Thai VI

ขาใหญ่มาลุยแล้วหรอ หลังจากรอมานาน :lol:  :lol:  :lol:

จริงๆแล้วการที่หุ้นตัวนี้วิ่งขึ้นมาเพราะมีปัจจัยรองรับครับ เพราะในช่วงไตรมาส1-2 โรงกลั่นไทยออยล์ได้ปิดทำการบำรุงรักษาโรงกลั่นและ เพิ่งเริ่มการผลิตในช่วงไตรมาสนี้ ดังนั้นเป็นที่เชื่อว่ารายได้ในช่วงครึ่งปีหลังของTOPจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก ภายใต้สมมุติฐานว่าราคาน้ำมันในตลาดยังทรงตัวในระดับราคาปัจจุบัน

ผมสงสัยจังว่าคนเคาะซื้อวันนี้โง่หรือฉลาดกันแน่ ตั้ง 3 พันล้าน!!!

หุ้น TOP อยู่แถวๆ 60 บาทเป็นเดือนๆ มันไม่เคาะกัน ต้องมารวมพลไล่เคาะกันวันเดียว (พฤติกรรมแบบฝูง)

ประเด็นที่คุณ genie บอก มันก็ไม่ใช่ว่าจะเพิ่งรู้กันวันนี้ซะเมื่อไหร่

แต่ไหนๆ เคาะกันไปแล้วก็เอาใจช่วยแล้วกันครับ แต่ถ้าเคาะแล้วมันไม่ขึ้นจริงๆ ก็เคาะกะโหลกตัวเองคืนเอาเองแล้วกัน

ถามว่าประเด็นนี้เพิ่งรู้กันวันนี้ซะเมื่อไหร่ ผมก็เชื่อว่าหลายๆท่านก็คงรู้ แต่อย่าลืมเรื่องพฤติกรรมการลงทุนสิครับ ลองตัวเลขมันประกาศออกมาไม่ดี นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครอ่านรายละเอียดหรอกครับ อ่านแต่บรรทัดสุดท้าย แต่พอมันพุ่งถึงค่อยวิ่งตาม อย่างงี้ไงครับที่เขาเรียกกันว่าแมงเม่า  

ต่างชาติซุ่มเก็บมานานแล้ว

อย่างเคาะขวา  ทีละ2ล้านหุ้นน่ะ

ร้อยยี่สิบกว่าล้านบาท

รายย่อยวงเงินไม่ถึงแน่  เป็นเงินใหม่ที่เข้ามา :lovl:

topมูลค่าหลักทรัพย์ตอนนี้เหยียบ 120,000 ล้านแล้วนะ

ในขณะที่รายได้ครึ่งปีก็แถว111000 ล้าน

ติดดอยมานาน อยากขายทิ้งตั้งนานแล้ว กว่าจะมีกระเช้ามารับลง รอเหงือกแห้ง เข้าผิดจังหวะ
อืม หรือจะถือรอต่อไปดีนะ  :lol:  :lol:  :lol:

Dr.T เขียน:ติดดอยมานาน อยากขายทิ้งตั้งนานแล้ว กว่าจะมีกระเช้ามารับลง รอเหงือกแห้ง เข้าผิดจังหวะ
อืม หรือจะถือรอต่อไปดีนะ  :lol:  :lol:  :lol:

เพิ่งจะได้ยินเสียงนกหวีดเป่า  ออกจากจุดสตาร์ท

จะขายแล้วเหยอ

ฝาหรั่งนะต่ำกว่า10%-50%
มันขายออกมาไม่ทันหรอก  กำไรไม่พอค่าวิเคราะห์
รอราคา  จอ  สอ  ก็น่าทันนะ(ไม่ทันอย่าว่ากันล่ะ)

ฝาหรั่งนะต่ำกว่า10%-50%
มันขายออกมาไม่ทันหรอก  กำไรไม่พอค่าวิเคราะห์
รอราคา  จอ  สอ  ก็น่าทันนะ(ไม่ทันอย่าว่ากันล่ะ)

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ  :B

ค่าการกลั่นในตลาดโลกตกลงอย่างรุนแรง จาก 7 เหรียญกว่าตอน 1H2004 เหลือแค่ 1 เหรืียญกว่าตอน 1H2005

http://yahoo.reuters.com/financeQuoteCo ... 644_newsml

ปล่อยราคาน้ำมันลอยตัวแล้วปริมาณความต้องการน้ำมันคงลดลงอย่างมากใน 2H นี้

งงจังทำไมยังขึ้นได้อีก

อนาคตโรงกลั่นจะมีความสำคัญมากนะซิคับ


น้ำมันดิบคงไม่หมด  แต่คนเอาไปตุนเก็งกำไรกันเพียบ

แต่มีน้ำมันดิบ  ไม่ผลิตเป็นน้ำมันสำเร็จรูปนี่ซิ  
อนาคต อำนาจต่อรองโรงกลั่นในโลกจะมีความสำคัญมากขึ้น
จีนก็เริ่ม จะรู้ตัวแล้วเหมือนกัน

