เวลาไม่จ่ายปันผล ก็หยิบเอย ยกเอย มาบานเลย
หลักทรัพย์ TFI
หัวข้อข่าว แจ้งจัดประชุม, ลดทุนจดทะเบียน, ขายที่ดิน งดจ่ายเงินปันผล
วันที่/เวลา 16 มี.ค. 2549 09:32:05
15 มีนาคม 2549
เรื่อง แจ้งมติคณะกรรมการ-ลดทุนจดทะเบียนและขายที่ดินซึ่งเป็นการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ด้วยที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) (TFI) ครั้งที่ 2/2549
ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2549 มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
เพื่ออนุมัติให้บริษัทฯ ทำรายการดังต่อไปนี้
I. คณะกรรมการมีมติอนุมัตินำเงินทุนสำรองตามกฏหมาย ไปชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ
ตามที่ได้มีหนังสือเวียน ที่ สวบช 433/2548 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2548 โดยสภาวิชาชีพบัญชี
ให้ปรับปรุงรายการลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสมจำนวน 1,196,742,782 บาท
(ซึ่งดำเนินการไปแล้วตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2545 เมื่อวันที่ 4 ก5กฎาคม 2545)
ไปหักกลบกับส่วนต่ำกว่ามูลหุ้นให้หมดก่อนจึงจะนำไปล้างขาดทุนสะสมได้ ส่งผลให้บริษัทฯ
มีขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้น และส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นลดลงด้วยจำนวนที่เท่ากันคือ 1,196,742,782 บาท
ทำให้บริษัทฯ มีผลขาดทุนสะสมอยู่จำนวน 2,222,046,416 บาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548
ในขณะที่บริษัทฯ มีเงินทุนสำรองตามกฎหมาย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 อยู่ 27,000,000 บาท
จึงอนุมัติให้นำเงินสำรองตามกฎหมายดังกล่าวไปชดเชยผลขาดทุนสะสม
II. ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
ภายหลังการโอนเงินทุนสำรองตามกฎหมายไปชดเชยผลขาดทุนสะสมแล้วบริษัทฯ ยังคงมีขาดทุนสะสม ณ
สิ้นปี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 จำนวนประมาณ 2,195,046,416 บาท
และยังคงมีส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นอยู่อีกจำนวน 3,882,148,839 บาท
ดังนั้นคณะกรรมการได้มีมติให้ดำเนินการลดทุนจดทะเบียนหุ้นสามัญของบริษัทฯ
โดยการลดจำนวนหุ้นลงจาก จำนวน 6,781,542,590 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม
6,781,542,590 บาท เหลือจำนวน 710,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวม
710,000,000 บาท โดยหุ้นเดิมจำนวน 9.55146843 หุ้น : 1 หุ้นใหม่
รวมจำนวนหุ้นที่ลดลงไปทั้งสิ้นจำนวน 6,071,542,590 หุ้น รวม 6,071,542,590 บาท
เพื่อล้างส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น จำนวน 3,882,148,839 บาท และลดขาดทุนสะสมจำนวน
2,189,393,751 บาท ทำให้ขาดทุนสะสมลดลงเป็น 5,652,665 บาท
ส่งผลให้งบการเงินของบริษัทฯ แสดงส่วนของผู้ถือหุ้นชัดเจนไม่ซับซ้อน และเข้าใจง่าย
ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งขึ้น และสามารถที่จะจ่ายเงินปันผลตามข้อบังคับของบริษัทฯ (By-
Law) ได้เร็วขึ้น (เมื่อมีกำไรในอนาคต)
กรณีที่การลดสัดส่วนการถือหุ้นตามอัตราส่วนดังกล่าวทำให้มีเศษหุ้นสามัญที่เกิดจากการคำนวณให้ดำเนินก
ารดังนี้
1.
กรณีที่การลดสัดส่วนการถือหุ้นตามอัตราส่วนดังกล่าวทำให้มีเศษหุ้นสามัญที่เกิดจากการคำนวณเป็นจำนวน
น้อยกว่า 0.5 หุ้นเช่น นาย ก. มีหุ้นเดิม 100 หุ้น คำนวณตามอัตราส่วนจำนวน 9.55146843 หุ้น
: 1 หุ้นใหม่ ได้ 10.4696 จะมีหุ้นคงเหลือ 10 หุ้น/หรือ
2.
