Thai VI

ขอความเห็นทุก ๆ คนหน่อยครับ

เห็นด้วย และดีใจครับ

i think so cosz our market was controlled by small number of investors so e important factor to make decision on investment should timming eventhough u found e valuable stock however it could make u loss and diminish ur weath

เห็นด้วยครับ แต่อยากให้บริษัทมีประสิทธิภาพกว่านี้หน่อยอ่ะ
ส่วนตลาด ไร้ประสิทธิภาพน่ะดีแล้ว 555

เห็นด้วยครับ แต่อยากให้บริษัทมีประสิทธิภาพกว่านี้หน่อยอ่ะ
ส่วนตลาด ไร้ประสิทธิภาพน่ะดีแล้ว 555

เห็นด้วยครับ

ถึงตลาดจะไร้ประสิทธิภาพ แต่ระยะเวลา 3 ปีในตลาด ทำให้ผมรู้ว่า คนที่เข้ามาเป็นระยะๆ จะมีคำถามคล้ายๆกัน

รู้เรื่องตลาดดีๆก็เตือนน้องนุ่งด้วยนะครับพี่คัดท้าย
ปล.อีก4วันเจอกันพี่ จะเอาอากาศบริสุทธิ์อัดกระป๋องไปฝาก :lovl:

มีผลงานวิจัยของต่างประเทศหลายฉบับที่ชี้ให้เห็นว่าตลาดหุ้นของประเทศกำลังพัฒนาหลายประเทศไม่มีประสิทธิภาพ

แล้วตลาดไหนมีประสิทธิภาพบ้างครับ  

ผมว่ามีแต่ในโลกวิชาการมากกว่าครับ

ผลงานวิจัยตลาดหลักทรัพย์ในอเมริกาและประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศกี่อันกี่อันล้วนแต่ confirm ว่าตลาดมีประสิทธิภาพ (Yes with high statistically confidence level) เป็นส่วนใหญ่

แม้ว่าการทดสอบเชิงสถิติไม่ได้เป็นการพิสูจน์ว่าตลาดมีประสิทธิภาพ 100% เพราะการทดสอบเชิงสถิติทุกชนิดย่อมมีปัญหาเรื่อง sampling errors ( Type I, II error) แต่การที่ Hypothesis Test บอกว่า Yes ด้วย statistical confidence level สูงๆ เช่น 95% เป็นการบอกว่า ตลาดน่าจะมีพฤติกรรมใกล้เคียงกับตลาดที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ดร.ทางการเงินในอเมริกาส่วนใหญ่เชื่อเรื่อง EMH แม้แต่เพื่อนผมเป็นดร.อยู่ที่นิวซีแลนด์ยังเชื่อเลย

พูดเรื่องนี้ทีไรเหมือนพูดเรื่อง การเมือง เชื้อชาติ ศาสนา "ของขึ้น" กันทุกที

ไปล่ะ

สุมาอี้ เขียน:
พูดเรื่องนี้ทีไรเหมือนพูดเรื่อง การเมือง เชื้อชาติ ศาสนา "ของขึ้น" กันทุกที

เห็นด้วยครับ

สุมาอี้ เขียน: พูดเรื่องนี้ทีไรเหมือนพูดเรื่อง การเมือง เชื้อชาติ ศาสนา "ของขึ้น" กันทุกที

ไปล่ะ

พูดแบบนี้เทียบได้กับพูดว่า "การเมืองไทย มันน้ำเน่า" .... ถามว่าการเมืองที่ไหนน้ำมันไม่เน่ามั่ง ???

มีแต่เน่าน้อย หรือ เน่ามาก ... ก็แค่นั้น ...

ต้องถามตัวเองว่า จะเล่นการเมืองหรือไม่ ? จะไปเลือกตั้งหรือไม่ ?

ถ้าจะเล่นการเมือง ก็ต้องเข้าใจวิธีเล่น ในแต่ละที่ ....
ถ้าจะไปเลือกตั้ง ก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุดที่จะเลือกได้ ...

ก็แค่นั้นเอง ....

............. จะเล่นหุ้นหรือไม่ ?
............. ก็แค่นั้นเอง .....

[quote="chatchai"]แล้วตลาดไหนมีประสิทธิภาพบ้างครับ

ตลาดบ้านเราก็ดูจะมีประสิทธิภาพดีกว่าแต่ก่อน  

เห็นด้วยครับ ผมว่าทุกวันนี้เลือกซื้อหุ้นดีๆยากกว่า 3-4 ปีก่อนจมเลย ตอนนั้นมีหุ้นดีๆราคาถูกเยอะมาก เดี๋ยวนี้ดูแล้วดูอีกยังหาไม่ค่อยได้เลยหว่า  :roll:

[quote="Knott"]

เห็นด้วยครับ ผมว่าทุกวันนี้เลือกซื้อหุ้นดีๆยากกว่า 3-4 ปีก่อนจมเลย ตอนนั้นมีหุ้นดีๆราคาถูกเยอะมาก เดี๋ยวนี้ดูแล้วดูอีกยังหาไม่ค่อยได้เลยหว่า

[quote="Knott"][quote]
ตลาดบ้านเราก็ดูจะมีประสิทธิภาพดีกว่าแต่ก่อน

พูดกันตรง ๆ เท่าที่ผมดูคือหุ้นดี ๆ ในสไตล์ที่ buffet ชอบ 100%
ไม่มีราคาถูก ๆ หรอก หรือราคาที่แกต้องการหรอก
ส่วนหุ้นถูก ๆ อาจจะเข้าเกณฑ์บ้างไม่เข้าบ้างอย่างพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
บางตัวตอนนี้น่าสนใจมาก ๆ

buffet พูดว่าไม่ลงทุนจนกว่าจะพบของมีค่าแกการซื้อ+ซื้อของตอนถูกๆ

ถ้าแกมาเมืองไทยผมว่าแกก็คงเซ็ง ๆ เหมือนกัน
ไอ้ของถูกมันหาของดีจริงแทบไม่เจอ
ได้ของดีจิง มันก็ไม่ถูก ถ้าราคาไม่สมเหตุผลก็แพงไปเลย
หรือส่วนลดก็ไม่มาก

พูดไปพูดมาคือของดีจริง ราคาถูกมาก ๆ เมืองไทย
เพื่อน ๆ ว่ามีตัวไหนบ้างตอนนี้

ถ้าสินค้ามีประสิทธิภาพ  ตลาดไม่มีผลต่อสินค้าค่ะ

    ทุกสิ่งเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ค่ะ

หากคำกล่าวที่ว่าตลาดหุ้นไม่มี  (บัฟเฟต  กล่าวมั๊ง)
แล้วอะไรที่ไม่มีประสิทธิภาพ
นักลงทุนกระมัง ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ?

หากหุ้นดี ราคาขึ้นไปเร็วเกินพื้นฐาน
นักลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน ก็ขายทำกำไร
ราคาหุ้นจะไปPEมากๆ ก็เกิดขึ้นน้อย

ขณะเดียวกันนักเก็งกำไร ก็ระมัดระวังตัว
กลัวติดดอย เริ่มกล้าคัดลอส  PEสูงๆในหุ้นเก็งกำไรก็อยู่ไม่นาน

ตลาดก็เปลี่ยนทิศไปเรื่อยๆ แบบไม่มีใครรู้ล่วงหน้าได้
ผมถึงว่ายังไงๆ ตลาดก็ไม่มีทางมีประสิทธิภาพเต็มที่
เพียงแต่มีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน (ค่อยๆ กำลังพัฒนา 555)
ดังนั้นจึงเป็นอย่างที่เห็น ตลาดไม่ได้ซี้ซั้วพุ่งไป1400จุดยังแต่ก่อน
และคงไม่ลงไป204จุดอีกง่ายๆ

แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในอนาคต เพียงแต่ไม่มีใครรู้ก่อน

ไม่ค่อยเข้าใจ
  Book Value  0.5 เท่า PE 15 เท่า
  Book Value  4เท่า  PE  6 เท่า
 อันไหนเรียกว่ามีประสิทธ์ภาพ  แล้วบรรดาเซียนทั้งหลายจะเลือกตัวใหน

