Thai VI

ช่วงนี้หุ้นขึ้นแถบทกวัน ดอกเบี้ยเงินฝากก็ต่ำติดดิน ใครๆก็บอกว่าเศรษฐกิจของไทยดีจริงๆ ส่งออกก็โต สถาบันจัดอันดับก็เพิ่มเกรดให้ ช่วงนี้คงมีนักลงทุนหน้าใหม่อยากจะลงทุนในตลาดหุ้นกันมาก เพื่อนๆและญาติที่ไม่เคยลงทุนยังสอบถามเลยว่าซื้อหุ้นบริษัทไหนดี

นักลงทุนหน้าใหม่มักหาความรู้จากหนังสือพิมพ์ กระทู้ต่างๆ และมักจะหาหุ้นเด็ด และสูตรสำเร็จ เช่น P/E Ratio

แต่ผมขอเตือนนะครับ งบการเงินไม่ใช่จะดูกันง่ายๆ แค่ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิเท่าไร P/E เท่าไร คุณควรดูถึงรายละเอียดด้วยครับ

วันนี้ฟังวิทยุเห็นว่ามีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาในตลาดมากพอควร แต่ยังไม่เต็มที่อย่างที่เคยเป็นในอดีต มีเม็ดเงินไหลเข้ามาค่อนข้างมากดูจากVolumeวันนี้ก็สูงใกล้เคียงกับในอดีต

ใครรู้ตัวว่าภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงอย่าประมาทนะครับ

เตือนไว้ก็ดีครับคุณฉัตรชัย แต่จะมีสักกี่คนที่อ่าน จะมีสักกี่คนที่สนใจคำเตือน จะมีสักกี่คนที่ได้ประโยชน์จากการเตือน

แต่ก็ยังดีครับ ดีกว่าไม่เตือน อย่างน้อยที่สุด ก็เตือนผมได้คนหนึ่งแล้วครับ

ขอบคุณมากครับ

การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีความเสี่ยง
เพื่อนใหม่ที่จะลงทุน ขอให้รอบคอบ และศึกษาให้ชัดเจนก่อนเสมอ
และกฏข้อแรก คือ ต้องใช้เงินที่เหลือจากการจัดสรรในกิจจำเป็น
อื่นๆ แล้วเท่านั้นนะครับ
โชคดีในการลงทุนครับ

วันก่อนไปทานอาหารกับเพื่อนหมอคนหนึ่ง ในสุด หัวข้อการพูดคุยก็มีแต่เรื่องหุ้นอย่างเดียว

แต่ผมสบายใจมากเพราะ ผมโปรโมท ให้เขาเข้ามาอ่านใน TVI ก่อนการลงทุน

นับว่าเพื่อนคนนี้โชคดี

เพื่อนคนอื่นๆ ที่เบือนหน้าหนีเมื่อพูดเรื่องหุ้น ส่วนใหญ่ ขาดทุน เป็นล้านมาแล้วทั้งนั้น

อ่านกระทู้นี้แล้วคิดถึงอดีต.........

ที่เห็นเขาเล่นหุ้นแล้วคุยกันว่าได้หุ้นวันละเป็นหมื่นเป็นแสน
เราก็เลยไปเปิดบัญชีเล่นหุ้น ต่อมา1อาทิตย์ได้เลขรหัส
ซื้อหุ้นตัวแรก ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทนั้นทำกิจการอะไร
อยู่ที่ไหน มีผู้บริหารชื่ออะไรบ้าง มีที่ดิน มีเงินเหลือ มีหนี้สินเท่าไหร่
ยิ่งเรื่องP/E P/B อื่นๆไม่ต้องพูดถึง

รู้อยู่แค่ ซื้อถูก-ขายแพงได้กำไร เป็นอันว่าใช้ได้

แต่มันไม่ง่ายอย่างเขาคุยกันว่าทำกำไรกันวันเป็นหมื่นเป็นแสน

ว้า....พูดถึงแต่อดีต แย่จัง

อิอิ นึกถึงอดีตแล้วรู้สึกตัวเองโง่ แสดงว่าปัจจุบัน ฉลาดแล้วครับ ผมหมายถึงตัวผมเองนะครับ พี่ปรัชญา

Jeng เขียน:อิอิ นึกถึงอดีตแล้วรู้สึกตัวเองโง่ แสดงว่าปัจจุบัน ฉลาดแล้วครับ ผมหมายถึงตัวผมเองนะครับ พี่ปรัชญา

