Thai VI

กระทู้นี้ ผมจะเสนอปัญหาก่อน แล้วจะเสนอแผนการตลาดทีหลัง

แม้จะเป็นลูกค้ารายเล็กๆ อาจจะไม่มีนัย ต่อรายได้ของบริษัทก็ตาม แต่ผมว่าไม่น่ามองข้าม

ผมใช้รถคันนี้มา 9 ปี ซื้อประกันชั้น 1 ของบริษัทประกันคุ้มภัยมา 7 ปี
ไม่เคยเคลมแบบเป็นฝ่ายผิดเลย ได้ลดเบี้ยประวัติดีมาตลอด เลยทำชั้น 1 มาเรื่อยๆ
การใช้รถ ต้องมีริ้วรอยขูดขีดทั่วๆ เป็นธรรมดา
ประมาณ 4 เดือนก่อน โดนชนท้าย เลยเอาไปซ่อม และถือโอกาสเคลมทำสีรอบคัน  อันนี้เป็นความฝันของคนใช้รถเก่าๆ ที่อยากให้รถดูใหม่

เมื่อถึงเวลาต่อประกัน โดนเพิ่มเบี้ยประกัน จากประมาณ 9000 เป็น ประมาณเกือบ 15000 บาท  พนักงานบอกว่าผมเคลม 200 กว่าเปอร์เซนต์
ผมเลยตัดสินใจไม่ต่อประกัน และหันไปทำชั้น 3 แทน

สรุปประเด็น คือ ถ้าเพิ่มเบี้ยผมเพียงเล็กน้อย สัก 2000 บาท ผมอาจจะต่อประกันชั้น 1 และอาจจะทำต่อไปอีกสัก ุ6-7 ปี โดยไม่ได้เคลม อาจจะรออีกสัก 7 ปี ค่อยเคลมทำสีอีกครั้ง

ลูกค้าแบบผมนี้ ในมุมมองของเจ้าของบริษัท เห็นว่าเป็นลูกค้าที่ดี หรือไม่ดี
ถ้าดี คิดว่าทำอย่างไรจึงจะจูงใจให้ทำประกันต่อไป

ขอบคุณที่ช่วยให้ข้อมูลครับ
ขายหุ้นทิ้งดีกว่า

 :'O  :'O  :'O  :'O

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:
แหมเฮียพูดงี้ เดี๋ยวหุ้นตกผมไม่รู้ด้วยนะ

ผมเสนอแบบนี้ครับ
ถ้าบริษัทไหนออกแคมเปญจ์ว่า
ถ้าทำประกันชั้น 1 ต่อเนื่องกัน 7-8 ปี โดยไม่เคลมแบบเป็นฝ่ายผิดเลย
บริษัทจะสมนาคุณให้ทำสีฟรีทั้งคันได้ 1 ครั้ง
ท่านเจ้าของพอจะรับไว้พิจารณาได้ไหมครับ

บริษัทไหนทำแบบนี้ อาจจะได้ลูกค้าเพิ่ม และเป็นลูกค้าระยะยาวนะครับ

ผมว่า  เราควรจะประกันชั้น ๑  ไม่เกิน ๓ - ๔  ปีครับ
พอสภาพรถเริ่มเก่า เริ่มตกรุ่น
ไม่ต้องกลัวรถหายแล้ว      
ไม่ค่อยจะกลัวรถเสียโฉม
มีตำหนิเล็กๆน้อยๆก็ช่างมัน

ก็ควรหันมาประกันประเภท ๓ แทน
ประหยัดเงินได้พอเอามาซ่อมสีเอาเองเลยนะ
ของผมประกันภัยกับวิริยะประกันภัยแบบชั้น ๓
แล้วโดนบังคับให้เปลี่ยนเป็นชั้น ๒  มาเกือบ ๑๐ ปีแล้ว
ยังไม่เคยเคลมอะไรกับบริษัทเลย
ยิ่งเรื่องรถหาย  ยิ่งไม่กลัวใหญ่
เวลาจอดรถกลางแจ้ง  ถ้าแน่ใจว่าฝนไม่ตก
ผมจะไขกระจกลงเล็กน้อย
เพื่อไม่ให้รถร้อนมาก จากสาเหตุเรือนกระจก

