คิดอย่างไรกับสิ่งที่ อนันต์ พูด
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 29, 2005 11:48 am
อเมริกา ประเทศประชาธิปไตย มีการพูดถึงการแบ่งแยกดินแดน อยากแบ่งเท็กซัส ออกมาจาก คอนโดลิซาสเตท รัฐบาล เขาก็ปล่อยให้พูดไป เพราะ ตราบใดที่พูดได้... เขาก็ไม่จับอาวุธ
แต่ละประเทศขบวนการ แบ่งแยกดินแดน มีเสมอ เหมือนน้ำในกระติกร้อน... เผาน้ำอยู่เรื่อย ถ้าฝาปิดแน่นเกินไป... กระติกก็ระเบิด
ต้องเผยอฝาออกบ้าง...ให้ไอน้ำออกมา ให้เขามีโอกาสระบาย
อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการสร้างคณะกรรมการ อิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) บอก
ตราบใดที่เขาไม่ใช้อาวุธ ตราบใดที่เขาไม่ใช้ความรุนแรง ตราบใดที่เขาไม่ทำผิดกฎหมาย...ก็ไม่เป็นไร
ถ้าไปอุ้มเขา ไปยิงเขา ไม่ยอมรับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ วัฒนธรรม จารีต...ใช้ความรุนแรง เพื่อผลประโยชน์...จะเป็นผลประโยชน์จากนโยบายราชการหรือเปล่า หรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวด้านธุรกิจ...ไม่ได้
อานันท์ บอกว่า ถ้าไม่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ทำเกินขอบเขตขบวนการทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม คนไทยต้องไม่ยอมรับและรับไม่ได้
รัฐบาลต้องแสดงออกมาด้วยความจริงใจ...ที่บอกว่า...ขณะนี้นโยบายเปลี่ยนไปแล้ว จากที่ใช้การปราบอย่างเดียว...มาเป็นสันติวิธี ไม่ใช่แต่พูด ต้องทำให้เป็นที่ประจักษ์
ไม่ใช่แต่พูดแต่ข้างบนอย่างเดียว ต้องแน่ใจด้วยว่าทั้งกระบวน การตั้งแต่หัวถึงหาง เดินไปในทิศทางสันติวิธี
สันติวิธีไม่ได้ละทิ้งการปราบ ไม่ใช่ยอมจำนนกับผู้ไม่หวังดี ผู้ก่อการร้าย แต่ต้องทำภายใต้กฎเกณฑ์ในกรอบของกฎหมาย กรอบสิทธิมนุษยชนในกรอบมนุษยธรรม
ทุกสังคม...ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจะเกิดความรู้สึกว่า เขายังเป็นประชาชนประเภทสอง ยังได้รับความดูถูกดูแคลน
ปัญหาสำคัญมากที่ต้องย้ำ เหตุการณ์รายวันที่เกิดขึ้นจับคนผิดไม่ได้ เหตุผลหนึ่งมาจากความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล หรือความเกรงกลัวทำให้ไม่มีใครพูด
คนมุสลิมไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว เมื่อไม่มีคนพูด พยานปากแทบจะไม่มี ความจำเป็นต้องใช้พยานด้านวิทยาศาสตร์...นิติวิทยาศาสตร์ แต่ก็มีปัญหาเจ้าหน้าที่จะทำงาน ทหารก็ไม่ให้เข้าไปตรวจ...ตำรวจก็ไม่ให้เข้าไปยุ่ง...ก็ไม่เข้าใจว่าด้วยเหตุผลใด
ประชาชนยิ่งสงสัย...แล้วอย่างนี้ทหารตำรวจมีอะไรที่จะปกปิด หรือทหารตำรวจมีความผูกโยง มีความข้องเกี่ยวกับคดี?
กอส.คุยกับท่านนายกฯแล้ว ตกลงให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นหัวเรือใหญ่ ทำงานร่วมกับทหารตำรวจ แต่พอมีคำสั่งลงไปในระดับปฏิบัติก็มีคนทำคนเดียว
กอส.จะไปสั่งรัฐบาลก็ไม่ได้ อานันท์ ว่า
ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำความจริงให้ชาวบ้านเข้าใจ ทุกเรื่องจะถึงตัวนายกฯ... หลายคนถูกอุ้มหาย คนในพื้นที่สงสัยมานานแล้ว คุณทักษิณสั่งหรือเปล่า?
