Thai VI

เรื่องพรบ.ยา ถ้าออกมาจริง
น่าจะสะเทือนวงการคลินิกเอกชนมาก
ขณะนี้ก็ยังไม่มีใครทราบว่าจะออกได้หรือไม่
แต่ถ้าออก...หมอก็แทบจะทำร้านไม่ได้เลยค่ะ
คนไข้กลุ่มที่ไปคลินิกคงไปรพ.เอกชน
คงไม่ไปรพ.รัฐ เพราะมันไม่สะดวก
กลุ่มชินเองก็กว้านซื้อรพ.น่าดู
สัมพันธ์กันมั้ยเนี่ย อิๆ

รพ.ที่น่าสนใจน่าจะเป็นที่มีเชนใหญ่ๆ
บำรุงราษฎร์ กรุงเทพ รามคำแหง ธนบุรี(อันนี้ไม่อยู่ในตลาด)
เพื่อนๆคิดว่า กลุ่มไหนดูดีที่สุดคะ

ส้มจุกสนใจ BH ค่ะ.... เดือนที่แล้วไป survey มาซะสองรอบ (แต่ที่จริงไปเยี่ยมคนป่วย... แล้วเลยถือโอกาสน่ะค่ะ... ) ... รพ.อะไร... หรูยังกะโรงแรม.... มีฟาสฟู๊ดมาอยู่ซะครบ..... ที่จอดรถก็หายากจริง ๆ ขนาดเช่าตึกข้าง ๆ ก็ยังไม่พอ.... ตอนนี้กำลังสร้างอาคารจอดรถใหม่อีกตึกนึง.... คนไข้เยอะมาก....แล้วส่วนใหญ่เป็นคนไข้ต่างชาติซะเยอะเชียวนะคะ...... ดูแล้วการเติบโตน่าจะดีมาก..... :lol: :lol: :lol:

Guest ตะกี๊คือส้มจุกเองแหละ.... ลืมล็อคอิน....อิ...อิ....

หุ้นแรมนี่ราคาน่าสนใจหรือยังครับพี่อ-ริน หรือจะรอตลาดขาลงดี? รพ.จะได้กำไรเพิ่มจาก นักลงทุนที่บาดเจ็บเหมือนปีที่แล้วมา

เพิ่งได้รับหนังสือจากกระทรวง เรื่องความเข้าใจให้ถูกต้อง เรื่อง พรบ ยา

เนื้อหาก็คือ แพทย์จะไม่มีสิทธิ์จ่ายยาได้เอง ต้องเป็นเภสัชเท่านั้น และเภสัชจ่ายได้ต้องมีใบสั่งแพทย์

ยังไม่กำหนดว่าเริ่มใช้เมื่อไหร่

ถ้ากำหนดใช้ ยังไม่ใช้พร้อมกันทั้งประเทศ
1. ต้องสำรวจก่อนว่าพื่นที่นั้น พร้อมใหม มีร้านยาต่อคลีนิกแพทย์พอใหม
2. ทำประชาวิจารณ์ว่าคนในพื้นที่เห็นด้วยใหม
3. ให้แพทย์กับเภสัชคุยกันเรื่องยา ว่าต้องการยาแบบไหนบ้าง

คิดว่า พรบ ยาไม่น่ามีผลต่อ รพ เอกชนเท่าไหร่นะครับ แต่ที่แน่ๆคือบริษัทยาใหญ่ๆครับ น่าจะได้ประโยชน์มาก

ดีจังครับ ผมคิดว่าผมมีปัญหากับคลีนิกหลายๆแห่งที่ชอบจ่ายยาโดยไม่บอกชื่อยา พอเกิดอาการแพ้ก็ไม่รู้ว่าอะไรกันแน่ ต้องจ่ายค่ายาแพงกว่าที่ควรจะเป็นด้วย นโยบายนี้เยี่ยมครับ

