Thai VI

Centel และ Mint ทำธุรกิจคล้ายกัน แนวโน้มดีพอๆกัน
Centel มีกำไร/รายได้ ปีนี้ประมาณ 650/6500 ล้านบาท ROE ~ 10
Mint มีกำไร/รายได้ ปีนี้ประมาณ 1000/10000 ล้านบาท ROE ~ 10
เป็นคู่ชกที่ถือว่าศักดิ์ศรีพอๆ กัน
แต่ทำไม Centel trade ที่ PE/PBV 7.8/1.57 ในขณะที่ Mint มี PE/PBV 15.6/2.96 ครับ อยู่กันคนละหมวดมีผลให้ราคาต่างกันแบบนี้หรือปล่าวครับ หรือว่ามีเหตุผลอื่นแฝงอยู่

Centel มีกำไร/รายได้ ปีนี้ประมาณ 650/6500 ล้านบาท ROE ~ 10
Mint มีกำไร/รายได้ ปีนี้ประมาณ 1000/10000 ล้านบาท ROE ~ 10

เอามาจากไหนครับ คำนวนroeม่ายถูกครับ

จาก ข้อมูลบริษัทใน settrade ครับคุณ naris

ธุรกิจเหมือนกัน แต่จำนวนรายได้ กำไร ไม่เท่ากัน

และที่สำคัญภายในไม่เหมือนกัน

จึงไม่จำเป็นจะต้องมีราคา หรืออัตราส่วนอื่นๆเท่ากัน

กำไร/รายได้ ไม่ใช่ROE ครับ แต่เป็นอัตราส่วนกำไร/ยอดขายครับ
คนละตัวกับROE
ROEคือผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น หาได้จาก
เอากำไรสุทธิ/ส่วนของผู้ถือหุ้น ครับคุณGroundhog

แต่ทำไม Centel trade ที่ PE/PBV 7.8/1.57 ในขณะที่ Mint มี PE/PBV 15.6/2.96 ครับ อยู่กันคนละหมวดมีผลให้ราคาต่างกันแบบนี้หรือปล่าวครับ หรือว่ามีเหตุผลอื่นแฝงอยู่

การอยู่ต่างหมวดน่าจะส่งผลด้วยจิตวิทยานะครับ หมวดโรงแรมมีความเสี่ยงเรื่องการก่อการร้าย บึมๆๆขึ้นมาซวยไปตามๆกัน

centel มี free float น้อยกว่าด้วย หุ้นเกิน 60% อยู่ในมือตระกูลใหญ่ที่ไม่ค่อยสนรายย่อยเท่าไหร่

ROEคือผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น หาได้จาก
เอากำไรสุทธิ (ปรับด้วยนะเช่น ขาดทุนพิเศษ รายรับพิเศษ) /ส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยหัวปีถ้ายปีนะครับ(ก็ต้องปรับถ้ามีอะไรแปลงสภาพเป็นcsก็ตาม)

คือหุ้น Centel ทําธุรกิจโรงแรมนะครับ แต่รายได้ส่วนใหญ่มาจาก อาหาร ของ บริษัท ย่อยในเครือ ซึ่งต่างจากmintที่ ตัวธุรกิจหลักๆคือ อาหาร

ลองเอามา เทียบกันสิว่าแต่ละอันมีไรบ้าง    :idea:

Centel    pizzahut      stake hunter baskin robin auntie ann etc
   VS          
 Mint    pizza company  sizzler        swensens                  etc
   
แค่นี้ก็น่าจะรู้นะครับว่า mintตัวธุรกิจแกร่งกว่า  แต่centelถูกกว่า ครึ่ง
อาจเป็นเพราะว่า  นักลงทุนยังไม่มั่นใจในตัว centel ราคาจึงยังไม่ปรับขึ้นไปมาก เพราะcentelนั้น มีการลงทุน โรงแรม ที่กระบี่ และที่อื่นๆอีกด้วย
แถมยังถือด้วย กลุ่ม จิราธิวัตน์

