Thai VI

ทั้งๆที่บริษัทเองก็แทบจะครองตลาดกีฬาหมดแล้ว  ในอดีตเองก็มีคู้แข่งหลายหน้าหลายตาพยายามจะมาแย่งตลาด  แต่ก็ต้องพ่ายกลับไปหมด

แต่บริษัท SPORT เองก็ไม่ได้มีกำไรมากมายนัก

สาเหตุอาจมาจาก

1. มุลค่าตลาดน้อยเกินไป  จนทำแล้วแทบไม่มีกำไร

2. ผู้บริหารเก่งแต่ด้านกีฬา  ไม่เชี่ยวชาญเรื่อง  ธุรกิจ  การเงิน  การลงทุน

3. ผู้บริหารมีนอกมีใน

4. อื่นๆ

เพื่อนๆว่าเป็นเพราะอะไร

ผมขอตอบว่าเกือบถูกทุกข้อยกเว้นข้อ1 ครับ

ผมว่าข้อ 2 มีส่วน

และต้นทุนการดำเนินงานสูง ต้องส่งนักข่าวไปอยู่เมืองนอกหลายคนมาก

บริษัทมีต้นทุนในการดำเนินงานสูงมาก ไม่รู้ทำไม

ทำไมต้องส่งนักข่าวไปอยู่เมืองนอกหลายคนด้วย

เอาข่าวจากที่เขารายงานผลแล้วไม่ได้หรือไง และช้าไปแค่ไหนกัน
ทำหนังสือพิมพ์นะ ไม่ใช่ทีวี

นั่นน่ะสิครับ  เรื่องส่งนักข่าวไปเมืองนอก

ผมฟัง fm94  ถ่ายทอดเวลาขับรถ   ปกติเค้าก็จะรายงานสดจาก ubc จากคู่หลักๆ  ที่ถ่ายอยู่ 2-3 คู่   ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น  แมนฯ ยู  ลิเวอร์พูล  เซลชี  อาร์เซนอล    แล้วผู้สื่อข่าวที่อังกฤษก็จะเข้าไปดูคู่รองๆ ประมาณ 2-3 คู่ เช่น  พวกโบลตัน  มิดเดิลโบรซ์   แอสตัน วิลล่า  ฯลฯ เตะกัน    พอยิงประตูก็โทรมารายงานที   ค่าโทรก็นาทีละ 100 กว่าบาท   แถมบางทีแค่ยิงเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา   มีใบแดง   นักเตะวิ่งสะดุดยอดหญ้าเท้าพลิก   ก็โทรมารายงานเมืองไทยอีกแล้ว    หากยิงกัน 2-2 สรุปคือโทรมาอย่างน้อย  4 ครั้ง    สรุป match คู่โบลตัน อะไรพวกนี้  เสียค่าโทรฯ ไปอาจจะหลายพันกว่าบาท   ไหนจะค่าตั๋วเข้าชมซึ่งก็แพงอีก   ไม่ทราบว่าเป็นนักข่าวต้องเสียค่าตั๋วเข้าชมเท่าไหร่    และผมเองในฐานะคนฟังก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย    

แต่ถ้ามองว่าการส่งนักข่าวไปเมืองนอกสลับกันไปเป็นการให้รางวัล หรือโบนัส  ก็คงเป็นอีกประเด็นนึง     แต่ผมก็เห็นว่าน่าจะมีวิธีการให้รางวัลที่ถูกกว่านี้ครับ    

แต่ fm94 ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นของ smm  ซึ่ง sport แทบไม่ถือหุ้นใน smm แล้ว  ผมเลยงงๆ ว่าเค้าแบ่ง resource  กันยังไงครับเพราะนักข่าวที่รายงานก็ดูแล้วน่าจะเป็นของ sport

