ฝากแฟนๆๆ ah ครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 09, 2005 10:15 am
Update/ AH ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 8 พันลบ.ส่วนปีหน้าโต 20%ทะลุหมื่นลบ.หลังยอดรถยนต์ส่ง
ออกขยายตัวเพิ่ม
บิ๊ก AH ย้ำชัดรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำ 15% อยู่ที่ 8 พันล้านบาทส่วนปีหน้าโตต่อ
อีก 20% ทะลุ 1 หมื่นล้านบาทแน่ หลังส่งออกขยายตัวยอดผลิตรถยนต์พุ่งถึง 1.4
ล้านคัน จาก 1.1 ล้านคันปีนี้พร้อมระบุมีเงินในมือเหลือเฟือพร้อมลงทุนเพิ่มเติมทันที
นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาปิโก้ ไฮเทค(AH) กล่าวถึง
ผลประกอบการปี 2548 ว่าคาดการณ์รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า15% อยู่ที่ประมาณ 8,000 กว่า
ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 7,035.37 ล้านบาท โดย 9เดือนที่ผ่านมา
ทางบริษัทฯ มีรายได้แล้ว 6,305.47 ล้านบาทหลังจากธุรกิจยานยนต์มีการขยายตัวและมีการส่ง
ออกมากขึ้นจึงมั่นใจว่าสิ้นปีรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
'ช่วง 9 เดือน เรามีรายได้แล้ว 6,300 กว่าล้านบาท ซึ่งเหลือไตรมาส4/48 ที่คาดว่าจะดีกว่า
ไตรมาส 3/48 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2.18 พันล้านบาทแน่นอน หลังจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และ
ส่งออกขยายตัวจึงทำให้มั่นใจว่าทั้งปีจะทำรายได้ 8,000 กว่าล้านบาทแน่' นายเย็บกล่าว
สำหรับผลประกอบการปี 2549 คาดการณ์รายได้เติบโต 20% หรือมากกว่า10,000 ล้าน
บาท หลังจากประเมินว่ายอดการผลิตรถยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็น1.3-1.4 ล้านคัน จาก1.1 1.2 ล้าน
คันในปีนี้ขณะเดียวกันยังได้ประโยชน์จากการส่งออกรถยนต์ที่ขยายตัวและมีลูกค้าใหม่เพิ่มมาก
ขึ้นรวมถึงโรงงานแห่งใหม่ที่จ.พระนครศรีอยุธยาและจีนจะทำให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นซึ่งถือเป็นตัว
ผลักดันรายได้ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยปัจจุบันบริษัทฯมีค่ายโตโยต้า และค่ายอีซูซุเป็นลูกค้าหลักโดยจากการที่ได้ค่ายนิ
สสันเป็นลูกค้ารายใหม่เพิ่มเข้ามาคาดว่าจะลูกค้ารายใหม่ดังกล่าวจะสร้างรายได้ให้บริษัทฯในปี
หน้าถึง 250 300 ล้านบาท โดยในส่วนของโรงงานแห่งใหม่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยาขณะนี้
ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเตรียมเริ่มผลิตได้ในช่วงต้นปี2549 โดยโรงงานดังกล่าวจะ
สามารถเพิ่มกำลังผลิตจาก 2.5 หมื่นชิ้นเป็น 3.2 หมื่นชิ้นต่อเดือน ซึ่งรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น
และเอื้อต่อรายได้ของบริษัทฯชัดเจน
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทฯจะพยายามรักษการอัตราเติบโตกำไรสุทธิ (Net Margin)ในปีหน้า
ให้เติบโตระดับ 10% เช่นเดียวกับปีนี้หลังจากสัญญาการลดราคาสินค้ากับทางผู้ผลิตรถยนต์
โดยเฉพาะค่ายอีซูซุหมดลงแล้วในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
เขากล่าวต่อว่า บริษัทมีแผนลงทุนเพิ่มเติมในปีหน้าในการขยายการส่งออกซึ่งอาจเป็นการ
ลงทุนในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และจีนซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาแต่ยังไม่ได้ข้อสรุปโดยจาก
การที่บริษัทฯมีกระแสเงินสดในมือ 2 พันล้านบาท และยังได้เครดิตไลน์กับทางสถาบันการเงินอีก
2 พันล้านบาททำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอต่อการลงทุน
ออกขยายตัวเพิ่ม
บิ๊ก AH ย้ำชัดรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำ 15% อยู่ที่ 8 พันล้านบาทส่วนปีหน้าโตต่อ
อีก 20% ทะลุ 1 หมื่นล้านบาทแน่ หลังส่งออกขยายตัวยอดผลิตรถยนต์พุ่งถึง 1.4
ล้านคัน จาก 1.1 ล้านคันปีนี้พร้อมระบุมีเงินในมือเหลือเฟือพร้อมลงทุนเพิ่มเติมทันที
นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาปิโก้ ไฮเทค(AH) กล่าวถึง
ผลประกอบการปี 2548 ว่าคาดการณ์รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า15% อยู่ที่ประมาณ 8,000 กว่า
ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 7,035.37 ล้านบาท โดย 9เดือนที่ผ่านมา
ทางบริษัทฯ มีรายได้แล้ว 6,305.47 ล้านบาทหลังจากธุรกิจยานยนต์มีการขยายตัวและมีการส่ง
ออกมากขึ้นจึงมั่นใจว่าสิ้นปีรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
'ช่วง 9 เดือน เรามีรายได้แล้ว 6,300 กว่าล้านบาท ซึ่งเหลือไตรมาส4/48 ที่คาดว่าจะดีกว่า
ไตรมาส 3/48 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2.18 พันล้านบาทแน่นอน หลังจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และ
ส่งออกขยายตัวจึงทำให้มั่นใจว่าทั้งปีจะทำรายได้ 8,000 กว่าล้านบาทแน่' นายเย็บกล่าว
สำหรับผลประกอบการปี 2549 คาดการณ์รายได้เติบโต 20% หรือมากกว่า10,000 ล้าน
บาท หลังจากประเมินว่ายอดการผลิตรถยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็น1.3-1.4 ล้านคัน จาก1.1 1.2 ล้าน
คันในปีนี้ขณะเดียวกันยังได้ประโยชน์จากการส่งออกรถยนต์ที่ขยายตัวและมีลูกค้าใหม่เพิ่มมาก
ขึ้นรวมถึงโรงงานแห่งใหม่ที่จ.พระนครศรีอยุธยาและจีนจะทำให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นซึ่งถือเป็นตัว
ผลักดันรายได้ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยปัจจุบันบริษัทฯมีค่ายโตโยต้า และค่ายอีซูซุเป็นลูกค้าหลักโดยจากการที่ได้ค่ายนิ
สสันเป็นลูกค้ารายใหม่เพิ่มเข้ามาคาดว่าจะลูกค้ารายใหม่ดังกล่าวจะสร้างรายได้ให้บริษัทฯในปี
หน้าถึง 250 300 ล้านบาท โดยในส่วนของโรงงานแห่งใหม่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยาขณะนี้
ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเตรียมเริ่มผลิตได้ในช่วงต้นปี2549 โดยโรงงานดังกล่าวจะ
สามารถเพิ่มกำลังผลิตจาก 2.5 หมื่นชิ้นเป็น 3.2 หมื่นชิ้นต่อเดือน ซึ่งรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น
และเอื้อต่อรายได้ของบริษัทฯชัดเจน
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทฯจะพยายามรักษการอัตราเติบโตกำไรสุทธิ (Net Margin)ในปีหน้า
ให้เติบโตระดับ 10% เช่นเดียวกับปีนี้หลังจากสัญญาการลดราคาสินค้ากับทางผู้ผลิตรถยนต์
โดยเฉพาะค่ายอีซูซุหมดลงแล้วในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
เขากล่าวต่อว่า บริษัทมีแผนลงทุนเพิ่มเติมในปีหน้าในการขยายการส่งออกซึ่งอาจเป็นการ
ลงทุนในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และจีนซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาแต่ยังไม่ได้ข้อสรุปโดยจาก
การที่บริษัทฯมีกระแสเงินสดในมือ 2 พันล้านบาท และยังได้เครดิตไลน์กับทางสถาบันการเงินอีก
2 พันล้านบาททำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอต่อการลงทุน