ส่วน mint อย่างที่รู้กัน นักลงทุนธุรกิจแล้วมั่นใจจึงซื้อกันจน ราคาปรับขึ้นไปสูงกว่า

แต่ตัว centelเองก็ประกาศว่าจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ใน อาหาร ก็คงต้องรอดูกัน

คุณ Groundhog ลองใช้ ตัว cashflow ต่อ oe หรือ oa ดูนะครับ
ลองวิเคราห์โดยcashflow ดูบ้างสิครับเผื่อจะเห็นความต่างของสองตัว
ได้ไรใหม่ๆก็มาบอกกันนะครับ

ว่าแต่ ถ้าจะซื้อหุ้นนี้จะซื้อเพราะอะไรหละครับ ?

ขอบคุณครับคุณ naris แต่คุณ naris เข้าใจผมผิดครับ (ผมทราบว่าคำนวณ ROE จากอะไรครับ)  PE PVB ROE กำไร/รายได้ ที่ผมอ้างขึ้นมาก็เพื่อเป็น references ให้เห็นว่าพื้นฐานของโอกาสทำกำไรของทั้งสองบริษัทไม่ต่างกันครับ ผมอ้างอิงจาก settrade ไม่ได้คำนวณเองครับ

Rocker

คุณ Groundhog ลองใช้ ตัว cashflow ต่อ oe หรือ oa ดูนะครับ
ลองวิเคราห์โดยcashflow ดูบ้างสิครับเผื่อจะเห็นความต่างของสองตัว
ได้ไรใหม่ๆก็มาบอกกันนะครับ ว่าแต่ ถ้าจะซื้อหุ้นนี้จะซื้อเพราะอะไรหละครับ ?

ขอบคุณคุณ Rocker ครับ ผมเป็นมือใหม่ยังนึกภาพการเปรีบยเทียบโดยใช้ cashflow ไม่กระจ่าง แต่จะลองดูครับ
สัดส่วนรายได้ของ centel จากธุรกิจด้านอาหารมากขึ้นเรื่อย ๆครับ (KFC และโดนัทก็ยังขายดีอยู่) จนน่าจะย้ายไปอยู่ในหมวดเดียวกับ mint นอกจากนี้ยังมีแผนขยายห้องพักและแบรนด์อาหารต่อไปเรื่อยๆ ทำให้เชื่อว่าการเติบโตของกิจการยังมั่นคงและเพิ่มขึ้นได้ ผมคิดว่าเป็นหุ้นที่ดีตัวหนึ่งที่ราคายังไม่แพงนักและผู้ถือหุ้นใหญ่ก้อไม่ค่อยสนใจทำราคาหุ้นครับ

ขอตอบในมุมมองของคนที่ถืออยู่ทั้ง 2 ตัวนะครับ

1. ผู้บริหารของ MINT ดูโปร่งใสกว่า CENTEL ครับ

เหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้ผมคิดอย่างนี้คือการซื้อหุ้นจากบริษัทอาหารของ CENTEL
โดยมีการเลื่อนกำหนดการซื้อหุ้น16%จากกลุ่มจิราธิวัฒน์
แล้วจ่ายปันผลจากบริษัทอาหารออกมาก่อน
หลังจากนั้นค่อยซื้อหุ้นจากกลุ่มจิราธิวัฒน์ที่ราคาเดิม

2. อนาคตการขยายสาขาธุรกิจอาหารของ MINT ไปได้ไกลกว่าแน่ๆ

เพราะ CENTEL ไม่ได้ถือสิทธิ์ทั้งหมดของแต่ละ Brand (เกือบทั้งหมดในไทยเป็นสิทธิ์ของ YUM)
ดังนั้นการขยายสาขามีข้อจำกัด
แต่ MINT ไม่ติดข้อจำกัดตรงนี้

แค่ 2 ข้อนี้สำหรับผม ราคา pe ของทั้งคู่ก็สมเหตุสมผลแล้วครับ
เพราะว่า pe ที่ต่ำของ CENTEL คือ Margin of Safety ของความเสี่ยงตรงนี้

