หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 12:16 pm
โดย hot
เห็นกระทู้คุณลูกอีสาน  ที่เอ่ยหุ้นบริษัทหนึ่ง
ขายอาหารปลา  ลองอ่านแล้วเป็นบริษัทที่น่าสนใจเหมือนกัน  ปันผลสูงกว่า10%

ยิ่งหลายเดือนก่อนอ่านข่าวเกี่ยวแม็คโดนัล  
เลือกบริษัทแห่งหนึ่งในเวียดนาม ผลิตเนือปลา
ส่งทำแมคฟิค ไปทั่วโลก  ปริมาณ ต้องไม่ใช่น้อยน้อย
แน่นะผมว่า  น่าจะดึงทำให้คนเวียดนามหัดมา เลี้ยงปลา
กันมากขึ้น  ยิ่งเวียดนาม  มีปัญหาเรื่องไก่ฆ่าไปจำนวนมากขนาดนั้น น่าจะทำให้คนเลี้ยงขยายน่าดู

ถามความเห็นคับ

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 12:21 pm
โดย CK
ฮิ ต้องขออนุญาตด้วยเหรอ

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 12:24 pm
โดย hot
ให้เครดิต คนค้นหุ้นคับ

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 12:58 pm
โดย ลูกอิสาน
ถ้าให้เครดิต ต้องยกให้พี่นริศ ณ.เมืองเลยครับ เป็นคนค้นพบ
ผมแค่นำมาต่อยอด ทาบกิ่ง :lol:

พูดถึงหุ้น TLUXE หรือที่รักของผม
ถ้าทำให้ตามที่ผู้บริหารคุยไว้ก็ดีมากครับ (dl ข้อมูลได้จากวัน opp set.or.th)
แต่คงต้องเผื่อไว้ หากเป็นในทางกันข้าม หรือทำได้น้อยกว่านั้น
ถ้าถือยาวๆ ผมไม่แน่ใจเพราะบางปีก็มีปัจจัยต่างๆเข้ามากระทบ เช่นราคาวัตถุดิบสูงขึ้นมาก หรือภัยแล้ง (ปีนี้ดีหน่อย น้ำมาก อาหารปลาน่าจะขายดี)

แต่ระยะสั้น เท่าที่ทราบ ยังไม่มีอะไรที่ต้องวิตกครับ ปันผลน่าจะดี


โรงงานในเวียดนาม ขายอาหารกุ้งครับ ไม่ใช่อาหารปลา
ชื่อ วีว่า ฟีดดิ้ง อะไรทำนองนี้ครับ ถือหุ้น 60 % ที่เหลือเป็นกลุ่มเบทาโกร
ผมไม่แน่ใจว่าที่ mac ซื้อปลาจะเป็นปลาอะไรครับ เท่าที่เคยเจอเวียดนามจะนิยม ปลา mud fish,cat fish และปลาสลิด นะครับ

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 1:12 pm
โดย hot
เสียดายนะคับ ถ้าที่เวียดนามผลิตอาหารปลาด้วย
ละเจ๋งเลย  เพราะ ตลาดเวียดนาม สินค้าและการบริโภค
พึงอยู่ในตัวเติมโต การเข้าไปลุยตลาดเวลาแรกแรก
เหมือนทำให้เกิดแบนด์ได้ง่าย  ฮิ

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 1:28 pm
โดย hot
ผมลองดูปันผลบางปี ดูเหมือนจะปันผลมากว่า60%
ที่เป็นนโยบาย  หลัก  

อย่างปี2544 กำไรต่อหุ้น3.33 บาทต่อหุ้น
ปันผล 2ครั้งครั้งละ1.5 บาท เท่ากับ ได้3 บาท

ถ้าแบบนี้ในช่วงกำไร3ปีอยู่อัตรา คงที่แล้วปี48
ปันผลผมว่าน่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง  
ไม่เกิน25เดือนนี้คงลงมติประชุมแล้วมั่ง
ดูจากวันที่ลงมติ 3-4ปีที่ผ่านมา ไม่เกิน25/2