ถ้าไม่ให้ความกระจ่าง...คนเหล่านี้หายไปไหน หายไปอย่างไร อยู่ที่ไหน ก็ถึงตัวคุณแน่
บางทีก็อาจไม่เป็นธรรมกับท่านนายกฯ แต่นายกฯมีอำนาจที่จะแก้ไข ให้ความกระจ่างแจ้งได้...รู้ว่าใครอุ้มก็บอกมา สร้างกระบวนการสอบสวนอย่างจริงจัง
คุยกับครอบครัวผู้เป็นเหยื่อ หลักศาสนาอิสลามไม่ได้สอนให้แก้แค้น... โกรธเคือง แต่ชาวบ้านเขาอยากรู้ความจริง
สังคมที่ไม่ขวนขวายหาความจริง ไม่สนใจเรื่องความจริง ผมว่าสังคมนั้นด้อยคุณภาพ
สังคมไหนที่มีแต่คนใจแคบ ยึดแต่ตัวเอง พวกพ้อง ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง สังคมนั้นย่อมเจริญไปไม่ได้
สังคมไทย...คนจำนวนไม่น้อยใจแคบ เอาประโยชน์ใส่ตัวอย่างเดียว ไม่มองถึงความรู้สึก ความนึกคิด...สิทธิของคนอื่น หรือความหวัง ของคนอื่น
อานันท์ บอกอีกว่า ความกลัวเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เมื่อเกิดความกลัวแล้วจะทำอะไรก็เป็นไปในลักษณะฟันต่อฟัน...ตาต่อตา ก็ไม่จบ
อิสราเอล ในดินแดนปาเลสไตน์อาหรับสู้กันมาเกือบ 50 ปีแล้ว...ในไอร์แลนด์ ก็สู้กันมาเกือบ 20 ปี...ตายเกือบ 7 หมื่นกว่าคน
แต่ในไอร์แลนด์มีการเปิดโอกาสให้กลุ่มหัวรุนแรงที่เรียกว่าขบวนการไอริช รีพับลิกันอาร์มี่ เข้าไปนั่งในสภา...ภายใต้พรรคการเมืองได้
รัสเซียก็มีปัญหาในแคชเมียร์ รัฐหนึ่งในประเทศรัสเซีย คนส่วนใหญ่ เป็นคนมุสลิม และอีกหลายประเทศก็มีปัญหายืดเยื้อ...มักเริ่มจากการมีปัญหากับชนส่วนน้อย
สรุปแล้ว...เราต้องดูแลพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้ดีกว่านี้ ด้านการปกครอง ด้านบริหาร เราควรให้การยอมรับและเคารพต่อวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของคนทั้งสองฝ่าย
เราต้องเคารพความเป็นพุทธของคนไทยที่นั่นเหมือนกัน เขาเป็น คนส่วนน้อย เขาก็มีความกลัว...คนไทยพุทธก็ถูกฆ่าทุกวัน ขณะเดียวกัน คนไทยมลายู คนไทยมุสลิมก็ถูกฆ่าทุกวัน...ก็ไม่รู้ว่าใครฆ่ากันแน่ จับก็จับไม่ได้...เราก็ต้องเคารพ
อานันท์ย้ำว่า...คนในพื้นที่ต้องได้รับความยุติธรรมทุกกลุ่ม
ถ้ารัฐไม่สามารถให้ความสงบเกิดขึ้นได้ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ในระยะอันใกล้นี้...ผมถือว่าเป็นความล้มเหลว เพราะรัฐมีหน้าที่ที่จะต้องรักษาความสงบ
รัฐมีกลไกอยู่แล้ว มีข้าราชการด้านการปกครอง มีตำรวจ เดี๋ยวนี้ก็มีทหาร มีหน่วยงานทุกอย่าง...หน้าที่รักษาความสงบประจำวันเป็นหน้าที่ของรัฐ
