Thai VI

มาตรฐานทางบัญชีใหม่ มีผลต่อการลงทุนอย่างไร... รบกวนนักบัญชีด้วยครับ

การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีการบันทึกสินทรัพย์ถาวรจากปัจจุบันใช้วิธีตี
ราคาสินทรัพย์ใหม่เป็นวิธีราคาทุน ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจ
สอบ โดยจะปรับสินทรัพย์ที่ตีราคาเพิ่มออกจากงบการเงินรวม และงบการเงิน
เฉพาะประจำปี 2548 และจะ Restate งบการเงินปีก่อนที่นำมาเปรียบเทียบ
การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลเฉพาะตัวเลขที่งบดุลเท่านั้น แต่ไม่มีผลกับกำไรขาดทุน
แต่อย่างใด

เห็นบทวิเคราะห์ของ ML บอกว่า SCC bv หายไปประมาณ 72bn
แล้วตัวอื่นๆ จะเป็นอย่างไร

ถ้าหักส่วนที่ตีราคาใหม่ออกไป ผมว่าบางบริษัทอาจจะมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบนะครับ จะมีปัญหากับความมั่นคงทางการเงินหรือไม่

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีการลงทุน Fix Asset ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะบันทึกตามราคาต้นทุน (Cost Method) แทนที่จะบันทึกตามการประเมินมูลค่าใหม่ (Revalue Method)

กรณีที่ 2 : การปรับปรุงรายการโดยกระทบต่องบกำไรขาดทุน : โดยบริษัทฯจะมีการปรับลดในลักษณะค่าเสื่อมราคา (ทยอยตัดลดลงตามอายุของสินทรัพย์) ซึ่งตรงนี้อาจจะส่งผลกระทบต่องบกำไรขาดทุน(ส่วนต้นทุนปรับสูงขึ้น) ที่อาจจะรายงานกำไรลดลง และส่งผลกระทบต่อการปรับลดประมาณการกำไรลดลงในอนาคต ได้แก่ ATC (Revaluation Surplus จำนวน 1.38 หมื่นล้านบาทหรือ 74%ของ BV)

ผมไม่รู้รายละเอียดเจาะลึก

แต่ถ้ามันเป็นผลดีต่อนักลงทุน และทำให้การมอง การวิเคราะห์บริษัทถูกต้องมากขึ้น ก็น่าจะดีนะครับ

กรณีที่ 2 : การปรับปรุงรายการโดยกระทบต่องบกำไรขาดทุน : โดยบริษัทฯจะมีการปรับลดในลักษณะค่าเสื่อมราคา (ทยอยตัดลดลงตามอายุของสินทรัพย์) ซึ่งตรงนี้อาจจะส่งผลกระทบต่องบกำไรขาดทุน(ส่วนต้นทุนปรับสูงขึ้น) ที่อาจจะรายงานกำไรลดลง

เคลียร์กับ สรรพากร ได้เหรอครับ  :B

การเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชีการบันทึกสินทรัพย์ถาวรจากปัจจุบันใช้วิธีตีราคาสินทรัพย์ใหม่เป็นวิธีราคาทุน

แม้จะมีข้อดีทำให้ roe roa สูงขึ้น
แต่ข้อเสียก็มี  คือไม่สะท้อนมูลค่าตามความเป็นจริงในปัจจุบัน  ทำให้การมองมูลค่าบริษัทเบี่ยงเบนจากความจริงมากขึ้น  

ไม่เห็นจะน่าทำเลย  เขาทำไปทำไมเนี่ย..... หรือว่ามีรายละเอียดอย่างอื่นอีกครับ

ขอบคุณครับ ผมตกข่าวนะนี่
แต่งงว่าเหตุผลคืออะไร