Thai VI

ถ้าถูกบังคับให้ถือหุ้นไว้ 30 ปีห้ามขายระหว่างทาง จะตัดสินใจซื้อตัวไหนกันครับ

บ้านปู สอผอ ปูนใหญ่

scc

scc

SCC นี่ Wall Street's darling จริงๆ เลยนะครับเนี่ย  

PTT

ตอบหลายหุ้นได้ปะครับ
เรียงตามลำดับ
SC
AOT
VNT
S&P
KTC
(...) ธนาคาร
ขอความเห็นพี่สุมาอี้ด้วยครับ

1.กลุ่มค้าปลีก
2.กลุ่มผลิตอาหาร
ฮิ

30 ปี
ดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในอีก 30 ปี

ตัด น้ำมันทิ้ง เพราะคนคงใช้ fuel cell

ที่อยู่ในข่ายคงเป็น
อุปโภค บริโภค ไม่มีวันตาย -> CP7-11
โรงแรม เพราะ ความสะดวกในการขนส่ง -> MINT (พ่วงบริโภคด้วย)
ไฟฟ้า เพราะไม่ว่าพลังงานจะมาจากอะไรก็ต้องใช้ไฟฟ้า -> EGCOMP

เทคโนโลยีอื่นคงเปลี่ยนบ่อยจนตามไม่ทัน

เอาแค่นี้แหละ

MFC
รอวันที่คนไทยลงทุนผ่าน กองทุนรวม ดีกว่าเป็นแมงเม่า
แต่ตอนนี้ซื้อไม่ลง -_-'

SOLAR

ไปเลือกตัวเด็ดๆ จากกลุ่มประกันครับ

สามสิบปีข้างหน้า เชื่อว่าคนต้องทำประกัน นู้นนี้ เยอะขึ้นแน่ๆ
ที่สำคัญกลุ่มประกันก็โตได้เรื่อยๆ ไม่หวือหวา
ไม่ตกมากหรือขึ้นมากไป เรื่อยๆมาเรียงๆ

SCC

SCC only too.

only MINT

:lol: สงสัยผมตายก่อนขาย  
คนแก่ หลายคน
คงต้องอยู่นอกกติกา

ผมขอขายและใช้เงินก่อนตาย  (แวะมาแซว)

วันก่อนได้มีโอกาสคุยกับผู้รู้ท่านหนึ่ง แกบอกว่าเวลาคนเราตีค่าบริษัทเรามักจะตีค่าจาก profitability เช่น margin, roe ฯลฯ อย่างการทำ DCF นี่เห็นได้ชัดเลย แต่ michael porter บอกว่า ที่จริงแล้วบริษัทแข็งแกร่งขนาดไหนขึ้นอยู่กับ competitiveness เป็นหลัก

บริษัทที่วันนี้งบการเงินกำไรสูงมาก อาจเกิดภาวะอุตสาหกรรมที่เอื้ออำนวย ทั้งที่ตัวบริษัทเองไม่มีความสามารถในการแข่งขันเท่าไรนัก ถ้าเราใช้ DCF เราก็อาจตีค่าของบริษัทนี้ไว้สูงมาก แต่พอวันหนึ่งภาวะอุตสาหกรรมไม่เอื้ออำนวยอีกต่อไป คราวนี้ความสามารถในการแข่งขันจะมีบทบาทขึ้นมาทันที บริษัทที่อยู่ได้อย่างยั่งยื่นเป็นเวลายาวนานมากๆ เป็นบริษัทที่หมั่นสะสมความสามารถในการแข่งขันเอาไว้เสมอ ไม่ใช่กินบุญเก่าไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาเกิดวิกฤตจะสามารถดิ้นรนเอาตัวรอดได้

ผมว่าบริษัทอย่าง BEC นี่เป็นตัวอย่างที่ดี บริษัทนี้ ROE สูงมากๆ แต่เป็นเพราะเมื่อ 20 ปีก่อน ซื้อสัมปทานโทรทัศน์มาในราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ เพราะตอนนั้นไม่มีใครมองออกว่าโทรทัศน์เป็นธุรกิจระดับหมื่นล้าน แต่ถ้าดูความสามารถในการแข่งขัน BEC จัดว่าแย่มาก เพราะจ้องทำรายการเลียนแบบช่องอื่นอย่างเดียว สักวันหนึ่งถ้าบุญเก่าหมดก็คงจะลำบาก

