ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 06, 2005 10:41 am
ปี 2553 จุดจบประเทศไทย......คนไทยทุกคนควรอ่าน
>เรื่องนี้คนไทยทุกคนควรที่จะได้รู้.....ประเทศต่าง ๆในโลกนี้มีเกิด มีดับตลอดเวลา.....ประเทศไทยก็ไม่พ้นวิถีนี้เช่นกัน
>สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค
>ซึ่งเป็นสถาบันที่สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง
>เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14ประเทศ
>ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆหัวเราะจนฟันกระเด็น
>
>แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง!
>ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็นติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศอาเจะ และอีกหลายประเทศที่จะเกิดตามมา
>
>ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ
>คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 -6 ประเทศแน่นอน!
>ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553
>ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์
>
>สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล
>ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน
>และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ
>ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง
>เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย
>จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน
>คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน
>เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้
>เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน
>
>เนื่องจากสินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า
>เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
>เนื่องจากในอีก 10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก
>GMOsและเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้
>วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
>
>รัฐบาลไทยจะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้
>เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น
>โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้วเขาสามารถตั้งราคา
>ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่าเขาจะไม่มีกำไร
>ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟตัดโทรศัพท์
>คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้
>
>ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้
>การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมาคนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ
>ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว
>เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้
>เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Big C, Lotus,
>Carrefour,ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat,McDonal,สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ
>ดังนั้น เงินตราของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด...
>
>เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้...รัฐจะอยู่ได้ฤา ?
>
>4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย
>เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี 2553
>คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย
>การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น
>จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหารก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย
>ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน
>
>จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา จะขอแยกตัวตามมา
>เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ
>ทั้งสมุนไพรอาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก
>นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จากRussia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่
>
>เราจะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ?
>
>ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น
>ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ
>ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์บ่อยครั้งที่นิติภูมิ
>มองการค้า การเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามอง อาเจนติน่า
>ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ
>ก่อนล่มจริง...เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค
>ข้อคิดรวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ
>
>ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ
>ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย
>แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ
>ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร
>เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาท ที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส
>86 บาทเหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน
>
>นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู
>ของ 3 ห้างดัง
>ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น
>เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 เปอร์เซ็นต์
>สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5
>บาทก็ซื้อที่นี่
>เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง
ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ
>ถ้าซื้อจากห้าง 1,000บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900บาท ที่เหลือ 100 บาท
>ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว
>ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้างทั่วประเทศ
>คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ100 เปอร์เซ็นต์
>เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร
>
>ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง
>เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด
>ผมอธิบายวิธีสิ้นชาติแบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้านและลูกฟัง
>หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว
>ดีครับ ได้ผล...ลูกเปลี่ยนวิธีกิน. วิธีคิดไปเลย... เปลี่ยนไปได้มาก
>พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง
>ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ
>แล้วผมไป
kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย
>
>ผมก็อธิบายคำว่า license (ค่าลิขสิทธิ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ
>ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทยไม่มีลิขสิทธิ มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน
>ขนมต่างชาติ ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี
>ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว
>
>ปล.ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ ยาวไปหน่อย แต่อยากให้อ่าน
>เพื่อที่ไทยเราจะได้อยู่รวมเป็นชาติไทยต่อไป
>
>** เมื่อกี้ดูที่นี่ประเทศไทย เปิดเพลงชาติให้ฟัง ไม่เคยฟังแล้วรู้สึกว่าอยากร้องไห้เท่าวันนี้เลย
>ฟังแล้วเห็นภาพที่คนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ แต่อยากจะขออีกอย่างหนึ่งคือรักชาติหน่อย
>ช่วยกันหน่อยครับซื้อสินค้าไทย เลิกได้แล้วกับการซื้อของแบรนเนม มันจะทำให้ชาติล่มจม
และชาวviจะรับมือกับeventนี้อย่างไรถ้าเกิดขึ้นจริง ?
ปัญญหาก็คือถ้าคนกินเงินเดือนหรือ น.ศจบใหม่ที่มีภาระต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน
อาหาร คงไม่สามารถที่จะยอมจ่ายแพงเพื่อ ซื้อของไทยกินได้ เนื่องจาก
อาหารผักต้องทานทุกวัน หากจ่ายเพิ่มขึ้น 3-5 บาท หลายๆวันก็เยอะเหมือนกัน
>เรื่องนี้คนไทยทุกคนควรที่จะได้รู้.....ประเทศต่าง ๆในโลกนี้มีเกิด มีดับตลอดเวลา.....ประเทศไทยก็ไม่พ้นวิถีนี้เช่นกัน
>สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค
>ซึ่งเป็นสถาบันที่สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง
>เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14ประเทศ
>ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆหัวเราะจนฟันกระเด็น
>
>แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง!
>ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็นติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศอาเจะ และอีกหลายประเทศที่จะเกิดตามมา
>
>ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ
>คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า ประเทศไทยจะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 -6 ประเทศแน่นอน!
>ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553
>ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ การค้าเสรีจะมีผลสมบูรณ์
>
>สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล
>ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน
>และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ
>ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง
>เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย
>จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน
>คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน
>เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้
>เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน
>
>เนื่องจากสินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่าสินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า
>เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
>เนื่องจากในอีก 10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก
>GMOsและเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้
>วิกฤตที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
>
>รัฐบาลไทยจะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้
>เนื่องจากธนาคารไทยกลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น
>โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้วเขาสามารถตั้งราคา
>ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่าเขาจะไม่มีกำไร
>ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟตัดโทรศัพท์
>คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้
>
>ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้
>การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมาคนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ
>ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว
>เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้
>เพราะธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Big C, Lotus,
>Carrefour,ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat,McDonal,สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ
>ดังนั้น เงินตราของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด...
>
>เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้...รัฐจะอยู่ได้ฤา ?
>
>4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย
>เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม ในปี 2553
>คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็นความล้มเหลวของรัฐบาลไทย
>การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น
>จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหารก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย
>ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน
>
>จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณจันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา จะขอแยกตัวตามมา
>เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ
>ทั้งสมุนไพรอาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก
>นั่นหมายถึง การซื้อประเทศไทย คล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จากRussia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่
>
>เราจะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ?
>
>ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น
>ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ
>ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์บ่อยครั้งที่นิติภูมิ
>มองการค้า การเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามอง อาเจนติน่า
>ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ
>ก่อนล่มจริง...เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค
>ข้อคิดรวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ
>
>ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ
>ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย
>แทนที่ไปเดิน big-c, lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ
>ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร
>เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาท ที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส
>86 บาทเหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ บิกซี โลตัสเหมือนกัน
>
>นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู
>ของ 3 ห้างดัง
>ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น
>เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 เปอร์เซ็นต์
>สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5
>บาทก็ซื้อที่นี่
>เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง
ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ
>ถ้าซื้อจากห้าง 1,000บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900บาท ที่เหลือ 100 บาท
>ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว
>ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้างทั่วประเทศ
>คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ100 เปอร์เซ็นต์
>เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร
>
>ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง
>เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด
>ผมอธิบายวิธีสิ้นชาติแบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้านและลูกฟัง
>หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว
>ดีครับ ได้ผล...ลูกเปลี่ยนวิธีกิน. วิธีคิดไปเลย... เปลี่ยนไปได้มาก
>พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง
>ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ
>แล้วผมไป
kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย
>
>ผมก็อธิบายคำว่า license (ค่าลิขสิทธิ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ
>ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทยไม่มีลิขสิทธิ มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน
>ขนมต่างชาติ ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี
>ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว
>
>ปล.ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ ยาวไปหน่อย แต่อยากให้อ่าน
>เพื่อที่ไทยเราจะได้อยู่รวมเป็นชาติไทยต่อไป
>
>** เมื่อกี้ดูที่นี่ประเทศไทย เปิดเพลงชาติให้ฟัง ไม่เคยฟังแล้วรู้สึกว่าอยากร้องไห้เท่าวันนี้เลย
>ฟังแล้วเห็นภาพที่คนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ แต่อยากจะขออีกอย่างหนึ่งคือรักชาติหน่อย
>ช่วยกันหน่อยครับซื้อสินค้าไทย เลิกได้แล้วกับการซื้อของแบรนเนม มันจะทำให้ชาติล่มจม
และชาวviจะรับมือกับeventนี้อย่างไรถ้าเกิดขึ้นจริง ?
ปัญญหาก็คือถ้าคนกินเงินเดือนหรือ น.ศจบใหม่ที่มีภาระต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน
อาหาร คงไม่สามารถที่จะยอมจ่ายแพงเพื่อ ซื้อของไทยกินได้ เนื่องจาก
อาหารผักต้องทานทุกวัน หากจ่ายเพิ่มขึ้น 3-5 บาท หลายๆวันก็เยอะเหมือนกัน