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 1:42 pm
โดย CK
ปัญหาของบริษัทต่างชาติ ที่ไปลงทุนในเวียดนาม
คือรบ. ไม่อยากให้เอาเงินออกครับ
อยากให้เพิ่มการลงทุนไปเรื่อยๆ

น้ำมันหล่อเลี้ยงก็ต้องมีพอควร และมีเรื่อยๆ

การคาดหวังว่าเงินลงทุนที่เวียดนาม จะได้เป็นปันผลกลับมา
ต้องทำใจเผื่อว่าจะไม่ได้ไว้สักสามส่วน
ถึงแม้บริษัทจะกำไรเยอะก็ตาม

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 2:10 pm
โดย hot
เวียดนาม นโยบายการค้าผมว่ากล้าเคียงกับจีน

อย่างจีน ให้ต่างชาติเข้าถือลงทุนที่ดินอสังหาริมทรัพย์
ได้ทุกรูปแบบ  แต่ในลักษณการเซ้ง อายุสูงสุดที่เห็น70ปี
ถ้าครบไม่ต่อ ก็กลับมาเป็นรัฐต่อ  อาคารหรือสิ่งพัฒนา
ทั้งหมด ก็กลายเป็นรัฐ  แต่การลงทุนในจีน
ผมไม่แน่ใจในเงื่อนไขอย่างไร ทำไมถึงมีคนไปลงทุน
เยอะมาก   ฮิ


บางทีสิ่งดีดีในต่างประเทศ
ก็น่าเอามาแบบอย่างนะผมว่า

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 4:27 pm
โดย ลูกอิสาน
ผมเดาว่าปันผลงวดปลายปีประมาณ 0.15-0.2 ครับ
ครึ่งปีแรกจ่ายไปแล้ว 0.1 บ.

tluxe ราคาตลาด 2.16 บ. มี 250 ล้านหุ้น วอร์อีกประมาณ 133 ล้าน เริ่มแปลงได้ปีหน้า มีอายุประมาณ 4 ปี

ผู้บริหารคาดไตรมาส 4/48 กำไร 31 ล้าน ทั้งปี 48  126 ล้าน
ปีนี้คาดกำไร 175 ล้าน

นโยบายปันผล 60%

แต่เพื่อความปลอดภัย หวังกำไรปีนี้ต่ำลงมาหน่อย แถว 140-150 ก็ดีมากแล้วครับ


ส่วนโรงงานกุ้งในเวียดนาม คงไม่มีนัยะมาก เพราะมีสัดส่วนไม่ถึง 10% ของกำไร ส่วนเรื่องกฏหมายไม่ทราบครับ แต่ผู้บริหารคงทราบดีครับก่อนลงทุน

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 08, 2006 5:21 pm
โดย hot
ถ้า
mcs ปันผล แถว.12-.15สต
tluxe ปันผล แถว .12-20สต

แบบนี้ผลตอบแทนระยะสั้น
mcs
ผม ก็แพ้ tluxe ซิคับ

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 17, 2006 10:35 am
โดย 2 dogs
อาหารกุ้งกับอาหารปลาอันไหนมี marginที่สูงกว่ากันครับ