แต่บริษัทอย่าง SCC อยู่ในธุรกิจที่เป็น commodity กำไรจึงต่ำ แต่ถ้าดูไส้ในของบริษัทจะพบความสามารถในการแข่งขันทีเกิดจากการเลี้ยงคนเก่งสะสมไว้ในองค์กรมากๆ และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี สิ่งเหล่านี้เป็น cost ในปัจจุบัน แต่เป็น benefit ในอนาคต

เวลาที่ต้องมองยาวๆ มากๆ แบบลงทุน 30 ปี ทุกคนจะไม่มองกำไรหรือการเติบโต แต่ทุกคนจะมองความสามารถในการดิ้นรนเพื่อมิให้องค์กรต้องล้มสลายเป็นหลัก

ขอบคุณครับ คุณสุมาอี้

ผมคิดคล้ายๆ กันครับ ถ้ามองในแง่ของ survival แล้ว
DURABLE competitve advantage เป็นสิ่งสำคัญ

ปูนใหญ่ทำธุรกิจมากมาย ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเศรษฐกิจในประเทศ
ถึงขนาดมีคำกล่าววว่า "ถ้าประเทศไทยไม่เจ๊ง ปูนใหญ่ก็ไม่เจ๊ง"

ซึ่งพิสูจน์ได้จากการที่บริษัทรอดจากการลอยตัวค่าเงินบาท
ซ้ำยังกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม ทั้งๆ ที่ตอนนั้น
นักวิเคราะห์ไม่มีใครมองออกสักคน ว่าจะทำได้ไง หนี้มหาศาลขนาดนี้

ส่วน PTTEP ผมเลือกเพราะมีทรัพย์ในดิน สินในน้ำ
ที่ว่าน้ำมันจะหมดไปในอีก 20 ปี ก๊าซธรรมชาติ 50 ปี
ผมว่าเป็นตัวเลขประมาณ ของจริงน่าจะมากกว่านั้นสักเท่าสองเท่า

ที่เลือก BANPU ด้วย (พลังงานอีกแล้ว)
เพราะบ้านปูเป็นเพียงบริษัทจดทะเบียนในไทยเพียงบริษัทเดียว
ที่เป็น "บริษัทข้ามชาติ" อย่างแท้จริง มีธรรมาภิบาลที่ดีเยี่ยม
และโครงสร้างบริษัทเน้นระบบมากกว่าตัวบุคคล
เป็นบริษัทเกรดเอ แต่กองทุนไทยไม่ค่อยชอบ
เพราะสินทรัพย์ 67% อยู่ในต่างประเทศ (valuation ยาก)
และกำลังจะเพิ่มเป็น 75 - 80% ด้วยซ้ำ

ที่สำคัญ ถ่านหินจะหมดจากโลกในกว่า 200 ปีข้างหน้า

ในช่วงชีวิตของท่าน ถ้าวันหนึ่งหุ้นในดวงใจเหล่านี้ของท่านนักลงทุนเกิด undervalued อย่างหนัก ด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ อย่าลืมเข้าไปซื้อแบบหนักๆ แล้วถือไว้ตลอดกาลอย่างเดียวกับที่ Buffett ทำกับ Cola-cola นะครับ  :D

ถ้าดูจากราคา ต้อง tr ครับ
ตอนนี้ undervalue อยู่พอสมควร

BANPU
SCC
BAFS
UMS

scc  pttep tf

wacoal

ผู้หญิงแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ
แล้วก็นมโตเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย
อิอิ

คุณ nanchan wrote:

wacoal

ผู้หญิงแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ
แล้วก็นมโตเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย
อิอิ

วิเคราะห์ได้ลึกซึ้งมากครับ อิอิ  :lol:

ส่วนผมเลือก
หนมปัง      ตาม concept ของท่านปีเตอร์ ลินซ์ ที่ว่า "มันน่าเบื่อ"

พี่เทพ        ผมเห็นด้วยกับพี่ CK ครับ และทั้งโลกคงยังไม่เปลี่ยนไปใช้พลังงานอย่างอื่นที่แทนน้ำมันกับก๊าซใน 3 - 5 ปีนี้ คงจะมีแต่การพัฒนาที่ยังอ้างอิงกับพลังงานทั้ง 2 อย่างนี้ไปก่อน

พี่ช้าง (ปูนใหญ่) เพราะเชื่อในศักยภาพ 30 กว่าปีที่ผ่าน และ 30 ปีที่จะผ่านไป[/i][/quote]