Thai VI

ไม่ใชเรื่องกำไรนะครับ

เพราะถ้าจะวัดแค่กำไร ผมรู้สึกว่าอาจจะขาดด้านอื่นๆไป

ที่ผมพอใจผมหมายถึง

1. ผมได้เจอคนที่พูดเรื่องเดียวกัน ในเว็บนี้ เช่น พี่ปรัชญา คุณฉัตรชัย น้องวิบูลย์ คุณมน คุณธันวา คุณนักดูดาว คุณ +++ และอีกหลายๆท่าน ที่ชอบแอบอ่านอย่างสม่ำเสมอ

2. ผมได้อ่านเรื่องบริษัทต่างๆ ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยรู้เลยว่าเขาทำอะไรกันแน่

3. ผมได้ติดตามผลประกอบการ อย่างสม่ำเสมอ ด้วยตัวของผมเอง

3. ผมได้รู้ว่าหลักการเล่นหุ้นแบเก็งกำไร กับหลักการลงทุนระยะยาว มีคนที่สำเร็จทั้งคู่ แต่แทบจะคุยกันไม่รู้เรื่องเลย

ยิ่งผมศึกษา ผมยิ่งมั่นใจว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ผมน่าจะประสบความสำเร็จในการลงทุน อย่างแน่นอน

ผมกำลังคิดไปถึงอีก 20 ปีข้างหน้า ลูกผมอายุ 23 ปี คงเรียนจบอะไรบางอย่าง แต่พ่อของเขาได้เรียนรู้เรื่องการลงทุนมาถึง 21 ปี

ในเวลานั้นผมจะมีอายุ 60 ปี

ผมคงมีอะไรที่จะบอกลูกของผมได้เยอะที่เดียว

โอ อนาคตช่างเข้ามาเร็วอะไรปานนี้ ผมหมายถึงเวลาในปัจจุบันทำไมวิ่งเร็วจัง

ผมลงทุนหุ้นมาครบ 1 ปีแล้วครับ เอ้าฉลองกันหน่อย วันเกิด 1 ปี ของผม สำหรับการลงทุนอย่าง VI

ทั้งๆที่น้องวิบูลย์ บอกว่าผมเป็น VS แต่ก็ไม่เป็นไรครับ

เอ้าฉลอง ยก ยก ยก กัมไป(ภาษาญี่ปุ้น)

ขายอิอ่อนไป ก็กำไร
มาซื้อบิ๊กซี ก็กำไร
มาซื้อแม็คโคร ก็กำไร
มาซื้อสหพัฒน์ ก็กำไร

คนลงทุนใหม่ๆ นี่ เฮงดี นะครับ

รอบหน้าซื้อตัวไหนมาบอกกันบ้างนะครับ เสี่ยเจ๋ง
จะได้ตามไปเชียร์ อิอิ

ส่วนผมก็กำลังศึกษาอยู่ครับ ไม่ได้เรียนมาทางนี้เลย ก็อ่านหาความรู้ในเวปนี้แหละครับ

ดีครับ คุณ Wallace เกาะกลุ่มกันไปเรื่อยๆ เหมือนนกที่บินเป็นฝูงครับ จะไม่เหนื่อย และนกที่บินเป็นฝูงเป็นรูปตัว V

จะสับเปลี่ยนกันเป็นจ่าฝูงครับ

อีกหน่อย คุณ Wallace ก็มาให้ความรู้เพื่อนๆนะครับ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ฮาอีกแย้ว เฮียเรา
แต่ผมเห็นช่วงนี้เริ่มมีคนบ่นๆเรื่องขาดทุน กับเรื่องเลิกเล่นอยู่เหมือนกันนะ

แต่ผมตั้งใจใช้วิชาอยู่ยงคงกระพัน จะอยู่เว็บนี้ต่อไปอีก 20 ปีครับ เฮีย

เอาเรามาจับมือกัน OK

เอา2ปีก่อนมั๊ย

OK ครับ 2 ปี

Jeng เขียน:OK ครับ 2 ปี

ไว้ครบ2ปี

แล้วค่อยหาเลข0มาวางข้างหลังเลข2

ดีครับ ค่อยๆก้าว

เอ ถ้ามีอีก 0 มาตามหลังพอร์ทของเฮีย แล้วตกลง เวลาสัมภาษณ์ ต้องเพิ่มเป็น 3 คนนะ ไม่ใช่ 2 คน

มาแสดงความยินดีด้วยคนนะคะ อยากเกาะกลุ่มไปด้วยเหมือนกัน รู้สึกพี่ๆในเวบนี้มีความรู้ความสามารถกันมากๆเลย แล้วก็เวลาถามอยากรู้อะไรก็จะได้รับความเมตตากรุณาจากพี่ๆดีมากเลยค่ะ แต่ส่วนตัวเองยังไม่ค่อยมีความรู้เท่าไร ไม่ได้เรียนอะไรที่เกี่ยวข้องกับการจะนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลอย่างพวกพี่ๆกันเลยน่ะค่ะ ก็พยายามแอบติดตามอ่านกระทู้อยู่ และว่าจะลองหาหนังสือมาอ่านดู นี่ก็อ่านหนังสือการบัญชีอยู่เผื่อจะแกะงบออกกะเขาบ้างอะ แต่ไม่รู้ว่าพออ่านแล้วจะสามารถนำมาวิเคราะห์ได้อะเปล่า กลัวว่าอ่านแล้วก็รับรู้และเข้าใจไปตามนั้น แต่ไม่สามารถวิเคราะห์อะไรได้ จะกลายเป็นไม่มีประโยชน์ไป เพราะหลายๆครั้งอ่านตามกระทู้ของพวกพี่ๆแล้ว แบบว่า อะโห คิดไปกันได้ขนาดนั้นเลยเหรอ เราเนี่ยแบบไม่เคยได้เข้าใกล้แนวคิดแบบนั้นเลย คิดแล้วก็เศร้า สงสัยอยู่ในกะลามานาน แบบว่าอ่านข่าวต่างๆของบริษัทตามหน้าหนังสือพิมพ์แล้วบางทีก็ไม่รู้ว่า แบบนี้เนี่ยมันเป็นผลดีหรือร้ายหรือภายภาคหน้าจะส่งผลต่อบริษัทยังไงบ้าง เศร้าจัง พวกพี่ๆตอนเริ่มใหม่ๆเป็นแบบนี้กันบ้างหรือเปล่าคะ เอ๊ะ ว่าจะมาแสดงความยินดีซะหน่อย ไปๆมาๆกลับมาบ่นเป็นคนแก่ให้พี่ๆฟังกันซะอีก ถ้าทำให้รำคาญก็ขอโทษทีนะคะ

พี่ปรัชญา พี่เจ๋ง ครับ

ผมยังแยก VI VS ออกได้ไม่ชัดเจนเลยครับ
แรกเริ่มเมื่อซื้อลงทุน วิเคราะห์อะไรต่างๆเสร็จสรรพ ตกลงซื้อ
ก็เป็นแนวทาง VI
ต่อมา บริษัทที่ซื้อเปลี่ยนแปลงไป อาจจะพื้นฐานเปลี่ยน ผลประกอบการเปลี่ยนแปลงไปในทางแย่ลง วิเคราะห์อีกที ตัดสินใจขาย
ก็กลายเป็น VS ไป

เป็นอย่างนี้เหรอครับ

โปรดแนะนำด้วยครับ

คุณ Moo ครับ ผมว่าถ้าขายเนื่องจากพื้นฐานเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่น่าจะเป็น VS นะครับ แต่ถ้าขายเนื่องจากผลประกอบการแย่ลงในระยะสั้น ๆ อาจจะเป็น VS ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกไหม

ขอเกาะพี่เจ๋ง กับพี่ปรัชญาไปด้วยคนนะครับ แค่เกาะชายเสื้อก็พอแล้วครับ

เรื่องความชำนาญในการวิเคราะห์งบนั้นต้องใช้เวลาครับ ไม่ใช้อ่านหนังสือจบจะวิเคราะห์เก่งภายในวันสองวันครับ

เหมือนช่างซ่อมรถยนต์ เรียนจบใหม่ๆย่อมยังไม่ชำนาญ การซ่อมย่อมช้าบ้าง ผิดพลาดบ้าง แต่ในเมื่อเราพอมีความรู้ความเข้าใจอยู่บ้าง เราก็สามารถเข้าใจถึงข้อผิดพลาดหรือความรู้ใหม่ๆได้ดีขึ้น

พอฝึกฝนไปบ่อยๆ ช่างบางคนฟังอาการก็บอกได้เลยว่ามีปัญหาตรงไหน เช่นกันถ้าคุณวิเคราะห์งบมามากๆ คุณแค่มองผ่านๆคุณก็สามารถที่จะเจาะประเด็นที่น่าวิเคราะห์ได้ถูกต้องขึ้น

ผมคิดว่าหุ้นเป็นเพียงพาหนะในการลงทุนเท่านั้น แต่หลักการการลงทุนยังไม่เปลี่ยน ...ลองเปรียบเทียบนะครับ

เวลาคุณทำธุรกิจอะไรเคยดีๆ สมมุติว่า ขายผัดไทย ..แล้วอยู่มาวันหนึ่งมีผู้พบว่าผัดไทยเป็นสารก่อมะเร็ง คนก็เลยเลิกกินผัดไทยกัน ขายไม่ได้แม้แต่จานเดียว คุณก็ต้องขายเครื่องไม้เครื่องมือออกไป เพื่อเอาทุนไปทำธุรกิจอื่นทำต่อ... แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวคุณเปลี่ยนไปเลย แม้แต่น้อยครับ

ปัจจุบันผมลงทุนกับหุ้น เพราะผลตอบแทนดี ความเสี่ยงยอมรับได้ ..หากมีอะไรดีที่กว่า ผมก็ขายหุ้น เพื่อเปลี่ยนไปลงทุนอย่างอื่นครับ

ขอชื่นชมคุณเจ๋งด้วยความจริงใจ
1 ปีที่คุณศึกษาเรื่องการลงทุนอย่างจริงจัง
ผมคิดว่า คุ้มค่ามากครับ
ไม่ต้องกลัวว่าอายใคร (อยู่ในระดับแถวหน้าเลยละ)
อยากขอเป็นกำลังใจให้เป็น role model ของน้องๆ เพื่อนๆ ในห้องนี้
20 ปีข้างหน้า คุณเจ๋งรวยแน่นอน อาแซหวุ่นกี้ กระซิบมาว่าอย่างนั้น

เมื่อกี้นี้ ไปงานแต่งงาน หมอสมศักดิ์ เหล่าวัฒนา หมอกระดูกโรงพยาบาลกรุงเทพ ก็เลยเจอเพื่อนหมอเยอะมาก แต่มีเพื่อนซี้คนหนึ่ง บอกว่าอยากเล่นเก็งกำไรมากเลย มีเพื่อนหมออีกคนหนึ่งเดินเข้ามา บอกว่ากูเสียไปแล้ว 2 ล้านบาท มีอะไรทำไมไม่ถามกู

ก็ว่ากันไป คนเคยเจ็บ กับคนอยากลอง

ได้แต่เพียงบอกว่า เข้ามาในเว็บแล้วค่อยว่ากัน

ขอบคุณธันวาที่เป็นกำลังใจ

5 ปีมาแล้วที่ผมลงเริ่มลงทุนตั้งกะอายุ 28
จากวันที่ไม่รู้เรื่องการลงทุนอะไรเลยเมื่อ 5 ปีก่อนจนมากระทั่งเข้ามาดูพื้นฐานของบริษัทอย่างลึกถึงขั้วหัวใจจากถึงแม้จะมีความรู้ basic ด้านบัญชีที่ได้เคยเรียนมาก็ไม่เคยได้ใช้ดูหุ้นของตัวเอง เมื่อก่อนได้แต่แห่ตามๆเขาไปได้บ้างเสียบ้าง นอนไม่หลับกระสับกระส่าย

จริงๆแล้วการลงทุนเป็น Art อย่างหนึ่งทีเดียวครับ หลังจากที่ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการเล่นมาเมื่อ 3 ปีก่อนมาเป็นการลลงทุนระยะยาวไม่หวังผลตอบแทนเล็กน้อยๆ ระหว่างทาง + dividend yiled oriented ในช่วงผลตอบแทนจากตลาด money market ระดับต่ำ+ firm value oriented ในช่วงเศรษฐกิจผลิกฟื้นอย่างเร็ว ปัจจุบันหุ้นตกลงมา 1 อาทิตย์ 25 จุดยังเฉยๆ จาก port 5 แสนบาทมาเป็น port 30 ล้านบาทเพราะความเชื่อมั่นในบริษัทแท้ๆ อีก 10 ปี port ผมต้องมีอย่างน้อย 200 ล้านบาท นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง

ยินดีกับคุณ Fitch ด้วยครับ 5 แสน เป็น 30 ล้านบาท

คุณ Fitch ยังอายุน้อยอยู่เลยนะครับ 33 อนาคตไกลทีเดียว

อายุ 40 คงมีพอร์ท 1 พันล้านบาท

ขอเชิญคุณ FITCH ที่กระทู้ "ตระแกรงหุ้น" ของผมถึงคุณธันวาได้ไหมครับ

ถือว่าเป็นวิทยาทานให้พี่ๆน้องๆได้รับทราบไอเดียและประสบการณ์ของตัวจริงเสียงจริงที่ทำเงินได้มากกว่าเซียนหุ้นอย่าง Buffet และ Peter Lynch ซะอีก

ผมอยากให้ความคิดดีๆอยู่ในกระทู้เดียวไม่กระจัดกระจายนะครับ เลยตอบอยู่กระทู้เดียว

ผมจะตั้งคำถามรอที่นั่นนะครับ

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ผมว่าปีนี้พี่ๆหลายคนพอใจกับการลงทุน แต่ผมไม่ค่อยพอใจเลยครับ ช่วงนี้ใช้เงินเยอะจริงๆ จะลงทุนนีก็ไม่มีเลยครับแถมต้องขายออกมาแล้วHold Cashอีกต่างหาก ยิ่งเห็นคู่แข่งเข้าตลาดยิ่งต้องวางแผนในอนาคตให้ดี ภาวะวิกฤติและภาวะโอกาสต่างกันแค่เส้นด้ายคั่นจริงๆ