พรบ ยาในความคิดผม มีแต่ เสีย กับ เสีย

อันแรก คนไข้ เสียเงินและเวลาครับ ไปตรวจที่คลีนิกแพทย์ แพทย์จ่ายยาไม่ได้ก็ทำให้คิดค่ายาไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็จะคิดค่าตรวจเท่านั้นครับ ซึ่งตอนนี้คลีนิกทุกที่เวลาคิดค่าตรวจ ก็จะรวมอยู่ในค่ายาแล้วครับ เพราะฉะนั้นต่อไปถ้ามี พรบ ยาแพทย์ก็จะคิดค่าตรวจ ก็อาจจะประมาณ 100 บาทครับ

จากนั้นคนไข้ ต้องไปซื้อยาที่ ร้านยา ต้องเสียค่ายาต่างหาก ถูก charge ค่ายาอีก คนไข้เสีย 2 ต่อ ทำให้ต้องเสียเวลาด้วยครับ

อันดับสอง คลีนิกบางที่ทำเลไม่ดี ห่างร้านยาก็อาจอยู่ไม่ได้ ร้านยาขนาดเล็กที่เปิดในชุมชน ก็จะอยู่ไม่ได้ สู้ร้านใหญ่ ที่ต้นทุนต่ำกว่าไม่ได้

ที่ได้ประโยชน์ ก็เป็นบริษัทยาใหญ่ๆ ต่อไปก็จะมาลงทุนเปิดร้านใกล้ๆ กับแหล่งคลีนิก สู้กับร้านยาท้องถิ่น ร้านยาท้องถิ่นก็จะเริ่มหายกันไปทีละร้าน


เรื่องไม่บอกยาในคลีนิก ถึงไม่มี พรบ ยา ก็มีกฏของการเปิดคลีนิกที่พึ่งออกมา ว่าต้องชี้แจงเรื่องยา เรื่องราคาครับ

ในกลุ่มรพ.ที่ผมเห็นว่าน่าสนใจมีแค่2ตัวเองครับคือahc และntv (ไม่ได้ชี้นำนะครับ) แม้ว่ารอบนี้ดูๆแล้วกลุ่มรพ.จะเริ่มกลับมาบูมจากเรื่องที่
1.ประกันชีวิตให้หักลดหย่อนได้เพิ่มจาก10000บาทเป็น50000บาทและ
2.30บาทรักษาทุกโรคทำให้มาตราฐานการรักษาพยาบาลของรัฐลดคุณภาพลง
3.ดอกเบี้ยเงินฝากลดลงทำให้คนโยกเงินมาฝากบริษัทประกันชีวิตมากขึ้นมาก
ทั้ง2รพ.ที่ว่าไม่หนี้ระยะยาวเลยมีแต่หนี้ค่ายาที่ยังไม่ถึงดิวจ่าย ปันผลดีมาตลอด(ไม่ต่ำกว่า5%) เป็นlocal monopolyกลายๆเพราะเป็นรพ.เอกชนในชุมชน อยู่มานานๆ ทำเลที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองซึ่งหาทำเลแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ahcดีกว่าntvในแง่ที่ยังถูกpeแค่8+ส่วนntv pe12+ ดูe/pของahc13% ของntvแค่8-9%
ผมไม่ได้สนใจเรื่องพรบ.ยาเลยเพราะเวลาเลือกหุ้นผมจะไม่เดาอนาคต ถ้าตามพุทธศาสนาเค้าว่าให้ดูปัจจุบัน ถ้าอดีตและปัจจุบันทำดีอยู่แล้วมาระยะเวลานานๆ อนาคตก็น่าจะดีต่อไป ถึงพรบ.ยาจะผ่านหรือไม่ผ่านเค้าก็คงดีแบบนี้ไปเรื่อยๆๆๆๆๆ
ไม่ขอcommentว่าพรบ.ยาดีหรือไม่ดีครับเพราะผมเองเป็นหมอคลีนิกเต็มเวลาครับ ถ้าไม่ผ่านผมก็เปิดไปเรื่อยๆ ถ้าผ่านผมก็คงปิดร้านเล่นหุ้นเต็มเวลาแทน(เผลอๆอาจไปเรียนต่อ แฮะๆๆ แต่ทางการเงิน นะครับ เบื่อหมอเบื่อยาเต็มที )

