Thai VI

ในอดีตคุณเชื่อไหม ผมเคยขายหุ้นให้กับตัวเอง

เรื่องมีอยู่ว่า หลายปีก่อนสมัยที่ผมยังเล่นเก็งกำไรตามตลาดอยู่นั้น ช่วงนั้นผมเล่น TFB-W2 อยู่ ช่วงครึ่งเช้าบรรยากาศตลาดยังสดใส ผมก็สั่งซื้อ TFB-W2 เพิ่มจากที่มีอยู่ใน Port แต่พอช่วงบ่ายซิครับ มีข่าวอะไรไม่ทราบจำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าตลาดจะไม่ดี ผมก็ตกใจรีบสั่งขาย TFB-W2 ใน Port ทิ้งครับ พอ Confirm Marketing ก็หัวเราะครับ และบอกผมว่าผมขายให้กับตัวเอง ผมงี้มึนเลยครับ ต้องรีบสั่งขายอีกรอบ ราคาก็ตกลงไปอีกแถมเสียค่า Com ตั้งสามรอบครับ

อีกครั้งหนึ่ง เกิดขึ้นแถวๆดัชนี 200-300 จุด เพิ่งขึ้นมาจากจุดต่ำสุดที่ 204 ช่วงนั้นผมลงทุนใน S-ONE-W3 เดี๋ยวเปลี่ยนชื่อแล้วครับเป็น KGI-W3 ผมซื้อที่ 0.60 บาท ล้านหุ้น ปรากฎว่าหลังจากนั้นสองเดือน หุ้นพุ่งอย่างกับจรวด วันหนึ่งผมเกิดความคิดที่จะ Short Against Port ครับ คือจะขายแพงแล้วซื้อถูกกลับเข้ามาอีกที สั่งขายไปที่ 3.60 บาททั้งล้านหุ้น พอ Confirm แล้ว ผมก็รอราคามันลงเพื่อที่จะซื้อกลับครับ ราคามันก็ลงมาจริงๆ ผมรีบโทรสั่งซื้อกลับทันทีครับ แต่ปรากฎว่า Marketing บอกว่าสั่งซื้อกลับไม่ได้ครับ เพราะอะไรหรือไม่ครับ เกินวงเงินครับ คือผมมีวงเงินเพียงแค่ล้านเดียว หุ้นผมดันขึ้นมาเป็น 3.6 ล้านบาท วงเงินมันดันไม่เพิ่มขึ้นมาด้วย ผมเลยไม่ได้ซื้อกลับ ต้องรอเพิ่มวงเงินตั้งหลายวัน ผมเลยไม่ได้ซื้อกลับอีกเลยครับ

ถ้าเล่นหุ้นผิดพลาดทางเทคนิคยังไง...ก็ขอให้"รวยๆ"ครับ

ถ้าพลาดท่าเสียทีแล้ว"จน"ลง...ก็ตัวใครตัวมันแล้วกันครับ

ผมก็เคย มาร์ก็ไม่บอกครีย์MPกันอย่างเดียว
แต่เผอิญวงเงินมากหน่อยเลยรับกับได้ครับคุณฉัตรชัย

รู้สึกหุ้นตัวนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานความยิ่งใหญ่ของคุณฉัตรชัยนะ

เพราะจำได้ว่าเคยเล่าให้ฟังว่า ลง 6 แสน กลายเป็น 3.6 ล้านบาท ใน 2 เดือน

อืม อะไรทำให้ลงเม็ดเงินทั้งหมด เพราะเคยบอกว่าลงทุนเพียง 6 แสน

อะไรทำให้ลงเงินทั้งหมดกับหุ้น เพียงตัวเดียว และเป็น W ด้วย

น่าสนใจมากครับ

ประวัติคล้ายๆ เฮียไล้ท์ ที่ซื้อ KK เลย

สมัยนั้น ผมยังทำงานอยู่ที่ธนาคาร เห็นแนวโน้มแล้วว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงอย่างต่อเนื่องและเร็วซะด้วย ลูกค้าสินเชื่อของธนาคารที่รอดมาได้ก็เริ่มตั้งหลักได้ ดัชนีก็ต่ำมากที่ 200 จุดต้นๆ ผมก็เลยคิดว่าหุ้นถ้าจะลงอีกก็ไม่น่าจะมากแล้ว เลยเลือกที่จะซื้อหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ เพราะสมัยก่อนเวลาหุ้นขึ้นคุณต้องคิดถึงบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ก่อนอื่น ผมก็เลือก S-ONE เพราะตอนนั้นกลุ่มคูส์เข้ามาเพิ่มทุนและชำระหนี้ให้หมดแล้ว งบการเงินก็เริ่มสะอาด มีการตัดหนี้สูญแล้ว การปล่อย Margin สมัยนั้นก็แทบไม่มี โอกาสที่บริษัทจะเจ๊งคงไม่มี พอดีมี Warrant ที่มี Gearing สูงพอสมควร และยังมีเวลาในการแปลงสภาพอยู่อีกประมาณ 3 ปีด้วย ผมจึงซื้อหมด Port เลยครับ ปกติผมก็จะลงทุนในหุ้นครั้งละตัวสองตัวเท่านั้นแหละครับ ถ้ามากกว่านั้นแสดงว่าผมยังไม่เจอหุ้นที่โดนใจครับ แต่ที่ผมว่าเป็นจุดเริ่มต้นของผมก็คือตั้งแต่ที่ผมขายหุ้นล้าง PORT ตอนที่ประเทศไทยเริ่มมีปัญหาการส่งออกนะครับ ก่อนลดค่าเงินบาทพอสมควร ผมจึงไม่เสียหายจากวิกฤตครั้งนี้เลย โดยผมกลับมาลงทุนจริงๆจังอีกครั้งก็ตอนดัชนีที่ 200 จุดเลยครับ

จุดที่ล้างพอร์ท ถูกจังหวะนี่ ยิ่งน่าสนใจ กว่าตอนซื้อ W อีกนะผมว่า

เพราะวอเรนก็เตรียมเงินมหาศาล ไว้ตอนที่คนอื่นไม่มีเงินเหมือนกัน

Cash is king