ถ้ารักษาความสงบประจำวันไม่ได้ โอกาสสร้างความสงบ สันติสุข ในระยะยาว...ก็น้อยลงไป
สังคมไทยเป็นสังคมที่หลากหลาย อยู่รวมกันหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา และก็อยู่ด้วยความสุข ความสงบ เราต้องเข้าใจลึกซึ้ง ต้องเรียนประวัติศาสตร์
อย่าลืมว่าคนจีน พม่า มอญ ที่พลัดถิ่นมา...ต่างกับคนมลายูที่อยู่มานาน ก่อนเป็นรัฐปัตตานี...ซึ่งเฟื่องฟูมาก แล้วก็เป็นท่าเรือใหญ่ ยุคอาณาจักรมัชปาหิต อาณาจักรศรีวิชัย
800 ปีก่อน...ดินแดนสุวรรณภูมิมีคนอยู่ 5 ชาติ พม่า มอญ เขมร เวียดนาม มลายู ทั้งแหลมก็เป็นมลายูทั้งนั้น...คนไทยคือคนต่างชาติ ย้ายมาจากเมืองจีน
ความจริงเราพลัดถิ่นมา...ผสมผสานกับคนที่อยู่ดั้งเดิมก่อนอาณาจักรขอมใหญ่โตมาก เราก็ปลีกตัวมาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย แต่ตอนนั้น...คนมลายูก็อยู่ที่นั่นมานานแล้ว... พูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนรามคำแหงสถาปนาอักษรไทย
วิธีแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ เราต้องรู้ประวัติศาสตร์ ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์จะรู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็ปัญหาเดิม...สาเหตุก็สาเหตุเดิม... วิธีแก้ไขก็ใช้แบบเดิม
เหมือนคำพังเพยที่ว่า...คนเราถ้าไม่รู้จักประวัติศาสตร์ เราก็จะเป็นเหยื่อของประวัติศาสตร์ตลอดเวลา
ถ้าเราอ่านประวัติศาสตร์ เรารู้ความผิดพลาด และรู้ความสำเร็จ เราก็จะเรียนรู้ว่าสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต เราจะไม่ทำซ้ำ...ถ้าไม่อ่าน ไม่สนใจประวัติศาสตร์...เราก็จะทำซ้ำ
การจะเอาเงินไปช่วยเหลือคนสามจังหวัดใต้ รัฐบาลใจดี...ตั้งงบประมาณ แต่เงินนี้ก็ไปไม่ค่อยถึง...เอาเงินจากสลากกินแบ่งมา คนมุสลิมรับเงินจากลอตเตอรี่ไม่ได้
นี่คือความไม่เข้าใจ คนไม่มีอำนาจไม่เข้าใจ...ไม่เป็นไร แต่ผู้ ที่มีอำนาจต้องเข้าใจมาก...การตัดสินในเรื่องนโยบายหรือมาตรการใดๆ โดยไม่มีพื้นฐานความรู้...ความจริง ย่อมตัดสินผิดทุกที
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นหลักการบริหารแบบซีอีโอ...ไม่ได้เป็นของเสียหาย ปัญหาภาคใต้ไม่เรียนรู้ไม่ได้ ไม่เรียนรู้ไม่มีใครเก่ง อยู่ที่ว่าจะพร้อม...จะเรียน พร้อมที่จะรับความจริงมากแค่ไหน...
อย่าหลอกตัวเอง การหลอกตัวเองคือการฆ่าตัวเอง.
