Thai VI

ที่เว็บตลาดหุ้นมีคนลงชื่อ "DIVIDEND" พูดไว้ครับ ว่า

"พวกหัวโบราณ เล่นหุ้นหวังปันผล สุดท้ายน้ำตาซึม"

มีใครหวังปันผลแล้วน้ำตาซึมบ้างครับ ขอเสียงหน่อย

ผมซึมไปหนึ่งครั้งครับ ซื้อ UGP หวังปันผล แต่ได้มากกว่าปันผล

ผมก็กำลังซึม ครับ คุณCK

เอ่อ...ซึมซับ ข้อมูล ในโครงการร้อยหุ้นอยู่ครับ

ก็ขอกราบขอบคุณ ท่านเจ้าของเวปแห่งนี้
ที่กรุณาเอื้อเฟื้อสถานที่ไว้เก็บข้อมูล
อย่างไงก็เซฟกันไว้บ้าง เผื่ออุบัติเหตุ ข้อมูลหายหมด

ได้เท่าที่หวัง น้ำตาไม่ไหล

หวังเท่าที่ได้ น้ำลายไม่หก

'พอเพียง'

อาจซึมบ้างเวลาได้แล้วหุ้นร่วงลงมาตามธรรมชาติ

แต่กลุ่มอื่นเขาน้ำตาเช็ดหัวเข่าเลยหละ เวลาหุ้นลงตามธรรมชาติ

CK เขียน:ที่เว็บตลาดหุ้นมีคนลงชื่อ "DIVIDEND" พูดไว้ครับ ว่า

"พวกหัวโบราณ เล่นหุ้นหวังปันผล สุดท้ายน้ำตาซึม"

มีใครหวังปันผลแล้วน้ำตาซึมบ้างครับ ขอเสียงหน่อย

ผมซึมไปหนึ่งครั้งครับ ซื้อ UGP หวังปันผล แต่ได้มากกว่าปันผล

น้ำตาไม่ซึมหรอกครับ เล่นหุ้นแนวVI อย่างมากขณะนี้ก็แค่น้ำลายไหล

แต่เคยได้ยินประโยคประทับใจของผู้ที่รวยๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆจากตลาดหุ้น

กล่าวไว้ว่า " น้ำลายไหล ดีกว่าน้ำตาร่วง แพ้ไม่เป็น จะชนะไม่ได้ "

กล่าวคือ เราเห็นห้นปั่นรวยเอารวยเอา เราอาจเสียดายอยากได้ แต่ไม่เสียหาย

ถ้าเราทนไม่ไหวกระโดดเข้าใส่ตามกระแสเมื่อไร อาจกลายเป็นผู้แพ้ในที่สุด

ปล. ถ้าคุณมีแต้มต่อจากวงในหรือขาใหญ่ๆๆๆๆๆ ไม่เข้าหลักนี้ครับ :lol: :lol:

อยากจะน้ำตาซึมมั่งจัง
เห็นหุ้นปันผลแต่ละท่านแล้ว
ได้ทั้งปันผลทั้งcapital gain
ตลาดตกก็ไม่ค่อยลง ซึมขึ้นไปเรื่อยๆ
วันๆแทบไม่ต้องดูหุ้น อิๆ
ตาร้อนค่ะ

อ่านหัวเรื่องแล้วนึกว่าพี่ CK จะเปลี่ยนแนวทางการลงทุนซะแล้ว

ซึมครับ แต่ซึมแบบน้ำบ่อทรายนะครับ

_THiNK_ เขียน:ได้เท่าที่หวัง น้ำตาไม่ไหล

หวังเท่าที่ได้ น้ำลายไม่หก

'พอเพียง'

คมมากครับ ข้อความนี้คุณTHiNK_

(ใช้เงินไปทำงาน)

ผมขอพูดขัดหูนะครับในมุมมองผมพวก vi นี่เป็นพวกที่ชอบฟันกำไรเกินควร 10% หรือ 20% ไม่เอาหรอกครับ เอาทีอย่างต่ำต้องมากกว่า 50% อัพ

