Thai VI

BIGC ถือว่าเป็นผู้ชนะในธุรกิจ Discount Store แล้วหรือยัง

LOTUS น่าจะเป็นผู้ที่มีสัดส่วนยอดขายและจำนวนพื้นที่ขายมากสุด

พอดีเห็นทาง ดร.นิเวศน์เขียนเรื่องสเปควันนี้  แล้วนึกได้ว่าท่านก็ลงทุนใน BIGC พอควร

ในธุรกิจนี้ก็มีผู้แข่งแค่ 3 รายเองนะ

นั่นสิครับ ผมเห็นด้วยกับพี่ฉัตรชัยนะ

โลตัสดูสาขาพนักนิคม ชลบุรีพึงเปิดอีกที่นะ

แต่ธุรกิจนี้  กำไรเยอะขึ้นเพราะขยายสาขามาก
ที่สุดเพียงอย่างเดียวหรือคับ

ผมคิดว่าเป็นผู้ชนะนะครับ

หมายถึงชนะพวกโชห่วย ร้านค้ารูปแบบเก่า

และโดยปกติ ธุรกิจที่มีขนาดใหญ่มากๆ อย่างค้าปลีก
ก็เป็นธรรมดาที่จะมีผู้เล่นมากกว่า 1 ราย
แต่ก็คงไม่สามารถที่จะมีหลายรายได้
ด้วยเหตุผลด้านการประหยัดจากขนาด
ตอนนี้มี 3 ราย ก็ดูสมเหตุสมผลดี ครับ

โค้ก-เป็ปซี่ ใครเป็นผู้ชนะ
เบนซ์-โรลลอย-ปอร์เช่ ใครเป็นผู้ชนะ
ถ้าเทียบbigc-lotus ต้องถือว่าเป็นผู้ชนะตนเองทั้งคู่ เพราะแต่ละแห่งได้ฝังความรู้สึกนึกคิดเข้าไปในจิตใจผู้บริโภคเรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ใครจะรักษาจุดยืนของตัวเอง และสร้างฐานที่มั่นของลูกค้าไว้ได้ต่อเนื่องตลอดไปเท่านั้นเอง ใหญ่หรือเล็กไม่ได้เป็นปัจจัยหลักว่าแพ้หรือชนะ

ครับ ผมก็ว่าเป็นหนึ่งในผู้ชนะแล้วหละ อนาคตยากที่ใครจะมาล้มแชมป์กลุ่มนี้ได้

หุ้น ผู้ชนะ (Winners) คืออะไร ?

ได้ยินอาจารย์แกบอกว่า BIGC, STANLY คือผู้ชนะ   ผมเข้าใจว่ามันคือหุ้นที่มีความสามารถในการแข่งขันและให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว เป็นหุ้นหลายเด้ง

คือต้องชนะสงคราม แล้วได้ทรัพยากรมา
ถ้าชนะสงครามแล้วบาดเจ็บหนัก  ก็คงสรุปว่าชนะไม่ได้หรอก  เพราะแผลอาจเป็นบาดทะยักตายได้

แล้วเรื่องผังเมืองมีผลกระทบเยอะไหม

เห็น ดร.มีแนวคิดเหมือนปีเตอร์ ลินซ์  ที่ว่าสาขาหนึ่งประสบความสำเร็จ  ย่อมแสดงถึงความสำเร็จในสาขาต่อๆไป

แต่เท่าที่ผมเห็น  ผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 3  ต้องออกแบบ Model ธุรกิจใหม่  ทั้งลดขนาด  และไปแข่งขันในตลาดอื่น เช่น CP7-11  

แสดงถึงอัตราการขยายสาขาในรูปแบบเดิมลดลงแล้ว  อีกทั้งรูปแบบใหม่จะประสบความสำเร็จหรือไม่  เป็นความเสี่ยงหรือเปล่า