เห็นด้วยครับ แล้วเรากำลังเดินตามรอยฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ที่ตอนนี้ทำให้ประชาชนต้องมีภาระในการใช้จ่ายด้านนี้เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการผูกขาดในธุรกิจยาบริษัทยาข้ามชาติจะได้รับประโยชน์มหาศาล ร้านยาท้องถิ่นจะต้องปิดตัวไป และที่จะได้รับประโยชน์อีกก็คือโรงพยาบาลเอกชนครับ พรบ.ฉบับนี้ดูเหมือนจะดีแต่ทางปฏิบัติมันไม่เหมาะกับเรา และอาจจะเข้ากรณีที่ว่าทุจริตเชิงนโยบายได้ครับ เพราะมันเอื้อประโยชน์กับคนบางกลุ่มก็นักการเมืองนั้นแหละครับ

ผมเองก็เคยแอบๆมอง ahc เหมือนกัน
ชอบตรงไม่มีหนี้เลย กิจการก็โตขึ้นเรื่อยๆช้าๆ
แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ซื้อซะที
ว่าแต่มีใครมองรามบ้างมั๊ยครับ

เรื่องพรบ.ยา ของดแสดงความเห็นค่ะ
ขอบคุณคุณkotaro ที่ให้รายละเอียด
ยังไม่ได้ศึกษาเลยค่ะ รู้แค่คร่าวๆ
^___^
ว่ากันแต่เรื่องรพ.นะคะ
คุณส้มจุก bh เข้าตลาดเมื่อไหร่
มาซื้อด้วยกันค่ะ รอมานานเหมือนกันเลย

คุณประจวบ
ntvกับahc ก็ดีในแง่หนึ่งค่ะ
ปันผลดี เงินสดเยอะ หนี้น้อย มั่นคงดี
แต่รพ.ที่มีเชน ก็จะดีในอีกแง่หนึ่ง
อัตราการเติบโตน่าจะสูงกว่ารพ.เดี่ยว
เนื่องจากครอบคลุมพื้นที่มากกว่า
ความเห็นส่วนตัวค่ะ
^.^

คุณนักดูดาวและคุณyoyo
ram ตอนนี้กราฟแคบมากแล้ว
ถ้ากระชากน่าจะแรง แต่ก็ไม่เห็นมีข่าวอะไรจะลาก
มองในแง่ผลประกอบการ หุ้นราคา117(ปิดเมื่อวาน)
กำไรต่อหุ้นครึ่งปี=7.65 บาท
ส่วนตัวคิดว่า จะซื้อเก็บแล้วค่ะ
ถ้าลงก็ไม่น่ามากนะ

Anonymous เขียน:ส้มจุกสนใจ BH ค่ะ.... เดือนที่แล้วไป survey มาซะสองรอบ (แต่ที่จริงไปเยี่ยมคนป่วย... แล้วเลยถือโอกาสน่ะค่ะ... ) ... รพ.อะไร... หรูยังกะโรงแรม.... มีฟาสฟู๊ดมาอยู่ซะครบ..... ที่จอดรถก็หายากจริง ๆ ขนาดเช่าตึกข้าง ๆ ก็ยังไม่พอ.... ตอนนี้กำลังสร้างอาคารจอดรถใหม่อีกตึกนึง.... คนไข้เยอะมาก....แล้วส่วนใหญ่เป็นคนไข้ต่างชาติซะเยอะเชียวนะคะ...... ดูแล้วการเติบโตน่าจะดีมาก..... :lol: :lol: :lol:

