Thai VI

ผมอยากทราบความเห็นทุกๆท่านครับ

คำถามแรก
ท่านที่ยังถือ ทำไมยังถือครับ ?
ท่านที่เคยถือ แต่ขายไปหมดแล้ว หรือกำลังจะขาย ทำไมขายครับ ?
และ ใครกำลังสนใจจะซื้อครับ ทำไมสนใจจะซื้อครับ ?

คำถามที่สอง
ท่านคิดว่า อะไรเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจของทั้งสองครับ?

คำถามที่สาม
ท่านคิดว่าอะไร เป็นข้อได้เปรียบของความสามารถของประเทศไทย ในการที่ต่างชาติจะต้องมาลงทุนตั้งโรงงานในนิคมในไทยครับ?

คำถามที่สี่
ท่านคิดว่าคู่แข่งของ AMATA และ ROJANA คือ อะไรบ้างครับ?

คำถามที่ห้า
ท่านคิดว่า คู่แข่งของประเทศไทย ในเรื่องการลงทุน มีประเทศอะไรบ้าง และ จุดอ่อนจุดแข็ง ถ้าเทียบกับไทย คือ อะไรมั่งครับ ?

คำถามที่หก
ท่านคิดว่า สนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยเพิ่มความน่าลงทุนในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ครับ?

คำถามข้อที่เจ็ด
มีบางท่านพูดว่า AMATA ได้ประโยชน์จากสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ Rojana เสียประโยชน์ ท่านเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วยอย่างไรครับ

7 คำถามครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับข้อมูลที่นำมาแบ่งปันกันครับผม

http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000146196

กนอ.ชู 3 นิคมอุตฯ ดัน"สุวรรณภูมิ"ขึ้นฮับดูดนักลงทุนใช้ไทยเป็นฐานผลิต



กนอ.ชู 3 นิคมฯ ขึ้นฮับใช้สนามบินเอื้อการลงทุน รับกระแสรัฐบาล จัดตั้งเขตปกครองพิเศษสุวรรณภูมิ มั่นใจเป็นจุดศูนย์กลางทางอากาศดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเทียบเท่าสิงคโปร์-ฮ่องกง

ผมอยากทราบความเห็นทุกๆท่านครับ

คำถามแรก
ผ่าน ไม่มีข้อมูล

คำถามที่สอง
ท่านคิดว่า อะไรเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจของทั้งสองครับ?
ทำเล และ แรงงาน

คำถามที่สาม
ท่านคิดว่าอะไร เป็นข้อได้เปรียบของความสามารถของประเทศไทย ในการที่ต่างชาติจะต้องมาลงทุนตั้งโรงงานในนิคมในไทยครับ?
ค่าแรงบวกคุณภาพของแรงงานมือฝีมือ สรุปคือเรื่องต้นทุนนั้นเอง

คำถามที่สี่
ท่านคิดว่าคู่แข่งของ AMATA และ ROJANA คือ อะไรบ้างครับ?
ในประเทศ ก็นิคมอื่นๆต่างๆ ต่างประเทศคือ ที่ไหนก็ได้ที่ไปแล้วต้นทุนถูกกว่าเรา เช่น จีน  เด๊ยวนี้การย้ายฐานการผลิตทำได้ง่ายๆ

คำถามที่ห้า
ท่านคิดว่า คู่แข่งของประเทศไทย ในเรื่องการลงทุน มีประเทศอะไรบ้าง และ จุดอ่อนจุดแข็ง ถ้าเทียบกับไทย คือ อะไรมั่งครับ ?
จีน ค่าแรงถูก ต้นทุนต่ำ แต่คุณภาพของแรงงานยังด้อยกว่า

คำถามที่หก
ท่านคิดว่า สนามบินสุวรรณภูมิ จะช่วยเพิ่มความน่าลงทุนในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ครับ?
ไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เขาส่งทางเรือนิครับ ได้เยอะกว่าและถูกกว่า

คำถามข้อที่เจ็ด
มีบางท่านพูดว่า AMATA ได้ประโยชน์จากสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ Rojana เสียประโยชน์ ท่านเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วยอย่างไรครับ
ไม่เห็นด้วย Rojana อาจเสียประโยชน์นิดเดียวเรื่องต้นทุนการขนส่งจากโรงงานมาสนามบินที่อาจไกลขึ้น  