โลตัสเปิดอีกที่ บ้านบึง ชลบุรี

ชลบุรี ของกินเพียบฮิ

พี่ฉัตรชัยครับผมว่าการลดรูปแบบ หรือการเปลี่ยนขนาดในการทำธุรกิจ เปรียบเสมือนการมีจุดยืน(นโยบาย)ที่มั่นคง แต่มีกลยุทธ์ที่หลากหลายมากกว่าครับ
จุดแข็งจุดยืนของธุรกิจโมเดอร์นเทรดที่ประสบความสำเร็จที่เห็นชัดคือ
1.ประหยัดจากขนาดและการต่อรองจากซัพพลายเออร์
2.การวาง logistic ในการดำเนินธุรกิจ
3.การวางบุคคลากรและการจัดการในการบริหารงาน
4.การวางตำแหน่งในจิตใจของผู้บริโภค

แต่ผมว่าหลักการทำธุรกิจระหว่าง Discount Store กับ Supermarket หรือ ร้านสะดวกซื้อเปิด 24 ช.ม. คงไม่เหมือนกัน

ถ้าให้เลือกได้  ทุกคนก็คงยังอยากจะอยู่ในส่วนที่ตัวเองถนัดและได้เปรียบ

ผมขอฟันธงว่า
โลตัสทิ้งห่างบิ๊กซีไปหลายขุม
นี่ก็กำลังแพร่ระบาด
ลงไปท้าดวลกับโชวห่วย ถึงห้องแถวแล้ว

ดูแค่บัตรอาหารของโลตัสก็พอ
โลตัสบริหารศูนย์อาหารเอง
บัตรแบบมีโปรโมชั่น ๕๐ บาทแถม ๑๐ บาท
มีอายุใช้งานนานถึง ๓๐ วัน
บัตรแบบปกติ  
มีอายุใช้งานถึง  ๑๘๐ วัน

เห็นที่อื่นมีแต่เขียนคำขู่ไว้เสร็จสรรพ
ไม่ขอคืนเงินภายในเวลา..... ถือว่าสละสิทธิ์
 :roll:  :roll:  :roll:  :roll:  :roll:

[quote="คลายเครียด"]ผมขอฟันธงว่า
โลตัสทิ้งห่างบิ๊กซีไปหลายขุม
นี่ก็กำลังแพร่ระบาด
ลงไปท้าดวลกับโชวห่วย ถึงห้องแถวแล้ว

ดูแค่บัตรอาหารของโลตัสก็พอ
โลตัสบริหารศูนย์อาหารเอง
บัตรแบบมีโปรโมชั่น ๕๐ บาทแถม ๑๐ บาท
มีอายุใช้งานนานถึง ๓๐ วัน
บัตรแบบปกติ

อืม........

คู่แข่งหน้าใหม่ๆ ไม่น่ากลัวเท่าไหร่แล้วเนาะ  

จ้าวเก่าๆด้วยกันนี่สิ น่ากลัวกว่าเยอะ เพราะต้างก็เก่งด้วยกันและชนะสงครามมาด้วยกัน  หวังว่าคงหาทางครองเมืองด้วยกันได้  หรือจะถึงขั้นต้องฆ่ากันต่อไปแบบเสือสองตัว(หรือหลายตัว)อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้

แต่แนวโน้มที่จะอยู่ร่วมกันแบบ win-win น่าจะสูงกว่าหน่อยๆ  ..... เดาเอา

ผมคิดว่าผู้ชนะในตลาดนี้น่าจะเป็น  Lotus กับ TOP ครับ

ถ้าเราจะได้ซื้อในตลาดก็คงเมื่อเขาขยายตลาดไม่ออกยอดขายไม่โตแล้วมั้ง  

BigC น่าจะเป็นระดับกลาง ๆ   บางสาขาก็คนเยอะ  บางสาขาก็น้อย   ในความรู้สึกคือราคาไม่ถูกเท่า makro, lotus   ราคาใกล้เคียงกับ TOP แต่ TOP หาซื้อได้สะดวกกว่า เพราะสาขาเยอะแถมอยู่ในห้าง

โดยส่วนตัวเดี๋ยวนี้ผมไป BigC ค่อนข้างน้อย   เพราะถ้าไหน ๆ ขับรถไป ก็ไป Lotus หรือ Makro ดีกว่า

บางทีต้องระวังเหมือนกันครับ อย่างใน US ...เราบอก WalMart Win เป็นผู้ชนะ แต่เราก็ลืมว่า ผู้แพ้นี้เจ๊งเลยนะครับ ไม่จำเป้นต้อง Win-Win ...

มีใครได้ตามข่าว K Mart บ้างมั้ยครับ .. เจ๊งนะครับ ...

ผมว่าเอเซีย คงไม่เล่นกันแรงเหมือนพวกผมทองเค้าเล่นกันมั้ง เอากันถึงเจ๊งนะ

อ้อ ผู้ชนะอีกคนอาจจะเป็น JET มั้งครับ   เวลาไปต่างจังหวัดต้องแวะปั๊ม JET เพราะซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างเขาทุกที    :lol:

ผมว่าเอเซีย คงไม่เล่นกันแรงเหมือนพวกผมทองเค้าเล่นกันมั้ง เอากันถึงเจ๊งนะ

พวกผมทองก็มีแบบไม่ถึงขั้นเจ๊งนะ แบบ win-win ก็มี อย่างเช่นโค้กกับเป๊บซี่

ผมเดาว่าสุดท้ายผลประโยชน์ของตัวองย่อมสำคัญเหนืออื่นใด ถ้าเชือดอีกฝ่ายให้เจ๊งได้ก็คงเชือดตามธรรมชาติของทุนนิยม  แต่ถ้าสูสีกันเชือดกันไม่ลงหรือเชือดแล้วโดนเชือดกลับแล้วเจ็บตัวทั้งสองฝ่าย ก็อาจจะประนีประนอมถ้อยทีถ้อยอาศัย


ตามสไตล์ของทุกธุรกิจ ผลประโยชน์ของตัวองย่อมสำคัญเหนืออื่น

แต่ก็อย่างน้องคัดท้ายว่า  bigc เผลอเมื่อไหร่ก็อาจจะโดนเสียบได้ตลอดเวลา  ยิ่งตอนนี้ตกเป็นรองโลตัสพอสมควร

[quote="สามัญชน"]แต่ก็อย่างน้องคัดท้ายว่า

ตอนนี้ไอทีก็ยังดีอยู่ ครองตลาดเป็นอันดับหนึ่ง

แต่ถ้ากลุ่มเซนทรัลเข้ามาแจม หรือกลุ่มอื่นๆทั้งจากในและต่างประเทศมาร่วมวงไพบูลย์จนเกิดสงครามก็น่ากลัวเหมือนกันครับ

ไอทียังไม่เคยผ่านสงคราม  เจอแต่การสู้รบเล็กๆน้อยๆ ไม่รู้ว่าถ้าเจอสงครามจริงๆจะเป็นอย่างไร

bigc lotus ผ่านสงครามมาแล้ว และก็ชนะมาด้วย ซึ่งเป็นข้อดี  แต่ก็มีข้อเสีย คือว่า พอใหญ่มากๆแล้ว การที่จะใหญ่กว่าเดิมให้ได้4-5เท่าก็ค่อนข้างยาก

แต่ไอทียังเล็กอยู่ การขยายตัวมากๆก็เป็นไปได้ง่ายกว่า

อืม.......กลายเป็นยืมกระทู้คุณฉัตรชัยเข้าข้างหุ้นตัวเองซะเลย  :!:

ผมมองว่า bigc สามารถโตได้สองทาง

1. ขยายสาขาให้มากขึ้น

2. เพิ่มยอดขายในแต่ละสาขา

วิธีแรกอาจจะยากที่จะโตได้สองเท่าในระยะเวลาอันสั้น  และก็ใช้เงินลงทุนไม่น้อยเลย

วิธีที่สองถ้าเพิ่มยอดขายได้โดยไม่ได้ตัดราคา  จะให้ผลกำไรที่สูงขึ้นเยอะเลย  เนื่องจากค่าใช้จ่ายจะเพิ่มในส่วนที่เป็น variable cost  ส่วน fixed cost อาจจะเพิ่มไม่มาก กำไรจะโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียวนะ ผมว่า

ปล.ไอทีก็เช่นเดียวกัน

สามัญชน เขียน:ผมมองว่า bigc สามารถโตได้สองทาง

1. ขยายสาขาให้มากขึ้น

2. เพิ่มยอดขายในแต่ละสาขา

อย่าลืมอีกทางครับ รวมกิจการกับคนอื่นก็เป็นวิธีการขยายตัวอีกแบบ

เมื่อวานผมไปกินศูนย์อาหารของคาร์ฟูร์มา
เลยนึกขึ้นมาได้
โลตัสเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
ที่ตั้งน้ำร้อนให้คนจุ่มช้อน ส้อม
ได้ผลทางจิตวิทยา และภาพพจน์ของโลตัสแบบสองเด้ง
มันเป็นดัชนีชี้วัดแบบมวยวัดว่า  
โลตัสทิ้งห่างดิสเก๊าท์สโตร์เจ้าอื่นไปไกลแล้ว
แม้แต่เรื่องหยุมหยิมที่คนอื่นไม่คิดกัน
โลตัสก็คิด

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

โลตัสโดยรวมแล้วทิ้งขาด อย่างเช่นที่ท่าน 2เค บอก จริงๆๆ  สาขาใหม่ๆๆการออกแบบรถเข็นของดีมาก เข็นง่ายตรงดี  มีการคิดพัฒนาตลอด  ขณะที่รถเข็นของบิ๊กซีนี่  ผมเข็นไปโมโหไป  แต่สิ่งที่โลตัสค่อนข้างแย่คือ ป้ายบอกสินค้า  พี่แกเล่นไม่ค่อยยอมติดเลย

ตอนนี้ยอดขายรวมของmodern tradeราวๆ20กว่า% ตัวเลขคร่าวๆนะครับ จากความทรงจำเช่นเคย ถามว่าผู้บริหารของโลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ จะสู้กันจนตายในเวลานี้มั๊ย เค้าคงไม่อยากทำแน่ เพราะการทำสงครามคุณต้องชนะอย่างเดียว ถ้าแพ้ต้องหางานใหม่ทำ แล้วถึงแม้ว่าโลตัสจะเป็นเบอร์หนึ่ง แต่บิ๊กซีและคาร์ฟูร์ บวกเซ็นทรัล ก็ไม่เล็กกว่าโลตัสหรอกครับ ซึ่งสามรายหลังน่าจะพร้อมที่จะร่วมมือกันถ้าจำเป็นเพราะทางกลุ่มเซ็นทรัลก็ถือหุ้นในทั้งสามแห่ง ผมคิดว่าเค้าจะเริ่มทำสงครามเมื่อโชว์ห่วยตายหมดแล้ว แล้วค่อยสู้กันเอง ตอนนี้ ฆ่าโชว์ห่วยก่อนดีกว่า ไม่เปลืองแรง ชนะแน่นอน ได้ขึ้นเงินเดือน+ โบนัส แล้วถ้าเค้าทำสงครามกันตอนนี้เลย โชว์ห่วยก็จะตายเร็วขึ้น แล้วลูกค้าก็จะไปซื้อของใน modern trade เพราะยังงัย คนก็ต้องกินต้องใช้ ส่วนเรื่องการปรับขนาดของห้างใหม่ๆเป็นเรื่องปกติครับ ทุกรายมีห้างทุกแบบที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศแล้วทั้งสิ้น ผมเข้าใจว่าในอดีต รูปแบบ discount super store น่าจะเป็นรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด ทั้งทางด้านผลตอบแทน เรื่องcashflow เรื่องการยึดพื้นที่ เรื่องlogistics แล้วก็อีกหลายๆเรื่องที่เกินสติปัญญาของผม มันน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวของธุรกิจ modern trade ตอนนี้สถาณการณ์เริ่มเปลี่ยนไป ทำให้ต้องเลือกโมเดลอื่นๆที่เหมาะสมมากกว่ามาลองทำดูแล้วขยายผลสรุปคือ modern trade เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการล่าอาณานิคม ซึ่งตราบใดที่ยังมีช่องทางให้ยึดพื้นที่ใหม่ๆได้ การทำสงครามของรายใหญ่ไม่ใช่สิ่งจำเป็น และเป็นสิ่งที่ผู้บริหารพยายามหลีกเลี่ยงครับ