จากไทยรัฐ วันเสาร์ ที่ผ่านมา
สำหรับผมกับสิ่งที่เขาพูด
800 ปีก่อน...ดินแดนสุวรรณภูมิมีคนอยู่ 5 ชาติ พม่า มอญ เขมร เวียดนาม มลายู ทั้งแหลมก็เป็นมลายูทั้งนั้น...คนไทยคือคนต่างชาติ ย้ายมาจากเมืองจีน
ความจริงเราพลัดถิ่นมา...ผสมผสานกับคนที่อยู่ดั้งเดิมก่อนอาณาจักรขอมใหญ่โตมาก เราก็ปลีกตัวมาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย แต่ตอนนั้น...คนมลายูก็อยู่ที่นั่นมานานแล้ว... พูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนรามคำแหงสถาปนาอักษรไทย
ผมไม่อาจหาคำบรรยายได้
แต่รู้อย่างเดียว สมัคร ฟิวขาด
แต่ละประเทศขบวนการ แบ่งแยกดินแดน มีเสมอ เหมือนน้ำในกระติกร้อน... เผาน้ำอยู่เรื่อย ถ้าฝาปิดแน่นเกินไป... กระติกก็ระเบิด
ต้องเผยอฝาออกบ้าง...ให้ไอน้ำออกมา ให้เขามีโอกาสระบาย
อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการสร้างคณะกรรมการ อิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) บอก
ตราบใดที่เขาไม่ใช้อาวุธ ตราบใดที่เขาไม่ใช้ความรุนแรง ตราบใดที่เขาไม่ทำผิดกฎหมาย...ก็ไม่เป็นไร
ถ้าไปอุ้มเขา ไปยิงเขา ไม่ยอมรับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ วัฒนธรรม จารีต...ใช้ความรุนแรง เพื่อผลประโยชน์...จะเป็นผลประโยชน์จากนโยบายราชการหรือเปล่า หรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวด้านธุรกิจ...ไม่ได้
อานันท์ บอกว่า ถ้าไม่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ทำเกินขอบเขตขบวนการทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม คนไทยต้องไม่ยอมรับและรับไม่ได้
รัฐบาลต้องแสดงออกมาด้วยความจริงใจ...ที่บอกว่า...ขณะนี้นโยบายเปลี่ยนไปแล้ว จากที่ใช้การปราบอย่างเดียว...มาเป็นสันติวิธี ไม่ใช่แต่พูด ต้องทำให้เป็นที่ประจักษ์
ไม่ใช่แต่พูดแต่ข้างบนอย่างเดียว ต้องแน่ใจด้วยว่าทั้งกระบวน การตั้งแต่หัวถึงหาง เดินไปในทิศทางสันติวิธี
สันติวิธีไม่ได้ละทิ้งการปราบ ไม่ใช่ยอมจำนนกับผู้ไม่หวังดี ผู้ก่อการร้าย แต่ต้องทำภายใต้กฎเกณฑ์ในกรอบของกฎหมาย กรอบสิทธิมนุษยชนในกรอบมนุษยธรรม
ทุกสังคม...ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจะเกิดความรู้สึกว่า เขายังเป็นประชาชนประเภทสอง ยังได้รับความดูถูกดูแคลน
ปัญหาสำคัญมากที่ต้องย้ำ เหตุการณ์รายวันที่เกิดขึ้นจับคนผิดไม่ได้ เหตุผลหนึ่งมาจากความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล หรือความเกรงกลัวทำให้ไม่มีใครพูด
คนมุสลิมไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว เมื่อไม่มีคนพูด พยานปากแทบจะไม่มี ความจำเป็นต้องใช้พยานด้านวิทยาศาสตร์...นิติวิทยาศาสตร์ แต่ก็มีปัญหาเจ้าหน้าที่จะทำงาน ทหารก็ไม่ให้เข้าไปตรวจ...ตำรวจก็ไม่ให้เข้าไปยุ่ง...ก็ไม่เข้าใจว่าด้วยเหตุผลใด
ประชาชนยิ่งสงสัย...แล้วอย่างนี้ทหารตำรวจมีอะไรที่จะปกปิด หรือทหารตำรวจมีความผูกโยง มีความข้องเกี่ยวกับคดี?
กอส.คุยกับท่านนายกฯแล้ว ตกลงให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นหัวเรือใหญ่ ทำงานร่วมกับทหารตำรวจ แต่พอมีคำสั่งลงไปในระดับปฏิบัติก็มีคนทำคนเดียว
กอส.จะไปสั่งรัฐบาลก็ไม่ได้ อานันท์ ว่า
ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำความจริงให้ชาวบ้านเข้าใจ ทุกเรื่องจะถึงตัวนายกฯ... หลายคนถูกอุ้มหาย คนในพื้นที่สงสัยมานานแล้ว คุณทักษิณสั่งหรือเปล่า?