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 17, 2006 11:20 am
โดย ลูกอิสาน
1.5 ภาวะการแข่งขัน
ตลาดอาหารกุ้ง
เกษตรกรที่เคยเลี้ยงกุ้งกุลาดำ เปลี่ยนมาเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมกัน 1-2 ปีแล้ว เนื่องจากการเลี้ยงกุ้งกุลาดำเกิดปัญหาเรื่องโรคกุ้ง กุ้งเลี้ยงไม่โต และแคระแกรน เป็นต้น ทำให้เกษตรกรเกือบร้อยละ 90 ของการเลี้ยงกุ้งทั้งหมดหันมาเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมแทนกุ้งกุลาดำและประสบความสำเร็จเพราะเลี้ยงง่ายกว่ากุ้งกุลาดำ สามารถเลี้ยงด้วยอาหารกุ้งรวมได้ราคาไม่แพงเหมือนกับอาหารกุ้งกุลาดำ กุ้งขาวโตเร็วและทนทานกับสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถลดต้นทุนการเลี้ยงได้ต่ำกว่ากุ้งกุลาดำ รวมทั้งอัตรารอดยังสูงกว่ากุ้งกุลาดำซึ่งสามารถให้ผลผลิตประมาณ 1-2 ตัน/ไร่
ศักยภาพการเติบโตของอาหารกุ้งขาวจะมาแทนที่กุ้งกุลาดำ  ในปัจจุบันเพิ่มปริมาณจาก 500,000 ตัน เป็น 700,000 ตัน มูลค่าทางตลาดเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาทโดยประมาณ  เนื่องจากอาหารกุ้งขาวมีราคาต่อกิโลที่ถูกกว่ากุ้งกุลาดำ  แนวโน้มการแข่งขันในตลาดอาหารกุ้งยังคงรุนแรงและจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากแต่ละบริษัทมีกำลังการผลิตเหลือมากกว่าความต้องการของตลาด นอกจากนี้การเลี้ยงกุ้งกุลาดำซึ่งเป็นจุดเด่นและเป็นตัวทำรายได้กำลังจะหายไปเพราะสายพันธุ์กุ้งและปัญหาการเพาะเลี้ยงที่ไม่ประสบผลสำเร็จ  เกษตรกรจึงหันมาเลี้ยงกุ้งขาวทดแทน   ปริมาณการเลี้ยงกุ้งขาวจึงทดแทนปริมาณการเลี้ยงกุ้งกุลาดำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตลาดอาหารปลา
ในปี 2548 ปริมาณการเลี้ยงปลามีเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะปลานิลและปลาทับทิม ซึ่งมีการเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย อีกทั้งยังมีการส่งเสริมให้มีการเลี้ยงปลาชนิดอื่นๆเป็นเชิงพาณิชย์เพิ่มมากขึ้น เช่น ปลาหมอไทย ปลากด ปัจจัยที่ส่งผลให้มีการเลี้ยงปลาเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากประชาชนหันมาสนใจบริโภคปลาเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากค่านิยมในการรักษาสุขภาพ โดยมีความเข้าใจว่าเนื้อปลาเป็นอาหารโปรตีนคุณภาพสูง อุดมไปด้วย กรดดีเอชเอ  โอเมก้า 3 บำรุงสมอง ลดกรดไขมัน ฯลฯ การบริโภคปลาภายในประเทศจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนผลผลิตปลาทั้งหมดยังคงเน้นการบริโภคภายในเป็นหลักมีการแปรรูปส่งออกบ้างเพียงเล็กน้อย  แต่มีแนวโน้มจะมีการแปรรูปส่งออกเพิ่มมากขึ้นโดยมีบริษัทไต้หวันเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานแปรรูปเนื้อปลาจำนวนหลายราย
ในด้านการแข่งขันการผลิตอาหารปลาเพื่อสนองความต้องการของผู้เพาะเลี้ยงในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นแต่ยังถือว่าไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากมีความต้องการและกำลังการผลิตที่ไม่เกินความต้องการ อย่างไรก็ตามตลาดอาหารปลานับเป็นตลาดที่ดึงดูดใจให้กับผู้ผลิตอาหารปลารายใหม่ ๆ เข้ามาสู่ตลาดเพื่อขอส่วนแบ่งทางการตลาดและเก็บเกี่ยวผลกำไร


3. ความเสี่ยงจากการแข่งขันกับผู้ค้ารายใหญ่ซึ่งเป็นผู้นำตลาด ผู้นำตลาดของสินค้าอาหารกุ้งมีส่วนแบ่งในตลาดถึงร้อยละ 50 รองลงมาเป็นบริษัทขนาดกลางในระดับเดียวกัน 4-5 บริษัท ซึ่งจะแบ่งส่วนที่เหลือไปประมาณร้อยละ 35 นอกจากนั้นก็จะเป็นบริษัทรายย่อยต่างๆ เนื่องจากผู้นำตลาดได้รับความเชื่อถือจากเกษตรกรสูงและมีการจำกัดยี่ห้อสินค้าที่จะมาลงเสริมในร้านค้า มีการผูกขาดระหว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งที่จะต้องใช้วัตถุดิบจึงทำให้บริษัทค่อนข้างประสบความยากลำบากในการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด ประกอบกับบริษัทจัดอยู่ในบริษัทขนาดกลางทำให้บริษัทไม่สามารถปรับราคาขายหรือราคารับซื้อวัตถุดิบได้โดยสะดวก บริษัทจึงได้มีการเสนอผลประโยชน์ตอบแทนที่สูงกว่า หรือเงื่อนไขที่ดีกว่า รวมทั้งเน้นประสิทธิภาพในการบริการเพื่อเป็นการจูงใจตัวแทนจำหน่ายทำให้บริษัทยังสามารถคงยอดขายของอาหารกุ้งได้ถึงแม้ว่าปริมาณความต้องการอาหารกุ้งยังคงน้อยกว่าปริมาณการผลิตโดยรวม

ส่วนธุรกิจอาหารปลานั้นปัจจุบันอัตราการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารปลามีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ปริมาณกำลังการผลิตอาหารปลาในอุตสาหกรรมโดยรวมยังคงมีน้อยกว่าความต้องการในตลาด จึงยังไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทในช่วงนี้ แต่ตลาดอาหารปลานับเป็นตลาดที่สร้างความสนใจให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์รายอื่นเนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีการขยายอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า การแข่งขันจะมีความเป็นไปได้ที่จะทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากมี 2 3 บริษัทใหญ่กำลังขยายกำลังการผลิตและผู้แข่งขันรายใหม่อีกจำนวนหลายรายที่จะเข้ามาในตลาด อย่างไรก็ตามบริษัทถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจอาหารปลา (จากการประมานการของฝ่ายขายบริษัท )มีฐานลูกค้ากว้างครอบคลุมทั่วประเทศ  ลูกค้ายังคงใช้สินค้าของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าสูง ซึ่งเป็นผลดีมาจากการที่บริษัทระวังในการรักษาคุณภาพสินค้าอย่างต่อเนื่อง  

จาก 56-1 ข้างต้น
ผมคาดว่าอาหารปลามีกำไรดีกว่าอาหารกุ้งครับ
อย่างน้อย 1-2 ปี จากนี้

ผมซื้อหุ้นตัวนี้แล้วขอถือ3ปีได้เปล่า ดีเปล่าคุณลูกอีสาน

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 17, 2006 11:26 am
โดย hot
อาหารปลา ถ้าเทียบตลาดอาหารกุ้ง
ผมว่าน่าจะมีขนาดที่เล็กอยู่  เพราะคนเลี้ยง
มักเลี้ยงปลาก่อนเลี้ยงกุ้ง  จนความต้องการ
กุ้งมาก  จึงทิ้งกันไปเลี้ยงกุ้งกันหมด  เพราะฉนั้น
ถ้าจะกลับมาเลี้ยงปลาอีก คงต้องไม่ต้องแข่นขันกันรุน
แรงเหมือนอาหารกุ้ง  แต่เพราะมูลค่าตลาดไม่ใหญ่
เท่ากุ้ง  ผู้ผลิตอาหารกุ้งรายใหญ่ ที่สนใจตลาดอาหาร
ปลา ก็แค่ชิมลางมากกว่า การเข้ามาลุยเต็มตัวนะผมว่า