การจะเลือกหุ้นบางทีก็ต้องมองให้ทั่วกว่าอัตราส่วนต่างๆครับ
เพราะบางทีดูเหมือนว่าหุ้นถูกกว่าในวันนี้ แต่ในอนาคตอาจจะแพงกว่าก็ได้

แต่ทั้งนี้ผมไม่ได้ความคุ้มค่าของ CENTELสู้ MINT ไม่ได้นะครับ
เพราะความได้เปรียบของ CENTEL ก็คืออัตราส่วนทั้งหลายนี่แหละ
ที่พอจะชดเชยข้อด้อยต่างๆ

สรุปว่าที่ pe หรืออัตราส่วนต่างของ CENTEL ดูต่ำกว่า MINT ก็สมเหตุสมผลดีครับ

ชอบและถือทั้งสองตัวครับ คิดว่าที่ Centel trade ที่ PE ต่ำกว่าน่าจะเป็น Concern เรื่อง Sofitel ลาดพร้าว ที่เป็นตัวทำรายได้หลัก ว่าจะได้ต่อสัญญากับการรถไฟรึป่าว และ Mint น่าจะมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีกว่ามากจากการขยายแฟรนไชส์ the pizza ในตะวันออกกลาง และจีน Swensen ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ในขณะที่ Centel ปัจจุบันขยายได้แค่ในประเทศ แต่เห็นผู้บริหารว่ามีแบรนด์ใหม่ๆเสนอให้ทาง Centel เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ในภูมิภาคนี้)

หากผมเข้าใจไม่ผิด centel มีสิทธ์เปิด pizza hut และ KFC ในห้างเครือเซนทรัลเท่านั้นหรือเปล่าครับ

ส่วนธุรกิจโรงแรมของ centel ยังสู้ mint ไม่ได้แน่นอน นอกจากนั้นยังจะมีการลงทุนอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้ ใครลองคำนวณ cash flow ดูซิครับ ผมว่าไม่น่าจะพอ ต้องเพิ่มทุนไม่ทางใดทางหนึ่งเหมือน mint เกิด dilution แล้วพีอีก็จะสูงขึ้นเอง

แต่ก็ centel ก็ชดเชยด้วย พีอีต่ำไปแล้วครับ รักใครชอบใครก็เลือกได้เลย

หากผมเข้าใจไม่ผิด centel มีสิทธ์เปิด pizza hut และ KFC ในห้างเครือเซนทรัลเท่านั้นหรือเปล่าครับ

ตอนแรกผมก็เข้าใจแบบพี่ว่าครับ
แต่ล่าสุดผมไปกิน KFC ที่ BIGC มา(ซึ่งเป็นของ CENTEL แน่ๆ)
เค้าดันให้บัตรสะสมแต้มการกินแต่ละครั้งโดยสาขาที่ใช้สะสมได้ในนั้นดันมีสาขาที่คาฟูร์ด้วย
ผมก็เลยชักจะไม่แน่ใจแล้วซิ
ใครรู้ช่วยตอบหน่อยครับ

ปัญหาก็คือคุณวิเคราะห์ได้เองอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องถามใครเลยว่าควรลงตัวไหน เท่าที่จำได้เคยมีคนถามตอน centel 18 บาทมาทีนึงแล้ว เพราะคนที่ถือ mint ก็ต้องบอกว่า mint ดีกว่าอยู่แล้ว ถ้าเราดูแล้วถูกและดีก็ซื้อสิครับไม่ต้องไปถามหรอก มันก็เหมือนตอนนู้น OISHI 19 บาท มีคนบอกว่าชาเขียวเป็นแฟชั่น แต่เราก็รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนก็กิน ใครก็กิน ถ้าฟังคนวิจารณ์คุณก็อาจจะไม่ได้ซื้อไปแล้ว เพราะร้อยละ 80 บอกว่าชาเขียวเป็นแฟชั่น
    อยากให้หนักแน่นครับ คุณวิเคราะห์ได้ดีอยู่แล้ว