ผมเห็นเซียนบอลเดี๋ยวนี้เค้าซื้อกันหลายเล่มครับ  ซอคเกอร์  สปอร์ตพูล   คิกออฟ   ฯลฯ   เหมือนพวกเราก็ต้องอ่านกรุงเทพธุรกิจ  ฐานฯ ประชาชาติ   เห็นด้วยครับว่าน่าจะขายดี

[quote="Invisible hand"]นั่นน่ะสิครับ

ของสยามกีฬา เค้ารับเคเบิ้ลจากต่างประเทศโดยตรงด้วยครับ

ไม่ได้ดูจากยูบีซีอย่างเดียว แถมเค้าก็ซื้อข่าวจากหลายแหล่งด้วย

จุดเด่นของสยามกีฬาคือมีทุกอย่างเท่าที่ควรจะมี

ส่วนนักข่าวที่ไปต่างประเทศ คือ การไปถึงแหล่งจะได้ข่าวที่ละเอียดและลึกว่า และส่งคนที่เข้าใจภาษา วัฒนธรรม และกีฬาของประเทศนั้นๆเป็นอย่างดี ทำให้เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งด้วย

พอยิงประตูก็โทรมารายงานที   ค่าโทรก็นาทีละ 100 กว่าบาท   แถมบางทีแค่ยิงเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา   มีใบแดง   นักเตะวิ่งสะดุดยอดหญ้าเท้าพลิก   ก็โทรมารายงานเมืองไทยอีกแล้ว    หากยิงกัน 2-2 สรุปคือโทรมาอย่างน้อย  4 ครั้ง    สรุป match คู่โบลตัน อะไรพวกนี้  เสียค่าโทรฯ ไปอาจจะหลายพันกว่าบาท

โดนมั่ก ๆครับ
ผมว่า SPORT เป็นหนึ่งในไม่กี่ บจ ที่มี DCA จริง ๆ ทำไมไม่กำไรเยอะ ๆ ไม่รู้
อ้อ อย่างหนึ่งอาจจะเป็นเพราะแตกไลน์ในการทำหนังสือพิมพ์มากไปหรือเปล่าครับ
หลัง ๆ นี่ชักเปรอะขึ้นทุกวัน

อิอิ ชาว the kop คืนนี้จะนั่งถ่างตาดู เพื่อย้อนความรู้สึกกันเยอะไหมครับ  :lol:  8)

ตอนนี้  รุด  ของผมกลายเป็น  "  รุด 5 หลา  "  ไปซะแล้ว  

2 ลูกล่าสุดที่รุดยิงได้เป็นลูกขลุกขลิกหมดเลย    และมีแนวโน้มจะเป็นอย่างนั้นทั้งฤดูกาลเสียด้วย

เมื่อวานหลุดเดี่ยวไปได้  ลื่นล้มเฉยเลย

ถ้ามาเล่นคู่กับโจ้ 5 หลา  ทีมชาติไทย   จะน่ากลัวขนาดไหนเนี่ย....  แต่เฉพาะในกรอบเขตโทษนะ

แต่ก่อนผมติดคลื่นวิทยุ FM99 มากนะครับ
รู้สึกว่าหลังๆก่อนที่จะคืนคลื่นให้ อสมท.เค้า
มันก็ไม่ค่อยเวิร์คแล้วอ่ะครับ เพราะสู้การถ่ายทอดทางทีวีไม่ได้
ทั้งของฟรี และจ่ายตังค์

ยกเว้นแต่ว่าได้ลิขสิทธิ์ UBC มาทำเอง หรือเทคโอเวอร์

ถ้ามาเล่นคู่กับโจ้ 5 หลา  ทีมชาติไทย   จะน่ากลัวขนาดไหนเนี่ย....  

น่ากลัวมั่ก ๆ ครับ
กลัวจะยิงไม่ได้  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[quote="Invisible hand"] ไหนจะค่าตั๋วเข้าชมซึ่งก็แพงอีก

มันไม่เหมือนกันหรอกครับ เวลานักข่าวขอบสนามโทรมาแล้วเสียงดังไปหมด
คนที่เชี่ยร์สุดใจ หรือ คนแทงสุดใจ มันได้อารมณ์อย่างที่สุด คุณต้องเข้าใจจิตใจคนพวกนี้ที่เป็นลูกค้าสำคัญ บางคนก็ไม่เข้าใจว่า รู้ผลช้ากว่า 5 นาที
มันต่างจากรูผลสดๆมาก และนักข่าวที่อยู่อังกฤษก็มีเรื่องเขียนมันกว่า
สิ่งเหล่านี้แหละทำให้สยามกีฬาเป็นเบอร์ 1 เวลาคุณอ่านคุณจะรู้เลยว่ามันต่างกับฉบับอื่น นี่บอกในฐานะของคนที่เมื่อก่อนตื่นมาวันอาทิตย์ต้องหา soccer ก่อนเป็นอย่างแรก ร้านนี้ไม่มี ก็ไปร้านนั้น คุณเชื่อมั๊ยว่ามีคนอย่างนี้เยอะนะ แต่จุดอ่อนก็คือสยามกีฬาก็ขยายมั่วไปหมด ร้าน star soccer นี่ก็คนซื้อไม่เท่าไรก็เปิดซะใหญ่โต จนปิดไปหลายที่แล้ว

หรือว่าก่อนหน้านี้ทางบริษัทคิดว่าตลาดใหญ่ของบริษัทคือพวกบ้ากีฬา  

ซึ่งที่จริงแล้วเป็นพวกบ้าพนันมากกว่า  เลยไม่มีใครสนใจที่จะไปซื้อสินค้าของแต่ละสโมสรซักเท่าไร  ร้านที่เปิดเลยเจ๊ง

แต่ผมว่าการทำธุรกิจของบริษัทนี้ค่อนข้างจะสีเทาทีเดียวเชียว  ลูกค้าหลักก็พวกบ้าพนัน  หนังสือหลายเล่มก็มีอัตราต่อรองกันแทบทั้งฉบับ

โฆษณาส่วนใหญ่ที่ลงก็ประเภท  download รูปภาพวับๆแวมๆ  หรือไม่ก็เกี่ยวกับเรื่องทางเพศทั้งนั้น

ผู้ถือหุ้นบริษัทนี้ไม่ทราบรู้สึกยังไงกันบ้าง

ผมว่าเมื่อก่อนลูกค้าก็คือ คนพนันบอลแหละ สมัยก่อนนักศึกษาจะฮิตมาก
soccer เล่มกับ marlbolo แดงซอง เนี่ย หลายๆร้านแทบจะวางคู่กันเลย
จำได้ว่าขึ้นราคา แรงมาก 7 บาท เป็น 10 12 แล้วก็ 15 แต่หมดเร็วมาก

แล้วก็มี โทรถามผลบอล ด้วย
"ตึ่ง ๆๆ สวัสดีครับ สยามกีฬา สตาร์ซอคเกอร์ ยินดีให้บริการ นาทีละเก้าบาท ทั่วประเทศ ตู๊ด"

"ต้องการทราบผลฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ กด 1 กัลโช่ เซเร อา กด 2 ...ตู๊ด"

"สวัสดีครับ รายงานผลฟุตบอล กัลโช่ ประจำวันที่ ....ตู๊ด"

เดี๋ยวนี้คนเล่นมันลดลงเยอะ ก็ไม่ต้องรีบรู้ผลอะไรขนาดนั้น

ของในร้านก็ไม่น่าสนใจ เท่าไหร่ ไม่ค่อยหลากหลาย มีอยู่ไม่กี่ทีมเอง (ไม่ค่อยมีโรม่า) แถมของแท้ มันแพง (ค่าลิขสิทธิ์ น่าจะเป็นต้นทุนที่สูงทีเดียว) แถมแป๊บๆ จบฤดูกาล เปลี่ยนแบบอีกแล้ว
ไปหลังสนามศุภดีกว่า

หนังสือกีฬาอื่นๆ ก็ดูไม่น่าซื้อ อย่าง เทนนิส กับ มวยเนี่ย ผมดูแล้วรูปเล่มไม่น่าซื้อ
ตลาดเองก็น่าจะมีส่วน เดี๋ยวนี้ ไม่มีมวยเจ๋งๆ เท่าไหร่

FHM ก็ใช้ได้ แต่ตอนนี้ maxim กำลังมาแรงนะผมว่า

[quote="Dr.T"]อิอิ ชาว the kop คืนนี้จะนั่งถ่างตาดู เพื่อย้อนความรู้สึกกันเยอะไหมครับ

ใช่ครับ กลุ่มเป้าหมายหลักคือคนบ้ากีฬา กับบ้าพนัน

แต่โลกเปลี่ยนไป วัยรุ่นมาสนใจมากขึ้น

หนังสือพิมพ์ที่มีหลายเล่ม ก็แบ่งกลุ่มลูกค้านะ

พวกพนัน นี่ต้องอ่าน สปอร์ตพูล ข้างในวิเคราะห์วิจารณ์ครบ กลุ่มนี้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว โฆษณากึ่งทางเพศก็ไม่แปลก

สตาร์ซ้อคเกอร์ จะไม่มีอัตราต่อรอง จะบรรยายแบบทั่วไปหน่อย ไม่มีการคาดเดา หรือแนะนำแบบสปอร์ตพูล แบบนี้อ่านได้หมด

ส่วนสยามกีฬารายวัน จะมีทั้งข่าวในและต่างประเทศ และก็เล่มใหญ่กว่า
----

ปกติแล้ว นักข่าวจากต่างประเทศ ต้องมีเอกสารรับรองไปด้วย ถึงจะได้รับตั๋วฟรีเพื่อไปชมในฐานะนักข่าว และได้ชมใน press box สามารถทำข่าว โทรรายงาน หรือพากย์สด ได้หมดครับ ซึ่งของสยามกีฬา ก็เส้นใหญ่ใช้ได้ครับ

[quote="woody"][quote="Invisible hand"]นั่นน่ะสิครับ

บริษัทบางแห่งทำไปเพื่อเลี้ยงพนักงาน อยู่ดีกินดี มีโบนัส ฝากลูกหลานทำงานได้ .... แต่ขาดทุน หรือกำไรน้อย ไม่ต้องเสียภาษีมาก ....ผู้ถือหุ้นเจ๊ง แต่คนไหนเป็นผู้บริหาร ก็รับเป็นเงินเดือน เงินกรรมการแทนที่จะเป็นปันผล

บริษัทบางแห่งทำไปเพื่อเลี้ยงผู้ถือหุ้น แต่เน้นกำไรให้ผู้ถือหุ้นเป็นกอบเป็นกำ ปันผลมาก พนักงานอาจจะอดอยากหน่อย

บริษัทหลายแห่งสร้างสมดุลระหว่างพนักงานกับผู้ถือหุ้นได้ก็ดีไป แต่บางที่สมดุลจะเลื่อนไปหาพนักงานมากหน่อย

ก็ไม่น่าจะแปลกใจอะไรนา

ผมเคยถืออยู่ แต่ขายไปแล้ว ผลประกอบการไม่น่าประทับใจ ทั้งที่จริงๆน่าจะดีกว่านี้ สงสันเป็นแบบข้อ3

ผมในฐานะเคยเป็นแฟนประจำนะครับ
เป็นบริษัททำงานด้วยจิตวิญญาณหรือใจรัก
ไม่ได้ทำงานเพื่อผลกำไรครับ
เท่าที่ฟัง ๆ ดูจากการอ่านบทความนะครับ

ราคาก็คงวนไปวนมาอยู่แถวนี้แหละ ไม่ไปไหนไกล มี w รอแปลงอยู่เพียบครับ