Thai VI

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้

vi  จะซื้อไหมคับ

ม่ายซื้อ ยกเว้นรู้อนาคต

แสดงว่าvi  เชื่อความจริงที่คาดได้
แต่vs เชื่อความฝัน และความหวัง

ถ้ารู้ว่ามันขึ้นขนาดนี้ก็คงซื้อ

แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครรู้นี่สิครับ

เลยซื้อในหุ้นที่เรารู้ดีกว่าครับ

มันต่อเนื่องจากข่าวของ Shin แหละครับ
หลอกขาย shin ให้ singtel
แล้วเอาเงินมาเตรียมแต่งตัว iec เข้าประมูล 3G
เพราะ iec เหมาะ เนื่องจากมีประวัติดำเนินงานด้านการสื่อสารมากก่อน
และ ขาดทุนมาหลายปี ราคามันช่างถูกเหลือเกิน
แต่เมื่อเทียบกับ profile ที่ว่ามีประสบการณ์ด้านสื่อสาร แล้วมูลค่ามี เพราะสามารถนำบริษัทเข้าไปแข่งประมูล 3G ได้

ลึกเนอะ
แต่ข่าว อย่างไรก็เป็นข่าว เพราะไม่ทราบว่าซื้อทันหรือเปล่าเพราะราคามันไป 7 เท่าแล้ว หรือมีคนช่วยซื้อไว้แล้ว

IEC ยังเป็นบริษัทในกลุ่มผู้จัดการหรือเปล่าครับ

3G
มีมูลค่ามากหรือคับ  ถึงจะมีคนสนใจเข้าประมูลกัน

สงสัยนะคับ

ดูข้อมูลการเงิน (ที่มา : ตลท.) แล้ว ต้องบอกว่าสุดยอดหุ้นข้ามปีจริงๆ

ขาดทุนต่อเนื่อง 4 ปี (ตั้งแต่ปี 45)
P/BV ล่าสุด เกือบ 9 เท่า และแน่นอนคำนวณหา P/E ไม่ได้ (เพราะกำไรคืออะไรไม่เคยรู้จัก)
ปันผลไม่เคยจ่าย (อย่างน้อยก็ 5 ปีล่าสุด)
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา หนี้สินเพิ่มขึ้นตลอด ขณะที่ส่วนทุนลดลงตลอดเช่นกัน (ยกเว้นปีล่าสุดที่ส่วนทุนเพิ่มขึ้นเพราะมีการเพิ่มทุนนะ ไม่ใช่กำไรสะสมเพิ่ม)

ยิ่งไปกว่านั้น ยังถูกตลท.ทั้งเตือนทั้งขู่ทั้งห้ามเน็ทฯ ห้ามมาร์จิ้น

แต่!!!!! หุ้นตัวนี้ใช้เวลาไม่ถึงปี ขึ้นมากว่า 7 เท่าตัว!!!



ล่าสุดประกาศ (ที่มา : efinancethai) จะไปทำธุรกิจพลังงานและโลจิสติกส์ (จากเดิมขายมือถือไม่ใช่เหรอ? หรือว่าผมจำผิด)

===============================================
จับตา IEC ซบอกพลังงาน-โลจิสติกส์
* ระวังการลงทุนหลังหุ้นทำนิวไฮไม่หยุด

       พบสาเหตุหุ้น IEC วิ่งร้อนแรงทะลุกว่า 7 บาท หลังประกาศเพิ่มทุน และเข้าซื้อหุ้น A-HOST หวังรุกธุรกิจไอทีเต็มสูบ ทั้งยังมั่นใจปี 49 อาจจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ ล่าสุดเปิดกลยุทธ์ใหม่ เล็งเดินหน้าสู่ธุรกิจพลังงานและโลจิสติกส์ หลังเปิดทาง "นพพร เทพสิทธา" มือดีจาก SCCC ร่วมถือหุ้น ขณะที่โบรกเกอร์แนะระวังการลงทุน เมื่อราคาหุ้นวิ่งทำนิวไฮไม่หยุด!

[quote="Financial Engineer"]ดูข้อมูลการเงิน (ที่มา : ตลท.) แล้ว ต้องบอกว่าสุดยอดหุ้นข้ามปีจริงๆ

ขาดทุนต่อเนื่อง 4 ปี (ตั้งแต่ปี 45)
P/BV ล่าสุด เกือบ 9 เท่า และแน่นอนคำนวณหา P/E ไม่ได้ (เพราะกำไรคืออะไรไม่เคยรู้จัก)
ปันผลไม่เคยจ่าย (อย่างน้อยก็ 5 ปีล่าสุด)
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา หนี้สินเพิ่มขึ้นตลอด ขณะที่ส่วนทุนลดลงตลอดเช่นกัน (ยกเว้นปีล่าสุดที่ส่วนทุนเพิ่มขึ้นเพราะมีการเพิ่มทุนนะ ไม่ใช่กำไรสะสมเพิ่ม)

ยิ่งไปกว่านั้น ยังถูกตลท.ทั้งเตือนทั้งขู่ทั้งห้ามเน็ทฯ ห้ามมาร์จิ้น

แต่!!!!! หุ้นตัวนี้ใช้เวลาไม่ถึงปี ขึ้นมากว่า 7 เท่าตัว!!!

ล่าสุดประกาศ (ที่มา : efinancethai) จะไปทำธุรกิจพลังงานและโลจิสติกส์ (จากเดิมขายมือถือไม่ใช่เหรอ? หรือว่าผมจำผิด)

===============================================
จับตา IEC ซบอกพลังงาน-โลจิสติกส์
* ระวังการลงทุนหลังหุ้นทำนิวไฮไม่หยุด

มันเหมือนรูปแบบ N-PARK ในอดีตเลยคับ

และแล้วผลลัพธ์ก็โผล่ออกมาครับ
ราคาเปิดมา ได้ออกมาเต้นรำโชว์กันแน่

**********

ตลท.สั่งห้ามซื้อขายหุ้น ไออีซี หลังพบการปั่นหุ้น  

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 มกราคม 2549 18:37 น.

              ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว หรือ H หลักทรัพย์บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือไออีซี 5 วัน ระหว่างวันที่ 16-20 มกราคม 2549 หลังพบการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเข้าข่ายสร้างราคา เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เตรียมตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดก่อนส่งให้ ก.ล.ต. พิจารณาความผิด
     
      วันนี้( 15 ม.ค.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยว่า ได้สั่งขึ้นเครื่องหมาย H บริษัทไออีซี 5 วันทำการ เนื่องจากตรวจพบความผิดปกติในการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นพิจารณาได้ว่าการซื้อขายดังกล่าวอาจเข้าข่ายการสร้างราคาหลักทรัพย์ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยมีข้อเท็จจริงสรุปดังนี้คือราคาและมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ไออีซีตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม 2548 ปรับตัวเคลื่อนไหวสูงขึ้นต่อเนื่องอย่างรวดเร็วและรุนแรง ซึ่งไม่สอดคล้องกับภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวม โดยราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.29 บาท เป็น 4.88 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 278.29 และมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2548 ที่ 661.44 ล้านบาท เป็น 5,186.88 ล้านบาท ในเดือนธันวาคม 2548 เพิ่มขึ้นร้อยละ 684.18 และในช่วงต้นปี 2549 (3-13 ม.ค.) ราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงเป็น 7.4 บาท เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 51.64 โดยการซื้อขายในช่วง 9 วันทำการ มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 5,718.34 ล้านบาท
     
      นอกจากนี้ ยังพบกลุ่มบุคคลมากกว่า 30 ราย ที่มีลักษณะการซื้อขายหลักทรัพย์ไออีซีสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันเข้าซื้อขายในหลักทรัพย์ไออีซีกระจุกตัวเป็นระยะ ๆ ในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่อง โดยมีพฤติกรรมการซื้อขายในลักษณะผลักดันราคาหลักทรัพย์ให้เพิ่มขึ้นและจับคู่ซื้อขายกันเองของบุคคลในกลุ่ม ตลอดจนซื้อหลักทรัพย์ในช่วงใกล้ปิดตลาดเพื่อทำให้ราคาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลายครั้ง ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ตลท.ได้ใช้มาตรการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ลงทุนทั่วไปและภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมอย่างต่อเนื่อง โดยห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ในหลักทรัพย์ไออีซีถึง 3 ครั้ง คือ ระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน 2548 จำนวน 15 วันทำการ ระหว่างวันที่ 10 พฤศจิกายน - 23 ธันวาคม 2548 จำนวน 30 วันทำการ และระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2548 ถึงวันที่ 21 มีนาคม 2549 จำนวน 60 วันทำการ อย่างไรก็ตาม ตลท.ได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้บริษัทหลักทรัพย์กำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ไออีซีของกลุ่มบุคคล จำนวน 6 ครั้ง แต่ลักษณะการซื้อขายหลักทรัพย์ไออีซีของผู้ลงทุนที่มีลักษณะการซื้อขายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันยังคงเป็นไปลักษณะเดิม
     
      นายกิตติรัตน์ กล่าวอีกว่า จากกรณีดังกล่าวมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการซื้อขายหลักทรัพย์ไออีซี ซึ่งทำให้การซื้อขายหลักทรัพย์ไม่อาจทำได้โดยปกติ และเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ไออีซี ตลท.โดยอาศัยอำนาจตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ เกี่ยวกับการห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว ข้อ 5(7) และข้อ 6 จึงสั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ไออีซีชั่วคราว เป็นเวลา 5 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 16-20 มกราคม 2549 เพื่อเร่งตรวจสอบและประมวลผลการตรวจสอบการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวในเชิงลึกและรวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนเพื่อดำเนินการขั้นต่อไปตามกรณีการซื้อขายเข้าข่ายในลักษณะสร้างราคาหลักทรัพย์อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่ง ตลท.จะปฏิบัติงานโดยเร็วในการส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป