Thai VI

ตอนนี้ผมมีปัญหาที่คิดอยู่ประมาณ 2 เดือนแล้ว (ก่อนที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นอีก) มันคือปัญญหาส่วนตัว แต่ผมคิดว่าผมยังเด็กอยู่(อายุ 23) จบปริญญาตรี ตอนนี้ได้ลงทุนใน ตลท. มาประมาณ 1 เดือน จึลอยากขอความคิดเห็นจากทุก ๆ ท่าน ดังนี้คือ ตอนนี้ผมได้ทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ผมมีปัญหาในการทำงาน เช่น มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน, ปัญหากับงาน ตอนนี้เลยคิดว่าจะไม่ทนกับปัญหานี้แล้ว ก็เลยคิดจะลาออกจากการทำงานแห่งนี้ แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีโครงการที่จะหางานใหม่ คิดว่าถ้าออกจากงานก็คงจะดูหุ้น (เล่นหุ้น)ไปก่อน หรือถ้าดีก็คงคิดว่าจะไม่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนอีกเลย กะว่าจะเป็นนักลงทุนเพียงอย่างเดียว เนื่องจากผลตอบแทนในปัจจุบันมากกว่าเงินเดือนซะอีก (ตออนี้เป็นกระทิง ไม่รู้ว่าถ้าหมีเข้าจะเป็นอย่างไร)
ก็เลยอยากจะรบกวนปรึกษาพี่ ๆ ทุกท่านว่าผมควรจะตัดสินใจอย่างไรดี อ้อใน TVI นี้มีใครที่ลงทุนใน ตลท.อย่างเดียว บ้าง ไม่ได้ทำงาน
ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้าครับ

ปัจจุบันผมไม่ได้ทำงานกินเงินเดือนเลยครับ แต่ก็ไม่ใช่อย่างน้องนะครับ การที่จะเลิกทำงานประจำแล้วเล่นหุ้นอย่างเดียวเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากครับ ผมไม่แน่ใจว่าคุณเล่นหุ้นแบบไหน ซึ่งจากคำพูดของคุณผมคาดหมายว่าคุณคงจะเล่นแบบเก็งกำไรครับ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากครับ และมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ผมไม่แนะนำใครที่จะประกอบอาชีพจากการพนันในตลาดหลักทรัพย์แน่นอนครับ แต่ถ้าคุณลงทุนแบบ VI มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีความรู้ในการลงทุนมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากว่าไม่ใช่ใครก็ตามที่คิดว่าจะลงทุนแบบ VI แล้วจะประสบความสำเร็จทุกคน ถ้าไม่เข้าใจและมีความรู้มากเพียงพอในการลงทุน อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับมูลค่าเงินลงทุนในปัจจุบันของคุณเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายด้วย

อย่างผมนั้นกว่าจะถึงจุดนี้ ผมทำงานและลงทุนมานานกว่า 10 ปีครับ ผ่านงานมาหลายที่ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีปัญหาบ้าง แต่ต้องทนครับเพื่อรอสะสมความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งมูลค่าเงินลงทุนด้วย ที่ผมเลิกทำงานนั้นเพราะผมแน่ใจว่าบริษัทที่ผมลงทุนนั้นจ่ายเงินปันผลให้ผมเพียงพอกับการใช้จ่ายแล้วครับ ไม่ต้องพึงพา Capital Gain ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่แน่นอน

คงต้องตอบคำถามว่า ถ้าออกมาแล้ว คิดว่าจะทำเงินไ้ด้มากกว่าเิงินเดือนที่ได้อยู่ 'อย่างมั่นคง' หรือไม่?
อย่ามองแค่ช่วงนี้ ถ้าตลาดหุ้นถดถอย แล้วน้องจะทำอย่างไร จะทำกำไรได้มากจริงหรือ?

ถ้าลงทุนในแนว VI ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาทั้งวันนั่งเฝ้าตลาด

ลองกลับไปนั่งคิดว่าปัญหาที่บริษัทนั่นแย่มากจริงหรืออีกครั้งหนึ่ง
ไม่มีที่ไหนไม่มีปัญหา ผมรับรองได้ คงต้องแก้ก่อนที่จะสรุป
ถ้าแย่มากจริงๆก็ลองมองหางานใหม่ อย่างน้อยเวลาหุ้นตก ก็มีกินมีใช้

