อ่านรายงานประจำของUEC แล้วคาใจ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 30, 2006 11:34 pm
มีสิ่งที่คาใจอย่างแรงในตัวนี้คือ
1. ทำไมไม่มีการป้องกันเรื่องค่าเงิน ระบุไว้ชัดเจนมีแค่บัญชีเงินตราต่างประเทศไว้เท่านั้น แต่ไม่สัญญาเรื่องป้องกันเรื่องค่าเงิน ทั้งในส่วนของลูกหนี้หรือเจ้าหนี้(ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแบบนี้ไม่ต้องทำสัญญาในส่วนของเจ้าหนี้ก็ได้เพราะทำแล้วเสียเปรียบ แต่น่าจะทำด้านของลูกหนี้) ซึ่งยอดขายต่างประเทศ 40% ของทั้งหมด เป็นส่วนของOEM 20%และขายเอง 20%
2. ในรายงานระบุชัดเจนว่า โรงงานของบริษัทในตอนนี้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพแล้ว ทำให้เพิ่มกำลังการผลิตไม่ได้ ซึ่งในปีนี้ถึงปี 2551 ในกลุ่มธุรกิจพลังงาน ปิโตรเคมี มีการเพิ่มกำลังการผลิต โดยที่ลงทุนประมาณ 400,000ล้านบาท (ตัวเลขนี้ต้องcheckอีกที่หนึ่งเพราะรายงานประจำปีอย่างจะมองผิดพลาดได้)
3. หนี้เสียอ่ะ ในเมื่อระบุวันจัดเก็บหนี้ 30-60 วันแสดงว่า ลูกหนี้ที่เกิน 3 เดือนต้องระบุชั้นลูกหนี้เพิ่มหรือเปล่า แต่ไฉน มันดันตั้งNPLแค่ 16 ล้านบาท(เกินกว่า 6เดือนและ 12เดือน)
มีมาแค่นี้อ่ะ
1. ทำไมไม่มีการป้องกันเรื่องค่าเงิน ระบุไว้ชัดเจนมีแค่บัญชีเงินตราต่างประเทศไว้เท่านั้น แต่ไม่สัญญาเรื่องป้องกันเรื่องค่าเงิน ทั้งในส่วนของลูกหนี้หรือเจ้าหนี้(ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแบบนี้ไม่ต้องทำสัญญาในส่วนของเจ้าหนี้ก็ได้เพราะทำแล้วเสียเปรียบ แต่น่าจะทำด้านของลูกหนี้) ซึ่งยอดขายต่างประเทศ 40% ของทั้งหมด เป็นส่วนของOEM 20%และขายเอง 20%
2. ในรายงานระบุชัดเจนว่า โรงงานของบริษัทในตอนนี้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพแล้ว ทำให้เพิ่มกำลังการผลิตไม่ได้ ซึ่งในปีนี้ถึงปี 2551 ในกลุ่มธุรกิจพลังงาน ปิโตรเคมี มีการเพิ่มกำลังการผลิต โดยที่ลงทุนประมาณ 400,000ล้านบาท (ตัวเลขนี้ต้องcheckอีกที่หนึ่งเพราะรายงานประจำปีอย่างจะมองผิดพลาดได้)
3. หนี้เสียอ่ะ ในเมื่อระบุวันจัดเก็บหนี้ 30-60 วันแสดงว่า ลูกหนี้ที่เกิน 3 เดือนต้องระบุชั้นลูกหนี้เพิ่มหรือเปล่า แต่ไฉน มันดันตั้งNPLแค่ 16 ล้านบาท(เกินกว่า 6เดือนและ 12เดือน)
มีมาแค่นี้อ่ะ