หน้า 1 จากทั้งหมด 1

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 26, 2005 9:11 pm
โดย คนขายของ
ผมนึกว่าเข้ามาในองค์การสหประชาชาติ ซะอีก

คนเยอะมากๆครับ หลากชาติหลายภาษา คนเยอะทุกแผนกที่ผมเดินผ่าน

ขนาดวันจันทร์นะครับ พอๆกับ เซ็นทรัลชิดลมวันอาทิตย์เลยทึ่งจริงๆ

คุยกับพนักงานว่า สงสัยคุณ ชัย คงสบายแล้วนะครับ เห็นสาม สี่ปีก่อนยังแย่อยู่ พนักงานบอกประมาณว่า คุณชัย คงสบายแล้วค่ะแต่ พนักงานเหนื่อยน่าดู

ย้อนกลับมาดูหุ้น BH บ้าง เห็น P/BV แล้วแปลกใจครับ ทำไมตลาดถึงให้หุ้นตัวนี้ที่เกือบ 9 เท่า ไม่ทราบท่าน สุมาอี้ หรือ เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านอื่น พอทราบเหตุผลไหมครับ

จะว่า Brand ดี ก็งงอยู่เพราะขนาด Coke (KO) นี่ พี่ DOW แกให้แค่ 6 เท่า NIKE (NKE) ให้กันที่ 3.7 เท่า ตลาดไทยให้ OISHI ประมาณ 3 เท่า LH ก็ 3 เท่า ขนาด BGH ก็ 3 เท่าเหมือนกัน

ไม่ทราบว่าเพราะการคาดการกระแสเงินสดในอนาคตหรือเปล่า หรือเหตุผลประการใดแน่ครับ หรือว่าไม่มีเหตุผลหรอกครับ อารมณ์ล้วนๆ

ขอบคุณครับ

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 12:56 am
โดย CK
เดาเอานะครับ

เป็นเพราะนักลงทุนชาวตะวันออกกลาง ผันเงินจากการลงทุนใน US
ไปประเทศอื่นๆ หลายประเทศ ซึ่งก็มีไทยติดปลายแถวไปด้วย

ซึ่งนักลงทุนในตะวันออกกลาง รู้จักบริษัทเดียวในประเทศไทยครับ
คือ Bumrungrad Hospital ที่เขาใช้บริการกันอยู่

เป็น branding ระดับโลกไปแล้วครับ

สำหรับนักลงทุนชาวตะวันออกกลาง yield 2% ก็เยอะมากแล้วครับ

ส่วนคุณชัยสบายหรือไม่ ผมไม่รู้ครับ

แต่จำได้ว่า แกเป็นคนเซ็นกู้เงินที่ 25 บาท และ fix ค่าเงินหนีตายที่ 50 กว่าๆ

perfect record ครับ จะมีสักกี่คนเชียว ที่สามารถ fix ได้ที่เกือบ all-time high

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 7:25 am
โดย สุมาอี้
ช่วงนี้มีคนถามบ่อยเรื่อง Valuation ของ BH ซึ่งตอนนี้ผมไม่กล้าฟันธงจริงๆ ว่ามันควรอยู่ที่เท่าไร เพราะไม่ได้ตามข้อมูลที่เกี่ยวกับการไปลงทุนในต่างประเทศจึงประเมินไม่ออกและผมยังไม่มีความคิดที่จะขายหุ้นตัวนี้ คิดว่าหลังจากได้ไปประชุมผู้ถือหุ้นคราวหน้าจะเอา Valuation ที่เคยทำไว้มาปัดฝุ่นใหม่

ถ้าจะถามว่าหุ้นตัวนี้ Bubble หรือเปล่า ถ้าจะ Bubble คงไม่ใช่เป็นเพราะรายย่อยหรือนักลงทุนสถาบันในประเทศแน่ๆ เพราะตอนนี้ถ้าถามคน 100 คน มีไม่ถึง 5 คนที่บอกว่าราคานี้น่าซื้อ ส่วนใหญ่ทำหน้าแหย่ๆ แล้วบอกว่าตัวโน้นตัวนี้ดีกว่าทั้งนั้น ดังนั้นน่าจะสบายใจได้ แต่ถ้าจะเป็นเพราะนักลงทุนต่างประเทศ อย่างที่คุณ CK บอกก็อาจเป็นได้ครับ (คุณ CK นี่ทายอะไรเล่นๆ มักจะแม่นเป็นประจำเลย น่ากลัวจริงๆ - -' )

