Thai VI

ส่วนเกินมูลค่าหุ้นที่ปรากฏในงบการเงิน  หมายความว่าอย่างไร  มีมากดี หรือ ไม่ดี ครับ

เกิดจากการขายหุ้นเพิ่มทุนที่ราคาสูงกว่าราคาพาร์ครับ

เช่นพาร์ 10 บาท แต่ขายหุ้นใหม่ในราคา 15 บาท
ส่วนเกิน 5 บาทคือส่วนเกินมูลค่าหุ้น

หากขายหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่าราคาพาร์ จะเกิดส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น เคยเกิดขึ้นในกรณีการปรับโครงสร้างหนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นเพิ่มทุนถูกๆให้เจ้าหนี้ครับ แต่ปกติแล้วบริษัทจะขายหุ้นที่สูงกว่าราคาพาร์แทบทั้งสิ้นครับ

การขายหุ้นสูงกว่าราคาพาร์ ดีสำหรับผู้ถือหุ้นเดิมแน่ๆครับ เพราะได้เงินใหม่จากผู้ถือหุ้นใหม่ที่ยอมซื้อหุ้นราคาแพงกว่าเจ้าของเดิม

ขอบคุณคุณลูกอีสานมากครับ ผมไม่เข้าใจคำนี้มานานแล้วแม้พยายามอ่านจากหนังสืองบการเงิน
อยากขออนุญาตถามต่อดังต่อไปนี้
1 กำไรสะสมที่จัดสรรแล้ว คือส่วนที่จะนำไปลงทุนในปีนี้หรือจ่ายปันผลใช่หรือไม่ครับ
2 เงินสดต่อหุ้นได้จากเอาเงินสด ลบ หนี้สั้นและหนี้ยาว หารด้วยจำนวนหุ้นใช่หรือไม่ครับ

poppo เขียน:ขอบคุณคุณลูกอีสานมากครับ ผมไม่เข้าใจคำนี้มานานแล้วแม้พยายามอ่านจากหนังสืองบการเงิน
อยากขออนุญาตถามต่อดังต่อไปนี้
1 กำไรสะสมที่จัดสรรแล้ว คือส่วนที่จะนำไปลงทุนในปีนี้หรือจ่ายปันผลใช่หรือไม่ครับ
2 เงินสดต่อหุ้นได้จากเอาเงินสด ลบ หนี้สั้นและหนี้ยาว หารด้วยจำนวนหุ้นใช่หรือไม่ครับ

1.ปกติ กิจการเมื่อทำกำไรได้ก็จะทบเข้าไปที่ส่วน กำไรสะสม หากกิจการกำไรเพิ่มทุกปี ส่วนกำไรสะสมก็จะเพิ่มทุกปีเช่นกัน การที่ส่วนนี้จะลดลงจะเกิดจากการขาดทุนหรือการจ่ายออกมาเป็นเงินปันผลครับ และกำไรสะสมจะแยกเป็นส่วนที่จัดสรรแล้ว และส่วนที่ยังไม่จัดสรร ผมเข้าใจว่าเป็นการแยกเพื่อให้มีความชัดเจนครับ ว่ากำไรที่หาได้ ใช้ไปแล้วเพื่ออะไรไปบ้าง ไม่แน่ใจนะครับ

กำไรที่จัดสรรแล้ว มักจะเป็นดังนี้ครับ

-จัดสรรเพื่อสำรองตามกฎหมาย ปีละประมาณ 10% จนครับ 10% ของทุนจดทะเบียน ตัวเลขไม่แน่ใจครับ กฎหมายกำหนดไว้อย่างนี้ เพื่อความมั่นคงของกิจการ ความอุ่นใจของเจ้าหนี้ครับ

-จัดสรรเพื่อสำรองเพื่อขยายงาน หรือสำรองทั่วไป บริษัทที่มีรายการอย่างนี้ มีไม่มากครับ เช่น tr sccc ก็สำรองไว้ตามวัตถุประสงค์ครับ แต่บริษัททั่วไปส่วนใหญ่การขยายกิจการ มักไม่มีการตั้งสำรองอย่างนี้ครับ

2.เงินสดต่อหุ้น ก็นำรายการที่เป็นเงินสด หรือรายการที่ใกล้เคียงเงินสด เช่น เงินลงทุนระยะสั้น มารวมกัน หารด้วยจำนวนหุ้นครับ  แต่หากจะหาเงินสดสุทธิต่อหุ้นก็นำไปลบหนี้เงินกู้(สั้น+ยาว) หรือหนี้สินทั้งหมด แล้วหารด้วยจำนวนหุ้น ก็แล้วแต่ความต้องการครับ

ส่วนใดไม่ถูกต้อง ผู้รู้ทักท้วงด้วยนะครับ

[/quote] รายการที่จะเอามาคิดเป็นเงินสดนี่ประกอบด้วยเงินสด และพวกตั๋วเงินที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันทีเท่านั้นใช่ไหมครับ ไม่นับพวกลูกหนี้ สินค้าคงคลังและอสังหาริมทรัพย์ใช่ไหมครับ

ขอบคุณ คุณลูกอิสาน มากครับ

ใช่ครับ ปกติสินทรัพย์ประกอบด้วย
-สินทรัพย์หมุนเวียน (อาจจะใช้ไปภายใน 1 ปี) เช่น สินค้าคงเหลือ ลูกหนี้ เงินสด เงินลงทุนระยะสั้น
-สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (ไม่ใช้ไปภายใน 1 ปี) เช่น อาคาร ที่ดิน เงินฝากประจำ เป็นต้น