Thai VI

ช่วยผมคิดหน่อย ....................

ตามมารอฟังครับ

pattern เริ่มคล้ายกัน
มีการทำสัญญาล่วงหน้านานๆ
เป็นไปได้ที่จะจบคล้ายๆกัน

ปีนี้สังกะสีขึ้นดันขายล่วงหน้าไปเยอะ
เกิดปีหน้าสังกะสีลงแรงสงสัยได้อยู่ยอดดอยกันหมด

แล้วยังมีเรื่องลึกลับที่พอผมรู้แล้วเลิกคิดที่จะซื้อตัวนี้ไปเลย ซึ่งนักลงทุนไม่ได้เอามาคิดด้วยซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่มันไม่ขึ้น

JIGSAW เขียน:ปีนี้สังกะสีขึ้นดันขายล่วงหน้าไปเยอะ
เกิดปีหน้าสังกะสีลงแรงสงสัยได้อยู่ยอดดอยกันหมด

แล้วยังมีเรื่องลึกลับที่พอผมรู้แล้วเลิกคิดที่จะซื้อตัวนี้ไปเลย ซึ่งนักลงทุนไม่ได้เอามาคิดด้วยซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลที่มันไม่ขึ้น

ช่วยบอกด้วยครับว่าเรื่องลึกลับที่ว่าคืออะไรครับ

หุ้นวัฏจักร ก็มีรูปแบบคล้ายกัน ตอนราคาCommodityไม่ขยับ หุ้นก็ไม่ไปไหน  ตอนราคาCommodityขึ้น หุ้นก็ขยับรับ  บางรายก็ไม่กล้าซื้อตาม เพราะคิดว่าปีหน้าก็ขาลง  พอลงจริงๆ  ราคาหุ้นขยับลงอย่างพรวดพราด ก็ไม่เก็บอีก เพราะไม่รู้จะขึ้นอีกเมื่อไร สรุปคือไม่ได้เข้าลงทุนสักที  
  มองย้อนหลัง ATC ตอนขยับจากหลักหน่วยแตะหลักสิบ หลายคนก็มีอาการแบบนี้  พอไป40 50 60 70 บางคนบ่นเสียดาย  ตอนนี้ลงมา 30 ไม่กล้าเก็บ หลายสำนัก วิเคราะห์ "เต็มมูลค่า"
  ถามว่าสังกะสีจะเหมือนเรือไหม ผมว่า Commodity เหมือนกันหมดน่ะ แต่บทละคร ของ PDI กำลังโลดแล่นอยู่ตอนไหนเท่านั้น

รอดูกำไร ไตรมาสสี่48 ดีกว่าคับ เพราะชอบมีค่าใช้จ่าย
ท้ายปีอยู่เรื่อย  กับปันผลว่าจะใจถึงแค่ไหน

ตอนจบก็คงเหมือนๆกันหมดแหละครับ

แต่อยู่ที่ว่าใครจะคาดได้ว่าจะจบเมื่อไหร่
อาจจะเป็นอีก6เดือนข้างหน้า
หรือ2-3ปี
หรือว่าเริ่มแล้ว  :?:

ต่างกันตรงค่า p/bอ่ะครับ

psl ตอนรุ่งๆ p/b ขึ้นไปถึงสิบกว่า เช่นเดียวกับ tta ตอนนี้ร่วงสุดๆเพราะเป็นขาลง p/b ก็ยัง 1.87

ssi ตอนเป็นขาขึ้น ค่า  p/b ก็ไม่น้อยหน้า สิบกว่าเท่าเช่นกัน ขนาด ssi ไม่มีเหมืองเหล็กเป็นของตัวเอง ซื้อมาถลุงแล้วขายอย่างเดียวนะเนี่ย และตอนนี้p/b ก็ 1.48

วัฏจักรผาแดงเพิ่งจะเริ่ม  ค่า p/b ของผาแดงยังอยู่ที่หนึ่งหน่อยๆ (1.26) เท่านั้นเอง.....

น่าจะเป็นเหตุผลที่มันไม่ขึ้น

บ่อยครั้งที่ mr.market ก็ปล่อยให้มีหุ้น undervalue อยู่เยอะๆและบ่อยๆ เราก็รู้กันดีไม่ใช่เหรอครับ


ที่จริงจะว่ามันไม่ขึ้นก็ไม่เชิง  ผมลองเช็คราคาย้อนหลังไป 6 ปี  ราคานี้ newhigh เลยนะเนี่ย และถ้าดูย้อนหลังหกเดือน มันก็ขึ้นมาเกือบห้าสิบเปอร์เซนต์ทีเดียวเชียว

ตอนปี47 ก็เคยขึ้นแล้วก็ร่วงตามลักษณะ cyclic stock ของมัน

[quote="Oatarm"]

พระเอกแต่งงานตามประเพณีไม่เป็นไรคับ

อย่าฉุด  ชิงสุขก่อนเสียละ

ไม่งั้น  พ่อตา  ส่องเอานะ

แล้วการ hedge ไว้ก่อนนี่มันเหมือนการหมั้นหรือเปล่าครับ  

PDI ต่างจาก PSL  TTA  SSI  ตรงที่ว่า  บริษัทไม่ได้มีปัญหาในช่วงวิกฤต

ส่วนผู้ถือหุ้นก็ไม่ได้ลดลงจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจนแถบไม่เหลือ

หนี้สินก็ไม่ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้อะไร

ถ้าเป็นแบบนี้ทุกๆตัว เวลาลงทุน cycle stock ให้ดูที่ pb จะดีไหมครับ

เช่นซื้อตอน pb ต่ำๆ (ดูอดีตว่า pb ต่ำสุดเท่าไหร่) แล้วขายตอน pb สูงๆ (ดูอดีตเช่นกัน)

ผมเพิ่งเล่นหุ้นมาไม่ถึงสองปีเต็ม คงต้องขอความเห็นจากคนอยู่มานาน

อยากให้ราคาหุ้นลงมากเลยครับ

ถ้าเป็นแบบนี้ทุกๆตัว เวลาลงทุน cycle stock ให้ดูที่ pb จะดีไหมครับ

ก็ดีเหมือนกันครับ  แต่คงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญเท่านั้น ขนาด ssi psl tta หนี้สินบานเบอะยังขึ้นเอา ๆ

ตัวที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็น  แนวโน้ม ครับ ว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงและถ้าเป็นขาขึ้นจะขึ้นอีกนานเท่าไหร่ ขึ้นไปได้แค่ไหน แล้วก็ดูว่า ณ.ราคาปัจจุบันแพงไปหรือยัง

วิธีดูแนวโน้มอาจจะต้องลงทุนเหนื่อยหน่อย  เช่นต้องดูงานวิจัยทั่วโลกเกี่ยวกับ demand supply ใช้ google เสริชหาเลยครับ  จะมีให้อ่านเป็นพันๆหมื่นๆงาน  ถ้าขี้เกียจ(เหมือนผม)ก็อาจใช้วิธีสุ่ม (แต่อย่างน้อยๆต้องร้อยงานวิจัยขึ้นไป ซึ่งพอจะเป็นตัวแทนประชากรได้)

ของสังกะสีมีงานวิจัยของออสเตรเลียเท่านั้นที่เห็นแย้งจากทั้งหมด (ซึ่งออสเตรเลียเห็นว่า peak ของราคาสังกะสีจะอยู่แถวๆปลายปี 2549) แต่ภายหลังเขาก็เปลี่ยนใจ มาเห็นด้วยกับทุกประเทศว่า มีโอกาสสูงที่ราคาจะพุ่งเรื่อยๆและไป peakที่ 2550

ตัวที่ควรระวังคือตัวเลขของเหมืองเล็กๆที่อาจจะตกสำรวจ  ซึ่งจะเป็นตัวกวนให้ตัวเลข error เหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว เช่นอยู่ดีๆมี สต็อคสังกะสีเพิ่มขึ้นมาเฉยๆแสนกว่าตันเมื่อปีที่แล้วซึ่งทำให้ราคาสังกะสีอ่อนตัวลงพอสมควร

เหมืองใหญ่ๆไม่ค่อยน่าเป็นห่วง เพราะมักจะโดนจับตาดูอยู่จากคนทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นที่นามีเบีย จีนหรือออสเตรเลีย และทุกคนมักจะเห็นกันโต้งๆ  ส่วนเหมืองใหญ่ๆที่จะเปิดใหม่ๆก็เช่นเดียวกัน มักไม่ค่อยหลุด

อ้อ....ดูแนวโน้มแล้วก็อย่าลืมดู ว่าบริษัทได้ขายล่วงหน้าที่ราคาต่ำๆด้วยหรือเปล่า  ไม่อย่างนั้นอาจเซงงงงงงงทีหลัง  อิอิ

opal wrote

อยากให้ราคาหุ้นลงมากเลยครับ

ง่า......ยังเก็บไม่ครบเหรอครับ

ท่านฉัตรชัยบอกว่า

PDI ต่างจาก PSL  TTA  SSI  ตรงที่ว่า  บริษัทไม่ได้มีปัญหาในช่วงวิกฤต

ส่วนผู้ถือหุ้นก็ไม่ได้ลดลงจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจนแถบไม่เหลือ

หนี้สินก็ไม่ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้อะไร

หมายถึงว่า ที่ค่า p/b ของ psl tta ssi สามารถขึ้นไปได้เป็นสิบๆเท่าเพราะว่า bv ของพวกนี้ลดลงเยอะเนื่องจากหนี้เยอะ ใช่ไหมครับ

กรณีของผาแดง p/b ไม่น่าจะขึ้นไปได้เยอะๆเป็นสิบเท่าเหมือนเขา  ตรงนี้ผมเห็นด้วยเต็มๆครับ แต่ก็หวังว่าอย่างน้อยน่าจะขึ้นไปได้สัก 30 % ที่จะกำไรเป็นเด้งๆผมเลิกหวังแล้วครับ พ่อคุณทูนหัวเล่นขายล่วงหน้าไม่บันยะบันยังเลย

อยากให้ราคาหุ้นลงมากเลยครับ

ถ้ากำไรออกมาแบบปี47

น่าจะได้สมใจคับ

ผมขายสายไฟ กับ ก๊อกน้ำอยู่

ราคาขึ้นไม่หยุดเลยครับ ขึ้นอย่างบ้าคลั่งด้วย

ส่วนสังกะสีมุงหลังคา ราคาลงมานิดหน่อย แต่ไม่ทราบว่า
1. เป็นเหล็กแผ่นที่เคลือบสังกะสี หรือเปล่า ถ้าธาตุสังกะสีราคาลง เป็นเหตุให้ต้นทุนลดลง ราคาลด
2. หรือว่า demand ลดลง ทำให้ราคาลดลง

ข้อมูลเหล่านี้อาจพอมีประโยชน์กับ ทุกท่านที่หวังรวยจาก หุ้นเหล่านี้ครับ

ปี1991-2  PDI มีราคาอยู่แถว 70-80 บาท หลังจากนั้นราคาปรับลงมาตลอดจนอยู่แถว10-20 บาท  ราคาสังกะสีตอนนั้นเท่าไหร่   จะกลับไปราคาเดิมได้ไหมหนอยังน่าสงสัยอยู่    :B

กรณีของผาแดง p/b ไม่น่าจะขึ้นไปได้เยอะๆเป็นสิบเท่าเหมือนเขา  ตรงนี้ผมเห็นด้วยเต็มๆครับ แต่ก็หวังว่าอย่างน้อยน่าจะขึ้นไปได้สัก 30 % ที่

ครั้งก่อนหลุด19บาทไป 16บาท  แล้วขึ้นมา
19บาทใหม่ ก็เกือบ20แล้วเหมือนกัน

หรือต้องลงไป อีกรอบหนึ่ง
ถึงจะได้มากกว่า30%

ผมมองว่าเหมือนกัน

แต่จะไปวิ่งยาวๆสร้าง cash flow สุดๆเหมือนเรือคงจะไม่ได้ครับ
เพราะว่าผู้บริหารไม่กล้ารับความเสี่ยง และผมไม่แน่ใจว่าผู้บริหารจะรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นหรือเปล่าครับ

ถ้าขนาดคนนอกอย่างเรายังรู้ว่าราคาสังกะสีจะวิ่งยาว ผู้บริหารอยู่ในวงการจะไม่ทราบได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ ราคาสังกะสีจะวิ่งไปถึงเมื่อไหร่
ในมุมมองของผมตอนนี้ ปี 49 วิ่งทั้งปีแน่ๆ แต่ปี 50 ยังไม่รู้ครับ

ราคาโลหะโลกน่าจะวิ่งถึงปี2552
แล้วทรงตัว และ.......

อันนี้เดาเองฮิ


สงสัยสำนัก  ผมไม่แม่นเท่าไร

ผมคาดว่าจะเห็นราคาสังกะสี4000 ภายในปลายปี2550
แต่ปัญหา คนมักคิดว่าราคาเหนือ2พันเป็นราคาที่สุด
ถ้ายกล๊อกขายปี2550  2551  ไปแถวพันกว่า สองพันต้น
หมด  ผมว่าน่าเสียดายเพราะ  ราคาสังสี ไม่ขึ้นสูงสุด
จะมีลงเหมือนกัน  ทั้งนี้คงต้องดูราคาน้ำมันเป็นหลัก


แต่มุมมองการบริหาร  บางทีก็มองต่างจากเรา
นักลงทุน  ก็ได้คับ

กลับกันถ้าคุณเป็นผู้บริหารคุณจะทำแบบไหนกัน

ผมจะไม่ขายล่วงหน้ามากขนาดนี้ครับ
เพราะว่าหลักการบริหารที่ดีในมุมมองของผมคือการทำกำไรให้สูงสุด ในความเสี่ยงที่ควบคุมได้

ผมมองว่า ส่วนที่ขุดเองได้ อาจขายล่วงหน้าสักครึ่งหนึ่ง เพื่อกันความเสี่ยง
แต่ผมจะไม่ขายล่วงหน้า ข้ามปีแน่นอนครับ เพราะว่า

ที่สำคัญ น่าจะต้องมองเทรนด์ว่า สินค้ากำลังมีค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องเล่นตัวนิดนึง

ผมว่าหุ้นสังกะสีน่าจะระวังๆหน่อยดีกว่าครับ ลองดูตารางนี้ดูซิครับ
http://www.bot.or.th/bothomepage/databa ... /tab67.asp
เราจะเห็นว่าดัชนีการผลิตเหล็กชุบสังกะสีลดลงเรื่อยๆ แต่ดัชนีโลหะสังกะสีกับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มันส่งนัยแปลกๆนะครับ เหล็กชุบสังกะสีเป็นDemand Sideของสังกะสีมีการผลิตลดลงต่อเนื่อง แต่Supply Sideกลับวิ่งสวนทาง อย่างงี้เดี๋ยวไม่ล้นตลาดหรือ บังเอิญไม่มีข้อมูลเชิงลึกยังไงขอไอเดียด้วยครับ

การบริโภคสังกะสีในไทยไม่เติบโตเท่าไหร่

แต่ก็เข้าใจว่า demand supply ในเมืองไทยนั้นเล็กมากเมื่อเทียบกับตลาดโลก

ดังนั้นราคาสังกะสีจึงขึ้นกับ demand ในจีนกับอินเดียเป็นหลักมั้งครับ....

sunrise เขียน: ถ้าขนาดคนนอกอย่างเรายังรู้ว่าราคาสังกะสีจะวิ่งยาว ผู้บริหารอยู่ในวงการจะไม่ทราบได้อย่างไร

ผมว่านะ เมื่อไหร่ที่คนนอกรู้ .....เมื่อนั้นจบ

เมื่อไหร่ที่คนทั่วไปแย่งกันซื้อ แล้วสงสัยมั้ยครับว่าใครขาย?

Financial Engineer เขียน: ผมว่านะ เมื่อไหร่ที่คนนอกรู้ .....เมื่อนั้นจบ

เมื่อไหร่ที่คนทั่วไปแย่งกันซื้อ แล้วสงสัยมั้ยครับว่าใครขาย?

โอ มุมมองน่าสนใจมากครับ ต้องกลับไปคิดต่อ

แต่ว่าคนวงนอกอย่างเราอาจมีน้อยก็ได้นะครับ
เพราะว่าผมว่าคนที่จะศึกษาจริงๆ อาจมีน้อยยิ่งกว่าน้อยครับ
ผมเอาความคิดนี้ไปฝากเพื่อนๆว่าต้องศึกษาโครงสร้างธุรกิจมากๆ
ไม่มีใครเห็นด้วยเลยครับ