ปากใหญ่ๆกันทุกคนครับเพราะกำไรที่ได้มันเป็นคำโตมากๆ

ส่วนมากจะแสดงท่าทางสมถะ แต่จริงๆโลภมากครับ

ผมไม่ได้ใส่ร้ายนะครับ เพราะผมก็เป็นอย่างนั้นครับ :lol: :lol:

ผมถือหุ้นไว้รับ แค่ปันผล จริงๆ ครับ :lol:

ส่วนที่ราคามันขึ้นไปมากกว่า 50%

ผมไม่ได้ทำ ... :lol: ผมไม่ได้ทำ... :lol:

ไม่ได้เป็นความผิดของผม... :lol:

50%? จริงเหรอครับ ผมได้ยินมาว่า ของพี่ครรชิต2-3ท่วมไม่ใช่หรือครับ :lol: :lol: :lol:

พี่ GENIE ครับ พี่ครรชิตบอกว่า เกิน 50 % ครับ
ผมก็ว่า 2-3 ท่วม แน่นอนเลยครับ
ขอเดินตามพี่ๆครับ

เรียนถาม พี่ CK ครับ

พี่มีมุมมองกับ คลายเคลียดเรโช อย่างไรบ้างครับ

ชอบครับ ไว้จัดการกับหุ้นที่เล่นแล้วเครียดได้ดีครับ

เพิ่งได้ลองเป็นครั้งแรกเมื่ออาทิตย์ก่อน แต่สุดท้าย
ตะบะแตกครับ ไปเจอหุ้นดีๆเข้าก็เลยขายเสียเกือบหมด
พอร์ตเลย

เผอิญเลือกหุ้นไม่เก่ง ตัวที่เล่นแล้วเครียดไม่เคยขึ้นได้
เกิน 100% เลยครับ

ส่วนหุ้นปันผลขึ้นไปแล้ว 300% ก็ยังทำใจขายไม่ได้อยู่
ดี เสียดายครับ และก็ไม่ได้เครียดไม่ว่ามันจะขึ้นจะลง
ก็เลยไม่จำเป็นต้องคลายเครียดครับ

ทั้งนี้ต้องขอบคุณเฮียคค.ที่อุตส่าห์สละเวลาอธิบายต้นตอ
ให้ฟัง (ตอนแรกนึกว่าต้องทำกับหุ้นทุกตัว)

จริงครับพี่ CK ผมว่าน่าจะเป็นหุ้นที่เล่นเก็งกำไรมากกว่านะครับ

ส่วนหุ้นดีๆ ไม่ต้องคลายเครียด เพราะยิ่งถือยิ่งสบายใจ

ผมมี AMATA ที่ 3.98 100000 ยังลังเลอยู่ ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร

เคยอ่านที่พี่โพสไว้ว่าตัวนี้มีโอกาสโตกระโดดอีก 1-2 ปี อ่านข่าวดู คิดว่าน่าจะมีแนวโน้มอย่างนั้นจริงๆ จึงยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ วันนี้ลงมาแล้วที่ 8.00 บาท

พวกหัวโบราณนี่เขาคิดกันยังไงเหรอครับคุณซีเค

moo เขียน: เคยอ่านที่พี่โพสไว้ว่าตัวนี้มีโอกาสโตกระโดดอีก 1-2 ปี อ่านข่าวดู คิดว่าน่าจะมีแนวโน้มอย่างนั้นจริงๆ จึงยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ วันนี้ลงมาแล้วที่ 8.00 บาท

3.98 แล้วยังถือถึงตอนนี้ เยี่ยมมากครับ

ไอ้ผมมันนิสัยเสียครับ พอเห็นมันนิ่งๆก็เอาไปหมุน กลับมาซื้อช้าไปทุกที
จากทุน 3.7 กลายเป็นทุน 4.7 ไปเลย แถมวันนั้นดันมือบอนขายไป lot
นึง ที่ 7 บาท ซึมไปเลยครับ วันนี้ซื้อคืนมาที่ 8.05

ตัวนี้ผมมั่นใจมากว่าระยะยาวจะดีครับ คอยดูปีหน้า กระโดดแน่ๆ

lupikante เขียน:พวกหัวโบราณนี่เขาคิดกันยังไงเหรอครับคุณซีเค

ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ อันนี้สืบเนื่องมาจากกระทู้ในตลาดหุ้น.คอม
ครับ http://www.taladhoon.com/taladhoon/yabb ... eadid=4739