ส่วนบัตรจอดรถที่ห้างให้มา
ก็โยนทิ้งไว้ในรถนั่นแหละ

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

ผมเคยปฏิเสธประกันชั้น 1 ของประกันคุ้มภัย

หันไปเป็นลูกค้ากรุงเทพประกันภัยก็เรื่องราคาเนี่ยล่ะครับ

บังเอิญผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องอุดหนุนหุ้นที่เราถืออย่างเคร่งครัดนัก

เลยลงทุนกับประกันคุ้มภัย จนขายหมูไปให้หมอทีกับนายบิ๊กเร็วๆนี้เอง ฮ่าๆๆๆ

ผมจะทำประกันรถพอดี ติดต่อไปsafe ไม่ค่อยไดัรับการบริการที่ดีเลย jaychou ทำกับกรุงเทพประกันภัยดีกว่าหรือ แล้วต้องขายsafe ไหมเนี่ย ราคากำลังดีด้วย

[quote="คลายเครียด"]ขอบคุณที่ช่วยให้ข้อมูลครับ
ขายหุ้นทิ้งดีกว่า

โป้ง เขียน:ควรเปลี่ยนบริษัทประกันรถ หากเราเป็นลูกค้าชั้นดี ไม่ควรทำกับบริษัทประกันเดิมนานๆครับ

นี่เลย ปัญหา การเสียลูกค้าชั้นดี
ต้องหาวิธีรักษาลูกค้าเก่าเอาไว้ให้ได้นานๆ

ต้องมาออกความเห็นในเรื่องนี้เพราะว่า
มันมีการเครมเบี้ยประักันภัย แม้นว่าคุณไม่เคยเครมแรงๆๆเลย
ถ้าเครมเช่น รถพลิกควบ พังทั้งครั้ง โดยที่ห้าปีมาเนี่ย คุณไม่เคยเครมเลย
ค่าเบี้ยประกันจากที่ได้ส่วนลดมากที่สุด ห้าสิบเปอร์เซ็นต์นั้น
จะกลับเป็นยอดเบี้ยประกันภัยเต็ม

อันนี้ต้่องเข้าใจว่า คุณเป็นลูกค้าชั้นดี แต่ว่าปีนี้ประวัติคุณไม่ค่อยดี
มันทำให้ค่า อัตราส่วนการเครมประกัน มันสูงขึ้น (คิดเป็นร้อยละโดยมีสูตร
คำนวณว่า เงินที่เครม หารด้วย เบี้ยประกันภัยทั้งหมด )

แสดงว่าจะเสียลูกประวัติ สามปีไป

แต่ได้ลูกค้าเริ่มทำมา

ถ้าสัดส่วนไม่เท่ากันจะเป็นไงละคับ

ผมว่าเป็นจุดอ่อนของ บ. ประกันครับ ที่ต้องเสียลูกค้าที่ดีไป

ขอเเนะนำผู้บริหาร บ. ประกันนี้ ควรตั้งเเผนกใหม่คือ เเผนกวิเคราะห์ลูกค้า

ถ้าใครถือหุ้น บ. นี้ขายทิ้งให้หมด  :D

อธิบายเพิ่มเติม ในการเครมประกัน พอดีไปถามผู้รู้เรื่องนี้โดนตรง

การเครมประกันรถยนต์นั้น ถ้าค่าเครมประกันภัยเกิน 200%ของค่าเบี้ยประกันนั้น
ค่าเบี้ยประักันภัยจะกลับไปเป็นยอดชำระเต็ม
แต่(อันนี้สำคัญ) มันแล้วแต่รายด้วย เพราะบ้างรายจะได้จ่ายเบี้ยประักัยในอัตราส่วนลดอยู่
มันแล้วแต่เงื่อนไขที่เจรจากัน

อันหลังมันบอกแล้วว่าเจรจากันเองอ่ะ
caseนี้ผู้รู้บอกว่า เกิดน้อยมากที่มีรถเครมเกิน 200%แล้วยังได้ส่วนลดอยู่

ถ้าใครถือหุ้น บ. นี้ขายทิ้งให้หมด  

bid มาเลยครับ 50 บาท ขายแน่ ๆ  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol: