หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ผู้บริหารบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่มี passion ต่องานของตนเอง

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 27, 2005 7:25 pm
โดย PP
ไม่ทราบสมาชิก TVI ท่านใดได้อ่านบทบันทึกการบรรยายจาก Warren Buffett  Trip ของนักศึกษา mba จาก Tuck School of Business ที่แนะนำในกระทู้ "อีเมล์ลับปี97: ....."บ้างครับ เอา linkมาให้อีกหนก้อแล้วกัน
http://mba.tuck.dartmouth.edu/pages/clu ... ffett.html

อ่านแล้วเราลองนำมาประยุกต์ใช้ในตลาดหุ้นบ้านเราท่าจะดี    จากคำถามที่นักศึกษาถามว่า เขาใช้อะไรเป็นตัวบ่งชี้ว่าบริษัทใดบริษัทหนึ่งมีความสามารถทางธุรกิจเป็นพิเศษกว่าบริษัทอื่น
และบัฟเฟตต์ตอบว่า "ก็อีกนั่นแหละ ความโหยหาฝักใฝ่แต่เรื่องงาน....  โดยยกตัวอย่าง ของ มิสซิส บี เจ้าของบริษัทเนบราสก้า เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้นแบบ ขนาดว่าลูกชายไปออกรบในสงคราม ยังเขียนจดหมายคุยกันแต่เรื่องธุรกิจเฟอร์นิเจอร์....."      ตามข้อความส่วนดังกล่าวข้างล่างนี้
Warren Buffett Trip เขียน:.............
Q: How do you identify extraordinary business ability?

A: Again, passion. When Ms. B's son was fighting in World War II, they exchanged letters every dayabout the furniture business. When Berkshire acquired a 90% stake in NFM in the 80's, Ms. B and I shook hands and signed a two-page agreement. There was no audit of the books, no due diligence, I trusted her integrity. When Wal-Mart sold me one of their operating units, their CFO came to my office, I gave him a price, he called Bentonville [Arkansas - Wal-Mart headquarters], and that day the deal was done. I know how Wal-Mart conducts business [very well], and when we took over the division, it was exactly how they described it. So integrity is a requirement. One of Berkshire's businesses is FlightSafety, the founder is dedicated to preventing deaths, he's not motivated by the next quarter's numbers.
.......
คราวนี้เราหันกลับมาดูบริษัทต่างๆในตลาดหุ้นบ้านเรา   อยากทราบเท่าที่ท่านมีประสบการณ์อยู่ในตลาดหุ้นบ้านเรา ศึกษาบริษัทมาหลายๆบริษัทในหลายๆปี  พอจะมีข้อมูลว่าผู้บริหารบริษัทใดบ้างที่มีลักษณะแบบ มิสซิส บี ที่กล่าวข้างต้นบ้างครับ  เผื่อจะเป็นร่องรอยให้ไปศึกษาเพิ่มเติมต่อไป ครับ   แม้จะรู้เพียงระแคะระคายว่า เจ้าของผู้บริหารบริษัทมี passion ต่องาน มากกว่า เงิน  ก็โปรดกรุณาให้ข้อมูล จะขอบคุณมาก

ผู้บริหารบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่มี passion ต่องานของตนเอง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 10:27 am
โดย Simply
ผมยังไม่ได้อ่านครับ...แต่ที่Buffettตอบมานั้น ผมว่ามันคือคำตอบที่แสนจะธรรมดาแต่เต็มไปด้วยความไม่ธรรมดาเลยครับ.ผมอยากได้เจ้าของบริษัทที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของผู้ทำธุรกิจอย่างนี้ ผมล่ะกลัวเจ้าของบริษัทที่ตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อขายเอากำไรเข้ากระเป๋าตัวเอง-ไม่ว่าจะเป็นในรูปของซื้อขายหุ้นเอง หรือเตรียมขายบริษัทให้คนอื่นเพื่อทำกำไร เพราะมันง่ายที่จะได้เงินเข้ากระเป๋ามากกว่าการลงแรง.ผมว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราพอจะรู้คือการเข้าพบกับเจ้าของหรือผู้บริหาร ที่เห็นเรียกกันว่า"Company Visit" หรือ ลองถือหุ้นบริษัทนั้นแล้วเข้าประชุมผู้ถือหุ้น--ซึ่งตัวผมเองคงไม่มีเวลาทำขนาดนั้น เพราะงานประจำก็รัดตัว.
...ขอบคุณมากครับพี่PP ผมตามกระทู้ที่พี่โพสซึ่งได้ความนู้และได้แง่คิดอะไรอีกมาก ยอมรับครับว่าพี่PPก็เป็นนักข้อมูลที่น่าสนใจครับ

ผู้บริหารบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่มี passion ต่องานของตนเอง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 1:34 pm
โดย PP
Simply เขียน:ผมยังไม่ได้อ่านครับ...แต่ที่Buffettตอบมานั้น ผมว่ามันคือคำตอบที่แสนจะธรรมดาแต่เต็มไปด้วยความไม่ธรรมดาเลยครับ.ผมอยากได้เจ้าของบริษัทที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของผู้ทำธุรกิจอย่างนี้..............
ผมว่า Buffett ท่านใช้วิธีสัมผัสกิจการโดยตรงจริงๆ(เพราะกิจการนี้อยู่ใกล้บ้านท่านเอง)  แล้วเอาประสบการณ์ความรู้ด้านธุรกิจเป็นตัวคัดกรองจนมั่นใจในพฤติกรรมของ มิสซิส บี เจ้าของ เนบราสก้า เฟอร์นิเจอร์ มาร์ท ว่ามี passion กับงานกิจการของเธอ สรุปว่าเข้าสเป็คที่ท่านต้องการ  เมื่อตอนซื้อกิจการท่านไม่ดูแม้แต่งบการเงินของบริษัทนี้แม้แต่น้อย และก้อตกลงซื้อขายกันแบบสัญญาลูกผู้ชายเลย  นี่แหละถึงเป็นสุดยอดปรมาจารย์ด้านการลงทุนของโลก
Simply เขียน:......ผมว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราพอจะรู้คือการเข้าพบกับเจ้าของหรือผู้บริหาร ที่เห็นเรียกกันว่า"Company Visit" หรือ ลองถือหุ้นบริษัทนั้นแล้วเข้าประชุมผู้ถือหุ้น--......
เคยอ่านเจอข้อคิดเห็นของเซียนหุ้นในอเมริกาคนหนึ่งบอกว่า การทำ company visit บางทีไอ้ที่พบเป็นแค่ผักชีโรยหน้านะ  ต้องระวัง เนื่องจากทางบริษัทรู้ล่วงหน้าว่าผู้สนใจซื้อหุ้นบริษัทฯจะมาเมื่อไหร่  มีเวลาตระเตรียม จัดฉาก และทำ PR  ฯลฯ เป็นต้น จนอาจทำให้ผู้สนใจซื้อหุ้นหลงไหลคล้อยตามได้

เรื่องการลองถือหุ้นบริษัทที่เข้าตา แล้วติดตามดู   ผมเห็นด้วย และได้ลงมือปฏิบัติซื้อปริมาณเล็กน้อยเพื่อรับรายงานประจำปีไว้ศึกษา  แต่ก็ยังจนด้วยเกล้าว่าจะทราบพฤติกรรมผู้บริหารแบบเจ๋งๆ คงต้องอาศัยเวลาติดตามไปนานๆ กว่าจะเข้าใจทุกแง่มุมของบริษัท

Simply เขียน:.........ขอบคุณมากครับพี่PP ผมตามกระทู้ที่พี่โพสซึ่งได้ความนู้และได้แง่คิดอะไรอีกมาก ยอมรับครับว่าพี่PPก็เป็นนักข้อมูลที่น่าสนใจครับ
ด้วยความยินดี   ดีใจที่มันมีประโยชน์กับผู้ได้อ่าน

ผู้บริหารบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่มี passion ต่องานของตนเอง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 1:36 pm
โดย Jeng
ขอบคุณมากครับ

ผู้บริหารบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่มี passion ต่องานของตนเอง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 3:49 pm
โดย ztep
:P   oishi  น่าจะเข้าเกณนะครับ   :lol:

ผู้บริหารบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่มี passion ต่องานของตนเอง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 4:02 pm
โดย ITTHIP
คิดเหมือนข้างบนเลยครับ แต่ต้องดูความแน่นอนของตลาดชาเขียวในบ้านเราก่อนครับ

ตามความเห็นผมนะครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 4:03 pm
โดย worapong
เจ้าของที่รักที่จะทำงานของเค้าต่อไป มีเยอะเหมือนกันนะครับ เอาเท่าที่ผมรู้ก็มี LH SCC APRINT MATI GRAMMY BEC SE-ED IT MINT CENTEL CPN SCB KBANK SCNYL BIGC HMPRO 7-11 OISHI SSC PB ICC STANLY OCC แล้วก็ยังมีอีกเยอะครับ แต่ตอนนี้นึกออกแค่นี้ครับ ที่จริงผมชอบ LH มากนะครับ แต่มันไม่ใช่เวลาซื้อ LH สำหรับผม ผมรอ fat pitch อยู่ครับ :twisted:  :twisted:  :twisted:

ผู้บริหารบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่มี passion ต่องานของตนเอง

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 6:07 pm
โดย PP
ITTHIP เขียน:...................... แต่ต้องดูความแน่นอนของตลาดชาเขียวในบ้านเราก่อนครับ
อันนี้พิจารณาคล้าย Buffett กล่าวใน Letter to shareholder ปี 79 (http://www.berkshirehathaway.com/letters/1979.html) ซึ่งท่านพูดถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอที่ทำไปก็ได้กระแสเงินสดกลับมาแต่อยู่ในอัตราต่ำ  และท่านไม่ได้โทษบรรดาผู้จัดการโรงงาน(เพราะสุดยอดผู้บริหารถูกดึงมาฟื้นฟูกิจการ Berkshire Hathaway) ท่านมองในประเด็นว่าอุตสหกรรมสิ่งทอของอเมริกาในตอนนั้นย่ำแย่หมดสิทธิแข่งขันกับต่างประเทศ  ดังข้อความในจดหมายฉบับในส่วนของ Textile and Retailing ข้างล่างนี้
Warren Buffeff เขียน:..................
Our textile business also continues to produce some cash,
but at a low rate compared to capital employed.  This is not a
reflection on the managers, but rather on the industry in which
they operate.

.......................................................................
......................................................
จากประสบการณ์ ท่านไม่ยอมแพ้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ตัดสินใจขยายกิจการซื้อ Waumbec Mills ใน Manchester, New Hampshire เพราะเห็นว่าซื้อโรงงานได้ในราคาถูกมากๆเหมือนได้เครื่องจักรมาเปล่าๆโดยหวังว่าจะกอบกู้กิจการสิ่งทอโดยรวมให้ดีขึ้น แต่ที่ไหนได้ พอแก้ปัญหาหนึ่งหมดไป กลับมีปัญหาให้เกิดขึ้นมาอีก   ท่านเลยสรุปว่า แม้จะมีผู้บริหารที่เก่งและทุ่มเทให้กับงานมากเท่าใดก็ตาม หากเข้าไปอยู่ในอุตสาหกรรมที่แย่ก็ไปไม่รอดเหมือนกัน  
Warren Buffett เขียน: .........................
We can speak from experience, having tried the other route.  Your Chairman made the decision a few years ago to purchase Waumbec Mills in Manchester, New Hampshire, thereby expanding our textile commitment.  By any statistical test, the purchase price was an extraordinary bargain; we bought well below the working capital of the business and, in effect, got very substantial amounts of machinery and real estate for less than nothing.  But the purchase was a mistake.  While we labored mightily, new
problems arose as fast as old problems were tamed.
ดังนั้นที่คุณ ITTHIP กล่าวเตือนไว้นั่นดีทีเดียวเลยครับ

Re: ตามความเห็นผมนะครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 28, 2005 6:16 pm
โดย PP
[quote="worapong"]............................. เอาเท่าที่ผมรู้ก็มี LH SCC APRINT MATI GRAMMY BEC SE-ED IT MINT CENTEL CPN SCB KBANK SCNYL BIGC HMPRO 7-11 OISHI SSC PB ICC STANLY OCC แล้วก็ยังมีอีกเยอะครับ ......................... :twisted:

ผู้บริหารบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่มี passion ต่องานของตนเอง

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 29, 2005 11:08 am
โดย Groundhog
เดี๋ยวคุณปัญญากับคุณประภาสจะน้อยใจ ผมขอเสนอ WORK ครับ ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นพิธีกรเอง เป็นผู้ผลิตรายการและเสนอไอเดียเอง พยายามขยายงานใหม่ๆ และภาพพจน์ดีครับ