Thai VI

เห็นราคาน้ำมันแล้ว ก็ห่วง ตัวเลขนำเข้าจริงๆ เด็กมหาลัย ก็ยังขับรถโชว์กันเหมือนเดิม  คนส่วนใหญ่ก็ยังใช้รถส่วนตัวเหมือนเดิม

คิดว่าคุ้มนะครับ

:lol:  :lol:

               นั่งรถเมล์ผมว่าก้อประหยัดดีน่ะ  แต่เสียเวลารอนานบ้าง  ร้อนนิดก้อพอไหวอ่ะ

เอารถไปปรับใช้แก็ส เสียห้าหมื่นกว่า

ผมเคยลองคิดเล่นๆว่า ซื้อรถหนึ่งคัน 5 แสนบาท ไม่นับค่าบำรุง ค่าซ่อมอื่นๆ และค่าน้ำมัน

กับนั่งแท็กซี่วันละ 200 บาท ตกเฉลี่ยแล้ว ใช้เงิน 5 แสน นั่งแท็กซี่ ทุกวัน ได้นานถึง 7 ปี

ดังนั้น ถ้าซื้อรถมาใช้ได้เกินกว่า 7 ปี ก็พอจะคุ้มค่ารถบ้าง แต่ถ้ารวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็คงนั่งแท็กซี่ได้เป็น 10 ปี

ถ้าไม่มีควันพิษ พี่ขับจักรยาน ดีกว่า ได้ออกละกาย

ถ้าไม่มีควันพิษ พี่ขับจักรยาน ดีกว่า ได้ออกละกาย

เมืองไทยเมือง ร้อนน่ะพี่ ถ้าเป็นเมืองหนาวๆอากาศดีๆ ก็ดู เท่ดี
เอาแบบว่ามอร์เตอร์ไซค์ยังร้อนแทบตาย
ถ้าขี่จักยาน สงสัยไม่รอด ถ้าเป็นรถเมล์ก็ดีนะครับจะได้ดูสาวๆ ออฟฟิตบนรถเมล์บ้าง

Onokung เขียน: เอาแบบว่ามอร์เตอร์ไซค์ยังร้อนแทบตาย

แปลว่ายังบิดไม่เร็วพอคับ...

ขำๆคับ :lovl:

เอาแบบว่ามอร์เตอร์ไซค์ยังร้อนแทบตาย



แปลว่ายังบิดไม่เร็วพอคับ...

ขำๆคับ

   

Jaychou เขียน: Onokung wrote:

เอาแบบว่ามอร์เตอร์ไซค์ยังร้อนแทบตาย



แปลว่ายังบิดไม่เร็วพอคับ...

8) กลัวว่าเย็นแต่จะเป็นเย็นวาบ.บ.....น่ะซี

ขึ้นอยู่กับว่าพวกคุณ...พวกผม....ติดไอ้เจ้าคำว่า" ความสะดวกสบาย"  กันแค่ไหน
มนุษย์ทั้งหลาย...  รู้ทั้งรู้ว่า  ลูก หลานเรานี่แหละจะต้องรับกรรมที่เราฟุ่มเฟือยกัน
แต่ก็ผลัดผ่อนกันเรื่อยมา  และคงเรื่อยไป.....จนกว่า  :twisted:  :twisted:

harry เขียน:ผมเคยลองคิดเล่นๆว่า ซื้อรถหนึ่งคัน 5 แสนบาท ไม่นับค่าบำรุง ค่าซ่อมอื่นๆ และค่าน้ำมัน

กับนั่งแท็กซี่วันละ 200 บาท ตกเฉลี่ยแล้ว ใช้เงิน 5 แสน นั่งแท็กซี่ ทุกวัน ได้นานถึง 7 ปี

ดังนั้น ถ้าซื้อรถมาใช้ได้เกินกว่า 7 ปี ก็พอจะคุ้มค่ารถบ้าง แต่ถ้ารวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก็คงนั่งแท็กซี่ได้เป็น 10 ปี

ต้องคิดราคาขายด้วยสิครับ สมมติว่าขายต่อไปสัก 2 แสน

ก็จะเหลือว่าั่ง taxi วันละ 200 บาท ได้ 4 ปี ประมาณนี้

ผมว่าถ้าขับรถเอง ถูกกว่านั่ง taxi ในกรณ์ใช้แทบทุกวันครับ  อย่างเก่งก็ต่างกันไม่เยอะ แต่ถ้านั่งขนส่งมวลชนอื่นๆเนี่ย ถูกกว่าแน่ๆ

