Thai VI

รบกวนถามครับ การเลือกกองทุน ควรพิจารณาอะไรบ้างครับ ว่ากองทุนไหนดีกว่ากองทุนไหน และเกณฑ์ที่ใช้พิจารณา LTF มีอะไรบ้างครับ  
และอยากทราบว่า ผมสามารถดูเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ค่าธรรมเนียมการขาย การจัดการ  ผู้ดูแลผลประโยชน์  นายทะเบียน เปรียบเทียบ LTF ต่างได้จากที่ไหนครับ หรือ ค่าเฉล่ยของค่าธรรมเนียม เหล่านี้อยู่ที่เท่าไหร่ครับ  ขอบคุณครับ

ลองไปดูที่ www.thaimutualfund.com นะครับ

เสริม

http://www.finansa-asset.com/th_fund_search.asp

ที่นี่ก็ให้ข้อมูลได้ดีครับ

ผมซื้อของ scbam ไว้ เท่าที่นั่ง
เปรียบเทียบ ผลงานกับ set นะ

ผมว่าส่วนใหญ่จะแพ้ตลาด

จะชนะตลลาดก็เมื่อวันนั้น set -

ไม่ทราบว่าเพราะส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ปันผลดี

nav เลยไม่ค่อยไปมั้ง

ผมก็เคยซื้อ LTF ของ SCBAM ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนใหม่ๆ ตอนนี้ NAV เพิ่มขึ้นกว่า 10-15% ใน 1ปี บวกกับได้ยกเว้นภาษีอีก10%(ปีแรกที่ซื้อ หากคำนวนถึงวันที่สามารถไถ่ถอนได้ คือราวๆ 3ปี ซื้อปลายปี 2547 ไถ่ถอนได้ มค.2551 ก็คือได้ผลตอบแทนจากการลดภาษี ราวๆ 3.3% ต่อปี) สรุปคือผมได้ผลตอบแทนราวๆ 18.3%จากการลงทุนในกองทุน LTF ของ SCBAM ในปีที่ผ่านมา วึ่งผมพอใจมาก  แต่ปีที่ผ่านมาลองซื้อของ TMBAMดูบ้างก็ดีครับ ผมชอบบริการมากกว่า Performance ก็ดีกว่าครับ ส่วน LTF ที่performance ดีที่สุดตอนนี้คือของ Aberdine ครับแต่น่าเสียดายจังหวัดผมอยู่ไม่มีตัวแทนขาย ส่วนที่แย่สุดก็ของบัวหลวงครับ ติดลบเลย  แล้วปีนี้ก็มีข่าวผู้บริหารย้ายค่ายหลายคนนะครับ คุณวิวรรณ ธาราหิรัณโชติ(เดิมอยู่ บลจ.วรรณ) มาอยู่กสิกรแทนคุณดัยนา ส่วนคุณเรืองวิทย์ของ AJFก็ประกาศลาออกแล้ว คงต้องติดตามกันต่อไป ใครมีเสริมเพิ่มเติมได้นะครับ

เพิ่มเติมนิดนะครับ ผมได้อ่านนิตยสาร Money and wealth ฉบับที่ 29 กันยายน 2548 คอลัมน์ Mutual funds ranking โดยคุณ ธีระ ภู่ตระกูล เรื่อง "ที่สุดแห่งสายพันธ์ ของกองทุน RMF และ LTF " เขาจะเปรียบเทียบกองทุนโดยอ้างอิงรายงานของ Lipper เรียกว่า "Lipper rating" เขาแนะนำให้เข้าหาข้อมูลได้ที่ www.lipperweb.com ลองดูนะครับ  ท่านผู้ร ... คุณยิ่ง :o

ทำ link เป้นแล้วครับ http://www.lipperweb.com/

ที่ดู performance อย่างที่คุณ Drchatri post ไว้อันนั้นดีมากเลยครับ ผมก็ไว้ใช้สำหรับเปรียบเทียบ performance เหมือนกัน ส่วนเรื่องที่ถามว่าทำไม LTF ของ SCB ตลาดขาขึ้นแพ้ตลาด ตลาดขาลงชนะ อันนั้นเค้าคง design ไว้ครับ เพราะเค้าไม่ได้ลงแบบ fully คือมีเงินสดไว้ส่วนหนึ่งซึ่งอาจจะลงในตราสารหนี้ จะทำให้ความเสี่ยงในการลงทุนลดลง แต่โอกาสที่จะได้กำไรก็จะลดลงด้วย เท่าที่ทราบเค้ามีแบบ 90-10 และ 70-30 ครับ (ลงในหุ้น-ลงในตราสารหนี้)