Thai VI

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่2(F45-1)
                          กองทุนรวมวายุภักษ์ หนี่ง  ประเภท ก.

                                                         สอบทาน
                                สิ้นสุดวันที่  30 มิถุนายน      (หน่วย : พันบาท)
                                    ไตรมาสที่ 2          งวด 6 เดือน
             ปี                    2548        2547        2548        2547

  กำไร (ขาดทุน) สุทธิ              795,929    2,321,467    6,005,206    28,691,811
  กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)    0.0796    0.2321    0.6005    2.8692

 ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
      ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต

MFC ผู้บริหารกองทุนนี้ร่วมกับ TMBAM ก็ต้องตอบด้วยซิเนี่ย ร่วงลงซะทีซิราคาหุ้นนะ

MFC กับ KTAM ครับ

ราคาหน่วยลงทุน 10 บาทกำไร 6เดือน 0.6005 บาท ถ้าเทียบแล้ว เอาแบบขี้หมูขี้สุนัขเลย 0.8 บาท

ลองคูณดู ก็ 8% ใช่ไหม
รับประกันขึ้นต่ำไว้ที่ 3% ก็คือ 1 หน่วย ได้เงิน 0.3 บาท
ตอนนี้ปันผลออกมาแล้ว 0.2 บาท (ครึ่งปีแรกของปีนี้ 2548)
ยังเหลืออีกแค่ 0.1 บาท ก็ครบขั้นต่ำแล้ว

ถ้าบริหารขาดทุน ยังมีสะสมไว้อีกตั้ง 10.6บาท กว่านิด ประกาศเมื่อวันจันทร์
เป็นราคาNAVของหน่วยลงทุน

งานนี้ต้องดูกันยาวๆๆว่า มาตราการประกันจ่ายปันผลขั้นต่ำมันจะยกเลิกเมื่อไรล่ะนั้น

ปล ใครได้ปันผล จะโดนหัก 10% ณ ที่จ่าย หรือคิดรวมกับภาษีเงินได้
หรือ เอาคืนเมื่อปลายปี ถ้าฐานภาษีไม่ถึง

หลักทรัพย์ VAYU1  
 หัวข้อข่าว ประกาศมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ  
 วันที่/เวลา 08 ส.ค. 2548 08:46:00  
 กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง
ประกาศมูลค่าสินทรัพย์สุทธิและมูลค่าหน่วยลงทุน ประจำวันที่   5 สิงหาคม  2548
มูลค่าหน่วยลงทุน
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (บาท)        นักลงทุนทั่วไป (ประเภท ก.) กระทรวงการคลัง(ประเภท ข.)
127,509,773,363.17                                  10.6465        17.6614

ดูกันเอาเองล่ะกัน ว่าฐานะการเงินของนกยักษ์เป็นไงล่ะ
ถ้าจะจ่ายเงินปันผล 0.3 บาทต่อหน่วยล่ะทุน มันจ่ายได้อีกตั้งสองปี

[quote="miracle"]หลักทรัพย์ VAYU1

สรุปแล้ว VAYU1 มันก็เหมือนหุ้นกู้ที่อ้างอิงดอกเบี้ย
จากผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์นั่นแหละครับ

ถูกต้องที่สุดครับผม

MFC กับ KTAM ครับ

 ไก่หลุดอีกละตู  :oops:

ตอนคลังขายหุ้นให้กองทุน ขายให้ถูกมากครับ ถูกพอที่จะไม่ต้องทำกำไรเพิ่มก็มีเงินปันผลจนครบอายุกองทุนได้เลย แต่วิธีการแบ่งกำไรระหว่างประเภท ก และ ข ไม่เท่ากัน ที่ระดับกำไรสูงขึ้นประเภท ข จะได้ส่วนแบ่งมากกว่าประเภท ก มาก ดังนั้น 3% ได้แน่ แต่จะเอามากกว่านั้น ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะเอาใจผู้ถือหน่วยลงทุนมากน้อยแค่ไหน แต่ผมคาดว่าถ้ารัฐบาลต้องการขายกองทุนลักษณะนี้เพิ่มอีกก็คงต้องเอาใจคนถือหน่วยลงทุนหน่อยอาจจะยอมให้กระทรวงการคลังขาดทุนกำไรบ้าง ยิ่งถ้าดอกเบี้ยเพิ่มปันผลก็คงจะเพิ่มตามเพื่อไม่ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเสียผลประโยชน์จนน่าเกลียด ผมคิดว่าถ้าใครที่คิดจะรอซื้อพันธบัตรที่มีผลตอบแทนไม่เกิน 5% กองทุนนี้น่าสนใจทีเดียวที่ราคาไม่เกิน 9 บาท ถ้าถือครบอายุรับเงินคืน 10 บาทเป็นอย่างน้อย ซื้อง่ายขายคล่องไม่ต้องแย่งกันจอง

เมื่อปีที่แล้ว ผมเคยเทียบผลตอบแทนของพันธบัตร 10 ปี กับกองทุน VAYU1 ณ ราคา 9.30 บาท โดยตั้งสมมุติฐานว่า กองทุนจะจ่ายปันผลได้แค่ขั้นต่ำ 0.30 บาทตลอดอายุที่เหลือ

ผลปรากฏว่าอัตราผลตอบแทนของ VAYU1 ต่ำกว่า 10Yr Bond แค่ประมาณ 0.25% เองครับ ครั้งนั้นผมสรุปว่า VAYU1 มีโอกาสที่จะให้ผลตอบแทนต่ำกว่า 10Yr Boond มีแค่น้อยนิด ในกรณีที่ 10 ปีข้างหน้าหุ้นยังไม่ไปไหนหรือลดลง แต่โอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่า 10 Yr Bond นั้นแค่ 10 ปีข้างหน้าหุ้นขึ้นจากตอนนี้แค่ 10% ก็น่าจะได้แล้ว

แต่ก็อย่างว่าแหละครับ สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ชอบ bond โอกาสที่อีก 10 ปีข้างหน้าหุ้นจะไม่ไปไหนคงมีเยอะกว่าที่ผมคิดไว้มาก

ขอบคุณที่แย้งครับ
เพราะว่ากระผมลืมของนั้นไป
ว่าต้องจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภทก. ก่อนที่จะจ่ายผู้ถือหน่วยลงทุนประเภทข.(กระทรวงการคลัง)

ต้องขอบคุณอีกครั้งที่แย้งครับ