ซื้อมา 5 แสน ใช้ไป 4 ปี ขายได้ 2 แสนเหรอครับ

ถ้า 7 ปี จะเหลือเท่าไหร่ครับ ผมไม่ได้คิดถึงขายออก คิดแค่ว่าใช้จนพังคาถนน แล้วซื้อคันใหม่

แล้วถ้าเอาค่าซ่อม ค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน มารวมด้วย ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ผมว่า แค่ตลอด 4 ปี ก็คงมากกว่า 2 แสนนะครับ

การมีรถก็เพื่อความสะดวก  และความปลอดภัยด้วยครับ

เวลาฝนตก  บางครั้งก็หารถแท็กซี่ไม่ได้  เวลาค่ำคืนดึกดื่น  บางครั้งนั่งแท็กซี่คนเดียวก็อันตราย  (โดยเฉพาะผู้หญิง)

การเดินทางไปหลายสถานที่  โดยที่ต้องแบกข้าวของมากมาย  การเดินทางด้วยรถแท็กซี่ก็ลำบากไม่น้อย

การใช้รถยนต์ส่วนตัว  ผมว่ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมากมาย  นอกจากราคารถนะครับ

ไม่ว่าจะเป็น  น้ำมันรถ  น้ำมันเครื่องและไส้กรองที่ต้องคอยเปลี่ยน  ประกันที่ต้องซื้อทุกปี  ภาษีอีกที่ต้องจ่าย  

สำหรับผมคงเลิกไม่ไหว  ได้แต่ลดการใช้ลงครับ  ลดได้เกือบ 50% เลยครับ

[quote="chatchai"]การมีรถก็เพื่อความสะดวก

ท่าน ba_2l ถอยคาวาซากิมาโฉบหรือยังคับ

jaychou เขียน: แปลว่ายังบิดไม่เร็วพอคับ...

ขำๆคับ :lovl:

แหม เปลี่ยนโลโก้ เป็น InitailD เลยนะท่านอิอิ ... จะให้เร็วสงสัยต้อง .. ดริฟติ้ง  :B

Jeng เขียน:ถ้าไม่มีควันพิษ พี่ขับจักรยาน ดีกว่า ได้ออกละกาย

  ผมปั่นจักรยานทุกวันครับ  คนมองแปลกๆ

แหม เปลี่ยนโลโก้ เป็น InitailD เลยนะท่านอิอิ ... จะให้เร็วสงสัยต้อง .. ดริฟติ้ง  

ดริ๊ฟท์กลางกรุงเทพจะไหวเหรอท่าน

เอาแค่เคลื่อนตัวไปตามจังหวะสัญญาณไฟก็เป็นบุญแร้ว  :lovl:

ผมชอบมอไซค์ พวกแบบ CBR นะ มันเท่ห์ดี

ยังอยากได้มอไซค์ของ BMW เลย แต่คันละล้าน ซื้อรถยนต์ญี่ปุ่นดีกว่าอ่ะ

อยากเหมือนกันครับ ส่วนตัวคิดว่าคุ้มแน่

แต่เนื่องจากระบบขนส่งบ้านเรา ยังไม่ดีพอ ประกอบกับบ้านกับที่ทำงานก็ไกลกันมาก หากรถไฟฟ้าสายสีม่วงเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะใช้บริการอย่างแน่นอนครับ แต่เมื่อไหร่นี่ซิ.... คิดแล้ว ถึงเวลานั้น อาจขึ้นบันไดสถานีไม่ไหวแล้ว จะดีต้องมีบันไดเลื่อน

  ผมปั่นจักรยานทุกวันครับ  คนมองแปลกๆ

ถ้าไม่มีควันพิษ พี่ขับจักรยาน ดีกว่า ได้ออกละกาย
เมืองไทยเมือง ร้อนน่ะพี่ ถ้าเป็นเมืองหนาวๆอากาศดีๆ ก็ดู "เท่ดี"

ท่านพี่มดง่าม อุตส่าเขียนไว้รอ
เค้ามองพี่เท่อ่ะ  :B  :B  :B