เคยเสียเวลา และโง่อยู่เป็น10ปี
กว่าจะมาเจอตีแตก ของท่าน ดร.นิเวศน์
หม่ายยย..งั้น ป่านนี้เป็นปุ๋ยรอบ3ไปแล้วล่ะ

ตอนนี้มือขวาขุดเพชร มือซ้ายขุดพลอย

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปุ๋ยรอบ 3 จี้เส้นอีกแล้ว เฮียปรัชญา

ทำผมหัวเราะท้องแข็งทุกที

Jeng เขียน:ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปุ๋ยรอบ 3 จี้เส้นอีกแล้ว เฮียปรัชญา

ทำผมหัวเราะท้องแข็งทุกที

เอ้า ปุ๋ยรอบแรก ก็แมงเม่าพันธุ์ใหม่
ปุ๋ยรอบ2 แมงเม่าปีกไหม้

ฮึฮึ รอบนี้...
ต้องมีสักวัน ต้องมีสักวัน
จะทำตามฝัน แม้ว่ามันจะไกลแสนไกล(เพลงของ ก๊อด จักรพันธ์)

ขอบพระคุณพี่ ฉัตรชัย ที่คอยเตือนรุ่นน้องๆครับ

ยึดหลักการและเข้ามาที่เวป TVI ที่นี่บ่อยๆ อย่างน้อยก็ได้สติครับ ซึมซับความเป็น VI ให้อยู่ในสายเลือดครับ

หัวข้อกระทู้ "เตือนนักลงทุนหน้าใหม่" ดีจริงๆ....

ในมุมมองของผม นักลงทุนหน้าใหม่มีหลายแบบ...
ใหม่ที่ Broker นี้ แต่ เก่าที่โบรคเกอร์อื่น หรือ
บางท่านใหม่ที่เว็บหุ้นนี้แต่เก่าที่เว็บหุ้นอื่นๆ เป็นต้น
อีกนัยหนึ่งคือ "เขี้ยวลากดิน" ดีๆนี่เอง!

สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่(จริงๆ)...
ผมขอร่วมเป็นแรงเชียร์ให้ฝันในโลกแห่งการลงทุน
ของคุณเป็นจริงก็แล้วกันครับ 8)

คิดซะว่า เปลี่ยนบรรยากาศจากช็อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าหรูๆ
มาเดินช็อปปิ้งซื้อหุ้นตามโบรคเกอร์...ก็แล้วกันครับ

เห็นด้วยกับทุกท่านครับตลาดเป็นขาขื้นไม่ใช้ว่าซื้อตัวไหนก็รวยคุณเข้าผิดจังหวะผิดตัวเป็นร่วงแล้วบางครั้งโดนเจ้ามือทุบซ้ำกระอักเลยครับไอ้ Day trade นี้ผมหมดไปเยอะ ถ้าจังหวะไม่ดี ไม่มี Inside อย่าเล่น มาเป็น VI หาหุ้นพื้นฐานดีๆ ข้อมูลแน่นๆรอจังหวะเข้าซื้อเก็บไว้ดีกว่าครับ.

เตือนกันอย่างนี้ไม่รู้จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน เพื่อนๆผมเข้าตลาดก็ได้ผลตอบแทนดีๆกันมาทั้งนั้น แต่ดันมาถามผมอีกว่าควรจะลงทุนหุ้นไหน บอกไปมันบอกว่า โอย....ขึ้นช้า บางตัวไม่รู้จัก.....ไม่เอาดีกว่า

ไม่เจ็บตัวไม่รู้หรอก....คงจะอีกนานกว่าจะเห็นความจริงนะ

คนส่วนใหญ่มักมองว่าหุ้นเป็นวัตถุชิ้นหนึ่งที่สามารถทำกำไรได้ มีแต่พวก VI พันธุ์แท้เท่านั้นที่มองว่าการซื้อหุ้นคือการได้เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของในกิจการนั้น ตรงนี้ขึ้นกับความชอบส่วนตัวและกำลังปัญญาของแต่ละคนครับ โน้มน้าวกันยากต้องเห็นได้ด้วยตัวเอง

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ที่หน้าใหม่ควรจะระวังในการเข้าตลาดในช่วงนี้ สำหรับผมก็เป็นหน้าใหม่เหมือนกันครับ เพิ่งจะเข้าตลาดมา 2 เดือน แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดซะทุกอย่าง 2 เดือน 10% ก็เจ๋งแล้วล่ะครับ

แล้ว thl ล่ะครับ เจอทองจริงหรือเปล่า วันนี้ชนเพดานเลย

purin เขียน:แล้ว thl ล่ะครับ เจอทองจริงหรือเปล่า วันนี้ชนเพดานเลย

ผมมีข่าวมาฝาก คนตื่นทองเพราะมีผลการยืนยันของผู้สำรวจแล้วครับ ตามจดหมายข้างล่างนี้ครับ
เฮียคลายเครียด คงยิ้มแป้นไปหลายตลบ เพราะเห็นลุ้นอยู่
PP

THL :Progress of Tungkum's Gold Project







THL 151-178 / 09 / 2003


10 September 2003

Director General
The Stock Exchange of Thailand


Dear Sir,

Progress report on Tungkum's gold project

Pursuant to providing an Information Memorandum (IM) consisting of independent
third party verification of the technical and economic viability of Tungkum's
resources and processing methodology, to meet the requirements of lending
institutions to obtain project financing, COMO Engineers Pty. Ltd., Australia,
an independent third party engineering consultant, has completed a report on
the processing methodology aspects. Resource verification was conducted by
Edward Brennan, a well experienced authoritative economic consulting geologist
from Australia and registered member of the Australasian Institute of Mining
and Metallurgy (AIMM).

The scope of the IM study was to determine if the immediate minable ore
resources (consisting of ore mining down to an average of 40 metres
depth - mineralisation extend to an average depth of 300 metres with one hole
extending to a depth of 600 metres with average grading of over 2.9 grams per
ton), would be adequate to repay proposed bank loans and recoup investments.
The study confirmed adequacy of said resource and also verified that proposed
phase I operations (open pit) can easily meet stipulated requirements.

Resource Tonnes Grade Contained gold
(grams/ton Au) (Oz.)

Proven Resource 1,452,000 4.49 209,630

Indicated 822,000 5.95 157,365

Inferred 2,213,000 3.25 231,000

Total 4,487,000 597,995

Economic results*

Project period for first stage : 4 years
Plant capacity : 365,000 tonnes per annum
Capital investment** : USD 17.8 million
Planned resource to be mined
over the first 4 years (average depth 40 meters): 1,452,000 tonnes
Gold production : 178,671 ounces

Gold price*** : USD 350 per ounce
Revenue from gold : USD 62.5 million
Net cash margin : USD 30.5 million

Internal rate of return 28 %
Payback period 2.19 years

Note:
*Initially, the pre-feasibility study was prepared on the resource of
3.47 million tons and project life was 10 years. However, the resource applied
in this report is 1.45 million tons (only the average mineable to 40 meters
depth) and not including the indicated and inferred resources of 3.04 million
tons covering approximately 4 sq. kilometres. Tungkum's mining leases (MLs)
and Mining Lease Applications (MLAs) cover a total area of 55.06 sq. kilometres.
Each mining lease is for 25 years and renewable if resources remain to be mined.

**Plant and infrastructure will have capability to process ore over a 25 year
period.

*** Current market price is USD 381 per ounce.

The project has Board of Investment privileges which includes (amongst others)
exemption of corporate income tax for 8 years and another 5 years at 50 percent
of normal rate.


Currently, the company is in final negotiations process with financial
institutions to complete project financing. The infrastructure construction
and engineering designs are in progress, and the company is sourcing plant
and machinery suppliers. The commercial operation is expected to commence
in the second quarter of 2004.

Please be informed accordingly.


Yours faithfully,




(Mr. Ronald Ng Wai Choi)
Managing Director

ผมมีอุทาหรณ์ในอดีต สำหรับเตือนสติตัวเองเสมอว่า
ที่ได้กำไรนี่ อย่านึกว่า ตัวเองแน่
ที่ทำได้นี่ส่วนหนึ่ง เพราะจังหวะและโอกาสช่วย
คือ มาเข้าตลาดในช่วงขาขึ้นมาตลอด
ที่พูดนี่ ไม่ได้บอกว่า จะมีตลาดขาลงในช่วงนี้นะครับ

อุทาหรณ์ที่ผมจำได้ คือ ตอนเรียน ป.ตรี
จะนั่งเล่น เลี้ยบตุ่ย กับเพื่อนๆ
บางครั้งทีเราชนะหรือกินได้เยอะ บางครั้งเราก็แพ้หรือเสีย
แต่เมื่อมาสังเกตุดูลึกๆ
ไอ้ตอนที่เราชนะนั้น มันเป็นเพราะเราได้ตัวดีดี ไว้ในมือ
ซึ่งมันก็เล่นง่ายอยู่แล้ว
แต่ไอ้ตอนที่เราได้ไพ่ ไม่ดี เมื่อไหร่ เราก็เอาตัวไม่รอดทุกที
ในขณะที่ เพื่อนๆ ที่มันฝีมือดีจริงๆ น่ะ มันเอาตัวรอดได้
แม้ในสถานการณ์ที่คับขัน
ดังนั้น เพื่อนๆ ที่ได้กำไรในตอนนี้ น่ะอย่าเผลอไผล
หรือชะล่าใจนะครับ
การลงทุน มีความเสี่ยงเสมอ
(แต่แก้ไขป้องกันได้ด้วยการไม่ประมาทครับ)

เย็นนี้เปิดยอดซื้อขาย ดูไม่จืด(เค็ม)
ต่างชาติขาย 2พันกว่าล้าน
ผมว่าพรุ่งนี้คงถึงเวลาปรับฐานแล้วล่ะ
เห็นทั้งหมอยรรยงค์ และนักวิเคราะห์ออกมาเล่า
ส่วนผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก รออย่างเดียว
เห็นบริษัทนั้น-บริษัทนี้ ปันผลระหว่างกาล
จะทำอย่างไรหนอ บริษัทที่เราถือหุ้นจะปันผลระหว่างการบ้าง
จะได้มาเสริมสภาพคล่อง ลงทุนต่อเนื่องไป
จะขายที่ถือก็ขายไม่ลง ร้องเพลงรออย่างเดียว
หากมีผู้บริหารท่านใดเข้ามาอ่านกระทู้นี้
กรุณาจ่ายปันผลระหว่างการด้วยครับ

คนไทยขอกันได้

ต้องขอบคุณทุกข้อความ และทุกคำเตือนค่ะ
น้องเป็นมือใหม่ของจริง และรู้จักแค่เว็บนี้เว็บเดียว(ไม่ใช่เก่าจากที่อื่น และไม่ใช่พวกเขี้ยวลากดิน)
คำเตือนและคำแนะนำทุกท่านช่วยทำให้มีความรู้มากขึ้น
ตอนนี้เลยได้แต่อ่านอย่างเดียว เพราะยังไม่ได้ลงทุกสักตัว
เนื่องยังไม่มีความรู้อะไรมาก จึงไม่กล้าเข้ามาคุยด้วย......
ขอบคุณจากใจจริงสำหรับทุกๆข้อความที่ให้ความรู้ค่ะ

ผมเองมือใหม่ ก็ระวังตัวและตื่นตัวอยู่เสนอครับ
ขอบคุณพี่ครับ ที่ออกมาช่วยเตือนสติ
ไม่เหลิงๆๆ :lol:

กลัวๆอยู่เหมือนกันครับ แต่อยากลอง...

เลือกให้ดี ใช้เวลาศึกษาก่อนซื้อให้มากหน่อย ความเสี่ยงก็จะต่ำลงครับ
ถ้าเลือกหุ้น VI ต้องอดทนครับ มันไม่ค่อยหวือหวา ต้องปิดปากให้สนิท น้ำลายไหลบ่อย (ก็หุ้นเก็งกำไรมันขึ้นมาก) แต่เวลาตลาดลง เราก็นั่งอมยิ้มได้ เพราะมันไม่ค่อยลงตามครับ

ผมมีพุทธสุภาษิตมาฝากเพื่อนๆชาวvi 2ข้อครับ ซึ่งช่วยได้มากในการลงทุนแบบvi
1.อิทธิบาทสี่
-ฉันทะ = มีความรักชอบในการลงทุนแบบviซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้องครับ
-วิริยะ = มีความหมั่นเพียรในการค้นคว้าหาความรู้
-จิตตะ = เกาะติดยึดมั่นในแนวทางvi
-วิมังสา= มีความสนใจหมั่นทบทวนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้แตกฉานมากขึ้น
2.พรหมวิหารสี่
-เมตตา = อยากให้ผู้อื่นมีความสุข อยากให้ทุกๆคนได้ผลตอบแทนในระยะยาว ไม่หลงลงทุนแบบสุ่มเสี่ยง
-กรุณา= อยากช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ แบบที่พี่ๆเพื่อนๆหลายๆคนเข้ามาแนะนำในwebนี้
-มุทิตา= พลอยยินดีที่เห็นคนอื่นมีความสุข หุ้นคนอื่นเค้าขึ้นเอาๆ ของเราอยู่นิ่งๆ ก็ให้ความยินดีแก่เค้า
-อุเบกขา=วางเฉย เมื่อได้ลงทุนเลือกหุ้นแนวvi+การวิเคราะห์อย่างดีที่สุดแล้ว ก็รอเวลา ให้ทำงานของมันเอง
ความจริงพุทธสุภาษิตทั้ง2ข้อเป็นอกาลิโกคือใช้ได้ในทุกกาลสมัยและทุกเรื่องครับ

ขอบคุณคุณหมอประจวบ มากครับ

Jeng เขียน:อิอิ นึกถึงอดีตแล้วรู้สึกตัวเองโง่ แสดงว่าปัจจุบัน ฉลาดแล้วครับ ผมหมายถึงตัวผมเองนะครับ พี่ปรัชญา

คุณ jeng ตรงข้ามกับกระผมเลยครับ กระผมตอนเล่นหุ้นใหม่ๆ อ่านหนังสือหุ้นใหม่ๆ รู้สึกตัวเองฉลาดจัง คนอื่นๆโง่หมดเลย นั่งมอง แล้วนึกบอกตัวเองว่าตัวเองฉลาดจัง นั่งมองคนอื่นๆที่เล่นหุ้นเสีย แล้วก็นึกว่าเพราะเขางี่เง่าไม่เล่นหุ้นอย่างที่เราอ่านเจอในหนังสือนี่หว่า

พอผ่านไปสักพัก ศึกษาเพิ่มเติมเรื่อยๆ คุยกับคนเก่งๆ ชักรู้สึกว่าตัวเองโง่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองโง่ และมีอะไรที่ไม่รู้อีกเยอะมาก

ตอนเริ่มเล่นหุ้น อ่านหนังสือจบใหม่ๆ เป็นช่วงที่ผมแนะนำวิเคราะห์หุ้นให้คนอื่นๆอ่านมากที่สุด (ฮา.....)

ผ่านมาปีกว่าๆ ตอนนี้ให้ความเห็น แนะนำหุ้น วิเคราะห์ในกระทู้น้อยที่สุด เหลือแต่เรื่องอารมณ์ขันที่พอมีมาแบ่งให้คนอื่นๆเหมือนเดิม

ยอมรับครับว่าเป็นเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าคุณ ปีเตอร์ ชาง เพราะผมยังรู้สึกว่าหนังสือที่อ่านได้ประโยชน์จริงๆ

ไม่ได้รู้สึกฉลาดที่อ่านจบ แต่รู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ที่อ่านจบ จะทำไม่เป็นตามที่เขาเขียนไว้

แถมยังดันเชื่อมั่นว่าตัวเองจะทำได้ซะอีก อิอิ เข้าขั้นหลงตัวเองแล้ว

ผมไม่ได้ใบ้หุ้นให้วุ่นวาย แต่ผมชอบถาม Mr.Market ว่าหุ้นที่ผมซื้อน่าสนใจหรือไม่ ถ้าเขาคิดว่าไม่ ผมจะรีบซื้อเลย

ส่วนคนที่ไม่อ่านหนังสือ แล้วสุ่มสี่สุ่มห้าซื้อหุ้น โดยไม่ได้ศึกษาจากเว็บต่างๆ ก่อนนี่น่ากลัวจริงๆครับ

คุณปีเตอร์ ชางอยู่ในขั้น ถ่อมตัวก็ดีแล้วครับ

ผมยังอยู่ในขึ้นขี้โม้อยู่

เหมือนเด็กๆครับ โม้แหลก พอโตขึ้นรู้มากหน่อย ก็ต้องระมัดระวังคำพูด

อิอิ

Jeng เขียน:

