Thai VI

ในอเมริกามีค้าปลีกพวก Wal mart, Home depot, Best buy
แล้วมีร้านค้าปลีกขายหนังสือที่เป็นเบอร์หนึ่งบ้างมั้ยครับ? อย่างเมืองไทยยังมี SE-ED เลยครับ

ผมเห็น วอเรน บัฟเฟต ลงทุนใน Wal mart, Home depot แต่ยังไม่เคยได้ยินว่าลงทุนในค้าปลีกร้านหนังสือเลย หรือว่าร้านขายหนังสือในอเมริกาไม่ใช่ธุรกิจที่ดี?

ผมเองนั้น ความรู้ก็ยังน้อยครับ อยากให้เพื่อนๆช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ

http://money.cnn.com/quote/quote.html?symb=BKS
บานส์แอนด์โนเบิล

http://money.cnn.com/quote/quote.html?symb=BAMM

http://money.cnn.com/quote/quote.html?symb=BGP

ลองดูนะครับ

แล้วก็มี Amazon แต่อันนี้เป็นการขายในอินเตอร์เนต
http://money.cnn.com/quote/quote.html?symb=AMZN

ถ้า Buffet เป็นนักลงทุนไทย
ต้องซื้อซีเอ็ดแน่ครับ

pe
se+ed~11 เท่า
Barnes & Noble~20 เท่า

Yiled
se-ed~8%
Barnes & Noble~ 1.28%

เคยใช้บริหาร 2-3 ครั้ง หนังสือเยอะมากครับ
มีมุมกาแฟให้นั่งอ่าน  แต่หลังจากได้รู้จัก used.com
ก็เลิกเข้าร้านครับ เพราะซื้อทางเวป หนังสือมือสอง ถูกกันมากกว่าครึ่ง
คุณภาพก็ดี รับได้ครับ

Buffett บอกว่าเขาซื้อหนังสือผ่าน Amazon บ่อยๆ ซึ่งทำให้เขาคิดว่า Business Model ของบริษัทนี้ต้องมีอะไรดีแน่ๆ ถึงดูดเงินจากกระเป๋าของเขาได้ และเชื่อว่าในอนาคตบริษัทนี้จะไม่หายไป แต่เขาไม่สามารถประเมินค่าของธุรกิจของ Amazon ได้ จึงไม่เข้าไปลงทุน

Buffett ได้เข้าไปลงทุนใน Bond ของ Amazon แทน ซึ่งตอนนั้นเป็น Junk bond และทำให้ Buffett ได้กำไรมหาศาล

ก่อนหน้านี้ amazon ได้เข้าซื้อกิจการอื่นๆจำนวนมากครับ
ที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าออนไลน์
ทำให้สูญเสียจุดเด่นด้านหนังสือไปพอสมควร
ตอนนี้ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรแล้ว

ตอนนี้ p/e 45 เท่า
ราคาหุ้นเคยขึ้นไปแถว 105 ดอล
ฟองสบู่แตก ก็ตกลงมาเหลือต่ำกว่า 10 ดอลลาร์
ปี 2004 กลับขึ้นไปที่ 60  ตอนนี้ประมาณ 36 ดอลลาร์

Buffet น่าจะชอบซีเอ็ดแน่ๆครับ
เรื่องปัจจัยคุณภาพ คงไม่มีข้อสังสัย

ส่วนปัจจัยด้านปริมาณ ที่น่าตื่นเต้น

-ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส 16 ไตรมาส หรือ 4 ปีติดต่อกัน ยกเว้นไตรมาส 1 ของทุกปีที่ยอดขายตกไปเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปีก่อนหน้า  ส่วนไตรมาสอื่นยอดขายเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส เปรียบเทียบไตรมาสต่อไตรมาสนะครับ ไม่ต้องพูดถึงเปรียบเทียบปีต่อปี   ผมสงสัยว่ามีหุ้นตัวไหนในตลาด ที่มีคุณสมบัติอย่างนี้บ้าง :lol:

-กำไรที่แท้จริง (หักค่าเผื่อต่างๆแล้ว) เพิ่มขึ้นตามยอดขาย มีแค่ 3 ไตรมาสจาก 16 ไตรมาส ที่ไม่เป็นอย่างนั้น

[quote="ลูกอิสาน"]
ฟองสบู่แตก ก็ตกลงมาเหลือต่ำกว่า 10 ดอลลาร์
ปี 2004 กลับขึ้นไปที่ 60

ขอบคุณทุกๆคนนะครับที่ให้คำแนะนำ

แต่ผมยังสงสัยอยู่อย่าง คือ

ธุรกิจค้าปลีกเช่น IT, HMPRO, BIGC ผมสังเกตุดู พบว่าเมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น กำไรสุทธิ(Net margin) ก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นด้วย เช่น

ปี 2003 ยอดขาย 2,600 ล้าน กำไรสุทธิ 3.0%
ปี 2004 ยอดขาย 3,700 ล้าน กำไรสุทธิ 3.1%
ปี 2005 ยอดขาย 4,500 ล้าน กำไรสุทธิ 3.4%

กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะค่อยๆเพิ่ม อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผมเข้าใจว่าเกิดจากการประหยัดจากขนาด(Economy of scale) และ SE-ED ก็น่าจะเป็นเช่นนี้เหมือนกัน

แต่ที่เกิดขึ้นคือ ที่ผ่านมาหลายปี SE-ED ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปีจริง แต่กำไรสุทธิกลับขึ้นๆลงๆ บางปี 6% บางปี 5% บางปีดีๆก็ 7% แย่หน่อยก็ 4% ผมจึงสงสัยครับว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะอะไร

1. ธรรมชาติของธุรกิจร้านขายหนังสือมันเป็นแบบนี้เอง นั่นหมายถึง ปีไหนมีหนังสือฮิตติดตลาดหรือมีการจัดงานพิเศษต่างๆ ปีนั้นกำไรก็จะดีหน่อย บางปีหนังสือฮิตอาจจะไม่ค่อยมี กำไรก็น้อยลงหน่อย ขึ้นๆลงๆเป็นปีๆไปแล้วแต่กระแส

หรือว่า อาจจะเป็นเพราะ

2. ปีที่ผ่านๆมา SE-ED อาจจะกำลังปรับปรุงระบบสินค้าคงคลัง ระบบจัดการต่างๆ (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคืออะไร) แล้วมันยังไม่ลงตัว แต่ปัจจุบันนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัวแล้ว ซึ่งปีต่อๆไปจากนี้ กำไรสุทธิจะค่อยๆเพิ่มอย่างสม่ำเสมอ ไม่ขึ้นๆลงๆอีกต่อไปแล้ว

ไม่รู้ว่า 1. หรือ 2. หรือทั้ง 2 ข้อ หรืออาจจะเป็นเรื่องอื่น

ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ลืมถามอีกข้อครับ

ปกติ net margin ธุรกิจค้าปลีกในเมืองไทยจะประมาณ 3% - 4% แถวๆนี้ แต่ SE-ED นั้น 5% - 6% สูงเกินจริงรึเปล่าครับ? หรือเพราะว่าธรรมชาติของการขายหนังสือมันควรจะกำไรดีกว่าอย่างอื่นๆ ครับ

อีกอย่างร้านขายหนังสือในอเมริกา เช่น  Barn&Noble, Books-A-Million, ฺBorder (จากคุณ Boring Stock Lover)

ผมดูแล้วคร่าวๆ net margin แค่ 2% กว่าเอง (amazon ดีหน่อย 4% กว่า แต่เป็น online) ROE ประมาณ 10% แค่นั้น