บริษัทนี้โดนเด่นทั้ง ROE, FCF, Growth, ความสามารถในการทำกำไร, ความสามารถในการแข่งขัน, การจัดการแบบมืออาชีพ, การอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีอนาคตไกล ฯลฯ ชอบมากถึงมากที่สุดครับ ถ้าไม่ติดว่าคนไทยเกลียดการเอากำไรมากๆ ผมว่าบริษัทนี้แหละที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่แท้จริงในเวทีโลก

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 8:22 am
โดย hot
ผมกลับมองอีกมุมหนึ่ง  การที่ ร.พ เอกชน
สามารถทำกำไรได้สูงขึ้น น่าจะเป็นตัวบอกอย่างหนึ่งว่า

ร.พ.รัฐ ไม่เพียงพอกับ กับประชาชนชั้นกลางมากขึ้น
ผมไม่แน่ใจว่าปีหนึ่งเรามีงบประมาณในการพัฒนา
เท่าไรในด้านสาธารณะสุข แต่วันหนึ่ง  คนป่วยใน
ประเทศเราอาจเกิดปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน
เกิดขึ้นซึ่ง ตอนนี้อาจยังไม่ไช่ปัญหาใหญ่  จึงยัง
คงมีเวลาที่จะแก้ไข

bh  bgh  ไม่ไช่ร.พ.  เอกชน ที่กำไรกันแค่นี้

ยังมี  ร.พ. เอกชนนอกตลาดที่ทำกำไรได้ดีกว่า
เพียงแต่เราไม่มีข้อมูลมาเปรียบให้เห็น  

ทำให้ความข้อเลือกในการลงทุนแคบในตลาดความ
เป็นจริง
อีกทั้ง  ร.พ.เอกชนที่กำไรที่ว่า  ก็ไม่คิดจะเอาหุ้น
เข้าตลาด  เลยกลายเป็นว่า  มีเพียงเห็นหุ้นดีดี
สายธุระกิจนี้เพียงปลายนิ้ว  หรือเปล่า

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 8:42 am
โดย CK
เรื่องโรงพยาบาลรัฐโดยทั่วไปไม่อาจให้บริการได้ทั่วถึง
ก็เคยได้ยินมาบ้างครับ

แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ (หมอในรพ.รัฐในกรุงเทพฯ)
บอกว่า โรงพยาบาลที่เข้าโครงการ 30 บาท
กำลังติดตัวแดงกันอย่างหนัก
พวก suppliers โดน hold ค่าเวชภัณฑ์กันถ้วนหน้า
เพราะเงินที่รัฐส่งเข้ามาบำรุงไม่เคยพอตามที่สัญญาไว้

ส่วนแหล่งข่าววงใน (ขอสงวนนาม) ได้บอกผมไว้ว่า
ให้รีบเข้าไปซื้อหุ้นรพ.ไว้นะ พวกเขาเริ่มเข้าไปซื้อ
big lot หุ้นรพ.ไว้แล้ว ถ้า 30 บาทออกเมื่อไหร่
หุ้นรพ.เอกชนจะขึ้นกระฉูดแน่ๆ (แต่ไม่ยอมบอกเหตุผล)

ตอนนั้นคือกลางปี 2544 ครับ BH ยังไม่กลับเข้าเทรดเลย

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 8:49 am
โดย hot
BH ราคาปัจจุบัน เป็นราคาที่พุ่งเสร็จแล้วหรือยังคับ
จากปี2544 ถึง2548 ใช้เวลา4 ปี
จากราคาวันที่เข้าตลาดวันแรกจนถึงปัจจุบัน

ทำไมหลายคนบ่นว่าแพง ทำไมหลายคนยังซื้อราคาตลาดอยู่ หรือแค่เทรดรายวัน  หรือคนซื้อแค่ต้องการ
ได้ชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งความเป็นเจ้าของ

ที่อื่นมักมีส่วนลดจากการใช้บัตรเครดิตหลายประเภท
แต่นี่  ดูเหมือน  จะไม่ได้ลดเท่าไร แต่ไม่เคยมีใครเคย
บ่นให้ผมได้ยินว่าแพงเพียงแต่บ่นเรื่องค่าคลอดลูกที่
เพิ่มขึ้น
สำหรับที่อื่น  ขนาดได้ส่วนลดแล้วยังบ่น ว่าแพง
แปลกจังคนเรา

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 9:09 am
โดย สุมาอี้
ถ้าอยากให้รพ.รัฐฯ ดีขึ้นมี 2 วิธีครับ

1. สั่งปิดรพ.เอกชนให้หมด
2. รพ.รัฐฯ พยายามปรับปรุงการจัดการเพื่อให้สามารถแข่งขันกับเอกชนได้

คนส่วนใหญ่สนับสนุนวิธีแรกมากกว่า แต่ผมว่าวิธีที่ 2 ทำให้เกิดการพัฒนาครับ

ในนี้หมอเยอะนะครับ น่าจะให้ความเห็นได้ดีกว่าผม

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 9:53 am
โดย jaychou
ทำไมไม่ privatize รพ.รัฐ แล้วเอา รพ.รัฐ เข้าตลาดหลักทรัพย์ล่ะครับ (พูดอย่างงี้จะโดนด่ามั้ยเนี่ย) :lovl:

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 9:58 am
โดย jaychou
เห็นเรื่องนี้เป็นข้ออ้างของการ privatize รัฐวิสาหกิจต่างๆนะ
ไม่รู้ว่าสำหรับโรงพยาบาลจะเป็นอย่างไร

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 10:01 am
โดย hot
ถ้าเอาร.พ.ศิริราช  เข้าตลาดได้

จะเป็นไงคับ

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 10:21 am
โดย chatchai
CK เขียน: ส่วนคุณชัยสบายหรือไม่ ผมไม่รู้ครับ

แต่จำได้ว่า แกเป็นคนเซ็นกู้เงินที่ 25 บาท และ fix ค่าเงินหนีตายที่ 50 กว่าๆ

perfect record ครับ จะมีสักกี่คนเชียว ที่สามารถ fix ได้ที่เกือบ all-time high
มีอีกคนที่รู้ครับ  โรงพยาบาลเหมือนกันเลย  อยู่ในตลาดเหมือนกัน  แต่ตอนนี้ยังไม่ออกจาก ICU เลยครับ

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 10:22 am
โดย สุมาอี้
ผมคิดว่ารพ.เอกชนที่จะมี Value จริงๆ ต้องเป็นรพ.ที่มีลูกค้าต่างประเทศมากเท่านั้นครับ ซึ่งที่มีศักยภาพในการรับลูกค้าต่างประเทศจริงๆ มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น

ประเทศไทยดูเหมือนจะมีไฮโซมาก แต่จริงๆ แล้วกำลังซื้อโดยรวมต่ำมากครับ โรงพยาบาลที่หรูจริงๆ อยู่ได้แต่เฉพาะกรุงเทพชั้นในเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงการไปเปิดรพ.เอกชนในต่างจังหวัด แค่ไปเปิดโรงพยาบาลหรูๆ แถวฝั่งธนก็มีสิทธิ์เจ๊งได้แล้ว รพ.เอกชนหวังพึ่งลูกค้าในประเทศไม่พอหรอกครับ รพ.เอกชนอื่นที่ไม่มีลูกค้าต่างประเทศผมไม่สนใจเลยครับ รพ.พวกนี้ถ้าเศรษฐกิจในประเทศทรุดแย่แน่

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 10:36 am
โดย CK
ถ้าเกิด outbreak ของ avian flu กลายพันธุ์
ราคาหุ้น BH จะไปเท่าไหร่กันน๊า

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 11:01 am
โดย hot
ประเทศไทยดูเหมือนจะมีไฮโซมาก แต่จริงๆ แล้วกำลังซื้อโดยรวมต่ำมากครับ
อันนี้ผมว่าเรื่องจริง

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 1:17 pm
โดย chansaiw
เดี๋ยวนี้ รพ.ที่รับ 30บาท ก็ตัวแดงเกือบทั้งนั้นน่ะครับ โดยเฉพาะพวกรพ.เล็กๆที่ส่งต่อคนไข้ต้องตามไปจ่ายเงินให้ รพ.ใหญ่ รพ.ใหญ่เวลาส่งตรวจเค้าก็ฟัดซะไม่เหลือ
รพ.เอกชนคนไข้น่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าจำนวนคนไข้รพ.รัฐเยอะจนคนไม่อยากรอ
ผมเคยถามคนไข้นะ ขนาดไม่มีตังยังไม่ไปรพ.รัฐเลย ยอมเสียตัง เพราะคิดว่าเงินค่ารักษาแบบบ opd case คงไม่เท่าไหร่ ดีกว่ารอใช้ 30บาท บางทีต้องมาเถียงกับหมออีก หมอว่าไม่จำเป็น แต่คนไข้กลัวอะอยากตรวจ ก็เลยต้องใช้เอกชน ผมว่าสถานการณ์ด้าน สาสุขจะแย่ลงเรื่อยๆ แล้วยิ่งมีคนไข้ฟ้องรพ.รัฐบ่อยๆแล้วได้เงิน คนยิ่งเข้าใจผิดว่ารัฐรักษาไม่ดี ไปเอกชนดีกว่า

ท่านที่ไม่ได้อยู่ในวงการอาจไม่เข้าใจน่ะครับว่าการตรวจ investigate ทั้งหลายนั้นหมอจะส่งตรวจต่อเมื่อสงสัยโรค ถึงส่ง ถ้าหมอส่งตามที่คนไข้ต้องการซะหมดรับรอง 30บาทเดี้ยงไปนานแล้ว
แล้วก็มันจะพาลไปถึง บ.ประกันด้วยยกตัวอย่าง คนไข้อุบัติเหตุจราจรก็จะเบิกจาก บ.ประกันภัยน่ะครับ แล้วถ้าคนไข้ทุกคนบอกว่ากลัวเลือดออกในสมองทุกคนอยาก ct scan ณ ตรงนี้ก็จะทำให้บ .ประกันภัยเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น

เป็นไงครับถ้าส่งตรวจแบบไม่ต้องคิด ส่งแบบตามใจ สุดท้ายคนที่เสียประโชน์เองก็คนไข้ครับ ต้องจ่ายเบี้ยแพงขึ้น ต้องจ่ายค่ารักษามากขึ้น
แต่เอกชนจะได้ประโยชน์มากขึ้น ยกเว้นบางที่ที่รับโครงการประกันสังคมน่ะครับ เท่าที่ทราบว่าไม่ค่อยได้กำไรจากประกันสังคม แต่ทำให้คนไข้ดูมากขึ้นแล้วดึงให้คนกล้าเข่ามาใช้บริการมากขึ้น

ผม comment ในมุมมองของหมอนะ
ใครเห็นมุมขึ้น ช่วย comment ด้วย

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 1:28 pm
โดย jaychou
จำได้ว่าคุณหมอขุนอิน ประจำอยู่ BH ไม่เห็นแวะมาเว็บนี้สักพักใหญ่แล้ว
สงสัยนับกำไร BH เพลิน :B