7 คำถามครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับข้อมูลที่นำมาแบ่งปันกันครับผม

งูๆปลาๆ จบแล้วครับ ไว้มีข้อมูลมากกว่าแล้วมาว่ากันต่อ

[quote="คัดท้าย"]ขอบคุณ ท่าน CopyWriter ที่ช่วยตอบประเดิม เจิมกระทู้ให้ครับผม

ตามมารับข้อมูล

อิอิ

 :D  :D

ตอบแค่คำถามข้อแรกนะครับ
ยังถือน้องรจนาเพราะน้องเค้ายังถือหุ้นไทคอน จะขายเมื่อไหร่เหรอครับก็จนกว่าน้องรจนาจะเลิกถือหุ้นไทคอนนั่นแหละครับ หรือขายเมื่อมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้น้องรจนาน่าเกลียดน่ากลัวครับ  :D

[quote="Hero_man"]ตอบแค่คำถามข้อแรกนะครับ
ยังถือน้องรจนาเพราะน้องเค้ายังถือหุ้นไทคอน จะขายเมื่อไหร่เหรอครับก็จนกว่าน้องรจนาจะเลิกถือหุ้นไทคอนนั่นแหละครับ หรือขายเมื่อมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้น้องรจนาน่าเกลียดน่ากลัวครับ

สำหรับอุตสาหกรรมอีเล็คทรอนิคส์ โดยเฉพาะ Semiconductor เขาขนส่งกันทางเครื่องบิน นิคมที่อยู่ใกล้สนามบินย่อมได้เปรียบ

แล้ว NCL จะลงมั้ยครับ

สำหรับ rojana ผู้ร่วมทุนซึ่งเป็นญี่ปุ่นและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในอันดับที่ 1 อยู่ในขณะนี้ มีความสามารถสูงในการติดต่อกับนักลงทุนญี่ปุ่นที่สนใจมาลงทุนตั้งโรงงานในไทย เป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งของ rojana ที่ไม่ควรมองข้าม ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งครับ

อ่านมาหลายความเห็น ... ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ ความสามารถ ในการแข่งขันด้านการลงทุนตั้งโรงงานเลยครับ  

ใครทราบบอกทีครับ ถ้าเทียบกับ จีน เวียดนาม มาเลเซีย ... เราดี หรือ ด้อย กว่าอย่างไร มีใครพอทราบมั้ยครับ

เนรมิตเมืองอมตะดันรายได้

โดย ผู้จัดการรายวัน 25 ตุลาคม 2548 10:03 น.


      ผู้จัดการรายวัน " อมตะ " ชี้ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมกำลังแข่งขันในระดับประเทศ หลังเพื่อนบ้านแห่เปิดประเทศ ส่วนสิงคโปร์เปิดเกมรุกใช้ภาษีดึง โปรเจกต์ยักษ์คุณภาพดี แนะรัฐบาลไทยใช้ภาษีจูงใจเงินลงทุนโดยตรง (FDI) วางแผนเนรมิตอมตะเป็นเมืองไม่ใช่นิคมอุตสาหกรรมอย่างเดียว หลังสุวรรณภูมิเปิด นำที่ดินกว่าพันไร่สร้างรายได้ด้านบริการแทนการขายพื้นที่ เตือนปัญหาน้ำภาคตะวันออกเป็นระเบิดเวลาเศรษฐกิจ ส่วน"อมตะ"ไร้ปัญหาลงทุนขุดบ่อไว้กว่า 1 พันล้านบ.รองรับปัญหาขาดน้ำฝนไม่ตกปีครึ่งลูกค้ามีน้ำใช้ ฟุ้งกำลังเจรจาลูกค้าอีก 10 ราย ซื้อที่
     
       นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยถึงการแข่งขันในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ว่า จากนี้ไปจะไม่ได้เป็นการแข่งขันกับผู้ประกอบการในประเทศ แต่จะเป็นการแข่งขันกับต่างประเทศ เนื่องเพราะปัจจุบันประเทศต่างๆ ได้เปิดประเทศดึงดูดให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในประเทศของตนเองมากขึ้น โดยมีการให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเป็นเครื่องจูงใจสำหรับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่
     