ลงทุนในหุ้น น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับอนาคตอันไกลครับ
เมื่อถึงจุดหนึ่ง ผลตอบแทนของมันเลี้ยงเราได้แล้ว
ค่อยเลิกทำงาน อย่างคุณฉัตรชัย แล้วมาสอนน้องๆรุ่นใหม่ต่อไป

ถ้าแก้ไม่ได้ก็ลาออก แต่ก่อนออกต้องหางานใหม่ให้ได้ก่อน

ถ้าแก้ไม่ได้จริงๆ ลองเปลี่ยนมุมมอง โดยการอ่านวิธีชนะมิตรและจูงใจคน ของเดล คาร์เนกี้

เมื่อมีงานประจำทำ จะทำให้มีรายได้ประจำ มาจ่ายรายจ่ายประจำ

ส่วนการลงทุน เป็นไปเพื่อ อิสรภาพทางการเงิน

ถ้าจะเล่นหุ้นโดยหวังผลให้ได้กำไรทุกเดือน เพื่อให้พอเป็นค่าใช้จ่าย ไม่ค่อยเห็นด้วยครับ

น้องจะเจอศึกหลายทาง

เมื่อออกจากงาน

1. รายจ่ายมากขึ้น
2. รายรับน้อยลง
3. ขาดระเบียบวินัยให้กับตัวเอง เพราะมีเวลามากขึ้น

อายุยังน้อย โปรดไปสมัครงานก่อน ยกเว้น มีทุนมาก แนะนำให้หาเฟรนไชน์ ดีๆ เช่นอะไรก็ไม่ทราบ หาเอาเอง เช่น แบลคแคนยอน ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาขายหรือเปล่า

เปิดเฟรนไชน์ แล้วนั่งคุมกิจการ แล้วมีเวลาก็ลงทุนหุ้นไปด้วย

แต่ถ้าทุนน้อย สมัครงานใหม่ เพื่อฝึก

1. หาเงิน
2. ใช้น้อยกว่าที่หาได้
3. เหลือเงิน
4. ต่อเงิน

ok นะครับ

อายุยังน้อย ล้มลุกคลุกคลานสักหน่อย คงไม่เป็นไรนะ ตอนนี้หากเล่นหุ้นแล้วกำไร ก็สะสมเอาไว้ เงินร้อนๆ อย่าฟุ่มเฟือยนัก เผื่อออกมาจริงๆจะได้มีเงินใช้จ่ายครับ

หาโอกาสให้กับชีวิตมากๆครับ ถ้าหางานใหม่ก็ได้จะได้เจอกับปัญหาใหม่ๆ ลองดูว่าเราพอจะรับกับปัญหาแบบไหนได้สบายๆ อย่าคิดมาก มีโอกาสก็ลงมือเลย ผมว่าการเปลี่ยนงานไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทำงานที่ไม่ชอบก็เหมือนติดคุก (อันนี้บัฟเฟตว่าเอาไว้)

คุณไม่ชอบงานที่คุณทำหรือเปล่า?ลองเปลี่ยนไปทำfieldอื่นดูก็ดีนะ
คุณเบื่องานก็ลาออกมาเหอะ ทนไปก็เท่านั้น ช่วงนี้ลองเล่นไปก่อนก็ได้
กำไรเท่าไหร่ก็อย่าพึ่งมั่นใจมาก
พอถึงขาลง มันจะพิสูจน์เองว่าคุณอยู่ในสถานะพร้อมจะเล่นเลี้ยงชีพ
หรือเปล่านะคับ
ผมว่าหางานอื่นทำไปก่อนก็ได้ งานที่แบบที่อู้มานั่งเล่นหุ้นได้ก็ได้
เดินสายกลางสบายๆ เล่นหุ้นบางทีมันก็เครียด
เวลาหุ้นขึ้นแล้วไม่ได้กะเขา แต่เวลาลงดันลงกะเขา....

โชคดีคับ

เห็นด้วยกับคุณนักดูดาว...
ยังหนุ่มไฟแรง (คงมองหาคู่ใจสร้างครอบครัวในอนาคต) 8)

ใครทำงานเค้าก็มีปัญหากันทั้งนั้นแหละ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ
ยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงานอีกนาน ใจเย็นๆนะครับ

มาลงทุนช่วงนี้ก็ถือว่ามาหาประสบการณ์ช่วงตลาดกำลังฮอต แล้วกันครับ
ถ้าได้เงินติดก้นกระเป๋าก็เอาไว้จับจ่ายใช้สอยนะครับ