BHจะออกจากICU/SPรีฮาบโกเมื่อไหร่ครับ ผมตกรถRAM,AHC,BGHอย่างแรง(หลายคันจริงๆๆ) ชอบที่รับลูกค้าต่างชาติ :lol:

ไตรมาส3 นี่แหละค่ะ

กิมเอ็งบอกว่าปลายเดือนกย.นี้ค่ะ.... ก็ว่าจะรอซื้อตัวนี้เหมือนกันค่ะคุณอ-ริน.... ตอนนี้เลยทำตัวเป็น VS มากกว่า VI..... หาตังค์มาซื้อตัวนี้ ... แหม... ก็ต้องเก็บเล็กผสมน้อยมาซื้อนี่คะ...:lol: :lol: :lol:

research ของกิมเอ็งค่ะ... ลองเข้าไปดูละกัน... มันยาวเลยไม่ได้ copy มาแปะ....

http://kelive.kimeng.co.th/kelive/userv ... contId=593

อืมม์.... ram เนี่ย.... กราฟแคบอย่างที่คุณอ-รินบอกจริง ๆ ด้วย.... แต่เทคนิคัลตัวอื่นส้มจุกว่ามันยังไม่ดูไม่ค่อยสวยเลยนะคะ... เอ่อ.... ดูแบบมือสมัครเล่นนะคะ....ผสมมั่วหน่อย ๆ.....อิ...อิ....

คุณส้มจุกอย่าเหมาหมดนะคะ
5555555555
ล้อเล่นๆ

ถามคุณส้มจุกเรื่องtpc หน่อยนะ ไหนๆก้อเจอเจ้าแม่tpcแล้ว
คือตอนนี้กำลังรออยู่ ว่าจะเริ่มเก็บที่ประมาณ106
แล้วจะถือยาวๆกะเค้ามั่ง
เคยอ่านที่คุณส้มจุกโพสต์ไว้ที่taladhoon.com
บอกว่าไตรมาส3 นี้ก็ยังไม่ดีเท่าไหร่
ขอถามความเห็นส่วนตัวว่า แล้วมันจะแย่กว่าปีที่แล้วมั้ยคะ

ปีที่แล้ว Ram ปันผล 5 บาท
ปีนี้กำไรสุทธิ น่าจะ 12.50 บาท
คิดปันผลที่ 60% จะปันผล 7.50 บาท
ราคาปัจจุบัน 116 บาท ได้ Dividen 6.46%
P/E ก็ประมาณ 9.2 น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะครับ
แต่ดูกราฟแล้ว ทำไมมันดิ่งน่ากลัวจังเลยครับ
ช่วยแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ

ปีที่แล้วปันผล 5 บาทจากกำไร 13.66
ไม่ถึง 60% ค่ะ
คิดว่าปีนี้ก็คงไม่ถึง เพราะไปซื้อหุ้นรพ.วิภาวดี2 (299ล้าน)

ส่วนกราฟก็อาจจะลงไปอีก (ยังไม่มีสัญญาณซื้อเลย)

แต่คงไม่มาก คิดว่าจุดนี้ความเสี่ยงไม่สูงแล้ว
จะรอไปก่อนก็ได้ค่ะ
พี่ทยอยซื้อ เพราะจะถือยาว
ราคาคงต่างกันไม่มาก

แล้ว BH นี่ซื้อได้หรือเปล่าครับ เห็นไม่มีซื้อขายกันเลยนี่ครับ
ราคาก็คงที่ มาตั้งนานแล้ว เป็นเพราะอะไรหรือครับ ไม่นานจะเป็นเพราะ
ไม่มีคนขายนะ

BH ถูกแขวนป้ายห้ามซื้อขายครับ คุณ PP เพราะมีหนี้เยอะมากๆ

ประมาณปลายไตรมาสนี้คงจะกลับเข้าเทรดใหม่ครับ

คิดถึงคุณอ-ริน คุณ Somjook ครับ

และไม่น่าเชื่อว่าหุ้นโรงพยาบาลจะ hot อย่างนี้ได้