Thai VI

ผมเข้าใจคนเราย่อมกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่ว่า ยังกะหนังสือพิมพ์ไทยทุกวันนี้ ทำข่าวดีกัน นักหน่า จรรยาบรรณเหลือล้นอะไรกันนัก  ข้อมูลก็ยังไม่ตรงกัน เลย 3 ฉบับ แถมเวลามีเหยื่อในบางเหตุการ ก็ลงรูป ลง นามสกุลที่อยู่อีกต่างหาก  ไม่ให้เกียรติ หรือ คำนึงผลเสียคนอื่น  ข่าวที่ส่งเสริม คุณธรรม หรือพัฒนาสติปัญญา ก็ไม่มีเลย  
ไม่อยากจะพูดถึง กระบวนการทางความคิด หรือการพัฒนาการศึกษา ของ นิเทศศาสตร์เมืองไทย

ข่าวคึกโครมเรื่องอากู๋แกรมมี่(GRAMMY)เข้าไปซื้อหุ้นจะเทกโอเวอร์หนังสือพิมพ์มติชน(MATI) และบางกอกโพสต์(POST)ความจริงMr.insiderได้ยินมานานแล้ว เจ้าของหุ้นเองก็ใช่จะไม่รู้ แต่ข่าวทางในนั้นว่ากันว่าคนซื้อตัวจริงเสียงจริงไม่ใช่อากู๋แต่เป็นคนๆหนึ่งที่ตอนนี้กำลังทัวร์อเมริกาอยู่***

คุ้นๆว่าคนนี้ไปดู us. open มา

หนังสือพิมพ์หลายฉบับชอบนั่งเทียนเขียนข่าวครับ

เมื่อก่อนไม่รู้สึก  จนกระทั่งประสบกับตัวเองเลยรู้

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ภาพพจน์  และกระแส

ประเทศไทยใครสร้างกระแสได้เก่งก็ได้ไปครับ

คนไทยชอบตามแห่  ชอบพวกมาก  

เรื่องอาบ อบ นวด ที่เป็นข่าวว่าสร้างใกล้โรงเรียน  ผู้คนในสังคมเป็ฯเดือดเป็นร้อน

ที่แถวโรงเรียนศรีอยุธยา  มีอาบ อบ นวด  ทั้งติดกับโรงเรียน  และตรงข้าม  ไม่เคยมีใครพูดถึง

พอชูวิทย์สร้างกระแส  ทุกคนเกิดรักศีลธรรมขึ้นมาทันที

คนไทยทุกวันนี้  ยังต้องบังคับให้สวมหมวกกันน็อค  เดินข้ามสะพานลอยอยู่เลย  ไม่มีจิตสำนึก  ชอบแต่สบาย

ความเห็นส่วนตัวนะครับ
gmm ก็ทำตามเกมส์ที่สามารถทำได้
ผิดตรงไหน

มีการบอกว่ายึดสื่อ
ก็แล้วอยากถามว่า
ก็แล้วคุณทำไมไม่ถือหุ้นให้มันมากกว่า 50% แต่แรก
ไม่ได้สนใจผู้ถือหุ้น
เอาเวลากันไปทำอะไรอยู่

พูดตรง ๆ นะถามตัวคุณก่อน
คุณเข้ามาตลาดหุ้นเพื่ออะไร
เพื่อตัวคุณเองโดยไม่เคยคิดถึงผู้ถือหุ้นเลยอย่างนี้ก็ไม่ถูก

คุณเอาเงินชาวบ้านมาลงทุน
ก็ต้องคิดถึงชาวบ้านที่เอาเงินมาลงทุกนกับคุณด้วย

แพ้แล้วอย่าพาล
ถ้าเป็นเกมส์คุณแพ้ในเกมส์
แล้วจะมาเล่นนอกเกมส์หรอ
การเล่นเกมส์มีกติกา
อย่าเล่นนอกกติกาดีกว่า

ผมว่าดีครับ ต่อไปใครทำอะไร
จะได้คิดถึงผู้ถือหุ้นตาดำ ๆ บ้าง

ตอนนี้เริ่มมีกระแสห้ามไม่ให้มีถือสื่อหุ้น ข้ามสื่อ  อ้างโน่นอ้างนี่ ว่าจะมีอิทธิพลเหนือผู้บริโภค

แต่ทำไม Nation กับ manager ทำทั้ง หนังสือพิมพ์, TV ได้ ไม่เคยมีคนว่า

thaistock2005 เขียน:ความเห็นส่วนตัวนะครับ
gmm ก็ทำตามเกมส์ที่สามารถทำได้
ผิดตรงไหน

