Thai VI

ผมเป็นคนที่อยากเล่นเก็งกำไรหุ้นแต่ไร้เวลาและไม่กล้าเสี่ยง
ไร้กึ๋นและไร้ทุนเป็นผู้ประสบภัยจากการลงทุนทั้ง 'เจ็บ' ทั้ง 'ขยาด' แต่ยังไม่วายหอมกลิ่นตลาดหุ้น

ช่วงนี้ยอมรับว่าท้อมาก ศึกษาการเล่นมาหลายแนว เข้าตลาดมาตั้งแต่กลางปีตลาด หนังสืก็อ่านมาแล้วหลายเล่ม เข้าwebมาตั้งแต่ pantip ยังไม่แตกบรรดาเซียนทั้งหลายยังอยู่กันครบ ช่วงซ้อมเล่นก็กำไรตลอด แต่พอเอาจริงเล่นซะเลือดอาบเลย ตอนอ่านหนังสือก็สมน้ำหน้าแมงเม่า เราจะไม่เป็นแบบนั้นแน่ พอรู้สึกตัวอีกทีตัวเองก็อยู่ในกองไฟซะแล้ว

ตอนนี้มืดแปดด้านไม่รู้จะเริ่มต้นใหม่ยังไงดี ตอนนี้Trade ตามคนบอกเกลียดตัวเอง อยากมองหุ้นให้ออกด้วยตัวเอง แต่จะเริ่มยังไรดีครับ
วานอาจารย์ ชี้ทางด้วยครับ

เด็กหลงทาง
whatdj

ผมฟันธงเลยครับต้อง ไปอ่านinvestor guide ที่หน้าแรกสิครับแหมอุตส่าห์รวบรวมไว้ ไปอ่านนะครับ แล้วมาคุยกัน

ไม่บอกหน่อยเหรอครับว่ามีหุ้นอะไรบ้าง
ถ้าพอมีพื้นฐานก็น่าจะถือได้นะครับ แม้แต่หุ้นเน่า rehab ปีนี้ฟื้นคืนชีพก็ไม่น้อย

คุณมาถูกที่แล้วละ ก่อนอื่นก็ตามgenieแนะ อย่างที่สองอ่านกระทู้ของคุณวิบูลย์

เก่งแล้วค่อยเริ่มลุย

ขอให้ประสบความสำเร็จกับความพยายามศึกษา

มาให้กำลังใจครับ ผมว่ารอตลาดวาย ใจเย็นเย็น แล้วท่านจะได้หุ้นถูกครับ

เงิน เก็บไว้ในธนาคารก่อนก็ได้ แม้ ดอกจะถูก แต่ ถ้าได้ หุ้นถูก จะคุ้มค่ากับการรอคอยครับผม แล้วค่อยถือยาวยาว ขึ้นมากมากค่อยขายครับ

พยายามค้นหาสไตล์การลงทุนแบบของคุณให้เจอครับ

ขอให้โชคดีครับ 8)

ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ จากอาจารย์ทุกท่าน ตอนนี้ค่อยยังชั่วขึ้นเยอะ แม้จะขาดทุนต่อเนื่อง ตอนนี้ตั้งหลักปรับ port ใหม่เหลือไว้แค่TVOที่19.9 ตัวเดียวเต็มport คิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ

ปล.ผมเป็นเจ้าของกระทู้ครับ เพิ่งสมัครสมาชิกครับ

ขอเหตุผลด้วยครับ ทำไมถึงซ์อ TVO ที่ราคา 19.90

เหตุผลที่ซื้อTVOนะครับก็เพราะว่าเพื่อนแนะนำว่าพื้นฐานดีและราคาตกลงมากหลังจากปันผล เก็บไว้ซักพักราคาคงกลับมาที่เดิม อีกอย่างก็
พื้นฐานดี ก็เป็นดังว่าครับมันภายในสัปดาห์นึงมันขึ้นมา15-16%ครับจากราคาที่เราได้มา เราก็ถือแล้วมันก็ค่อยๆเตี้ยลงๆ ตอนที่กำไรมันลดลงมาเหลือ5% กะขายแล้วเข้ามารับใหม่ที่ราคาต่ำกว่าเดิมแต่ลังเลสุดท้าย
ต้องขายตอนมันขาดทุน4% (เซ็งมาก)
แต่ไม่ยอมแพ้กลับเข้ามารับใหม่ที่18บาทกว่าๆ จนวันนี้มันขึ้นไปซื้ออีกรอบทำให้ราคาเฉลี่ยเป็น19.9บาท แล้วเป็นไงล่ะครับ(วัยรุ่นเซ็ง)

สรุปแล้วเหตุผลจริงๆที่ซื้อก็เพราะแค่คิดว่ามันจะขึ้นต่อแค่นั้นเอง จริงๆแล้วเรื่องการดำเนินงานอะไรต่างก็เพิ่งรู้ทีหลัง และรู้สึกเหมือนกับว่า ตอนนี้มันเป็นราคาที่เหมาะสมแล้วคงไม่ขึ้นแล้ว แต่ก็ยังจะฝืนเล่นอีก เฮ้อ วัยรุ่นเซ็ง
ท่านคิดว่าไงกันบ้างครับ?

พอจะเป็นไปได้หรือไม่ ว่า ถ้ามีใครบอกว่าหุ้นตัวไหนพื้นฐานดี

ถามเหตุผลเขาไป ว่า คำว่าพื้นฐานดีของเขา เขาใช้เหตุผลอะไร มาวัด ว่าหุ้นตัวนั้นพื้นฐานดี

มาให้กำลังใจครับ
ที่ผ่านมาก็ถือเป็นการเรียนรู้ และประสพการณ์แล้วกัน นะครับ

ฝาก 4 คำถามของนักปราชญ์ ซึ่งอาจารย์ ผมสอนไว้ ดังนี้ครับ
1. What do you mean. ที่บอกว่า หุ้นตัวนั้นดี หรือน่าซื้อนั้น
หมายความว่า อย่างไร ซื้อได้ที่ราคาไหน และ ราคามันจะดีไปได้แค่ไหนอย่างไร etc.
2. How do you know. ที่บอกว่า หุ้นตัวนั้นดี นั้น คุณรู้ได้อย่างไร เอาอะไรเป็นเกณฑ์ หรือเหตุผล
3. Is it True. เหตุผลที่เขาบอกหรือได้ฟังมานั้น มันถูกต้องหรือไม่ เช่น ยกเอาเหตุผลหรือบทวิเคราะห์มาถูกต้องหรือเปล่า อ้างอิงมาถูกหรือเปล่า4. Can it be explain in other way. คำอธิบาย หรือปรากฏการณ์ ที่เอามาอ้างตามข้อ 3 ว่า เพราะ xxxx ก็เลย yyyy นั้น เป็นไปได้หรือไม่ ว่า อาจมีเหตุผลหรือเงื่อนไขอื่น คือ ที่จริงแล้ว เพราะ ZZZZ ทำให้เกิด yyyy ต่างหาก

4 คำถามข้างต้น หากหมั่นใช้หรือทบทวน ก็จะทำให้เราได้
เชื่อหรือพบกับข้อเท็จจริง มากกว่าการรับฟังข้อบอกกล่าวที่บางครั้งดูดี
แต่ไม่ถูกต้องครับ โชคดีนะครับ

ขอบคุณครับสำหรับข้อคิดดีดี ทีนี้ผมสงสัยอย่างนึงตรงที่ พวกพี่ๆศึกษาเรื่องการวิเคราะห์กันมาจากที่ไหน เพราะแต่ละท่านวิเคราะห์หุ้นแต่ละตัวอย่างละเอียดทั้งจากงบการเงิน EPS ROE FCF ฯลฯ รู้สึกวิธีคิดจะเป็นระบบมาก ผมศึกษาจากหนังสือและกับทางnet เนี่ยรู้สึกว่ายิ่งรู้มากกลับยิ่งสะเปะสะปะ ไม่เป็นระบบ ยิ่งอ่านยิ่งโง่ ไร้หลักในการจับหุ้นแต่ละตัว (T_T)