ถ้าไม่ให้ความกระจ่าง...คนเหล่านี้หายไปไหน หายไปอย่างไร อยู่ที่ไหน ก็ถึงตัวคุณแน่
บางทีก็อาจไม่เป็นธรรมกับท่านนายกฯ แต่นายกฯมีอำนาจที่จะแก้ไข ให้ความกระจ่างแจ้งได้...รู้ว่าใครอุ้มก็บอกมา สร้างกระบวนการสอบสวนอย่างจริงจัง
คุยกับครอบครัวผู้เป็นเหยื่อ หลักศาสนาอิสลามไม่ได้สอนให้แก้แค้น... โกรธเคือง แต่ชาวบ้านเขาอยากรู้ความจริง
สังคมที่ไม่ขวนขวายหาความจริง ไม่สนใจเรื่องความจริง ผมว่าสังคมนั้นด้อยคุณภาพ
สังคมไหนที่มีแต่คนใจแคบ ยึดแต่ตัวเอง พวกพ้อง ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง สังคมนั้นย่อมเจริญไปไม่ได้
สังคมไทย...คนจำนวนไม่น้อยใจแคบ เอาประโยชน์ใส่ตัวอย่างเดียว ไม่มองถึงความรู้สึก ความนึกคิด...สิทธิของคนอื่น หรือความหวัง ของคนอื่น
อานันท์ บอกอีกว่า ความกลัวเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เมื่อเกิดความกลัวแล้วจะทำอะไรก็เป็นไปในลักษณะฟันต่อฟัน...ตาต่อตา ก็ไม่จบ
อิสราเอล ในดินแดนปาเลสไตน์อาหรับสู้กันมาเกือบ 50 ปีแล้ว...ในไอร์แลนด์ ก็สู้กันมาเกือบ 20 ปี...ตายเกือบ 7 หมื่นกว่าคน
แต่ในไอร์แลนด์มีการเปิดโอกาสให้กลุ่มหัวรุนแรงที่เรียกว่าขบวนการไอริช รีพับลิกันอาร์มี่ เข้าไปนั่งในสภา...ภายใต้พรรคการเมืองได้
รัสเซียก็มีปัญหาในแคชเมียร์ รัฐหนึ่งในประเทศรัสเซีย คนส่วนใหญ่ เป็นคนมุสลิม และอีกหลายประเทศก็มีปัญหายืดเยื้อ...มักเริ่มจากการมีปัญหากับชนส่วนน้อย
สรุปแล้ว...เราต้องดูแลพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้ดีกว่านี้ ด้านการปกครอง ด้านบริหาร เราควรให้การยอมรับและเคารพต่อวัฒนธรรมและจารีตประเพณีของคนทั้งสองฝ่าย
เราต้องเคารพความเป็นพุทธของคนไทยที่นั่นเหมือนกัน เขาเป็น คนส่วนน้อย เขาก็มีความกลัว...คนไทยพุทธก็ถูกฆ่าทุกวัน ขณะเดียวกัน คนไทยมลายู คนไทยมุสลิมก็ถูกฆ่าทุกวัน...ก็ไม่รู้ว่าใครฆ่ากันแน่ จับก็จับไม่ได้...เราก็ต้องเคารพ
อานันท์ย้ำว่า...คนในพื้นที่ต้องได้รับความยุติธรรมทุกกลุ่ม
ถ้ารัฐไม่สามารถให้ความสงบเกิดขึ้นได้ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ในระยะอันใกล้นี้...ผมถือว่าเป็นความล้มเหลว เพราะรัฐมีหน้าที่ที่จะต้องรักษาความสงบ
รัฐมีกลไกอยู่แล้ว มีข้าราชการด้านการปกครอง มีตำรวจ เดี๋ยวนี้ก็มีทหาร มีหน่วยงานทุกอย่าง...หน้าที่รักษาความสงบประจำวันเป็นหน้าที่ของรัฐ
ถ้ารักษาความสงบประจำวันไม่ได้ โอกาสสร้างความสงบ สันติสุข ในระยะยาว...ก็น้อยลงไป
สังคมไทยเป็นสังคมที่หลากหลาย อยู่รวมกันหลายเชื้อชาติ หลายศาสนา และก็อยู่ด้วยความสุข ความสงบ เราต้องเข้าใจลึกซึ้ง ต้องเรียนประวัติศาสตร์