สงสัยหมายถึงคนที่คิดแบบตอนตลาดหุ้นเปิดใหม่ๆครับ มีไว้เพื่อให้นัก
ลงทุนได้เข้ามาซื้อเป็นเจ้าของกิจการกัน สมัยโน้นซื้อขายกันยากครับ
เลยไม่ค่อยจะมีการ "เก็งกำไร" จากการซื้อๆขายๆเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็
ถือรอปันผลไปตามเรื่องครับ

ขอบพระคุณพี่ CK มากครับ เกี่ยวกับ AMATA ตั้งใจว่าจะขอถือยาวๆ

อ่านบทความของท่านดร. เรื่อง เก่งหรือเฮง ทำให้ได้สติมากเลยครับ
ทำให้เราระวังตัวมากขึ้น ไม่ลืมตัว ไม่หลงตัวเอง ต้องขอบคุณท่านดร.เป็นอย่างสูงด้วยครับ

moo เขียน:ขอบพระคุณพี่ CK มากครับ เกี่ยวกับ AMATA ตั้งใจว่าจะขอถือยาวๆ

อ่านบทความของท่านดร. เรื่อง เก่งหรือเฮง ทำให้ได้สติมากเลยครับ
ทำให้เราระวังตัวมากขึ้น ไม่ลืมตัว ไม่หลงตัวเอง ต้องขอบคุณท่านดร.เป็นอย่างสูงด้วยครับ

ง่า ผมไมได้บอกว่าจกระโดดขึ้นหรือลงนะครับ อาจจะกระโดดลงจาก
ดอยก็ได้นาครับ

เอ่อ ปกติก็ไม่ค่อยได้โพสต์ครับ แต่ฟังคำที่เขาโพสต์แล้วต้องแสดงพลังครับ เพราะผมเคยนำตาร่วงเพราะเชื่อคำทำนองนี้แหละครับ คือตอนเข้าตลาดใหม่ๆ ซื้อ Aprint ไว้เพราะหวังปันผลนี่แหละครับ หุ้นละ 43 บาท จะขึ้นจะลงไม่สนใจขอปันผลอย่างเดียว พอรับเสร็จ ดันหวังรำรวยทางลัดขายไปซะได้ที่ 53 บาท อืมแล้วเป็นไงครับตอนนี้ไม่อยากพูดถึงเลยแฮะ :lol: :lol:

หัวของผมจัดว่าไม่โบราณมากครับ คือหัวผมมีอายุ34ปีบวกสมัยในท้องแม่ก็อีก9เดือน ถึงเก่าก็ไม่มากครับ

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาpostของผมมันก็โตมามากเกินกว่าการเก็งกำไรที่ผมจะทำได้ ผมว่าผมถนัดอย่างนี้มากกว่า ขนาดผมเรียนจบโทมาทางด้านการเงิน เรียนรู้หลักคิดหลักการการเงินที่ใช้ลงทุนสมัยใหม่มามาก ศึกษาเพิ่มมาก็มาก ยังไม่สามารถเอาชนะตลาดด้วยวิธีเก็งกำไรได้เลยสักครั้งเดียว

และนี่คือวิธีสร้างการเจริญเติบโตของเงินของผม ไม่ได้หวังรวยแบบข้ามคืน จนแบบข้ามคืนครับ

รูปแบบการเล่นหุ้นนั้น ผมว่าแล้วแต่บุคคลครับว่าเล่นแบบไหนได้กำไร แต่สำหรับผมซึ่งเคยเล่นแบบเก็งกำไร และแบบ VI ผมสามารถบอกตัวเองได้ว่าแบบ VI เหมาะสมกับผมมากกว่า ไม่ใช่เพราะตัวเลขกำไรนะครับ เพราะผมเล่นเก็งกำไรก็ได้กำไร แต่ผมไม่ได้ต้องการที่จะรวยเร็วๆครับ ผมต้องการความสุขในระหว่างทางด้วย ตลอดเวลาที่ผมเล่นเก็งกำไร ผมมีชีวิตที่เครียดครับ ผมจึงเลือกแบบ VI รวยแบบหลับสบายครับ

อ่านเก่งหรือเฮงแล้วเข้าใจดีครับ ช่วงตลาดกระทิงคงมี]เซียนปั่นแปะ แต่ต้องดูยาวๆครับ ส่วนผมมั่นใจเสมอ
Value Investor นั้นจะต้องรู้ตัวตลอดเวลาว่าชัยชนะที่ได้รับในการลงทุนนั้น เกิดจากโชคหรือการวิเคราะห์และศึกษาอย่างถี่ถ้วนในตัวหุ้นก่อนการลงทุนกันแน่ กฏง่าย ๆ ของผมก็คือถ้าซื้อแล้วราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ และยืนอยู่ได้อย่างถาวร นั่นเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าเราเลือกหุ้นได้ถูกต้อง ส่วนหุ้นที่ซื้อแล้วราคาหุ้นอาจจะขึ้นไป แต่ขึ้นชั่วคราว เสร็จแล้วก็ปรับตัวลงมาเท่าเดิมหรือต่ำกว่าแบบนี้ถึงแม้ว่าเราจะขายหุ้นไปก่อนและได้กำไรมามากก็จงเข้าใจว่านี่เป็นเรื่องของโชคหรือความฟลุ๊กและอนาคตเราอาจจะโชคไม่ดีและพ่ายแพ้ได้ เปรียบเสมือนนักปั่นแปะที่ชนะมา 20 ครั้ง แต่ไม่มีใครบอกว่าจะชนะในครั้งที่ 21 เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องของความบังเอิญล้วน ๆ
นี่คือหนทางสุ่อิสระภาพทางการเงิน

ตอนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น(ครั้งแรก) เมื่อต้นปี ก็เพราะหวังปันผลจริงๆ นะคะ..
ถูกผลักดันจากดอกเบี้ยต่ำในตลาด(เงิน).. เลยคิดว่าเข้ามาลงทุนในตลาด(ทุน)ซักตั้ง...ขอแค่ให้ได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยแบงค์ก็พอ.....

ตั้งแต่เรียนจบมา (ด้านการเงิน) ก็ไม่เคยกล้าลงทุนในตลาดหุ้นเลย...เพราะเป็นพวก Risk Averse (กลัวความเสี่ยง)... เรียนมากไป...เลยไม่กล้าลงทุน..
แต่พอเริ่มจะลงทุน......จำเป็นให้ต้องอ่านหนังสือหลายเล่ม......เลยได้ข้อสรุปว่าขอใช้แนวทาง VI เป็นหลัก เพราะไม่มีเวลาดูราคาหุ้นตลอดวัน ...และอยากถือหุ้นด้วยความสบายใจ

เห็นกระทู้คุณ CK แล้ว ก็คิดว่า เหมือนชีวิตตัวเอง .....เพราะถึงตอนนี้ก็เริ่มซึมหน่อยๆแล้วค่ะ.... เพราะตื้นตันใจ...
และคิดไม่ถึงว่าการลงทุนในแนวทางของ VI จะทำให้ได้ผลตอบแทนแบบ......เข็มขัดสั้น อย่างนี้
(..คาดไม่ถึง....)

(ปล. อาจเป็นความโชคดีที่เข้ามาลงทุนในตลาดช่วงขาขึ้น .....แต่ยังไงก็ตาม..ถ้าเงินต้นยังอยู่ครบ..และได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก...ก็พอใจแล้วค่ะ...)

คิดได้ 2 แบบนะฮะคุณ Fluffy คาดไม่ถึง..นี่อาจจะเข็มขัดสั้น หรือไม่อย่างงั้นก็ เอวหาย นะครับ :lol: :lol:

ตอนนี้น้ำตาไม่ซึมครับ แต่น้ำลายเริ่มสอครับ

ซื้อ SUC ไว้ 800,000 หุ้น ครับที่ 14 บาทหวังปันผล 9%
พอดีขึ้นมามากกว่าปันผล 10 ปีอีกอะครับ น้ำตาเลยซึมเลย
8)

กระทู้นี่น่าสนใจครับ