ผมว่าคงมีคนอย่างผมแบบนี้อีหลายคนนะครับ ผมว่าถ้าเรามีโรงเรียนหรือสถาบันอะไรซักอย่างที่จัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ มีคอร์สเรียนเป็นแบบแผน มีแบบฝึกหัดทำการบ้านจบคอร์สมาได้ประกาศนียบัตรให้ คงจะดี ซึ่งคงดีกว่าที่เป็นเพียงการจัดอบรมเป็นครั้งคราวอย่างในตอนนี้ อย่างที่หลายๆแห่งเขาจัดกัน

อย่างน้อยมันคงช่วยฝึกการลงทุนได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น พี่ๆว่ามั๊ย

ผมมี tvo ก่อน ปันผลปีนี้ สาเหตุของราคาที่ลงมาเพราะเขามีการจ่ายหุ้นปันผลนะครับ ราคาลงมาในวันแรกที่ขึ้น XD ซึ่งมันไม่ได้แปลว่าราคามันถูกลงมาเลย ถ้าคิดแบบมีหุ้นปันผลในพอร์แล้ว ผมจะมีต้นทุนแค่ประมาณ 17 บาท การที่คุณซื้อขายหรือตัดขาดทุน มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยมีแต่ความเครียดเปล่าๆ ถ้าคุณจะคิดลงทุน คุณต้องดูงบต่างๆ ให้ออก แล้วลองหามูลค่าดูว่าควรอยู่ที่เท่าไหร่ ความสามารถในการบริหารของผู้บริหาร ความสามารถในการทำกำไรของบริษัท สภาพของธุรกิจนั้นๆว่าเป็นอย่างไรสามารถเติบโตได้ในอนาคตหรือว่าตอนนี้ถึงจุดอิ่มตัวแล้วคุณต้องซื้อหุ้นที่มีอนาคตต่างหาก ส่วนราคาคุณต้องมีราคาในใจที่เหมาะสมแล้วค่อยทยอยสะสม ไม่ใช่ซื้อทีเดียวหมด เพราะตลาดหุ้นมันมีขึ้นและลงถ้ามันขึ้นไปเรื่อยๆคุณก็หาตัวใหม่ก็ได้จะได้ไม่ต้องมีต้นทุนที่แพงขึ้นและถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยง ราคาที่คุณซื้อถึงแม้จะเฉลี่ยะแล้วก็ยังแพงเพราะเท่ากับว่ามีหุ้นที่ราคา 39.8 ซึ่งแพงกว่าผมเกือบ 5 บาทต่อหุ้น คุณต้องศึกษาให้ดีก่อนซื้อ ให้กลัวขาดทุนมากกว่าขาดกำไร แล้วอีกอย่างหนึ่งการที่คุณซื้อหุ้นลงทุนต้องหนักแน่นมากกว่านี้ ไม่ปรวนแปรตามราคาตลาดเพราะเรามีเป้าหมายในอนาคตอีก 1 ปีเป็นอย่างน้อยหรือมากกว่า
ไม่ใช่คาดหวังในวันสองวันอย่างนี้เหมือนการพนันมากกว่า

ผมมี tvo ก่อน ปันผลปีนี้ สาเหตุของราคาที่ลงมาเพราะเขามีการจ่ายหุ้นปันผลนะครับ ราคาลงมาในวันแรกที่ขึ้น XD ซึ่งมันไม่ได้แปลว่าราคามันถูกลงมาเลย ถ้าคิดแบบมีหุ้นปันผลในพอร์แล้ว ผมจะมีต้นทุนแค่ประมาณ 17 บาท การที่คุณซื้อขายหรือตัดขาดทุน มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยมีแต่ความเครียดเปล่าๆ ถ้าคุณจะคิดลงทุน คุณต้องดูงบต่างๆ ให้ออก แล้วลองหามูลค่าดูว่าควรอยู่ที่เท่าไหร่ ความสามารถในการบริหารของผู้บริหาร ความสามารถในการทำกำไรของบริษัท สภาพของธุรกิจนั้นๆว่าเป็นอย่างไรสามารถเติบโตได้ในอนาคตหรือว่าตอนนี้ถึงจุดอิ่มตัวแล้วคุณต้องซื้อหุ้นที่มีอนาคตต่างหาก ส่วนราคาคุณต้องมีราคาในใจที่เหมาะสมแล้วค่อยทยอยสะสม ไม่ใช่ซื้อทีเดียวหมด เพราะตลาดหุ้นมันมีขึ้นและลงถ้ามันขึ้นไปเรื่อยๆคุณก็หาตัวใหม่ก็ได้จะได้ไม่ต้องมีต้นทุนที่แพงขึ้นและถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยง ราคาที่คุณซื้อถึงแม้จะเฉลี่ยะแล้วก็ยังแพงเพราะเท่ากับว่ามีหุ้นที่ราคา 39.8 ซึ่งแพงกว่าผมเกือบ 5 บาทต่อหุ้น คุณต้องศึกษาให้ดีก่อนซื้อ ให้กลัวขาดทุนมากกว่าขาดกำไร แล้วอีกอย่างหนึ่งการที่คุณซื้อหุ้นลงทุนต้องหนักแน่นมากกว่านี้ ไม่ปรวนแปรตามราคาตลาดเพราะเรามีเป้าหมายในอนาคตอีก 1 ปีเป็นอย่างน้อยหรือมากกว่า
ไม่ใช่คาดหวังในวันสองวันอย่างนี้เหมือนการพนันมากกว่า

อีกอย่างหนึ่งผมก็เล่นได้ไม่นานลองมาหลายแบบแล้ว ผมอยากบอกคุณว่าที่นี่ thaivalue มีแต่พี่ๆที่สามารถให้ความรู้แก่คุณได้ดีมากมีสาระเหมาะแก่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ดีทีเดียวเลย ผมก็ได้แง่คิดดีๆจากที่นี่นะครับ
ยังไง ผมก็ต้องขอบคุณพี่ๆที่นี่ที่คอยให้ความรู้แก่นักลงทุนใหม่ๆที่เข้ามาผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าถ้านักลงทุนรุ่นใหม่หันมาลงทุนตามแนวพี่ๆที่นี่แล้วคงไม่มีคำว่าขาดทุน ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่มีความรู้มากมายแต่ผมจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาแชร์บ้างแต่ตอนนี้ขอเป็นผู้ฟังที่ดีก่อน ผมไม่เคยไป MEETING กับพี่ๆที่นี่เลย ไว้โอกาสเหมาะๆผมจะไปบ้างนะครับ

ถ้าคนไทยรู้จักการลงทุนที่ถูกวิธี และเริ่มลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อย

อนาคตประเทศไทยคงจะดีกว่านี้มากๆแน่ๆ เราคงต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือนะครับ

ช่วย ดร.นิเวศน์ในการชักจูงและให้ความรู้แก่นักลงทุนหน้าใหม่ ถึงแม้ปัจจุบันยังมีนักลงทุนแนว VI น้อยกว่านักพนันเยอะ

แต่จากประสบการณ์ที่ดี สามารถบอกต่อให้นักลงทุนหน้าใหม่ศึกษาหาความรู้และเป็นนักลงทุนที่แท้จริงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าอนาคตคนไทยทุกครอบครัวมีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แบบ VI คุณลองคิดดูว่าประเทศเราจะเป็นอย่างไร

เห็นด้วยครับ ที่เราต้องช่วยกันให้นักลงทุนรุ่นใหม่ มีการพัฒนาการไปในทางที่ถูกที่ควร

ผมเองก็อิจฉา น้องๆที่อายุประมาณ 20 ต้นๆ เห็นนั่งกันอยู่กลุ่มหนึ่ง ในงาน TVI Meeting แต่ก็ไม่รู้ว่าน้องๆเขาเข้าใจที่เราบรรยายเท่าไร

จริงๆแล้ว ต้องการแค่จุดประกาย ให้เกิดความมั่นใจ ว่าลองศึกษาแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าดูซิ แล้วจะเห็นว่า ถ้าเริ่มตั้งแต่ยังเด็ก จะสามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้อย่างแน่นอน

ถ้ายังไม่มั่นใจลองดูผลงานของคุณฉัตรชัยดูซิ น้องๆ

600,000 >>> 20 ล้านบาท ในระยะเวลา ไม่ถึง 5 ปี

ผมไม่อยากให้นักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามาลงทุนเพราะเห็นนักลงทุนแนว VI ประสบความสำเร็จด้วยความรวดเร็ว

เพราะนั่นคือนิสัยการเก็งกำไรครับ ถ้าคุณตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไป เวลาที่คุณลงทุนคุณจะกระวนกระวายใจครับ

แล้วจะไม่มีความสุขในการลงทุน รวมถึงอาจจะเลือกลงทุนในบริษัทที่เสี่ยงมากขึ้นเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงในระยะเวลาอันสั้น

จริงๆแล้วผมลงทุนแต่ละครั้งผมหวังผลตอบแทนมากพอสมควร คือต้องมี Margin of Safety ที่สูง เพื่อที่จะไม่ขาดทุน

แต่ไม่ได้ตั้งเป้าในเรื่องเวลาที่ลงทุนครับ คือถือไปเรื่อยๆโดยไม่เครียด ถ้าหุ้นที่เราซื้ออยู่มันไม่ขึ้น ผมกลับสบายใจซะอีก

เพราะหุ้นที่ซื้อราคายังถูก ถ้ามีเงินจะได้ซื้อเพิ่ม และเราก็ไม่ต้องสนใจราคามากนักเพราะราคายังต่ำกว่าราคาที่เราคำนวณไว้เยอะ

ผมสามารถลงทุนในหุ้นชื่อแปลกๆประเภทสั่งซื้อแล้ว Marketing ไม่รู้จัก พิมพ์ชื่อไม่ถูกนะครับ ตอนซื้อหาบทวิเคราะห์ก็ไม่มี

บางทีเก็บได้วัน 500 หุ้น วันละ 1000 หุ้น ผมก็เก็บคนเดียวไปเรื่อย บางวันมีผมซื้อหุ้นตัวนั้นอยู่คนเดียว

บางคนบอกว่าผมบ้าซื้อหุ้นพวกนี้เป็นแสนๆหุ้น แล้วตอนขายจะขายยังไงหมด

ผมเคยซื้อ MANRIN LANNA OGC THIP GYT TIW CM BAT3K SE-ED SAUCE

ซึ่งถ้าผมต้องการกำไรในเวลาอันรวดเร็วผมก็ไม่กล้าที่จะซื้อหุ้นพวกนี้หรอกครับ

แต่ผมก็พิสูจน์ได้พอสมควรนะครับ ที่ว่าราคาหุ้นจะสะท้อนฐานะและผลการดำเนินงานที่ดีของบริษัท ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

แล้วคุณก็จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่คุ้มค่าครับ คิดถึงผลตอบแทนทบต้นซิครับ

กำไรปีละ 20% -25% โดยไม่ขาดทุน แค่นี้คุณก็สามารถที่จะมีอิสระภาพทางการเงินแน่นอนครับ ไม่อยากให้รีบ จะเครียดและผิดพลาดได้

เห้นด้วยอย่างยิ่งกับคุณchatchaiครับ ผมเองต้องรอเงินจากรายได้ประจำมาสะสมหุ้น ตอนนี้เลยจ๋อยเล็กๆเพราะต้องสะสมในราคาที่แพงกว่าเดิมมาก เพื่อนบอกมันจะบ้าหุ้นขึ้นไม่ชอบ นี่ผมกะเจริญรอยตามนะ ผมเชื่อในพลังของผลตอบแทนทบต้นครับ