       " ภาพรวมการลงทุนในขณะนี้ ประเทศไทยมีคู่แข่งที่สำคัญ คือ ประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สูงกับโครงการที่ดี ๆ ส่วนประเทศอื่น ๆ อย่างเช่น เวียดนามที่เปิดประเทศ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อไทยมากนัก เนื่องจากปัจจุบันระบบการปกครองยังไม่เอื้ออำนวยมากนัก ขณะที่ประเทศอินเดีย ที่มีการเปิดเสรีการค้า (FTA ) และประเทศจีน ยังมีเรื่องของการควบคุมความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ทำให้มีข้อจำกัดการลงทุนเกิดขึ้น โดยจะไม่ออกใบอนุญาตการลงทุนให้ ซึ่งเป็นเหตุให้นักลงทุน ต้องหันมาลงทุนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศที่อยู่ในจุดที่จะได้รับความสนใจในระดับต้น คือ ไทย "นายวิบูลย์กล่าว
     
       แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยจะแข่งขันกับต่างประเทศ โดยการชักชวนให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยนั้น มาตรการช่วยเหลือและจูงใจที่ดีที่สุด คือ ภาษี เพราะเมื่อนักลงทุนจะเข้าลงทุนนั้นจะต้องมีการเปรียบเทียบการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนต่างประเทศไม่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยก็จะทำให้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI)ของไทยไม่ค่อยดี
     
       ก่อนหน้านี้บริษัทได้เคยหารือกับรัฐบาลเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีคลังจึงยังไม่มีข้อสรุปใด ๆ ออกมา อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยนั้นส่วนใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา คือ ประเทศไต้หวัน
     
       นายวิบูลย์ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมของบริษัทที่ผ่านมาได้จัดเตรียมที่ดินไว้รองรับการพัฒนา ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินอยู่ในมือแล้วจำนวนหลายพันไร่ สำหรับการรองรับการพัฒนาไปอีก 4-5 ปี โดยบริษัทมีเป้าหมายการพัฒนาสู่ Perfect City เนื่องจากขณะนี้สภาพแวดล้อมของนิคมอุตสาหกรรมค่อนข้างดี จากการที่จะเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะทำให้มีความสะดวกในการเดินทาง
     
       อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีแผนที่จะปรับขึ้นราคาของที่ดินนิคมอุตสาหกรรม เพราะก่อนหน้านี้ได้ปรับขึ้นราคาไปแล้ว เพื่อรองรับกับสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ทั้งนี้จะปรับขึ้นอีกหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการแข่งขันกับต่างประเทศ โดยขณะนี้ราคาพื้นที่อยู่ที่ไร่ละ 4 ล้านบาท
     
       ทางด้านสถานการณ์น้ำในภาคตะวันออกนั้นสำหรับบริษัทอมตะนั้นไม่มีปัญหา เพราะบริษัทตระหนักถึงพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของการจัดการที่ดี โดยเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานั้น บริษัทได้มีการขุดบ่อน้ำขนาด 6 ล้านคิว ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ฝนไม่ตก 1.5 ปี ก็ยังมีน้ำเพียงพอต่อการใช้ของโรงงานในนิคมฯที่มีจำนวน 500 โรงงาน
     
       " ปัญหาเรื่องน้ำแล้งถือว่าเป็น ระเบิดเวลาเศรษฐกิจของไทย เพราะในภาคตะวันออกนั้นมีโรงงานใหญ่ๆ ถ้าน้ำไม่เพียงพอใช้ก็จะทำให้ต้องปิดโรงงานซึ่งจะไปกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ จังหวัด ชลบุรี และ ระยอง ซึ่ง 2 จังหวัดรวมกันคิดเป็นโรงงาน 51%ของภาคตะวันออก "
     
       นายวิบูลย์ กล่าวอีกว่า ถึงขณะนี้บริษัทก็ยังมีแผนขยายการกักเก็บน้ำให้มากขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการใช้เพื่อเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลา ให้นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในนิคมฯมีความมั่นใจ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับน้ำที่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก 60% ซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นอยู่ในแผนของบริษัทย่อย คือ บริษัทอมตะเพาวเวอร์ ซึ่งแทนที่บริษัทจะหาน้ำมาใช้อีก 100% บริษัทก็แค่หามาเพิ่มเพียง 40% เท่านั้น เพื่อให้ครบ 100%
     
       นอกจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอมตะให้เป็นเมือง ให้มีกิจกรรมต่างๆ โดยบริษัทจะกันพื้นที่ไว้สำหรับการพัฒนาเชิงพาณิชย์ หลาย 100 ไร่ ไร่ละ 10 ล้านบาท เพื่อให้เช่าหรือ ร่วมลงทุน(Jointventure) ซึ่งรายได้ดังกล่าวเป็นรายได้จากค่าบริการ ซึ่งคาดว่ารายได้ดังกล่าวในอนาคตจะสูงกว่ารายได้จากการขายพื้นที่ เพราะรายได้ค่าบริการจะมีอย่างต่อเนื่อง แต่รายได้การขายพื้นที่จะรับรู้เพียงครั้งเดียว ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีการให้บริการด้านน้ำมัน แม่บ้าน ไฟฟ้า พื้นที่เชิงพาณิชย์ แก๊สธรรมชาติ ที่อยู่อาศัย ฯลฯ อยู่แล้ว
     
       ส่วนเป้าการเติบโตรายได้แต่ละปีบริษัทตั้งเป้าโตประมาณ 20% ซึ่งสอดคล้องกับการให้ BOI ของรัฐบาล ที่ให้ถึงปี 2552 แต่ปีนี้คาดว่าสูงกว่า 20% จากปี 47 ที่มีรายได้ 3,005.66 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 927.07 ล้านบาท ครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 2,534.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.61% จากงวดเดียวกันปีก่อน มีกำไรสุทธิ 624.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.08% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะ บริษัทสามารถขายพื้นที่ได้จำนวนมาก และขณะนี้กำลังเจรจากับลูกค้าอีก ประมาณ 10 ราย ซึ่งมีโอกาสที่จะขายได้ โดยไม่รวมลูกค้าญี่ปุ่น โดยมีมูลค่าประมาณ 1,500-1,600 ล้านบาท
     
       ทั้งนี้ ธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในปี 49 นั้นคาดว่าส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนักลงทุนเข้ามาก็กระจายหลายประเทศ เช่น อเมริกา , ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ จากที่ปีนี้นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนจะเป็นธุรกิจยานยนต์
     
       ส่วนราคาหุ้น AMATA ที่เคยเคลื่อนไหวไปสู่ระดับ 14-15 บาทและกลับมาซื้อขายในระดับ 11-12 บาทในปัจจุบัน นายวิบูลย์ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจว่าหุ้นของอมตะมักเคลื่อนไหวสวนทิศทางดัชนีโดยรวมเสมอ และไม่ค่อยเคลื่อนไหวหวือหวา ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในบริษัทนั้นจะถือหุ้นระยะยาว ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังต้องนำหุ้นออกมาขาย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องหุ้นของบริษัทดีขึ้น แต่ก็เคลื่อนไหวไม่นานก็นิ่งอีก เพราะหุ้นของบริษัทเป็นหุ้นที่ดีมีการจ่ายปันผลต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมานั้น บริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง ซึ่งปี 47 บริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผล จำนวน 550 ล้านบาท หรือจ่ายหุ้นละ 0.55 บาท จากทุนจดทะเบียนที่ 1,670 ล้านบาท

[quote="คัดท้าย"][quote="Hero_man"]ตอบแค่คำถามข้อแรกนะครับ
ยังถือน้องรจนาเพราะน้องเค้ายังถือหุ้นไทคอน จะขายเมื่อไหร่เหรอครับก็จนกว่าน้องรจนาจะเลิกถือหุ้นไทคอนนั่นแหละครับ หรือขายเมื่อมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้น้องรจนาน่าเกลียดน่ากลัวครับ

บทความที่คุณ Woody เอามาให้อ่านดีมากเลยครับ

ผมอ่านเจอว่า รัฐบาลกำลังจะลด ภาษีนำเข้าวัตถุดิบของพวกกลุ่มอิเล็กโทรนิกลงอีก ข้อนี้อาจจะดึงดูดการลงทุนในกลุ่มนี้เพิ่มเข้ามาได้

ว่าแต่ Rojana หรือ Amata จะดึงลูกค้าใหม่ ได้มากกว่ากันนะ อืมม ... คิดไม่ออก ...

ได้ยินจากคุณ Mr.Big ว่า ตอนไทยไปโรดโชว์ หุ้นไทยที่ตปท นักลงทุนพวกสิงคโปร์ จีน ไต้หวัน สนใจกลุ่มนิคมเมืองไทยมากๆ ผมเองก็ฟังแล้ว ยังสงสัยว่าเราได้เปรียบยังไงเหมือนกันนะ  :?:

ผมว่าแปลกที่ไม่มีใครคิดไปทำนิคมในอินเดีย


แปลกจัง  ถ้ามีใครกล้าจะลงทุน

คนทำต้องเป็นคนอินเดียหรือเปล่าคับ

Rojana เองยังหนีไปทำนิคมในเมืองจีนเลยนะครับ

CopyWriter เขียน:Rojana เองยังหนีไปทำนิคมในเมืองจีนเลยนะครับ

AMATA ไปเวียดนาม ROJANA ก็ไปจีน ... จีน vs เวียดนาม อะไรดีกว่ากันครับ ?

อืม พี่ hot ถามถึงอินเดียผมเคยอ่านเจอใน FT นะครับ ได้ความพอสังเขปว่า Infrastructure ยังสู้จีนไม่ได้ครับ โดยเฉพาะระบบ Transportation อีกทั้งการเมืองที่แม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีประชากรมากที่สุด แต่ความเป็นจริงแล้วยังไม่ค่อยพัฒนาครับ ถ้าจะพัฒนาได้ก็คือเรื่อง IT ครับ

เรื่อง IT นี่อินเดีย ถือเป็นสุดยอด
โปรแกรมเมอร์มือฉมังทั้งหลายในโลกตอนนี้ ผมว่าอยู่ในอินเดียเกือบครึ่งนึง

เจ้าตลาดใน USA ก็ outsource งานด้านนี้มาที่อินเดียเกือบหมดแล้ว ไม่เว้นแต่ Microsoft

ไม่รู้ซิคับ

ที่ที่มีการแข่งขันสูง เพื่อความอยู่รอด

ที่นั่นจะเกิดอฉริยะ ทางปัญญาเกิดขึ้น
เสมอ  อาจมีนักธุรกิจ  สุดยอดเกิดทีนั่นก็ได้นะคับ

ฮฺ

ไม่ตอบเป็นข้อๆนะ เอาแบบรวมๆละกัน

ถ้าเปิดแผนที่ดูจะเห็นว่า ปลายแหลมมาลายูนี่มันยื่นขวางทางเดินเรือจากฝั่งยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย ที่จะเดินทะเลมาขายของที่ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวันและจีน ที่ผ่านมาสิงคโปร์เอาไปกินหมด เพราะไทยไม่ยอมขุดคลองขอดกละ

เมื่อจีนเปิดประเทศ ทางเชียงรายเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางถนน และน่าจะทางรางในอนาคต

ทางอากาศ ดูจากแผนที่แล้ว ไทยเป็นศูนย์กลางที่จะเดินทางไป ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น พม่า เกาหลี

แหล่งท่องเที่ยว ที่น่าสนใจ ที่เขมร พม่า ลาว ผ่านไทยหมด

คิดดูเอง ละกัน

หรือเป้าหมาย
คือ

แหลมอินโดจีนทั้งหมด

อ้าว แล้วทำไมเขาไม่เดินทางตรงไปประเทศ เหล่านั้นเลยละครับ ทำไมต้องให้ไทยเป็นทางผ่าน

ถ้าไม่มีบินตรง ต่อไปถ้าความต้องการเดินทางมากขึ้น ผมว่าเด๊ยวก็มีคนบินตรงเอง

ถ้าเขาใช้แค่ ผ่านทาง ไทยจะได้ประโยชน์แค่ทางธรรมเนียม ต้องการแค่นั้นเองเหรอ!!!!

hot เขียน:หรือเป้าหมาย
คือ

แหลมอินโดจีนทั้งหมด

ถ้าเป้าหมายคือ การกระจายสินค้า .... โกดัง น่าจะ รุ่งกว่าโรงงานซิครับเนี่ย ... อยู่ที่ว่า ข้อนี้เป้นจริงหรือไม่

แต่ถ้าคิดว่ามาลงทุน ทำสินค้า เพื่อขายในแหลมอินโดจีน ... จะลงทุนเพื่อทำอะไรขายกันครับ ?

CopyWriter เขียน:อ้าว แล้วทำไมเขาไม่เดินทางตรงไปประเทศ เหล่านั้นเลยละครับ ทำไมต้องให้ไทยเป็นทางผ่าน

ถ้าไม่มีบินตรง ต่อไปถ้าความต้องการเดินทางมากขึ้น ผมว่าเด๊ยวก็มีคนบินตรงเอง

ถ้าเขาใช้แค่ ผ่านทาง ไทยจะได้ประโยชน์แค่ทางธรรมเนียม ต้องการแค่นั้นเองเหรอ!!!!

ตรงประเด็นเลยครับ คุณ CopyWriter ผมก็สงสัย ว่าทำไมต้องผ่านไทย ผมถึงถามตัวเองมาตลอด ว่า Hub Logistic นี่คืออะไร

ถ้าเวียดนาม ลาว กัมพูชา ไม่มีสนามบิน ผมคงตอบคำถามตัวเองได้เร็วกว่านี้นะ แต่นี่ เครื่องบินลงได้หมด มันจะลงสุวรรณภูมิเพื่อต่อรถไปทำไมครับ งง ...

เอ ... เมื่อกี้มานั่งคิด ... Hub Logistic ... ทำไมต้องมาไทย

.. อืม พอคิดได้ดังนี้ คือ ไม่มี Flight ตรงไปประเทศเพื่อนบ้านจากหลายๆที่ ด้วยอาจไม่คุ้มค่าในการบิน แต่ว่าบินมาสุวรรณภูมิแล้วคุ้ม แล้วค่อยกระจายด้วยรถ ออกไปอีกที

คิดได้แค่นี้ ... มีอะไรอย่างอื่นมั้ยครัย คุณ มน

เมื่อกี้ไป BOI มา ว่าเมืองไทย มีอะไรดี ในการลงทุน เค้าว่างี้ครับ

คำเตือน : ที่ท่านกำลังอ่านต่อไปนี้ เป็นโฆษณานะครับ

http://www.boi.go.th/english/why/thaila ... ntages.asp

Thailand's Advantages

ตามนั้นแหละ ท่านคัดฯ รู้แต่พวกญี่ปุ่น ฝรั่ง
เวลาโดนย้ายไปประเทศอื่น น้ำตาร่วงกันหมด
ไม่อยากไปอยู่ประเทศอื่นเลย (สงสัยมีเมียน้อยอยู่เมืองไทย ฮา)

ผมว่าการลงทุนในนิคมคงเลือกกันไม่ผิด

แต่จะได้ตรงราคาไหนเนี่ยะอ่ะ
ท่านคัดฯ ช่วยบอกราคาเป้าผมที
ไม่เอากาทู้ล่อเป้า จาเอาเป้าเลย เท่าไรดี

ไม่ต้องมีเหตุผล //ฮ่าฮ่าฮ่า

:lol:  :lol:  :lol:

[quote="buglife"]ตามนั้นแหละ ท่านคัดฯ รู้แต่พวกญี่ปุ่น ฝรั่ง
เวลาโดนย้ายไปประเทศอื่น น้ำตาร่วงกันหมด
ไม่อยากไปอยู่ประเทศอื่นเลย (สงสัยมีเมียน้อยอยู่เมืองไทย ฮา)

ผมว่าการลงทุนในนิคมคงเลือกกันไม่ผิด

แต่จะได้ตรงราคาไหนเนี่ยะอ่ะ
ท่านคัดฯ ช่วยบอกราคาเป้าผมที
ไม่เอากาทู้ล่อเป้า จาเอาเป้าเลย เท่าไรดี

ไม่ต้องมีเหตุผล //ฮ่าฮ่าฮ่า

:lol: