Thai VI

ขอตัวอย่างประกอบด้วยจะยิ่งดีครับ  :?:

สามารถบอกได้ระดับหนึ่งครับ หรือพูดแบบนักวิชาการ ก็เป็นindicaterตัวหนึ่งในหลายๆตัว
ถ้าเปรียบงบการเงิน ก็เปรียบเสมือนแผนที่ๆเราต้องการไปให้ถึง เราก็ต้องเช็คแผนที่การเดินทางดูเป็นระยะๆว่าบ.ที่เราลงทุนอยู่เดินได้ถูกทางหรือเปล่า ถ้าออกนอกลู่นอกทางเรารู้ตัวก่อนผู้อื่น และข้อดีอีกแบบคือความน่าจะเป็นในอนาคตตามหลักสถิติ ก็สามารถคาดการณ์ได้ว่าอนาคตจะไปยังทิศทางไหน(ดูควบคู่กับปัจจัยอื่นๆ)

ผมเข้าใจว่าอดีตบอกปัจจุบัน และบอกอนาคตได้

แต่เราจะเดามันได้แม่นแค่ไหน ก็อยู่ที่ขอบเขตความรู้ของเรา

มีอะไรที่บอกอนาคตได้บ้างครับ

เท่าที่เคยเห็น ก็คือ ไทม์แมทชีน ของโดราเอมอน
ถ้ามีซักเครื่องจะขอยืมไปเอาข้อมูล data ของ MetaStock ในอนาคตมาใช้ซะหน่อย

ถ้าใช้คำว่าบอกอนาคตผมว่าจะมีมั๊ยเนี่ย
ที่เค้าอ่านก็ศึกษา อดีต เพื่อ แนวโน้มในอนาคต (กันรึป่าวครับ)

ถ้าในงบดุลมีหนี้เยอะมากกกก...อนาคตในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น จะยังดีมั้ยคับ

ถ้ามีกระแสเงินสดไหลเข้าจากการดำเนินการเยอะมาก...อนาคตจะได้ปันผลเยอะมั้ยคับ

สรุปว่างบการเงินบอกอนาคตของธุรกิจได้บางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด และไม่ได้บอกราคาหุ้นในอนาคตระยะสั้น

เห็นด้วยครับว่างบการเงินไม่สามารถบอกอนาคตได้เลย









เพราะไม่เคยดู  


อนาคต = 1/4ของอดีต+1/2ปัจจุบัน+1/4ของอนาคต(ที่คาดการณ์พอได้ตามข้อมูล)
มั่วจริงๆ  :lovl:

เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการลงทุนครับ
ซึ่งก็สำคัญ ที่จะบอกว่าหุ้นควรซื้อขายเท่าไหร
มีการใช้จ่ายเงินอย่างไร
เช่นถ้าบอกว่ากำไรดี แต่ในไม่มีเงินสดเข้ามาบริษัทเลย
มันก็จะบอกเราแล้วว่าเริ่ม มีอะไรไม่ค่อยดีแล้ว

ควรศึกษาไว้ประกอบการลงทุนด้วยครับ

สามารถบอกได้ระดับหนึ่งครับ หรือพูดแบบนักวิชาการ ก็เป็นindicaterตัวหนึ่งในหลายๆตัว

ถ้าในงบดุลมีหนี้เยอะมากกกก...อนาคตในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น จะยังดีมั้ยคับ
ถ้ามีกระแสเงินสดไหลเข้าจากการดำเนินการเยอะมาก...อนาคตจะได้ปันผลเยอะมั้ยคับ
สรุปว่างบการเงินบอกอนาคตของธุรกิจได้บางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด และไม่ได้บอกราคาหุ้นในอนาคตระยะสั้น

เห็นด้วยครับ

ผมว่างบการเงินเหมือนผลการตรวจสุขภาพเเบบละเอียดครับ สมมุติว่าผลตรวจบอกว่ามีไขมันในเส้นเลือดมาก เราก็สามารถรู้เเนวโน้มได้ว่าจะเป็นโรคอะไรตามมาเเละสุขภาพจะเป็นอย่างไงต่อไป อย่างน้อยก็บอกได้ว่าถ้าเป็นโรคนี้เเล้วจะแก้ไขอย่างไง ส่วนวิธีการเเก้ไขจะสามารถรักษาให้หายหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง  หรืออาจจะไม่มีการแก้ไขเลยทั้งๆที่รู้

ถ้าผลตรวจบอกว่าร่างกายเเข็งเเรงดีสามารถรับมือกับกิจกรรมหนักๆได้ มีภูมิคุ้มกันโรคติดต่อหลายชนิด เเล้วเราก็ดูแลรักษาสุขภาพอย่างดีป้องกันกันตัวจากโรคภัยต่างๆที่คลาดว่าสามารถเป็นได้  แต่บังเอิญวันหนึ่งเกิดถูกใครก็ไม่รู้ตีหัวทั้งๆที่ไม่ทราบสาเหตุมาก่อนขณะเดินเที่ยวอยู่  ผมคิดว่าน่าเหมือนกับบริษัทที่กำลังประสบปัญหาที่คลาดไม่ถึงมาก่อน แต่อย่างไงก็ตามผมเชื่อว่าบริษัทที่มีงบการเงินแข็งแกร่งคงเหมือนกับคนที่มีสุขภาพเเข็งเเรงที่สามารถฟื้นตัวจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้เร็วกว่าคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ

ผลตรวจสุขภาพจะถูกต้องแค่ไหนคงขึ้นอยู่กับเราด้วยว่าเราได้บอกข้อมูลที่เป็นความจริงทั้งหมดกับหมอหรือไม่ อันนี่ผมว่าน่าจะเหมือนกับงบการเงินที่เจ้าของจะทำขึ้นจากความเป็นจริงมากน้อยเเค่ไหน

การวิเคราะห์ผลตรวจสุขภาพและการให้คำเเนะนำของหมอจะถูกต้องแค่ไหนคงขึ้นอยู่กับความสามารถเเละประสบการณ์ของหมอเอง อันนี่ผมว่าน่าจะเหมือนกับความสามารถเเละประสบการณ์ในการการวิเคราะห์งบการเงินครับ
 :mrgreen:  :mrgreen:  :mrgreen:

เมื่อวันเสาร์อบรมบัญชีพื้นฐาน    แรกเริ่มในเบื้องต้นคุณมนก็พูดถึงการให้
ความสำคัญการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ 70 %  งบบัญชี 30 %      
ทำให้ผมนึกถึงเหมือนกับทางการศึกษาที่จะให้สอบเอนฯเข้ามหาวิทยาลัย    
จะใช้ GPA 30%
 
เมื่อผมพิจารณาดูแล้ว     หากไม่สนใจเรื่องงบดุล บ/ช      ก็มีโอกาสพลาด
ในการคัดสรรเลือกหุ้นที่ดีได้    เหมือนกับไม่สนใจคะแนน GPA   ซึ่งดูแล้ว
มีความสำคัญเช่นกัน  :D

ขอบคุณทุกความเห็นครับ
ส่วนตัวผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
แต่ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่  หุหุ

เอ  ขาดพี่ฉัตรชัย นี่นา