Thai VI

วันนี้ได้อ่านหนังสือInvestment Philosophies ของ Professor Aswath Damodaran เรื่อง Graham's Disciples:Value Investing แล้วได้ข้อมูลมาแบ่งปันเพื่อนๆครับ
เขาได้ทำการศึกษา ทำกันหลายปีโดยเลือกหุ้นที่P/Bต่ำๆและถือยาวประมาณ10ปีปรากฎว่าผลตอบแทนดีมากครับ แต่ต้องเลือกหุ้นที่P/Bต่ำอย่างเดียวไม่พอนะครับจะต้องมีROEสูงด้วยจึงจะได้ผลครับ

ส่วนหุ้นที่P/Eต่ำนั้นก็ควรทำการปรับ Earning จากทางบัญชีคือในงบให้เป็นcash earning เสียก่อน โดยใช้สูตร
P/Cash Earning = Price / (EPS +Depreciation+Amortization)

ส่วน P/B ต่ำให้เลือกหุ้นที่มีProfit Margin สูงๆเข้าไว้ครับ

ส่วนเหตุผลใครอยากรู้ถามมาก็จะตอบครับ

ผมสงสัยว่าเค้าใช้p/cash flow ทำไมไม่ใช้เป็นp/owner earningไปซะเลยจะดีกว่าหรือเปล่าครับ(หักcap.exp.ไปด้วยเลย) และเค้าเลือกกลุ่มอุตสาหกรรมด้วยหรือเปล่าครับเช่น กลุ่มเกษตรมักจะมีp/bต่ำ p/cash flowต่ำ แต่ส่วนใหญ่เป็นโภคภัณฑ์ซึ่งไม่มีdurable compettitive ถือไว้นานๆอาจไม่คุ้มถ้าเข้าผิดจังหวะ(เข้าช่วงขาลง)

ค่า Depreciation+Amortization จะหาได้จากไหนครับผมดูๆในงบการเงินไม่เห็นมี ? หรือผมแปลความหมายเป็นไทยผิดก็ไม่รู้นะครับ

depreciationคือค่าเสื่อม ราคา ส่วนamortizationคือค่าความนิยมหรือค่าสิทธิที่ทะยอยหักคืน ทั้งสองส่วนจะหาได้จากงบกระแสเงินสดในส่วนกระแสเงินสดจากการดำเนินงานครับ

ในการเลือกหุ้นโดยดูจากข้อมูลเชิงปริมาณ เขาไม่ได้ดูทางคุณภาพครับ ต่างจากของWarren Buffettที่ใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพก่อนแล้วมาดูข้อมูลเชิงปริมาณ

อืมก็น่าสนใจนะครับ หุ้นที่ PB ต่ำ แต่ ROE สูงก็เท่ากับว่าเราลงทุนในจุดที่ ROE ยิ่งสูงเข้าไปใหญ่เลย แต่ทั้งนี้ หากดัดแปลงให้สะท้อนเรื่อง หนี้สิน ด้วยก็ดีในแง่ความปลอดภัยของการลงทุนแล้วไม่โดนดอกเบี้ยกินหมด

จริงๆแล้วหุ้น pb ต่ำ roe สูงมันก็คือหุ้น pb และ pe ต่ำนี่ครับ
เหมือนๆกัน

ครับ เห็นด้วยครับ

ทำไมเวลาหา cash earning ถึงไม่เอา capex กับ chg WC มาคิดด้วยครับ

แสดงว่า cash earining ไม่ใช่ free cash flow ใช่มั้ยครับ

เอามาฝากครับ:D
หุ้น ROE(%) P/BV (X) D/E (X) ณ วันที่
1 TR 16.53 0.84 0.06 ก.ย. 2547
2 CHOTI 10.25 0.68 0.38 ก.ย. 2547
3 TTTM 11.72 0.50 0.66 ก.ย. 2546
4 KYE 15.74 0.68 0.44 ก.ย. 2547
5 BAT-3K 13.51 0.89 0.63 ก.ย. 2547
6 TMD 17.10 0.96 0.29 ก.ย. 2547
7 LRH 10.92 0.71 0.28 ก.ย. 2547
8 TOPP 12.59 0.65 0.33 ก.ย. 2547
9 NKI 11.30 0.79 0.72 ก.ย. 2547
10 SST 10.15 0.88 0.09 ก.ย. 2547
11 WG 10.96 0.85 0.24 ก.ย. 2547
12 TTI 12.84 0.66 0.63 ก.ย. 2547
13 UST 10.62 0.97 0.32 ก.ย. 2547
14 NIPPON 11.65 0.61 0.26 มี.ค. 2545
15 M-CHAI 13.94 0.84 0.78 ก.ย. 2547
16 SAWANG 11.90 0.59 0.27 ธ.ค. 2541
17 LNH 12.34 1.00 0.21 ก.ย. 2547
18 TCOAT 10.26 0.55 0.54 ก.ย. 2547
19 S & J 13.24 0.97 0.59 ก.ย. 2547
20 CPH 10.49 0.49 0.49 ก.ย. 2547
21 TSTE 10.89 0.80 0.03 ก.ย. 2547
22 PRANDA 21.81 0.92 0.61 ก.ย. 2547
23 ESTAR 10.78 0.62 0.01 ก.ย. 2547

ตัวไหนเข้าข่ายครับ

แต่ดูแล้ว ถ้าซื้อไว้10ปีจริงๆ คงได้ดีแน่ๆๆ

ในนี้มีหลายตัวที่เป็นขวัญใจเพื่อนๆ เยอะด้วย

ถ้าเพิ่มปันผลไม่ต่ำกว่า 5% ด้วยจะเหลือเท่านี้ครับ

หุ้น ROE(%) P/BV (X) DIV Yld (%) D/E (X) ณ วันที่
1 TMD 17.10 0.96 5.36 0.29 ก.ย. 2547
2 SST 10.15 0.88 7.89 0.09 ก.ย. 2547
3 WG 10.96 0.85 5.65 0.24 ก.ย. 2547
4 TTI 12.84 0.66 5.88 0.63 ก.ย. 2547
5 UST 10.62 0.97 8.82 0.32 ก.ย. 2547
6 NIPPON 11.65 0.61 7.50 0.26 มี.ค. 2545
7 M-CHAI 13.94 0.84 5.79 0.78 ก.ย. 2547
8 LNH 12.34 1.00 7.58 0.21 ก.ย. 2547
9 PRANDA 21.81 0.92 11.32 0.61 ก.ย. 254


อืมม ลองไปดูเพิ่มดีกว่า ชักน่าสนใจ

ผมไม่มีในนี้เลยซักตัว

แล้ว 9 บริษัทนี้มี P/FCF เท่าไรกันครับ

chatchai เขียน:แล้ว 9 บริษัทนี้มี P/FCF เท่าไรกันครับ

พี่ฉัตรชัยออกมาย้ำจุดยืนครับ Cash is King!!

chatchai เขียน:แล้ว 9 บริษัทนี้มี P/FCF เท่าไรกันครับ

เดี๋ยวหามาให้ ครับผม

อ่านจากหนังสือเกือบสองปีแล้ว จำบ่ได้

รู้สึกว่าการตอบรับดีนะครับ ได้ความรู้ดีทีเดียว ไม่เสียแรงที่ไปขุดมา

หนังสือยังมีขายในปัจจุบันนี้มั้ยครับ