ถ้าเอาร.พ.ศิริราช เข้าตลาดได้ จะเป็นไงคับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 1:42 pm
โดย spider_nevi
ผมว่าลำบากอยู่นะครับ ร.พ. รัฐ เหมือนเป็นโรงพยาบาลคนจนครับ จากการที่ผมทำงานทั้ง ร.พ. รัฐ และเอกชน concept ไม่เหมือนกันครับ เป็นเอกชน เป็นธุรกิจ ก็ต้อง take profit แต่ในทางการแพทย์ชีวิตต้องมาก่อน ซึ่งมันสวนทางกันครับ คนไข้ ร.พ.เอกชน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีประกันชีวิต ครับ ผมคิดว่ากว่า 80% รวมทั้ง รพ ที่ชาวต่างชาตินิยมด้วย เพราะฝรั่งมักทำประกันแบบ world wide เชื่อไหมครับบางทีแค่มาทำแผล รพ คิดค่าทำแผลเป็นหลักพัน (เปิกประกัน) ขณะที่ รพ รัฐ เป็นบัตรทอง 30 บาทซึ่งเก็บจากรัฐ ได้บ้างไม่ได้บ้าง อุบัติเหตุจราจร ไป รพ เอกชน เบิก พรบ หมด 15000 บาทก็ส่งมารักษา รพ รัฐ ต่ออย่างนี้เป็นต้นครับ เห็นอย่างนี้คงคิดว่า รพ รัฐ เจ๊งแน่แต่ยังดี รพ บางแห่งจะมีมูลนิธิ เช่น ศิริราชมูลนิธิ ช่วย suppot รพ ไว้ แต่นี่เป็น รพ ส่วนน้อยครับ

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 8:41 pm
โดย chansaiw
คุณ spider nevi อยู่รพ.ไหนครับ อยากรู้จัก
ว่างๆ mกัน [email protected]
ท่านขุนอินอยู่ BH เหรอครับว้าว

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 27, 2005 11:08 pm
โดย เพื่อน
ผมว่าผู้บริหารBH เป็นคนเก่ง ฉลาด และเร็ว
เคยได้คุยกับคุณหมอที่นั่น เมื่อคราวโรคซาร์เพิ่งเริ่มต้น(ช่วงข่าวยังไม่ถึงขั้นpanic)  ที่นี่เค้าจัดประชุมด่วนหาทางรับมือในกรณีเกิดการระบาดทันที โดยเฉพาะเรื่องของสถานที่และการแบ่งเขตคนใข้โรคติดต่อ  

ผมกำลังมองว่าตึก service apartment ที่เค้าสร้างขึ้นมาเป็นเรื่องที่ฉลาดมากๆ นอกจากใช้เป็นที่พักญาติๆคนใข้ที่มาจากต่างประเทศแล้ว ยังสามารถดัดแปลงมาใช้เป็นส่วนห้องพักคนใข้พิเศษได้ทันทีในกรณีเกิดโรคระบาดขึ้นมาจริงๆ  ในขณะที่ช่วงปรกติสามารถเก็บค่าที่พักแพงๆได้อีกต่างหาก

เสียดายจังที่ซื้อหุ้นไว้แค่เพื่อศึกษานิดเดียวจริงๆตอน18บาท....  :roll:

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 28, 2005 5:39 am
โดย สุมาอี้
CK เขียน:ถ้าเกิด outbreak ของ avian flu กลายพันธุ์
ราคาหุ้น BH จะไปเท่าไหร่กันน๊า
อันนี้ถ้าท่านทายถูกอีก จะมีคนตายถึง 20 ล้านคนทั่วโลก :shock:

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 28, 2005 6:23 am
โดย jaychou
ถ้าเกิดหวัดนกในต่างประเทศ

รัฐบาลไทยจะยอมให้ผู้ป่วยต่างชาติ

เข้ามารักษาใน BH หรือเปล่าคับ

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 28, 2005 7:39 am
โดย hot
บางทีเรามองในแง่ดีของธุระกิจมากเกินไป
ก็เหมือนกับคนที่รักกันเริ่มแรกก็ได้นะคับ