ภาวะตลาดในแต่ละปี ความเสี่ยงและโอกาสในการเติบโตไม่เท่ากัน พีอี ตลาดในแต่ละปีจึงไม่ควรเท่ากัน การดูจาก พีอี จึงไม่สามารถบอกได้ว่าตลาดมีประสิทธิภาพหรือไม่ พีอีที่สูงอาจเป็นเพราะมันสมควรสูง พีอีต่ำอาจเป็นเพราะมันสมควรต่ำ

ตลาดไม่มีประสิทธิภาพ คืออะไรเหรอครับ ???

สุมาอี้ เขียน:ผลงานวิจัยตลาดหลักทรัพย์ในอเมริกาและประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศกี่อันกี่อันล้วนแต่ confirm ว่าตลาดมีประสิทธิภาพ (Yes with high statistically confidence level) เป็นส่วนใหญ่

แม้ว่าการทดสอบเชิงสถิติไม่ได้เป็นการพิสูจน์ว่าตลาดมีประสิทธิภาพ 100% เพราะการทดสอบเชิงสถิติทุกชนิดย่อมมีปัญหาเรื่อง sampling errors ( Type I, II error) แต่การที่ Hypothesis Test บอกว่า Yes ด้วย statistical confidence level สูงๆ เช่น 95% เป็นการบอกว่า ตลาดน่าจะมีพฤติกรรมใกล้เคียงกับตลาดที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ดร.ทางการเงินในอเมริกาส่วนใหญ่เชื่อเรื่อง EMH แม้แต่เพื่อนผมเป็นดร.อยู่ที่นิวซีแลนด์ยังเชื่อเลย

พูดเรื่องนี้ทีไรเหมือนพูดเรื่อง การเมือง เชื้อชาติ ศาสนา "ของขึ้น" กันทุกที

ไปล่ะ

ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพ  ที่สหรัฐคงไม่เกิดเหตุการณ์ฟองสบู่ของ Nasdaq แตกเมื่อไม่กี่ปีก่อน

ผลงานวิจัยตลาดหลักทรัพย์ในอเมริกาและประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศกี่อันกี่อันล้วนแต่ confirm ว่าตลาดมีประสิทธิภาพ (Yes with high statistically confidence level) เป็นส่วนใหญ่

แม้ว่าการทดสอบเชิงสถิติไม่ได้เป็นการพิสูจน์ว่าตลาดมีประสิทธิภาพ 100% เพราะการทดสอบเชิงสถิติทุกชนิดย่อมมีปัญหาเรื่อง sampling errors ( Type I, II error) แต่การที่ Hypothesis Test บอกว่า Yes ด้วย statistical confidence level สูงๆ เช่น 95% เป็นการบอกว่า ตลาดน่าจะมีพฤติกรรมใกล้เคียงกับตลาดที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ดร.ทางการเงินในอเมริกาส่วนใหญ่เชื่อเรื่อง EMH แม้แต่เพื่อนผมเป็นดร.อยู่ที่นิวซีแลนด์ยังเชื่อเลย

อันนี้ขอค้านครับ  มีนักวิจัยหลายท่านเป็นจำนวนมากที่ไม่เชื่อใน EMH เช่น LeRoy , Shiller โดยบางท่านยืนยันว่าราคาหุ้นบางช่วงเวลาจะต่ำกว่า หรือสูงกว่า มูลค่าความเป็นจริง  แต่ในระยะยาวแล้วจะมีลักษณะ mean reverting คือวิ่งเข้าสูงราคาเฉลี่ย  ยิ่งในปัจจุบัน นักวิจัยในอเมริกา หันมาเล่นเรื่อง Market microstructure ยิ่งมีหลักฐานออกมาค้าน EMH อีกเพียบ โดยนักวิจัยเหล่านั้นพยายามแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถ คาดผลตอบแทนได้หากเขารู้โครงสร้างของ Market microstructure ของหลักทรัพย์นั้นๆๆได้  หลังๆๆ เจ้าพ่อ  EMH ตา Fama แกก็หันไปสนใจ behavior finance แทน EMH แล้วนะครับ