กรณีที่การลดสัดส่วนการถือหุ้นตามอัตราส่วนดังกล่าวทำให้มีเศษหุ้นสามัญที่เกิดจากการคำนวณเป็นจำนวน
มากกว่าหรือเท่ากับ 0.5 หุ้นให้ปัดขึ้นให้เป็นจำนวนเต็มหน่วยที่ใกล้ที่สุด
โดยหุ้นที่นำมาเติมเศษให้เป็นจำนวนเต็มหน่วยที่ใกล้ที่สุดนั้นจะเป็นหุ้นที่นำมาปัดลงในข้อ 1. เช่น นาย
ข. มีหุ้นเดิม 150 หุ้น คำนวณตามอัตราส่วนจำนวน 9.55146843 หุ้น : 1 หุ้นใหม่ ได้ 15.7044
จะมีหุ้นคงเหลือ 16 หุ้น/หรือ
3. ในกรณีที่มีส่วนที่ขาดหรือเกินภายหลังจากการดำเนินการตามข้อ 1 และ 2
แล้วและมีส่วนที่ขาดหรือเกินจากจำนวน 710,000,000 หุ้น ให้ขอจากหรือถือเป็นของ นายประยุทธ
มหากิจศิริ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
การปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะถูกลดทุน
และกำหนดวันพักการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทจนกว่าจะดำเนินการลดทุนแล้วเสร็จนั้น
คณะกรรมการจะมีการพิจารณาและจะแจ้งมติดังกล่าวให้ทราบต่อไป
III. พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
คณะกรรมการมีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4 เกี่ยวกับเรื่องทุนจดทะเบียน
เพื่อให้สอดคล้องการลดทุนและเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ บริษัทมหาชน จำกัดเป็นดังนี้
ข้อ4 ทุนจดทะเบียนจำนวน 710,000,000 บาท
(เจ็ดร้อยสิบล้านบาท)
แบ่งออกเป็น
710,000,000 หุ้น (เจ็ดร้อยสิบล้านหุ้น)
มูลค่าหุ้นละ
1 บาท (หนึ่งบาท)
โดยแยกออกเป็น
หุ้นสามัญ
710,000,000 หุ้น (เจ็ดร้อยสิบล้านหุ้น)
หุ้นบุริมสิทธิ -
หุ้น ( - )
IV.ขายที่ดินสุวินทวงศ์ให้กับ บริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด
ซึงเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันมีรายละเอียดดังนี้:
1. วัน เดือน ปี ที่เกิด รายการ
บริษัท ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) จะดำเนินการขายที่ดินสุวิทวงศ์ ให้กับ บริษัท เลควูด แลนด์
จำกัด ภายหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีมติอนุมัติการขายที่ดิน
ซึ่งคาดว่ารายการจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2ของปี 2549
2. คู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง
ผู้ขาย : บริษัท ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน)
ผู้ซื้อ : บริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด
ความสัมพันธ์กับบริษัท : มีกรรมการและผู้ถือหุ้นร่วมกัน รายละเอียดตามข้อ 7
3. ลักษณะของสินทรัพย์ที่จำหน่ายและขนาดของรายการ
ประเภทของรายการ : บริษัทฯ จะขายที่ดิน ให้กับบริษัท เลควูด แลนด์
จำกัดซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน
รายละเอียดของสินทรัพย์ที่ขายไป : ที่ดินที่มิได้ใช้ดำเนินงานในเชิงพาณิชย์
ตั้งอยู่ติดถนนสุวินทวงศ์ ( ทางหลวงหมายเลข 304 ) บริเวณกิโลเมตรที่ 30 +300 ระวาง 5136
I 1222 ตำบลศาลาแดง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 5 โฉนด เนื้อที่รวม 88-
2-20 ไร่ หรือ 35,420 ตารางวา ดังนี้:
1. โฉนดเลขที่ 1127 เลขที่ดิน 10 หน้าสำรวจ 278 เนื้อที่ 27 ไร่ 86 ตารางวา
2. โฉนดเลขที่ 5124 เลขที่ดิน 13 หน้าสำรวจ 752 เนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 81
ตารางวา
3. โฉนดเลขที่ 5125 เลขที่ดิน 12 หน้าสำรวจ 753 เนื้อที่ 23 ไร่ 2 งาน 94
ตารางวา
4. โฉนดเลขที่ 5126 เลขที่ดิน 11 หน้าสำรวจ 754 เนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน 98
ตารางวา
5. โฉนดเลขที่ 31086 เลขที่ดิน 285 หน้าสำรวจ 2385 เนื้อที่ 9 ไร่ 61 ตารางวา
(แบ่งแยกจากโฉนดเลขที่ 5125)
เมื่อปี 2533 บริษัทฯ ซื้อที่ดินทั้งหมดจาก นายวิเชียร อินต๊ะวิน ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก
และจากบริษัท รัชดาชัย ซึ่งได้ปิดกิจการไปแล้ว ในราคา 216,855,354 บาท
มาเพื่อจะสร้างโรงงานแห่งใหม่
แต่เมื่อเปรียบเทียบสิทธิประโยนช์ทางด้านการส่งเสริมการลงทุนระหว่างการสร้างโรงงานบนที่ดินที่สุวิน
ทวงศ์ กับการสร้างโรงงานที่สวนอุตสาหกรรมบริษัท ระยอง
อินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด ทางระยองจะได้สิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการลงทุนมากกว่า
ประกอบกับสวนอุตสาหกรรมบริษัท ระยองอินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด อยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง
โดยบริษัทฯ มีการส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ ประมาณ 70-80 %
ของจำนวนสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายทั้งหมด
ซึ่งจะสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าวัตถุดิบและการส่งสินค้าออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ
ด้วย จึงตัดสินใจสร้างโรงงานบนพื้นที่ 90 ไร่ 77 ตารางวา สวนอุตสาหกรรมบริษัท
ระยองอินดัสเตรียลปาร์ค จำกัด แทนในปี 2535
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2537 ที่ดินที่สุวินทวงศ์
ทั้งหมดจดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้ไว้ ในวงเงิน 266 ล้านบาท
กับบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ณ วันที่ 15
มีนาคม 2549 บริษัทฯ มีภาระหนี้กับธนาคารเป็นจำนวน 6 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้เมื่อวันที่ 1
ธันวาคม 2547 บริษัทได้ให้บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด
เช่าที่ดินบางส่วนโดยแบ่งให่เช่าในส่วนหลังของที่ดิน ซึ่งมีอายุสัญญา 3 ปี มูลค่ารวม 6.6 ล้านบาท
ซึ่งการขายที่ดินให้กับ บริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด เป็นเงิน 140,000,000 บาทนั้น บริษัท เลควูด
แลนด์ จำกัด ยินยอมให้บริษัทฯ ใช้ที่ดินตามสัญญานี้เป็นหลักประกันในการค้ำประกันเงินกู้ต่อไป
จนกว่าบริษัทฯ สามารถชำระหนี้และปลดจำนองหลักประกันได้
แต่มีระยะเวลาปลอดจำนองที่ดินที่จะซื้อจะขายไม่เกิน 3
ปีนับจากวันโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสมบูรณ์แล้วและยินยอมรับภาระผูกพันตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าซึ่งได้ทำไว้
กับ บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด ตามอายุสัญญาเช่าที่เหลืออยู่จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน
2550
เมื่อคำนวณขนาดของรายการตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง
การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546
โดยหากพิจารณาขนาดของรายการดังกล่าวจากงบการเงินของบริษัท สิ้นสุด ณ 31 ธันวาคม 2548
มีขนาดรายการคิดเป็น10.63 % ของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ ซึ่งมีขนาดรายการมากกว่า 20
ล้านบาท หรือร้อยละ 3 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิตามที่ประกาศกำหนด
โดยบริษัทจะต้องขอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าว
และจะต้องได้รับคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4
ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นหรือผู้รับมอบฉันทะที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
โดยไม่นับผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสียในการทำรายการ
4. มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนและเงื่อนไขการชำระเงิน
มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน : 140,000,000 บาท
เงื่อนไขการชำระเงิน : ชำระเป็นเช็คบริษัทจำนวน 10,000,000 บาท
ในวันทำสัญญา ส่วนที่เหลืออีก 130,000,000 บาท ชำระเป็นเช็คบริษัท
ในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
5. เกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดราคาซื้อขายที่ดิน
ราคาซื้อขายที่ดินจำนวน
140,000,000 บาท
ราคาตามบัญชี
141,680,000 บาท
ราคาประเมินโดย บริษัท กรุงเทพประเมินราคา จำกัด เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2548
141,680,000 บาท
ราคาทุน 216,855,354 บาท
เป็นการกำหนดโดยราคาตามบัญชีและราคาประเมินและการเจรจาตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
6. ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัท
เนื่องจากที่ดินดังกล่าวเป็นสินทรัพย์ที่มิได้ใช้ดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ของบริษัทฯ
จึงเห็นสมควรจำหน่ายเพื่อให้ได้เงินสดมา ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ซึ่งได้ขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นจาก 77,000 ตันต่อปี ในปี 2547 เป็น 107,000 ตันต่อปี ในปี 2548
ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ
มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดในการได้เงินสดมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการที่ขยายงานเพิ่มขึ้น
7. ชื่อและตำแหน่งของบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
TFI บริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด
นายประยุทธ มหากิจศิริ ประธานกรรมการและผู้อำนวยการใหญ่
ประธานกรรมการ
นางสุวิมล มหากิจศิริ รองประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ
น.ส.อุษณีย์ มหากิจศิริ -
กรรมการ
น.ส.อุษณา มหากิจศิริ -
กรรมการ
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ -
กรรมการ
นายวัลลภ คุณานุกรกุล กรรมการผู้จัดการ
กรรมการ
นายสมบัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการ
กรรมการ
สัดส่วนการถือหุ้น
TFI บริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด
กลุ่มนายประยุทธ มหากิจศิริ 70.31 %
90.00 %
นายสมบัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา 0.002 %
-
บมจ.ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ -
10.00 %
8.
ลักษณะและขอบเขตของส่วนได้เสียของบุคคลที่เกี่ยวโยงกันในการตกลงเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
บริษัทฯ ขายที่ดินที่มิได้ใช้ดำเนินงานในเชิงพาณิชย์ ตั้งอยู่ติดถนนสุวินทวงศ์ (ทางหลวงหมายเลข 304
) บริเวณกิโลเมตรที่ 30 +300 ระวาง 5136 I 1222 ตำบลศาลาแดง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว
จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 5 โฉนด เนื้อที่รวม 88-2-20 ไร่ ให้กับบริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด
ในราคา 140,000,000 บาท ซึ่งถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน
เมื่อคำนวณขนาดของรายการตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง
การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546
โดยหากพิจารณาขนาดของรายการดังกล่าวจากงบการเงินของบริษัท สิ้นสุด ณ 31 ธันวาคม 2548
มีขนาดรายการคิดเป็น10.63 % ของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ
โดยบริษัทจะต้องขอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าว
และจะต้องได้รับคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4
ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นหรือผู้รับมอบฉันทะที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
โดยไม่นับผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสียในการทำรายการ
9. ความเห็นของคณะกรรมการและกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการและกรรมการตรวจสอบมีความเห็นว่ารายการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับบริษัทฯ
เนื่องจากที่ดินดังกล่าวเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของบริษัทฯ เป็นเวลานานแล้ว
จึงเห็นสมควรจำหน่ายเพื่อให้ได้เงินสดมาใช้หมุนเวียนในกิจการและเพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย
พิจารณาเปรียบเทียบข้อดีและข้อด้อยของการทำรายการดังนี้
ข้อดีของการทำรายการ
- ช่วยให้บริษัทฯ มีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในธุรกิจของบริษัทฯ
- ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทฯ
- ช่วยลดภาระการกู้ยืมเงินเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
- ช่วยลดภาระการถือครองทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้บางส่วนให้แก่บริษัทฯ
- ช่วยให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ของบริษัทดีขึ้น
ข้อด้อยของการทำรายการ
- ค่าเสียโอกาสหากได้รับการติดต่อขอซื้อที่ดินจากบุคคลภายนอก
- บริษัทฯ สูญเสียรายได้ค่าเช่าพื้นที่ ประมาณ 2.20 ล้านบาทต่อปี
- บริษัทฯ ต้องขอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน
และมีค่าใช้จ่ายในการเข้าทำรายการเกิดขึ้น
ให้บริษัทฯ ขอมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าว
ตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง
การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546
และจะต้องได้รับคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4
ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นหรือผู้รับมอบฉันทะที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
โดยไม่นับผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสียในการทำรายการ ซึ่งบุคคลที่มีส่วนได้เสียประกอบด้วย นายประยุทธ
มหากิจศิริ นางสุวิมล มหากิจศิริ นางสาวอุษณีย์ มหากิจศิริ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ
นางสาวอุษณา มหากิจศิริ นายประสาธน์ มหากิจศิริ นายยงเกียรติ มหากิจศิริ บริษัท กาแฟผงไทย
จำกัด (บริษัท อุดมทรัพย์ อิงค์ จำกัด) บริษัท พีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด และบริษัท อีลิท ฟูด จำกัด และ
นายสมบัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา
10. มีมติแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติแต่งตั้ง SAGE CAPITAL LIMITED
เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อแสดงความเห็นต่อการทำรายการที่เกี่ยวโยงกันดังกล่าว
ต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
V. คณะกรรมการมีมติงดจัดสรรกำไร และงดจ่ายเงินปันผล เนื่องจากบริษัทฯยังมีขาดทุนสะสม ณ วันที่
31 ธันวาคม 2548
VI. คณะกรรมการมีมติแต่งตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ออกตามวาระ
กรรมการทั้งหมด 9 ท่านจะมีกรรมการต้องออกตามวาระ 3 ท่านคือ
1. นายวิชัย พลาพล
2. นางโรส นวพันธ์
3. นายสมบัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา
โดยประธานฯ เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาแต่งตั้ง นายวัฒนชัย สุวคนธ์ เป็น
กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบและ แต่งตั้งให้นายประดิษฐ ศวัสตนานนท์
ซึ่งเป็นกรรมการอิสระให้เป็นกรรมการตรวจสอบด้วยอีก 1 ท่าน คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ
คณะกรรมการตรวจสอบมี 3 ท่าน ดังนี้คือ
1. นางกิ่งเทียน บางอ้อ
เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ
2. นายประดิษฐ ศวัสตนานนท์ กรรมการตรวจสอบ
3. นายวัฒนชัย สุวคนธ์ กรรมการตรวจสอบ
VII. คณะกรรมการมีมติแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี 2549 คือ บริษัท สำนักงาน เอ เอ็ม ซี จำกัด
ประธานขอเสนอให้ที่ประชุมมอบอำนาจให้ประธานและผู้อำนวยการใหญ่เป็นผู้เจรจากับ บริษัท
สำนักงาน เอ เอ็ม ซี จำกัดและตกลงค่าตอบแทนในการตรวจสอบบัญชี
โดยให้นำเสนอผู้ถือหุ้นของบริษัทเพื่ออนุมัติต่อไป
VIII. คณะกรรมการมีมติกำหนดวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นและวันปิดสมุดทะเบียน
กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549 ในวันที่ 18 เมษายน 2549 เวลา 9.30 น.
เป็นต้นไป ณ. สโมสรเลควูดคันทรี่คลับ บางนา-ตราด กม.18 สมุทรปราการ (มีรถรับส่งจากปากทาง
เลควูดคันทรี่คลับ เข้าไปที่สโมสร รอบแรกเวลา 8.50 น. รอบสุดท้ายเวลา 9.10 น.)
โดยมีวาระการประชุมดังนี้
วาระที่ 1 พิจารณารับรองการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2548 ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2548
วาระที่ 2 พิจารณาผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปี 2548
วาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติบัญชีกำไรขาดทุนและงบดุลของบริษัทฯ
วาระที่ 4 พิจารณาอนุมัติการนำเงินทุนสำรองตามกฏหมาย ไปชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทฯ
วาระที่ 5 พิจารณาอนุมัติเรื่องการลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ
วาระที่ 6 พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 4
เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียน
วาระที่ 7 พิจารณาเรื่องขายที่ดินสุวินทวงศ์ให้กับ บริษัท เลควูด แลนด์ จำกัด
วาระที่ 8 พิจารณาเรื่องงดจัดสรรกำไรและการงดจ่ายเงินปันผล
วาระที่ 9 พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ถึงคราวออกตามวาระ
วาระที่ 10 พิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชี
วาระที่ 11 พิจารณาเรื่องอื่นๆ ถ้ามี
กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการเข้าร่วมประชุม
ในวันที่ 29 มีนาคม 2549 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไปจนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จ อนึ่งบริษัทฯ
จะจัดส่งหนังสือนัดประชุมให้ผู้ถือหุ้นในวันที่ 3 เมษายน 2549
โดยจัดส่งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 5
วันทำการก่อนส่งหนังสือนัดประชุมให้ผู้ถือหุ้น
ขอรับรองว่าข้อมูลตามสารสนเทศที่แจ้งนี้ ถูกต้องครบถ้วนทุกประการ
ขอแสดงความนับถือ
นายวัลลภ คุณานุกรกุล
กรรมการผู้จัดการ
นางแค๊ตลียา ไตรศักดิพล
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