมแก่ผู้บริหารหรือบริษัทย่อย (จำไม่ค่อยได้แล้ว) เลยรู้สึกไม่ค่อยโปร่งใสค่ะ
CPF รู้สึกว่ากลุ่ม CP ใหญ่เกินไป และมีธุรกิจหลายหลายมาก มีทั้งที่ทำกำไร และขาดทุน คิดไปเองว่าอาจมีการให้กู้ยืมเงินเพื่อช่วยพยุงธุรกิจระหว่างกัน เช่นธุรกิจที่ีมีกำไร เอาเงินไปอุ้มธุรกิจที่กำลังขาดทุน อีกทั้งมีำจำนวนหุ้นเยอะ ไม่แน่ใจว่่ามี warrant ้ด้วยรึป่าว
ส่วน PRANDA มี warrant ค่ะ

โดยส่วนตัวจะไม่ชอบหุ้นที่มี warrant หรือหุ้นที่มีจำนวนหุ้นมากๆ ค่ะ ยกเว้นหุ้น bluechip

คุณภัคนี่เก่งพอควรเลยนะครับ มีการวิเคราะห์อย่างละเอียดจริงๆครับ แถมวิเคราะห์หุ้นหลายบริษัทด้วย

คุณก็น่าจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนนะครับ ขอให้โชคดี นอนหลับฝันดีครับ

เคยอ่านบทความของ อ.นิเวศน์ บอกว่าหุ้นราคาสูงๆ (ก่อนแตกพาร์) คือหุ้นที่มีราคาขึ้นมาเรื่อยๆ นั่นหมายถึงเป็นหุ้นคุณภาพ ราคาแพงไม่แพงดูที่ PE น่าจะถูกกว่านะครับ

ขอบคุณทุกท่าน ที่ให้ข้อแนะนำที่ดี ๆ ครับ

คุณภัค เป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ทำการบ้านเยอะมากครับ ผมได้มีโอกาสอ่านกระทู้อื่น ๆ ที่คุณภัคได้แสดงความคิดเห็นไว้ เรียกได้ว่าเป็นเซียนได้เลยน่ะครับ อีกหลาย ๆ ท่านก็เช่นเดียวกัน

ผมต้องฝึกฝนวิทยายุทธให้มากกว่านี้แล้วครับ และจะต้องศึกษาหุ้นอีกหลายตัว เพื่อรองรับกับการปรับพอร์ตในภายหลัง

ขอบคุณอีกครั้งครับ