อ้าวห้องนี้ไหนคลั่งวอเรน นึกว่าจะส่งเสริมให้ทำแบบวอเรนซะอีก ไม่ต้องทำงานมาลงทุนในหุ้นอย่างเดียว แสดงว่าเห็นด้วยกะวอเรนแค่บางส่วนถ้าคุณคนที่จะลาออกจากงาน ก็ขอให้คุณเลียนแบบ โซรอสครับ เค้าเป็นคนที่ทำงานหนักเอาเบาสู้ อยากเป็นนักวิชาการอย่างมากแต่ การเรียน ธรรมดามากเลยต้องมาเอาดีทางด้านการลงทุน ทุกวันนี้มีเงินแล้วแต่ก็ยังอยากทำฝันตัวเองให้เป็นจริงที่จะเป็นนักวิชาการ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ดีที่ว่าเป็นคนมีตังค์ พูดอะไรคนยังพอรับฟังนะเนี่ย

ความเห็นส่วนตัวแล้ว
ไม่แนะนำให้ออกจากงาน เพื่อมาเล่นหุ้นอย่างเดียวนะครับ
(อย่าเอาสภาพช่วงนี้ไปเป็นตัวอย่าง ว่า จะต้องเป็นแบบนี้เสมอไป)
เล่นหุ้นในช่วงขาขึ้น ทุกคนได้กำไร ก็สนุกแหละครับ
แต่ถ้าเป็นช่วง Side-way down หรือ Bear ไปเลยนี่
จะเสียความรู้สึกและสุขภาพจิต รวมทั้งความเชื่อมั่นไปเยอะ
ดังนั้น ถ้าหากไม่มีทุนรอน มากมายพอที่จะตั้งรับกับสภาพตลาดไม่ดี
แบบนานๆ ได้ ผมแนะว่า ให้ทำงานไปพลาง และใช้ตลาดหุ้นเป็นที่
ลงทุนออมเงินดีกว่าครับ อย่าหวังจะหารายได้โดยตรงจากการลงทุนเลย
เพราะมันไม่ง่ายอย่างที่ทำได้กันในช่วงนี้เสมอไปครับ

เรื่องงานนั้น : ผมว่า ลองหาวิธีหรือปรับทัศนคติในการทำงานดูครับ
ว่า เราจะสนุกกับมันได้อย่างไร อย่ามองว่า มันยากและต้องปรับตัว
กับคนอื่นตลอด รวมทั้งน่าเบื่อหน่าย รายได้น้อย
พยายามมองมันว่า เป็นสิ่งที่คุณต้องฟันฝ่าและคุณทำได้
คุณทำได้ดี ถ้าเพียงแต่คุณจะปรับเปลี่ยนตัวคุณนิดหน่อย
(อย่าหวังให้คนอื่นเปลี่ยนนะครับ) แล้วทุกสิ่งก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
คุณจะสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ถ้าคุณเปิดใจมองในสิ่งที่ดีดี หลังจากคุณได้
พยายามลงมือทำเพื่อตัวคุณและคนรอบข้างแล้วครับ
ขอให้โชคดีในการลงทุนกับการหาประสพการณ์ชีวิตจากการทำงานนะครับ

เห็นด้วยครับว่า ถึงจะอย่างไรก็ต้องมีงานประจำก่อน เคยมีกระทู้เก่าที่นี่

ลองค้นดูนะครับ ที่พี่ CK เคยเห็นเหตูผลที่ดีไว้ครับ

เกี่ยวกับที่ทำงาน คิดว่าทางที่ดีที่สุด ลองปรับตัวเองดูก่อน ปัจจัยภาย

นอก บางครั้งแก้ไขเปลี่ยนแปลงยากครับ ให้ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองดู

ไม่ว่าจะเป็นทัศนะคติต่องาน เพื่อนร่วมงาน เราเปลี่ยนแปลงตัวเราเองง่าย

กว่าจะรอให้คนอื่นเปลี่ยนแปลงครับ อาจจะสนุกกับงานเมื่อปรับมุมมองก็

ได้นะครับ

จริงๆแล้วBuffettไม่ได้ลงทุนอย่างเดียวและไม่ได้ไม่ทำงานนะครับ สิ่งที่คุณakeกล่าวผมว่าคุณเข้าใจผิดแล้วละ เพราะรายได้ในช่วงต้นของBuffettเกิดจากการทำธุรกิจส่วนตัวของเขา(ตู้pin ball, จัดตั้งกองทุน, ฯลฯ) แต่เขาเริ่มทำงานตั้งแต่เรียนอยู่แล้วครับ

อย่ากลัวที่จะแตกต่าง

ถ้ารู้ว่าเล่นหุ้น 10 รอบจะเจ๊ง 9 รอบ

ก็หาวิธีให้เจ๊งเบาๆ 9 รอบ แต่กำไรเยอะๆในรอบที่ 10

"คัทลอส เล็ทโปรฟิทรัน"

คุณ gigsi ทำงานได้นานแล้วหรือยังครับ คุณทำไงกับปัญหานี้ มันไม่มีทางแก้เลยเหรอครับ

ตอนผมเริ่มทำงานใหม่ๆ ผมก้อเบื่อง่าย พอมีปัญหาก้อเปลี่ยนงาน งานหาง่ายครับช่วงนั้น แต่พอย้อนกลับไปคิดดู เหมือนเราหนีปัญหา ไม่พยายามแก้ปัญหา ตอนนี้ผมอยู่บริษัทเดิมมาเกือบ สิบปีแล้ว ผมก้อยังมีปัญหาอยู่แต่ผมก้อพยายามแก้ไขก่อนที่จะคิดลาออกครับ ผมจะลาออกก้อต่อเมื่อเป้าหมายของผมที่ตั้งเอาไว้สำเร็จเสียก่อนครับ

ไม่ได้ยกตัวเองข่มคุณ gigsi หรอกนะ เพราะผมก้อไม่รู้ว่าปัญหาคุณ gigsi รุนแรงแค่ไหน แต่แค่อยากให้คิดดีๆ ว่าเป้าหมายจริงๆ ของเราคืออะไร แล้วเราจะทำยังไงให้ถึงเป้าหมายนั้น ถ้ามั่นใจว่าการลาออกจะช่วยให้เราถึงเป้าหมายเร็วขึ้นก้อลุยเลยคับ ความมั่นคงก้อเป็นความเสี่ยงอย่างนึงเหมือนกัน บางครั้งก้อต้องกล้าเสี่ยงคับ

ส่วนออกมาเล่นหุ้นอย่างเดียวมีคนแนะเยอะแล้ว ผมไม่แนะเพิ่มละ

ขอให้โชคดีในการตัดสินใจครับ

การลงทุน เป็นการทำงานเพื่ออนาคต ซึ่งอาจจะเป็น 10, 20 หรือ 30 ปีข้างหน้า ผลตอบแทนจากการลงทุนควรนำไปลงทุนต่อ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลงทุนเร็วขึ้น

ถ้าน้องทำงานประจำ น้องจะมีรายได้จากงานประจำมาใช้จ่าย และมีเงินเหลือไปลงทุนต่อ สามารถใช้เวลาว่างมาศึกษาข้อมูล และทำงานเป็นนักลงทุนแบบไม่เต็มเวลา VI ไม่จำเป็นต้องเฝ้ากระดาน ซึ่งจะทำให้เสียสมาธิ กระทบงานประจำ

ถ้าน้องไม่ทำงานประจำ ผลตอบแทนการลงทุนจะต้องถูกดึงออกมาใช้จ่าย เป้าหมายการลงทุนที่เราต้องการก็จะช้าออกไป

หากมีทรัพย์มรดกมากพอ จะเลือกทำงานเป็นนักลงทุนเต็มเวลาก็ได้ แต่ผมแนะนำให้ใช้เวลาไปศึกษาต่อเพิ่มเติมจะดีกว่า

การทำงานแล้วมีปัญหา ถ้าเราสู้และแก้ไขได้ เราจะเติบโตขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง แต่ถ้าแก้ไม่ได้จริง ๆ ยังมีงานอีกมากรอคุณอยู่ วัยของคุณยังทดลองอะไรได้อีกมาก 8)

ขอแนะนำให้ทำงานต่อครับ
ถ้าไม่ชอบที่ทำอยู่ ก็หางานใหม่ครับ
ควรหางานที่ไม่ต้องทำงานเกินเวลา ไม่เครียด
จะได้มีเวลามาเล่นหุ้น ลงทุนแบบ VI ไม่ต้อง
นั่งเฝ้าหน้าจอครับ
ได้รายได้ สองทาง

ผมก็รุ่นเดียวกับคุณนะแหละเข้าตลาดมาก่อนคุณอีกเคยคิดเหมือนกันเลย แต่ต่อนนี้เปลี่ยนความคิดแล้วล่ะ คิดซะว่างานประจำเป็นแหล่งทุนของคุณล่ะกันอีกอย่างเดี๋ยวคุณใกล้จะได้เห็นนรกแล้วล่ะ