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 28, 2005 1:11 pm
โดย Simply
ในส่วนของรัฐ เป้าหมายคือการให้บริการขั้นพื้นฐาน เหมือนไฟฟ้าประปาทั้งหลาย แต่ในส่วนของเอกชน คือการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งก็เป็นพื้นฐานของธุรกิจทั่วๆไป ตราบใดที่ความต้องการของลูกค้ายังไม่ได้รับการตอบสนองจนรู้สึกพอใจ ลูกค้าก็ย่อมตระเวณหาการตอบสนองที่พอใจได้มากที่สุดในขอบเขตของทรัพยากรของแต่ละคน...ดังนั้นลูกค้าได้มีการแบ่งเพื่อสร้างธุรกิจตอบสนองไว้แต่แรกแล้ว SEGMENTATIONมีแต่แรกแล้ว ดังนั้นการเปรียบเทียบกัน อาจช่วยมองภาพของพฤติกรรมส่วนรวมมากกว่า...
...สำหรับการมองว่าโรงพยาบาลมีผลประกอบการที่ดีนั้น ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า นโยบายมีการดึงลูกค้ากลุ่มต่างชาติเข้ามามากขึ้น แพทย์ไทยฝีมือดีเยอะ และค่าบริการอย่างค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด ไม่ว่าหัวใจหรืออย่างที่เริ่มฮิตกันอย่างปลูกถ่ายอวัยวะนั้น เมื่อเทียบกับประเทศทางอเมริกา ยุโรป แล้ว ผมจำตัวเลขไม่ได้ว่า บ้านเราถูกกว่ากี่เท่า แต่ไม่น่าจะน้อยกว่า 3-4 เท่า ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีลูกค้าชาวต่างชาติเลือกมารักษาที่บ้านเรา นอกจากนี้แบรนด์และความเชื่อถือของบริการทางการแพทย์ของบ้านเราในสายตาชาวต่างชาติ ก็อยู่ในระดับดีด้วย ผมเชื่อว่าที่โรงพยาบาลไปได้ดีนั้นเป็นผลงานของกลุ่มผู้บริหารแบบเต็มครับ ที่เข้าใจวัฎจักรธุรกิจสุขภาพ สามารถขายจุดเด่นได้ รักษาความพอใจให้ลูกค้าในระดับดีมากและบริหารจัดการต้นทุนการลงทุนได้อย่างมีจังหวะสอดคล้องกับเศรษฐกิจ...
...อย่าเปรียบเทียบกันเลยครับ ระหว่างรัฐกับเอกชน ลูกค้าคนละกลุ่ม ลูกค้าที่เปลี่ยนหนีจากเอกชนในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ มักเป็นกลุ่มระดับกลางๆเท่านั้นครับ ส่วนลูกค้าระดับพรีเมี่ยมยังเหมือนเดิม ไม่งั้นจะมีการพยายามสร้างสถานที่ชอปปิ้งที่ปลอดภาษีให้แก่ลูกค้าระดับบนที่ชอบไปชอปปิ้งเมืองนอกหรือครับ

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 29, 2005 12:05 am
โดย little shark
เมื่อสองวันก่อนไปที่โรงพยาบาลนี่มา เห็นลูกค้าแต่ละคน ถือกระเป๋าหลุยวีตอง เดินชนกันให้เริ้มๆๆ  เมื่อจะมาเที่ยวห้างกันเลย   อันนี้ผมล้อเล่นนะ  แต่เชื่อว่า แบรนด์นี้ติดตลาดไปเสียแล้ว ในบ้านผมต้องมีเข้าที่นี้ อย่างน้อย สองครั้งต่อเดือน วันก่อนไปเจาะไทรอยด์ ค่าบริการ 1655 บาท เป็นค่าวิเคราะห์ ค่าแพทย์  500 ค่าบริการทั่วไป 100 ค่าตรวจ ไทรอยด์  1055   ละเอียดเลยผมเป็นคนเปิดเผย เกินไปมั้ยเนี้ย

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 30, 2005 11:53 pm
โดย ขุนอิน
พอดีวันนี้แวะมาอ่านกระทู้ครับ ได้เห็นกระทู้นี้เลยต้องเข้ามาทักทายหน่อย

สำหรับ bh ตามความเข้าใจของผมหุ้นในมือรายย่อยแทบไม่เหลือแล้วครับ และผมคิดว่ากองทุนไทยก็ถือไม่เยอะ หุ้นตกอยู่ในมือผู้บริหารและกลุ่มกับกองทุนต่างประเทศมากกว่า

