ยินดีที่ได้รู้จักนะครับเพื่อนแพทย์

หมอเราถ้ารู้จักลงทุนบ้างจะได้มีรายได้จาก passive income บ้าง จะได้ไม่ต้องเคร่งเครียดกับการทำงานหาเงินจากการประกอบวิชาชีพรักษาคนไข้มากจนเกินไป จะได้มีเวลาและมีปัจจัยที่จะตอบแทนคืนแก่คนไข้ของเราและสังคมบ้าง อยากให้เพื่อนแพทย์เราทำงานไม่ต้องเครียดและมีเวลาที่จะให้ความใส่ใจต่อคนไข้ของเราอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมากังวลเรื่องการหารายได้มากจนเกินไป เพื่อช่วยกันเสริมสร้างความเข้าใจและสัมพันธภาพที่ดีระหว่างแพทย์และประชาชนทั่วไปที่นับวันจะห่างเหินกันมากขึ้นเรื่อยๆ (ขอใช้เวทีนี้ระบายความรู้สึกหน่อยแล้วกันนะครับ อยากครับอยากเห็นบรรยากาศเดิมๆ ที่ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และประชาชนทั่วไปดีต่อกันนับถือในความเป็นคนและศักดิ์ศรีของกันและกัน)
มาเข้าเรื่องลงทุนดีกว่าครับ...ความรู้ผมแค่หางอึ่งเองครับอย่ายึดเป็นสรณะ..แค่แลกเปลี่ยนกันครับ ตอนที่ผม post ไว้ช่วงนั้นราคาทองตกลงมานิดนึงแล้วหลังจากนั้นมาร่วมเกือบเดือนแล้วที่ราคาทองเริ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง (ราคาเป็นดอลล์ขึ้น) ตอนนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังชื่อว่าแนวโน้มราคาทองจะยังไปต่ออีกแต่ต้องเป็นการลงทุนระยะยาวหน่ะครับ หากซื้อเก็งกำไร หรือกู้เงินมาซื้อมีสิทธิ์เจ็บตัวครับ เหตูผลเท่าที่อ่านพบที่สนับสนุนให้ราคาทองเป็นขาขึ้น เนื่องจากตอนนี้เศรษฐกิจ สหร.ตกเสก็ด ค่าเงินดอลล์อ่อนตัวลง ชาติต่างๆโดยเฉพาะทางจีนที่เศษฐกิจโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประเทศทางแถบเอเซียเลยขายดอลล์ สหร.มาถือทองคำไว้เป็นทุนสำรองมากขึ้น ประกอบกับช่วงนี้เป็นเทศการตรุทจีน อาจมีส่วนทำให้ความต้องการในช่วงนี้ยังมีอยู่บ้าง แต่ราคาทองที่ซื้อขายในบ้านเราตอนนี้ยังไม่ขึ้นมากถึงกว่า 10,500-11,000บ.เป็นเพราะช่วงนี้ค่าเงินบาทเราแข็งขึ้นด้วยหน่ะครับ (เวลาเงินบาทแข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลล์ สหร. จะทำให้เราใช้เงินบาทน้อยลงในการซื้อทองมาจาก ตปท. แต่อย่างไรก็ตาม ผลของราคาทองในตลาดโลกที่ขึ้นจะมีผลมากกว่า ถ้าค่าเงินบาทของเราไม่ได้แข็งข้นฮวบฮาบ) คุณหมอที่เป็นหัวหน้าสมาคมค้าทอง จึงคาดไว้ว่าราคาทองในระยะยาวจะยังคงเป็นขาขึ้น แต่ระยะสั้นยังมีความผันผวนหน่ะครับโดยคาดว่าหลังตรุทจีน ราคาทองมีโอกาสจะลดลงได้จากปริมาณความต้องการในประเทศเราเองที่ลดลง แต่ช่วงนี้ผมก็เริ่มได้ข่าวว่าราคาน้ำมันดิบเริ่มจะขึ้นอีกมีคนคาดว่าอาจถึง 100ดอลล์ สหร.ต่อบาร์เรล แหน่ะ ซึ่งทำให้กองทุนเก็งกำไรHedge fund ทั้งหลาย แห่กันย้ายเงินจากทองมาซื้อน้ำมันแทน ราคาทองอาจจะร่วงได้นะครับช่วงสั้นนี้ ต้องติดตามดูกันต่อไป
โดยสรุปนะครับจาการสังเกตการณ์ของผมๆคิดว่าราคาทองจะขึ้นลงจากปัจจัยเหล่านี้ครับ
1.Demand
-ความต้องการนำมาทำเครื่องประดับ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิก ซึ่งเท่าทีผมทราบผลจากปัจจัยนี้น้อยครับไม่ค่อยผันผวน ยกเว้นช่วงเทศการอย่างนี้ครับ และส่วนใหญ่เป็นราคาทองรูปพรรณ
-ความต้องการของประเทศต่างๆที่ต้องการถือทองไว้เป็นทุนสำรองคงคลังแทนตะกร้าเงินต่างๆ
-ความต้องการใช้เป็นทรัพย์สินที่รักษาค่าของเงินทุนของกองทุนต่างๆ ซึ่งทำให้การเคลื่อนย้ายของเงินทุนเข้าออกจากทองมีผลต่อความผันผวนของราคาทองมากในปัจจุบัน (ปัจจัยนี้เท่าที่ผมสังเกตุค่อนข้างเด่นและมาก) เรียกว่าเป็น asset allocation เท่าที่ผมเข้าใจมาเงินทุนต่างชาติมักจะเคลื่อนไหวไปมาระหว่าง หุ้น ตราสารหนี้และอนุพันธ์ น้ำมัน ทอง และเงินตราต่างประเทศ
-ความต้องการของประชาชนทั่วไปที่ต้องการถือทองไว้เป็นทรัพย์สินเพื่อการลงทุนและป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนทางเศรษฐกิจและภาวะสงคราม และความไม่แน่นอนทางการเมือง
2.Supply
-การถลุงทองจากเหมืองแร่ต่างๆ ปัจจุบันเท่าที่รู้แทบไม่ต้องกังวลปัจจัยนี้เพราะไม่เพิ่มเท่าไหร่ การลงทุนเปิดเหมืองใหม่ต้องใช้เงินมหาศาล
-การขายทอง(ที่มีอยู่แล้วไม่ได้ถลุงหลอมใหม่) ออกมาในตลาดโลกจากผู้ที่ถือทองอยู่แล้ว ได้แก่ประเทศต่างๆที่ถือทองอยู่จำนวนมาก ซึ่งถ้าประเทศต่างๆเหล่านี้ขายทองออกมาพร้อมๆกันจะทำให้ราคาทองตกแน่นอน เท่าที่รู้มาถ้าจำไม่ผิดมีกลุ่มประเทศทางแถบยุโรป จำไม่ได้ว่าประเทศอะไรบ้าง ได้ลงนามในข้อตกลงที่จะไม่ขายทองออกมามากเกินไป(มีปริมาณล๊อกไว้ว่ากี่ตันต่อปี) ทำให้ปัจจัยนี้ผันผวนน้อย แต่ปัจจัยนี้ก็มีผลมากกว่าข้อแรก
3.อัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าเงินบาทของเรา อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าถ้าค่าเงินบาทแข็งขึ้นจะมีผลให้ค่าทองในประเทศตกลงเนื่องจากเราใช้เงินบาทซื้อทองได้มากขึ้นโดยใช้เงินบาทเราน้อยลง แต่ถ้าค่าเงินบาทอ่อนลงก็มีผลตรงข้าม แต่ผลจากราคาทองในตลาดโลกมีมากกว่าผลจากอัตราแลกเปลี่ยนครับ
เท่าที่ผมพอจะเข้าใจก็ประมาณนี้นะครับหากท่านใดมีความคิดเห็นเพิ่มเติมช่วยชี้แนะด้วยครับ
กล่าวโดยสรุปในความรู้สึกของผมๆ คิดว่าราคาทองในปัจจุบันผันผวนในระยะสั้นๆได้อย่างมากจากการเคลื่อนย้ายของเงินทุนจากกองทุนต่างๆนี่แหล่ะครับ ถ้าย้ายเข้ามาราคาก็จะสูงขึ้น ถ้าย้ายออกราคาก็จะตกลงได้(เหมือนหุ้นหล่ะครับ ถ้าเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาตลาดหุ้นไทย ดัชนีก็จะขึ้น) แต่หากเราจะดูแนวโน้มในระยะยาวจะต้องดูเรื่องของ demand/supply จากปัจจัยต่างๆที่ว่ามานี่แหล่ะครับ (ซึ่งตอนนี้เชื่อกันว่าสระตะแล้วเป็นขาขึ้น)
ขอบคุณครับไว้มีโอกาสคงได้ติดต่อกันทางเมล์
[email protected] :D