มีการบอกว่ายึดสื่อ
ก็แล้วอยากถามว่า
ก็แล้วคุณทำไมไม่ถือหุ้นให้มันมากกว่า 50% แต่แรก
ไม่ได้สนใจผู้ถือหุ้น
เอาเวลากันไปทำอะไรอยู่

พูดตรง ๆ นะถามตัวคุณก่อน
คุณเข้ามาตลาดหุ้นเพื่ออะไร
เพื่อตัวคุณเองโดยไม่เคยคิดถึงผู้ถือหุ้นเลยอย่างนี้ก็ไม่ถูก

คุณเอาเงินชาวบ้านมาลงทุน
ก็ต้องคิดถึงชาวบ้านที่เอาเงินมาลงทุกนกับคุณด้วย

แพ้แล้วอย่าพาล
ถ้าเป็นเกมส์คุณแพ้ในเกมส์
แล้วจะมาเล่นนอกเกมส์หรอ
การเล่นเกมส์มีกติกา
อย่าเล่นนอกกติกาดีกว่า

ผมว่าดีครับ ต่อไปใครทำอะไร
จะได้คิดถึงผู้ถือหุ้นตาดำ ๆ บ้าง

เห็นด้วยมากๆครับ  :D

ร่วมด้วยช่วยกันปั่นราคาสิครับ

ตีข่าวหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง

[quote]ผมเข้าใจคนเราย่อมกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่ว่า ยังกะหนังสือพิมพ์ไทยทุกวันนี้ ทำข่าวดีกัน นักหน่า จรรยาบรรณเหลือล้นอะไรกันนัก  ข้อมูลก็ยังไม่ตรงกัน เลย 3 ฉบับ แถมเวลามีเหยื่อในบางเหตุการ ก็ลงรูป ลง นามสกุลที่อยู่อีกต่างหาก  ไม่ให้เกียรติ หรือ คำนึงผลเสียคนอื่น  ข่าวที่ส่งเสริม คุณธรรม หรือพัฒนาสติปัญญา ก็ไม่มีเลย  

ผมว่าจริงๆเจ้าของเดิมไม่ได้ถือหุ้นส่วนมากก็เสี่ยงอยุ๋แล้วล่ะครับที่จะถูก เทค
ขนาด บริษํทที่ถือหุ้นส่วนมากในรูปคนในครอบครัวเดียวกันยังโดนได้เลยครับ

ผมว่าที่คนเขาโวยวายกันไม่ใช่เพราะ การซื้อสื่อ หรอกครับ

ใครก็ซื้อได้ ถ้าเล่นไปตามเกมส์ปกติ ไม่มีปัญหา

กรณีนี้มีปัญหา เพราะเขาว่าสื่อเหล่านี้สร้างปัญหา

คนที่ไม่อยากเจอปัญหา จึงพยายามแก้ปัญหา

จึงทำให้เกิดปัญหา ทั้งคนซื้อคนขาย ยิ่งเป็นที่สงสัยในปัญหา

ว่าจะเกิดอะไรต่อไป แล้วใครจะแก้ปัญหาได้ ไปดีกว่า งงง

สื่อคือ สิ่งที่ถ้ามีอยู่ในมือ ก็ คือ อำนาจทางกระบอกเสียง
การเขียนข่าวสามารถ ทำให้ โอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งได้ โดยยังคง เนื้อข่าวเอาไว้

"คนที่มี สื่อในมือ เป็นคนที่มี ทำเลที่ดีในสงคราม"
สงครามสมัยก่อนยังมีการปล่อยข่าวลือทำลายขวัญเลย
อิทธิพลของสื่อมีอยู่มานานแล้ว แต่ก่อนนี้(...)ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากตรงนี้เพราะอาจมองไม่ออกละมั๊ง ว่ามันต้องเป็นจุดทำเล
 ดูง่ายๆ ข่าวของการทำงานของ รัฐมนตรี เจ้าของ "สื่อ" ออกข่าวบ่อยจังทั้งที่บางทีดูเหมือนว่า มันก็เป็นงานที่ต้องทำ
คงต้องโทษ มติชนเองที่ประมาท อย่างที่พี่ๆ โพสเอาไว้
(แต่อาจจะต้านเอาไว้ไหวก็ได้ เพราะสื่อของเค้าปลุก กระแสสังคมขึ้นมาได้ไง(นี่ก็ประโยชน์สื่อ))