โรงกลั่น นี่เป็น perfectly competitive industry นะครับ ใครมีเงินก็สามารถลงทุนสร้างได้ จึงเป็นธุรกิจที่มักจะ oversupply อยู่ตลอดเวลา ช่วงไหนที่น้ำมันสำเร็จนำเข้าราคาต่ำกว่า ราคาน้ำมันดิบนำเข้า + ค่าการกลั่น ช่วงนั้นโรงกลั่นจะขาดทุนกันหมด

ช่วงที่ผ่านมามีกำไรเพราะ การสร้างโรงกลั่นใหม่ต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี แต่ที่ผ่านมาโรงกลั่นขาดทุนมานานจึงไม่มีใครสร้างโรงกลั่นใหม่มานานแล้ว พอน้ำมันราคาดี โรงกลั่นใหม่สร้างไม่ทัน โรงกลั่นเก่าจึงได้รับประโยชน์ แต่สภาวะอย่างนี้จะคงอยู่ได้ไม่นานคือมักไม่เกิน 4 ปี

ปัญหาคือ  

โรงกลั่นที่มี  vs  ความต้องการที่ขยาย  vs  สต๊อกน้ำมันดิบvs อัตราการขยาย
ประชากร

ผมว่าตัวเลขมันไม่สมดุลกันซิคับ ถึงจะมีการสร้างโรงกลั่นเพิ่มทุก4ปี
แต่ความต้องการในตลาดโลกมันในอัตราเท่าไรใครมีตัวเลขบ้างละคับ

Dr.T เขียน:ติดดอยมานาน อยากขายทิ้งตั้งนานแล้ว กว่าจะมีกระเช้ามารับลง รอเหงือกแห้ง เข้าผิดจังหวะ
อืม หรือจะถือรอต่อไปดีนะ  :lol:  :lol:  :lol:

มันกำลังจะเดินตามหลังเสี่ยปอ...ครับหมอที

มันกำลังจะเดินตามหลังเสี่ยปอ...ครับหมอที

ตามหลังให้เหมือนที่ปอเคยตามปูนจะดีมากเลยครับ (ตามแล้วก็แซงไป)  :lol:  :lol:  :lol:

ลินช์น่าจะจัดกลุ่มหุ้นโรงกลั่นอยู่ในกลุ่มวัฏจักรนะครับ

ช่วงเวลาในการขายจะไม่ค่อยเหมือนกลุ่มอื่นเท่าไหร่นะครับ น่าสนใจมากทีเดียว

ผมว่าที่มันขึ้นเพราะสาเหตุนี้มั้งครับ

ค่าการกลั่นที่สิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 13.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นกว่า
83%

**********************

บล.เอเซียพลัส : TOP แนะนำซื้อ มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2548 ที่ 75.1 บาท

ไทยออยล์ (TOP)  

ผลกระทบไต้ฝุ่นครีน่า ช่วยเสริมค่าการกลั่นให้ปรับตัวสูงขึ้นมาก
เป็นไปได้ที่จะซื้อ RRC
ข่าวซื้อหุ้น RRC และค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้น ปัจจัยสนุนการลงทุน

ผลกระทบไต้ฝุ่นครีน่า ช่วยเสริมค่าการกลั่นให้ปรับตัวสูงขึ้นมาก  
        วานนี้ค่าการกลั่นที่สิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 13.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นกว่า
83% เมื่อเทียบไตรมาสที่ผ่านมา สาเหตุหลักคาดว่าเกิดจากการที่โรงกลั่นในสหรัฐกว่า 8 แห่ง
ต้องหยุดดำเนินการผลิตเนื่องจากได้รับความเสียหายจากผลของพายุไต้ฝุ่นครีน่า ส่งผลทันทีให้
กำลังการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปของสหรัฐหายไปกว่า 10% และผลักดันให้ราคาน้ำมันเบนซินปรับ
ตัวขึ้นแตะระดับ 2.8 เหรียญสหรัฐต่อแกลอน ซึ่งถ้าค่าการกลั่นสามารถยืนได้ที่ระดับ 13 เหรียญ
สหรัฐต่อบาร์เรล ตลอดเดือนก.ย. ก็จะทำให้ค่าการกลั่นในช่วง 3Q48 ที่สิงคโปร์อยู่ในระดับ
8.54 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 19%qoq และเพิ่มขึ้น 30%yoy

[quote="ปรัชญา"]เพิ่งจะได้ยินเสียงนกหวีดเป่า