อย่าลืมว่าคนจีน พม่า มอญ ที่พลัดถิ่นมา...ต่างกับคนมลายูที่อยู่มานาน ก่อนเป็นรัฐปัตตานี...ซึ่งเฟื่องฟูมาก แล้วก็เป็นท่าเรือใหญ่ ยุคอาณาจักรมัชปาหิต อาณาจักรศรีวิชัย
800 ปีก่อน...ดินแดนสุวรรณภูมิมีคนอยู่ 5 ชาติ พม่า มอญ เขมร เวียดนาม มลายู ทั้งแหลมก็เป็นมลายูทั้งนั้น...คนไทยคือคนต่างชาติ ย้ายมาจากเมืองจีน
ความจริงเราพลัดถิ่นมา...ผสมผสานกับคนที่อยู่ดั้งเดิมก่อนอาณาจักรขอมใหญ่โตมาก เราก็ปลีกตัวมาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย แต่ตอนนั้น...คนมลายูก็อยู่ที่นั่นมานานแล้ว... พูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนรามคำแหงสถาปนาอักษรไทย
วิธีแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ เราต้องรู้ประวัติศาสตร์ ถ้าศึกษาประวัติศาสตร์จะรู้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นก็ปัญหาเดิม...สาเหตุก็สาเหตุเดิม... วิธีแก้ไขก็ใช้แบบเดิม
เหมือนคำพังเพยที่ว่า...คนเราถ้าไม่รู้จักประวัติศาสตร์ เราก็จะเป็นเหยื่อของประวัติศาสตร์ตลอดเวลา
ถ้าเราอ่านประวัติศาสตร์ เรารู้ความผิดพลาด และรู้ความสำเร็จ เราก็จะเรียนรู้ว่าสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต เราจะไม่ทำซ้ำ...ถ้าไม่อ่าน ไม่สนใจประวัติศาสตร์...เราก็จะทำซ้ำ
การจะเอาเงินไปช่วยเหลือคนสามจังหวัดใต้ รัฐบาลใจดี...ตั้งงบประมาณ แต่เงินนี้ก็ไปไม่ค่อยถึง...เอาเงินจากสลากกินแบ่งมา คนมุสลิมรับเงินจากลอตเตอรี่ไม่ได้
นี่คือความไม่เข้าใจ คนไม่มีอำนาจไม่เข้าใจ...ไม่เป็นไร แต่ผู้ ที่มีอำนาจต้องเข้าใจมาก...การตัดสินในเรื่องนโยบายหรือมาตรการใดๆ โดยไม่มีพื้นฐานความรู้...ความจริง ย่อมตัดสินผิดทุกที
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นหลักการบริหารแบบซีอีโอ...ไม่ได้เป็นของเสียหาย ปัญหาภาคใต้ไม่เรียนรู้ไม่ได้ ไม่เรียนรู้ไม่มีใครเก่ง อยู่ที่ว่าจะพร้อม...จะเรียน พร้อมที่จะรับความจริงมากแค่ไหน...
อย่าหลอกตัวเอง การหลอกตัวเองคือการฆ่าตัวเอง.
จากไทยรัฐ วันเสาร์ ที่ผ่านมา
สำหรับผมกับสิ่งที่เขาพูด
800 ปีก่อน...ดินแดนสุวรรณภูมิมีคนอยู่ 5 ชาติ พม่า มอญ เขมร เวียดนาม มลายู ทั้งแหลมก็เป็นมลายูทั้งนั้น...คนไทยคือคนต่างชาติ ย้ายมาจากเมืองจีน
ความจริงเราพลัดถิ่นมา...ผสมผสานกับคนที่อยู่ดั้งเดิมก่อนอาณาจักรขอมใหญ่โตมาก เราก็ปลีกตัวมาเป็นราชอาณาจักรสุโขทัย แต่ตอนนั้น...คนมลายูก็อยู่ที่นั่นมานานแล้ว... พูดภาษามลายูก่อนที่พ่อขุนรามคำแหงสถาปนาอักษรไทย
ผมไม่อาจหาคำบรรยายได้
แต่รู้อย่างเดียว สมัคร ฟิวขาด