โค้ด: เลือกทั้งหมด

คุณ jeng ตรงข้ามกับกระผมเลยครับ กระผมตอนเล่นหุ้นใหม่ๆ อ่านหนังสือหุ้นใหม่ๆ รู้สึกตัวเองฉลาดจัง คนอื่นๆโง่หมดเลย นั่งมอง แล้วนึกบอกตัวเองว่าตัวเองฉลาดจัง นั่งมองคนอื่นๆที่เล่นหุ้นเสีย แล้วก็นึกว่าเพราะเขางี่เง่าไม่เล่นหุ้นอย่างที่เราอ่านเจอในหนังสือนี่หว่า 

พอผ่านไปสักพัก ศึกษาเพิ่มเติมเรื่อยๆ คุยกับคนเก่งๆ ชักรู้สึกว่าตัวเองโง่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองโง่ และมีอะไรที่ไม่รู้อีกเยอะมาก 

ตอนเริ่มเล่นหุ้น อ่านหนังสือจบใหม่ๆ เป็นช่วงที่ผมแนะนำวิเคราะห์หุ้นให้คนอื่นๆอ่านมากที่สุด (ฮา.....) 

ผ่านมาปีกว่าๆ ตอนนี้ให้ความเห็น แนะนำหุ้น วิเคราะห์ในกระทู้น้อยที่สุด เหลือแต่เรื่องอารมณ์ขันที่พอมีมาแบ่งให้คนอื่นๆเหมือนเดิม  
 

ยอมรับครับว่าเป็นเหมือนกัน แต่คงไม่เท่าคุณ ปีเตอร์ ชาง เพราะผมยังรู้สึกว่าหนังสือที่อ่านได้ประโยชน์จริงๆ

ไม่ได้รู้สึกฉลาดที่อ่านจบ แต่รู้สึกว่าคนส่วนใหญ่ที่อ่านจบ จะทำไม่เป็นตามที่เขาเขียนไว้

แถมยังดันเชื่อมั่นว่าตัวเองจะทำได้ซะอีก อิอิ เข้าขั้นหลงตัวเองแล้ว

ผมไม่ได้ใบ้หุ้นให้วุ่นวาย แต่ผมชอบถาม Mr.Market ว่าหุ้นที่ผมซื้อน่าสนใจหรือไม่ ถ้าเขาคิดว่าไม่ ผมจะรีบซื้อเลย

ส่วนคนที่ไม่อ่านหนังสือ แล้วสุ่มสี่สุ่มห้าซื้อหุ้น โดยไม่ได้ศึกษาจากเว็บต่างๆ ก่อนนี่น่ากลัวจริงๆครับ

คุณปีเตอร์ ชางอยู่ในขั้น ถ่อมตัวก็ดีแล้วครับ

ผมยังอยู่ในขึ้นขี้โม้อยู่

เหมือนเด็กๆครับ โม้แหลก พอโตขึ้นรู้มากหน่อย ก็ต้องระมัดระวังคำพูด

อิอิ

ที่ผมพูดนั้น พูดจริงๆ ไม่ได้ถ่อมตัวเลยครับ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แล้วไม่ได้ว่าใครด้วยนะครับ เล่าให้ฟังว่าปีก่อน ผมอ่านหนังสือจบใหม่ๆ ผมเป็นอย่างนั้นจริงๆ คนที่อ่านสินธรปีก่อน จะเห็นผมให้การวิเคราะห์หุ้นไว้เยอะ ตอนนี้แทบไม่มีเลย (hahaha) ยกเว้นอันไหนเป็นหุ้นที่เราถือไว้จริงๆ ก็พอบอกเขาได้นิดหน่อย

ผมลองเล่นหุ้นหลายๆแบบ แล้วก็พบว่า มันกำไรทุกแบบ เพราะตลาดมันขึ้นนี่หว่า แล้วผมจะสรุปได้ไหมเนี่ยว่าเล่นแบบไหนมันดีกว่ากัน (เพราะตลาดขึ้น มันก็กำไรทุกแบบนั่นแหละ แล้วตลาดขาลง ผมกะจะไม่เล่น แล้วผมจะศึกษาไปทำไมเนี่ย ยังงงๆตัวเองเหมือนกันครับ hahaha )

หมายถึงฟองสบู่แตกใช่หรือไม่

แล้วคุณปีเตอร์ ชางมีวิธีสังเกตุอย่างไร

เลิกเล่นเมื่อไรบอกผมด้วยนะครับ