ในอเมริกาคงแข่งขันกันเดือดนะครับ

คำถามของคุณ L ผมก็สงสัยและอยากทราบเช่นกันครับ

ดูที่กำไร(หักรายการพิเศษแล้ว)ของซีเอ็ดและเปอร์เซนต์กำไรสุทธิ ย้อนหลัง 6 ปีครับ

91--- 130.6--- 130.0--- 156.8--- 150.7--- 238.0

7.75--- 7.91--- 6.44---- 6.40--- 5.27--- 6.95


เท่าที่ดูกำไรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจน ส่วน net margin ค่อนข้างผันผวนครับ สามารถเท่าที่ผมคิดออกน่าจะเป็นอย่างนี้ครับ

1.คุณ Tiger เคยโพสต์ว่าบางปีที่กำไรตกไป เพราะมีการทดลองโมเดลบางแบบ และไม่ประสบความสำเร็จครับ

2.กำไรผันผวนไปตามหนังสือขายดี ที่คุณ L ตั้งสมมุตฐานครับ โดยเฉพาะหากมีหนังสือที่ซีเอ็ดพิมพ์เอง และขายดี จะทำให้กำไรปีนั้นเพิ่มขึ้นมากครับ เช่นชุดพ่อรวยสอนลูก




ส่วนเรื่องมาร์จินว่าสูงไปหรือเปล่า ถ้าต่ำกว่า 5% ผมคิดว่าน้อยเกินไปครับ เหตุผลเพราะ..

1.หนังสือเป็นสินค้าที่มูลค่าน้อย ควรจะมีกำไรมากกว่าสินค้าราคาแพงเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องตกแต่งบ้าน

2.หนังสือเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อถี่มาก เหมือนสินค้าอุปโภคบริโภค ดังนั้นผู้บริโภคจะไม่ค่อยต่อรอง หรือสนใจราคามากนัก

3.ซีเอ็ดเป็นผู้นำธุรกิจร้านหนังสือ มีสาขามากจำนวนมาก โดยเฉพาะซูปเปอร์สโตร์ ซึ่งเป็นช่องทางจัดจำหน่าย ที่ผู้บริโภคยุคใหม่เข้าถึงมากที่สุด เราอาจจะเลือกที่จะไปห้างที่เดินทางสะดวกหรือมีสินค้าราคาถูก แต่ทุกห้างจะมีซีเอ็ด  :lol:

คิดได้แค่นี้ครับ ใครมีอะไรก็เสริมได้นะครับ

ปัจจุบันเวป Amazon.com อยู่ที่อันดับที่ 13 ของทั่วทั้งโลก
แล้วในเรื่องของ Rating จากผู้บริโภคนี่ก็จัดได้ว่าสูง
แรกๆคนมองว่า Amazon อาจจะเสียจุดแข็งเดิมของธุรกิจขายหนังสือไป แต่ไปๆมาๆ Amazon กลับการเป็น e-tailing ที่มีสินค้าหลากหลาย มี function ที่ใช้งานง่าย
และมีระบบ Shopping Aid ที่ช่วย Match ความสินค้าที่เสนอกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้ดีอันดับต้นๆ ในวงการเลยครับ
ผมว่า Amazon นี่ยังไปได้อีกไกล .. แต่ราคาแพงไปแล้วรึเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

ลูกอิสาน เขียน:คำถามของคุณ L ผมก็สงสัยและอยากทราบเช่นกันครับ

ดูที่กำไร(หักรายการพิเศษแล้ว)ของซีเอ็ดและเปอร์เซนต์กำไรสุทธิ ย้อนหลัง 6 ปีครับ

91--- 130.6--- 130.0--- 156.8--- 150.7--- 238.0

7.75--- 7.91--- 6.44---- 6.40--- 5.27--- 6.95


เท่าที่ดูกำไรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจน ส่วน net margin ค่อนข้างผันผวนครับ สามารถเท่าที่ผมคิดออกน่าจะเป็นอย่างนี้ครับ

7/11 หรือ CP เลยสนใจอยากกระโจนเข้ามาแข่งด้วย