Thai VI

มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 16.52 ล้านบาทในงวดที่ 2 ปี 47 เป็น 21.23 ล้านบาทในงวดที่ 2 ปี 48

สาเหตุที่เพิ่มหลักมาจากบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากแอมคอร์น้อยลงครับจาก 5.23 ล้านบาท  เหลือเพียง 1.05 ล้านบาท

เงินสดที่ได้จากการดำเนินงาน  งวดนี้ก็หมดไปกับ  ลูกหนี้การค้า  สินค้าคงคลัง  และจ่ายหนี้เจ้าหนี้การค้าครับ  เหลือสุทธิเพียง 4.69 ล้านบาท  ซึ่งบริษัทก็ใช้นำไปปรับปรุงที่จอดรถ

ดังนั้นเมื่อบริษัทจ่ายเงินปันผลออกมาจำนวน 35.70 ล้านบาท  ทำให้บริษัทมีเงินสดสุทธิลดลงครับ

ขอบคุณครับ ว่ากำลังจะไปหาพอดี
8)

                                                               สอบทาน/ตรวจสอบ
                                       สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน      (หน่วย : พันบาท)

                                             ไตรมาส 2            งวด 6 เดือน

                                    ปี      2548      2547      2548      2547
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ                          21,234    16,520    42,627    36,459
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)                  1.19      0.93      2.39      2.04

แหะๆ ช้าไปครับ อยู่ระหว่างกลับบ้านไปรับลูกพอดี  :oops:

สินค้าคงคลังเพิ่มมากไปไหมครับ
114 ล้าน เป็น 153 ล้าน
(หัดอ่านนะครับ )

จริงๆแล้วเพิ่มมาตั้งแต่ไตรมาสที่แล้วเป็นส่วนมากครับ

จากไตรมาส 4 ปี 47  จำนวน 114.78 ล้านบาท
ไตรมาส 1 ปี 48 จำนวน 141.82 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 27.39 ล้านบาท
ไตรมาส 2 ปี 48 จำนวน 153.13 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 11.38 ล้านบาท

ถ้าพิจารณาจากต้นทุนขายไตรมาสละ 160.51 ล้านบาท  ก็คงจะบอกได้ว่า  ไม่ถึงกับแย่  แต่น่าจะบริหารได้ดีกว่านี้  

หรือมองโลกในแง่ดี  เข้าข้างตัวเองไว้ก่อนว่า  ผู้บริหารคงเห็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นในอนาคตมั๊งครับ  ฮิ  ฮิ

ถ้าเรารวม  เงินสด  ลูกหนี้การค้า  สินค้าคงคลัง  และเงินลงทุนในกองทุน  หักหนี้สินทั้งหมด  ก็จะเหลือ 426.66 ล้านบาท  หรือ 23.91 บาทต่อหุ้น

ดูการเติบโตของยอดขาย เจ้าหนี้การค้า ประกอบสิครับจะรู้ว่ามากไปไหม อีกอย่างหนึ่งสินค้าคงเหลือนั้น lotใหม่ราคาปรับเพิ่มขึ้นหรือเปล่า ตัวนี้ทำให้inv.โตได้นะครับ

ขอบคุณครับ  :B

ถ้ารู้ว่าราคาของต้นทุนจะเพิ่มขึ้นในระยะใกล้ๆนี้ ก็คงเป็นผลให้รีบซื้อในต้นทุนเดิมมาเก็บไว้ก่อนด้วยมังครับ....คาดเดาเอานะครับเพราะผมเองก็ต้องทำแบบนั้นเหมือนกันเพื่อรักษาต้นทุนเดิมไว้ มีตังฝากแบงค์ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร สู้เอามาเพิ่มค่าแบบนี้ดีกว่า

นี่คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ขาดดุลเดินสพัดเมื่อช่วงต้นปี โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลที่ทุกคนก็รู้แล้วว่าจะขึ้นราคาแน่ๆ(มีการกักตุนแน่นอน)

กำไรต่ำผมคาดไปนิดนะครับ ผมประมาณการไว้24-25
ตัวผมเองต้องหัดมองโลกในแง่ความเที่ยงตรงให้มากขึ้น เพราะคาดเดาไว้ตอนนี้ออกมา5บริษัทตรง1 เกินจริงไปตั้ง4แนะ ยังงี้เขาเรียกว่าหลงบริษัทตัวเองหรือเปล่า :lol:

วันหลังประเมินเป็นช่วงสิครับ จาก worst case ไป best case

และก็ most likely case

ขอบคุณครับ

ใช้ได้ครับ ไม่เสียแรงที่มีอยู่ 75% ของพอร์ต

แต่ไม่อยากจะพูดเลยว่า  EASTW ที่ผมซื้อเมื่อเดือนก่อน วันนี้ Capital Gain เพิ่มขึ้นมาเป็น % เท่ากับ WG ที่เก็บไว้เกือบ 1 ปี (ไม่รวมปันผล) เลยครับ ฮ่า ๆ ๆๆ  :lol: