Thai VI

ผมขออนุญาตเขียนอะไรสักเล็กน้อยแล้วกันนะครับผมรู้จักwebนี้ไม่นานนักและได้ตามอ่านมานานแต่ไม่เคยคิดที่จะแสดงความคิดเห็นอะไรเลยจนกระทั่งเกิดกรณีmatiขึ้น ผมเลยต้องสมัครมาเป็นสมาชิกครับ
ผมขอให้เพื่อนๆอ่านบทความของคุณหนุ่มเมืองจันทร์ก่อนแล้วกันนะครับ

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly ... &search=no

ผมจะพยายามเขียนถ่ายทอดออกมาให้ดีที่สุดนะครับ

ที่ผมเข้ามาแสดงความคิดเห็นเพราะผมรู้สึกแปลกใจที่บางคนแสดงความคิดเห็นว่าเป็นเรื่องปกติในกรณีgmmmซื้อmati เพราะว่าถูกต้องตามกฏของตลาดหลักทรัยพ์

หลายๆปัจจัยที่เพื่อนๆชาวviใช้ในการเลือกหุ้นที่ดีหนึ่งในนั้นเป็นเรื่อง่ของผู้บริหารว่าเก่งไหม และสำคัญที่สุดคือโปร่งใสไหม (มีธรรมาภิบาลไหม)
ผมเลยสงสัยว่าทำไมถึงไม่คิดบ้างว่ากรณีที่ซื้อmatiนี้ ผู้ซื้อ(ซึ่งพยายามจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โปร่งใสไหมมีอะไรแอบแฝงไหม แล้วมันน่ากลัวไหม

ผมอาจจะวิตกไปเองที่เห็นว่าคนส่วนใหญ่ในนี้(ดูจากผลการvote)ว่าเป็นเรื่องถูกต้องไม่เสียหายอะไรกับการที่gmmmซื้อmati เพียงเพราะเล่นตามกติกาเท่านั้นเอง...

8)  ความเห็นแตกต่างได้เสมอนะครับ   เพียงแต่อย่างหลงประเด็นเท่านั้น  ประเด็นของเรื่องนี้ไม่การลงทุนปกติใช่หรือไม่  ป็นการคุกคามสื่่อของกลุ่มทุนอำนาจการเมืองเพื่อควบคุม  ริดรอนสิทธิ์ ใช่ไหม  ถ้าสื่อไม่มีเสรีภาพแล้วประชาชนจะมีหรือ
   ถ้าเคยเข้าไปห้องค้า คงไม่แปลกใจผลโหวตแน่

แล้วแต่จะคิดครับ

อ่านแล้วก็ยังเฉยๆอยู่ดีครับ

ก็มันมีสองด้านเท่านั้นเอง แล้วแต่จะคิดจริงๆครับ
ก็ถ้าเขาเข้ามาแบบถูกหลัก ก็ไม่กันให้ถูกหลักเองนี่นา
แล้วถ้าเขาเปลี่ยนนโยบายก็ไปเปิด สื่ออีกอันนึง ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย

บอกว่าผิดทั้งคู่ดีมั้ยเนี่ย

ผมว่าทุกคนมีเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองทั้งนั้น
ทาง Grammy ก็บอกว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่ต้องเสียเวลารวบรวมทรัพยากรสร้างชื่อเสียงขึ้นมา และบอกว่าจะไม่แทรกแซง
ทางมติชนก็บอกว่าแทรกแซงแน่ และเป็นหนังสือพิมพ์ชั้นสูงของปัญญาชนซึ่งไม่หลงมัวเมากับทุนนิยม เป็นด่านสุดท้ายของสังคม จะปล่อยให้พวกไม่มีหัวนอนปลายเท้า พวกสังคมแบบสัตว์ป่า แสวงหาแต่กำไร (ดูจากในมติชนสุดสัปดาห์ที่มีเรื่องนี้ทุก 2 หน้า)มาร่วมไม่ได้
ก็ว่ากันไป ซึ่งต่างคนต่างมีเหตูผลของตัวทั้ง 2 ฝ่าย
เคยฟังเพลงเฉลียงไหมครับ "อยู่ที่ใครใครเป็นคนเห็น อยู่ที่ใครใครเป็นคนได้ยิน อยู่ที่ใครใครเป็นคนตัดสิน อยู่ที่ใครขึ้นว่าอยู่ที่ใคร"

ถามว่าคิดอะไรกันอยู่หรือครับ

เคยอ่านว่าคนไทยมักจะอยู่ฝ่ายชนะ  คนไทยมักตามกระแส

ผมว่าเป็นความจริงอย่างที่สุด

คนที่มีเงินทุกคน มีสิทธิที่จะซื้อบริษัทที่จดทะเบียนในตลท.
จะซื้อจนคุมอำนาจบริหารได้หรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
คนขาย มีสิทธิไม่ขาย

แต่ถ้าคนซื้อใหม่ถือหุ้นเยอะกว่า
ก็มีสิทธิในอำนาจบริหารมากกว่า

นี่คือกติกาของตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก

คุณขรรค์ชัยเอาบริษัทเข้าตลาด ก็ต้องยอมรับกติกานี้ครับ

วิธีการของ GMMM นั้น ไม่ผิดแน่นอน
แค่เรียกว่าการครอบครองแบบไม่เป็นมิตร

แต่ถ้าดูเจตนา ... ไม่ทราบครับ ว่าเจตนาที่แท้จริงของ
คุณไพบูลย์คืออะไร จึงตอบไม่ได้ว่าผิดหรือไม่

เดี๋ยวอีกเดือนสองเดือนก็ลืม คิดมากน่า เอาเวลาไปหาหุ้นเจ๋งๆดีกว่า

อ่านแล้ว Bias เยอะมากๆ ต่างฝ่ายต่างใช้ความคิดความรู้สึกของตนเองเป็นตัววัด ไม่ได้ใช้ข้อเท็จจริง หรือ บรรทัดฐานที่เป็นสากล ผมว่าเรื่องนี้ค่อนข้างไร้สาระ

เปิดบ้านให้เข้ามาได้แบบถูกกฏหมายด้วย แล้วยังมาถามว่าเข้ามาทำไมก็แปลกดีนะเขาคงไม่เข้ามานั่งเล่นหลอก ไม่ย้อมล็อกบ้านเองทั้งๆที่รู้ว่าล็อกแบบใหนแต่ดันเอากุญแจบ้านไปขายกินสะงั้น

ผลย่อมเกิดจากเหตุ
ผู้สร้างเหตุย่อมได้รับผลนั้น
กติกามีมาแต่แรกก็รู้อยู่  ถือหุ้นสัก51%ก็ไม่มีเรื่อง  หรือตอนได้เงินความคิดมันตีบ

genie เขียน:อ่านแล้ว Bias เยอะมากๆ ต่างฝ่ายต่างใช้ความคิดความรู้สึกของตนเองเป็นตัววัด ไม่ได้ใช้ข้อเท็จจริง หรือ บรรทัดฐานที่เป็นสากล ผมว่าเรื่องนี้ค่อนข้างไร้สาระ

เห็นด้วยครับ การจับแพะชนแกะ คิดเองเออเอง เป็นเรื่องน่าเบื่อมาก ๆ