ทุกคนไม่ได้มีหลักเกณฑ์ กับ วิธีการลงทุนเหมือนกันนี่ครับ
Vi เหมาะกับตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพอยู่แล้วนี่นา ยิ่งไม่มีเท่าไหร่ Vi ยิ่งได้เปรียบ

ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพ เราคงต้องหาทางเล่นหุ้นให้ได้เงินแบบอื่น
อีก สภาพแวดล้อมฝูงชนเองยังทำให้ จิตใจนักลงทุนที่คิดว่ามีหลักการณ์แปรปรวนได้

คนที่เล่นแบบ มีหลักการณ์การวิเคราะห์มูลค่า ซื้อหุ้น เอ ที่ 10 บาททั้งที่มูลค่าควรกับผลตอบแทนของมันน่าจะอยู่ที่ 13 บาท
พอหุ้นลงไปเหลือ  7 บาท ก็เริ่มหวั่นใจทั้งที่ ตอนวิเคราะห์ออกมา ราคาที่ 10 บาทเป็นราคาน่าซื้อแล้ว พอหุ้นกลับมาถึง 10 ก็รีบขายทิ้ง แล้วก็โล่งอก แต่ราคาก็ปรับสูงไป ถึง 18 บาท  
นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆ นะผมว่า

The debate about efficient markets has resulted in hundreds and thousands of empirical studies attempting to determine whether specific markets are in fact "efficient" and if so to what degree. Many novice investors are surprised to learn that a tremendous amount of evidence supports the efficient market hypothesis. Early tests of the EMH focused on technical analysis and it is chartists whose very existence seems most challenged by the EMH.

เอามาจากอันนี้อ่ะครับ

http://www.investorhome.com/emh.htm

จริงครับที่เริ่มมีนักวิชาการส่วนหนึ่งเริ่มเอนเอียงไปทางที่เชื่อว่าตลาดไม่มีประสิทฺธิภาพ ซึ่งเป็น area ที่ค่อนข้างใหม่ แต่ยังนับว่าเป็นส่วนน้อยอยู่ นักวิชาการส่วนใหญ่ไม่ได้บอกว่าตลาด perfectly efficient แต่บอกว่า ตลาด very very efficient จนทำให้ แม้จะสามารถสร้าง excess return ให้เกิดขึ้นได้จาก active investing แต่ก็จะน้อยมากจนไม่คุ้มกับ transaction costs

[quote="Onokung"]ทุกคนไม่ได้มีหลักเกณฑ์ กับ วิธีการลงทุนเหมือนกันนี่ครับ
Vi เหมาะกับตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพอยู่แล้วนี่นา ยิ่งไม่มีเท่าไหร่ Vi ยิ่งได้เปรียบ

ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพ เราคงต้องหาทางเล่นหุ้นให้ได้เงินแบบอื่น
อีก สภาพแวดล้อมฝูงชนเองยังทำให้ จิตใจนักลงทุนที่คิดว่ามีหลักการณ์แปรปรวนได้

คนที่เล่นแบบ มีหลักการณ์การวิเคราะห์มูลค่า ซื้อหุ้น เอ ที่ 10 บาททั้งที่มูลค่าควรกับผลตอบแทนของมันน่าจะอยู่ที่ 13 บาท
พอหุ้นลงไปเหลือ

ผมยอมรับว่าตัวเองเพิ่งเข้ามาตลาดหุ้น
มีข้อบกพร่องหลายหนึ่ง
ถึงวันนี้ถึงเข้าใจว่า
ตลาดไร้ประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์
แต่บริษัทที่ไร้ประสิทธิภาพเป็นโทษร้ายแรง
ต้องแยกให้ออก จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จ
อยากสิ่งที่อยากเห็นในตลาดหุ้นไทยจึง
อยากเห็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพมีจำนวนมาก ๆ ครับ

ถึงตลาดจะไร้ประสิทธิภาพ แต่ระยะเวลา 3 ปีในตลาด ทำให้ผมรู้ว่า คนที่เข้ามาเป็นระยะๆ จะมีคำถามคล้ายๆกัน