ถามว่าทำไม เพราะมุมมองต่ออนาคตตัวนี้มีคนไทยน้อยคนที่จะกล้ามั่นใจครับ bh เริ่มลงทุนในต่างประเทศ ตอนนี้รวม 5 แห่ง แห่งที่สำคัญที่สุดคือที่ dubai ที่น่าจะเปิดบริการประมาณปี 2550-1 ซึ่งอย่างที่รู้ว่ากิจการที่ dubai นั้นมี margin ดีกว่าที่เมืองไทย และโรงพยาบาลที่สร้างก็ใหญ่โตทีเดียว มีผู้ร่วมทุนที่มั่นคง

การที่กองทุนต่างชาติให้ความสนใจ ผู้บริหารก็เก็บหุ้นก็เพราะความเชื่อมั่นตรงนี้ครับ และทำให้หวัดนกก็ไม่น่ากลัวเท่าที่คิดเพราะมีแหล่งรายได้อื่นที่ดี

ถ้าไปดูกราฟทางเทคนิคก็จะพบว่าหุ้นตัวนี้เป็นกระทิงเต็มตัวตั้งแต่เดือน 5 ปีที่แล้วครับ ผมไม่เคยดูมันเลยจนที่ราคา 15 บาทตอนปลายปีที่แล้ว เพราะตอนนั้นย้ายมาทำงานที่นี่ใหม่ ๆ ก็เลยซื้อเล่น ๆ แต่สุดท้ายพอมาสนใจมันจริงจังก็อยากซื้ออีก กว่าจะรู้ตัวก็ไปที่ 21 บาทแล้ว ก็ถือมาขายที่ 27 แถว ๆ เดือน 10 ที่ผ่านมาครับ ตอนนี้ไม่มีในพอร์ตแล้ว เพราะตอนนั้นเห็นว่าเปลี่ยนตัวเล่นโอกาสดีกว่า ก็เลยมาเก็บ tpi cpf แทน ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย

ปัจจุบันราคา bh มาอยู่แถวนี้ ผมคิดว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็น่าจะไปได้อีกไกลทีเดียว แต่คนไทยเล่นหุ้นไม่กล้ามองยาวหรอกครับ มักจะขายทำกำไรกันไปหมดแล้ว คนในที่ผมรู้จักขายกันแถว 19 บาท 21 บาทกันเยอะ

ถามว่าผมจะกลับไปหา bh อีกหรือไม่? ก็ไม่แน่ครับ เพราะผมอยู่ข้างไหนก็จะมีข้อมูลในเชิงลึกมากกว่า แค่ทำงานทุกวันก็ประมาณผลประกอบการได้ระดับนึงแล้ว ขอให้มั่นใจว่าพื้นฐานไม่เปลี่ยน และทุกอย่างเป็นไปตามแผนของผู้บริหาร

ถ้าตลาดเกิด panic โดยที่พื้นฐานไม่เปลี่ยน ผมก็อาจซื้อคืนโดยดูสัญญาณทางเทคนิคบางตัวเป็นสำคัญ

ถ้ามองภาพรวมแล้ว ตอนนี้ผมเดาไม่ได้จริง ๆ ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าจะเล่น bh ผมเล่นด้วยเทคนิคอย่างเดียวเพราะอนาคตสุดจะคาดเดาแล้วครับ ตอนนี้ผมก็ไม่เห็น research ใหม่ ๆ ของ bh ออกมาจากโบร๊กต่างชาติ ถ้าเค้าจะขายทำกำไรเมื่อไหร่นี่ผมก็ไม่รู้ ไม่กล้าเล่นยาวแล้วครับ

หุ้นกระทิงแบบนี้เล่นเทคนิคสั้น ๆ โอกาสเสี่ยงต่ำหน่อยครับ สำหรับผมโอกาสทำกำไรมาก ๆ จาก bh คงไม่มีแล้วในปีหน้า ในตลาดมีตัวอื่นที่น่าสนใจกว่าหลายตัวครับ

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 30, 2005 11:55 pm
โดย ขุนอิน
พิมพ์ผิดครับเป็น "ผมอยู่ข้างในก็มีโอกาสรู้ข้อมูลเชิงลึกได้มากกว่า"

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 31, 2005 12:15 am
โดย Boring Stock Lover
คุณหมอขุนอินครับ

แล้วจะส่งออกหมอไทยไปอยู่ที่ดูไบด้วยหรือเปล่าครับ จริงๆผมชอบ BH มากในการขยายตัวไปยังต่างประเทศ แต่ผมกังวลว่าจุดแข็งของ BH หรือโรงพยาบาลไทย อยู่ที่หมอ นางพยาบาลที่มีคุณภาพและราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบ น้ำหนักไม่ค่อยอยู่ที่การบริหารหรือระบบงานเท่าไหร่

ถ้าหากเปิดที่ต่างประเทศโดยไม่ส่งบุคคลากรไทยไปก็คงไม่สามารถมีการบริการที่"ดูแลเอาใจใส่"ได้เหมือนคนไทย ถ้าส่งไปต้นทุนของค่าคนก็ต้องราคาสูงขึ้น ปกติ expat จะมีต้นทุนสูงกว่า local people

และต่อให้มีนโยบายส่งไปก็ใช่ว่าหมอไทยอยากไป เพราะบางประเทศ เช่น ดูไบ คนไทยโดยส่วนใหญ่น่าจะไม่ชอบ เมืองสวยมากในแง่วัตถุ แต่ไม่น่าอยู่ เคยไปประมาณอาทิตย์หนึ่ง ในงานส่งออก เท่าที่ถามผู้ไปออกงานด้วยกันจากเมืองไทย หลายเสียงก็บอกว่า ไม่ชอบถ้าให้อยู่

ร้อน
อาหาร
ที่เที่ยวกลางคืน

เป็นเหตุผลหลักๆที่ได้รับมา

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 31, 2005 10:14 am
โดย ขุนอิน
ตอบคุณ boring

มีแนวคิดเช่นนั้นครับ คือโรงพยาบาลที่ดูไบจะเป็น thai architecture และเริ่มต้นจะต้องมีบุคคลากรไทยจำนวนหนึ่ง เป็น request จากผู้ร่วมทุนที่อ้างว่า research มาแล้ว middleeastians ต้องการ

ใน bh กรุงเทพเองสัดส่วนคนไข้ตะวันออกกลางนั้นสูงที่สุด และสูงที่สุดในโลก (นอกประเทศกลุ่มอาหรับ) สูงกว่าสิงคโปร์ทั้งเกาะ 10 เท่า

ถ้ามองย้อนกลับไปคนไข้ที่มาที่ bh จะเป็นพวก tertiary care, health tour,  กับ checkup เยอะ แต่กลุ่มใหญ่คือ primary, secondary care เนี่ยยังอยู่ที่นั่น เราบุกไปหาเพื่อเปิดตลาดกลุ่มนี้ก็ไม่เลวครับ

ผมเชื่อว่าผู้ร่วมทุนใหญ่ทางโน้นคงจะมีแนวทางตรงนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ผมเองก็ได้แต่เดาใจเค้าคร้บ

ถ้าเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นธุรกิจที่มีจุดขายที่ลูกค้าต้องการ ผมเองก็อยากไปแต่อาจจะจัดกลุ่มแพทย์เวียนกันไปเช่นผลัดละ 3 เดือน เพื่อไม่ให้เบื่อ

ผมก็รอดูอยู่ครับ ว่านโยบายผู้บริหารจะเป็นอย่างไร

ผมชอบผจญภัยเหมือนกัน  :D

แวะไปใช้บริการ BH มา โอ้ โฮ ...............

โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 31, 2005 11:41 am
โดย YUT
ขอไม่ให้น้ำหนักกับความคิดเห็นของหมอนะครับ เพราะผมเกิดและโตมากับโรงพยาบาล เข้าใจในเรื่อง Conflict of Interrest ของเหล่าหมอๆดี