Thai VI

cash flowใหม่ สามารถจะทำได้เท่าราคาหุ้น ณ.ปัจจุบันภายใน3ปี

คุณคิดว่าไง ?

หรือมีอะไรที่ต้องดูอีก

DE ไม่ถึง0.5เท่า

กระแสเงินสดที่ทำได้ในปีนี้ ก็น่าจะสามารถชำระหนี้ได้หมด ถ้าจะทำ

ปล. ผมใช้คำว่า " รู้ " ฟังดูอาจจะเว่อร์ไปนิด
แต่คิดว่าถ้าเราจะทำดำเนินตามทางVI เราต้องรู้ก่อนที่จะรู้ ตามหลักการซุนวู

กล่าวว่า
เข้าใจในสิ่งที่เราได้ทำไปแล้ว ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเข้าใจ
บรรลุภารกิจหลังจากที่ภารกิจได้บรรลุไปแล้วไม่ถือว่าภารกิจเสร็จสิ้น
รู้ในสิ่งที่รู้ไปแล้ว ไม่เรียกว่าเป็นสิ่งที่รู้ ถ้าเข้าใจก่อนที่จะทำ บรรลุก่อนที่จะเสร็จภารกิจ รู้ก่อนที่จะรู้ เหล่านี้คือปัญญาที่แท้จริง


เขียนให้อ่านเฉยๆไม่ได้บอกว่าทำได้ แต่พยายามทำ

ข้อมูลที่อยากรู้เพิ่มคือ

1. Cash Flow ที่บอกว่าในอนาคอีก 3 ปีจะเท่ากับราคาหุ้น เป็น Free Cash Flow ที่เกิดจากการดำเนินงานตามปรกติซึ่งจะได้รับต่อเนื่องทุกปีหรือเปล่า

2. Cash Flow ในปีที่ 3 ที่จะเท่ากับราคาหุ้นนั้นเพิ่มขึ้นจาก Free Cash Flow ในปีนี้เท่าไร

3. ประวัติการจ่ายเงินปันผลและนโยบายการจ่ายปันผลของบริษัทเป็นอย่างไร

4. ธรรมาภิบาลของผู้บริหารเป็นอย่างไร

ข้อ1และ2 น่าจะรวมไว้เลย
Free cash flow จากการดำเนินงาน สำหรับปีนี้น่าจะประมาณ26%ของราคาหุ้น
ผมคิดอัตราGrowth ที่ประมาณ15%ต่อปี
ปีที่3น่าจะได้91%
ถ้ารวมค่าเสื่อมก็ได้จะถึง100%ได้

ข้อ3
การจ่ายเงินปันผลได้ ตั้งแต่ปี2002-ปัจจุบัน จ่ายเพิ่มตลอด(ดูข้อมูลจากปี2002)

ข้อ4
จากที่ดูลักษณะการเพิ่มทุน
เป็นการเพิ่มให้ผู้ถือหุ้นเดิม ไม่มีตุกติก
และอื่นๆ ยังไม่เห็นอะไรผิดปกติ หรือสายตาผมอาจยังไม่กว้างไกลพอ
ต้นทุนลดลงอย่างเด่นชัด เป็นสัญญาณที่ดีของธรรมาภิบาล

แล้วจะค่อยเสริมเพิ่ม ช่วยถามอีกนะครับ

มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้บริษัทนี้สามารถรักษาgrowthให้อยู่ในระดับเป้าหมายนี้ได้บ้างครับ

nanchan เขียน:ข้อ1และ2 น่าจะรวมไว้เลย
Free cash flow จากการดำเนินงาน สำหรับปีนี้น่าจะประมาณ26%ของราคาหุ้น
ผมคิดอัตราGrowth ที่ประมาณ15%ต่อปี
ปีที่3น่าจะได้91%
ถ้ารวมค่าเสื่อมก็ได้จะถึง100%ได้

ปรกติ Free Cash Flow ก็จะรวมค่าเสื่อมราคาอยู่แล้วนะครับ

แล้วที่คุณ nanachan คำนวณมีการหักเงินลงทุนออกด้วยหรือเปล่า

chatchai เขียน: ปรกติ Free Cash Flow ก็จะรวมค่าเสื่อมราคาอยู่แล้วนะครับ

แล้วที่คุณ nanachan คำนวณมีการหักเงินลงทุนออกด้วยหรือเปล่า

ความรู้ข้าน้อยยังด้อยเร่งศึกษา

คือผมก็ไม่ค่อยเข้าใจคำว่าFree cash flow เท่าไร ว่ารวมอะไรอยู่บ้าง

แต่ที่บอกมานี่เป็นเงินสดที่จะได้จากการดำเนินงาน
คิดเป็น26%ของราคาหุ้น

ส่วนเงินลงทุนผมยังไม่ได้คิด
จริงๆถ้าผมบอกว่ามีGrowth15% นั่นก็หมายความว่าจะต้องมีการลงทุนอย่างไรเพิ่มขึ้นเท่าไรให้Growth เพิ่ม15% อย่างนั้นใช่ไหมครับ

เอาไว้จะไปลองคำนวณด้านเงินลงทุนดูบ้าง

Basic เขียน:มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้บริษัทนี้สามารถรักษาgrowthให้อยู่ในระดับเป้าหมายนี้ได้บ้างครับ

ผมมองจากภาพรวมใช้GDP เป็นเกณฑ์
แล้วก็ตัวเลข15%นี่ ผมคำนวณแค่GDP ยังไม่รวมความสามารถเฉพาะของบริษัท ที่ผมอยากให้บวกเพิ่มไปอีกตามประวัติการดำเนินงาน

ตามมาดู เค้าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรครับ

หุ้นบริษัทอะไรคะ

ผมมองจากภาพรวมใช้GDP เป็นเกณฑ์

ใช้ GDP ที่เท่าไหร่ครับ

CK เขียน: ใช้ GDP ที่เท่าไหร่ครับ

ผมใช้GDP ประมาณ4%

janelovehoon เขียน:หุ้นบริษัทอะไรคะ

คำถามง่ายไปหน่อย ผมไม่ได้ใช้ความคิดเลย ไม่ขอตอบแล้วกัน

Eak71 เขียน:ตามมาดู เค้าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรครับ

ทำธุรกิจที่ทุกคนต้องใช้ บางคนอาจจะใช้ทางตรง บางคนอาจจะใช้ทางอ้อม

ขอคำใบ้หน่อยครับ ว่าอยู่หมวดไหน

harry เขียน:ขอคำใบ้หน่อยครับ ว่าอยู่หมวดไหน

ถ้าบอก แล้วมันไม่ถูกตามที่ผมคิด ผมก็เสียซิ

อีกอย่าง กลัวบางท่านยืมหุ้นผมไปShortด้วย

เดี๋ยวไง จะค่อยๆวิแคะที่ละจุด ที่ละจุด ละกัน

ผมมองไปถึง3ปี ภายในเดือนเดียวราคาหุ้นคงไม่ไปไหนหรอก

แล้ว ถ้า gdp ลดลง ปีหน้าหรือ โตไม่ถึง 2% ล่ะ เงินเฟ้อ เกิน 4% จะมีผล กับรายได้ ค่าใช้จ่ายแค่ไหน

Eak71 พิมพ์ว่า:
ตามมาดู เค้าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรครับ


ทำธุรกิจที่ทุกคนต้องใช้ บางคนอาจจะใช้ทางตรง บางคนอาจจะใช้ทางอ้อม

เป็นของที่ใช้ในชีวิตประจำวันแบบที่ใช้แล้วหมดไปในเวลาอันสั้นหรือยาว หรือเป็นธุรกิจที่ให้บริการครับ

ติ๊กตอก ติ๊กตอก

ต้องปันผลน้อยแน่ๆ เลย เมื่อเทียบกับกำไร P/E ถึงได้ต่ำ

หรือไม่ก็อยู่ใน sunset industry

ใช่ปันผล 40% /EPS ใช้กันเป็นประจำใช้แล้วหมดไปในเวลาอันสั้น แต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับ GPD เราหรือเปล่าครับ

พูดถึงปันผล
ปี2000-2001 ยังไม่มีการจ่ายปันผล เพราะยังไม่กำไร
ปี2002-2004 พอกำไรปุ๊ป จ่ายปันผลเฉลี่ยประมาณ30% ของกำไรที่ได้
และมีแนวโน้มว่าจะให้เพิ่ม

GDP ย่อมเกี่ยวแน่นอน เพราะผู้บริหารกล่าวไว้อย่างนั้น และผมก็เชื่อซะด้วย

Gdp 4% การเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ =3เท่าของGdp และมีโอกาสเป็น4เท่า

ถ้าบริษัทนี้ ยังบริหารด้วยธรรมาภิบาลที่ดี ผมว่าเอา2ถึง3คูณเข้าไปก็ยังไหว

ถ้าผมจะลองวิเคราะห์ วิสัยทัศน์และนิสัยผู้บริหาร จากบทความต่างๆ
ผมว่าเค้าเป็นคนมองการณ์ไกล
ใช้โอกาสในการทำธุรกิจได้อย่างเหมาะสม
บริหารเงินสดได้ดีและถูกใจผมด้วย
ให้ข้อมูลอย่างโปร่งใสและสม่ำเสมอ

CK เขียน:ติ๊กตอก ติ๊กตอก

ต้องปันผลน้อยแน่ๆ เลย เมื่อเทียบกับกำไร P/E ถึงได้ต่ำ

หรือไม่ก็อยู่ใน sunset industry

ก็ตอบยากนะครับว่าSun หรือ moon
ตามความคิดผม ผมว่ายังเป็นSunอยู่ในระยะ2ปี
แต่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ก็ต่างกันไป
มีแบบไม่Sunด้วย

แต่ละมุมมองก็ไม่เหมือนกัน ปันผลถ้าเทียบกับเงินเฟ้อแล้วหละก็
ผมว่าไม่น้อยทีเดียว
คิดว่าปีนี้น่าจะอยู่แถว7-9%จากราคาปัจจุบัน

จีนมีผลต่อการเติบโตของธุรกิจไหมครับ

ถ้าขายสินค้าในประเทศ จีนสามารถเป็นคู่แข่งได้หรือไม่

สินค้าขายในประเทศหรือส่งออกครับ ถ้ามีทั้ง2อย่าง สัดส่วนแต่ละตลาดเท่ากับเท่าไร
เอ ชักเหมือนรายการเกมโชว์เข้าซะแล้ว

cyclical stock / commodities stock ................

เขาว่ากันว่าขายตอนอุตสาหกรรมฮ๊อทๆ peak peak ได้ราคาดีสุดครับ .............

ใครๆก้อสนใจโดยเฉพาะรายย่อย ............

P/E ก้อตําๆ เตะตาVI จริงๆ .................

CK เขียน:จีนมีผลต่อการเติบโตของธุรกิจไหมครับ

ถ้าขายสินค้าในประเทศ จีนสามารถเป็นคู่แข่งได้หรือไม่

อือ เป็นความถามที่ใกล้เคียงความจริงครับ

คือผมว่าเป็นสินค้าที่ขายได้ทั้งในและนอกประเทศ

และจีนย่อมมีบทบาทพอสมควร แต่ผมมองว่า

เป็นระดับโลกมากกว่าเฉพาะจีน

แต่จีนเป็นตัวการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสูง

LOSO เขียน:cyclical stock / commodities stock ................

เขาว่ากันว่าขายตอนอุตสาหกรรมฮ๊อทๆ peak peak ได้ราคาดีสุดครับ .............

ใครๆก้อสนใจโดยเฉพาะรายย่อย ............

P/E ก้อตําๆ เตะตาVI จริงๆ .................

ผมนะชอบมุมมองท่านLoso เสมอ

แต่ผมว่า สินค้าเกือบทุกอุตสาหกรรม มีCyclical ของตัวมันเอง
ไม่ใช่เฉพาะที่เราๆพูดถึงกันหรอกครับ

ผมว่าถ้าเราจะมองว่าตัวนี้เป็นCyclicalหรือไม่
เราต้องมองอนาคตมากกว่ามองอดีต

และผมมองว่าถ้าบริษัทอีก3ปี ทำเงินสดได้เท่ากับราคาหุ้นที่ผมถือ
ผมว่าผมsafeครับ

แต่ที่แน่ๆ ที่ผมบอกว่าเงินสดเพิ่ม26%จากราคาหุ้น ไม่ใช่การคาดเดาแน่นอน
ถึงแม้ธุรกิจนั้นจะเป็นCyclical แต่ถ้าทำผลตอบแทนให้ผมระดับนี้ผมรับได้

น่าจะพอสรุปได้ว่า
1.เป็นหุ้นที่กำลังฟื้น
2.เป็นหุ้นที่เริ่มมีกำไรในปี2002
3.เป็นหุ้นที่ปันผลประมาณ30%ของผลกำไรแสดงว่า
3.1อาจมีหนี้สินมาก ใช้คืนหนี้สินก่อน แต่DE=0.5 แสดงว่าไม่ใช่
3.2มีการลงทุนขยายตัวมาก เลยปันผลต่ำ
3.3เป็นหุ้นวัำฎจักรผู้บริหารเลยเก็บเงินสดไว้ เพื่อความปลอดภัย
4เป็นสินค้าที่ไม่มีแบรด์เนม
5.ปันผล7-9%จากราคาปัจจุบัน
6.จีนอาจเป็นคู่แข่งในอนาคต อาจเป็นกลุ่มอิเลก และไฟฟ้า
7.ผู้บริหารให้ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
ใครคุ้นบ้างให้คำตอบหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมไปหาดู ถ้าเจอจะมาบอก
8.มีสินค้าที่ใช้ทั้งภายในและภายนอก
9.เป็นธุรกิจที่sunsetอีก2ปี

nanchan เขียน: ถ้าบอก แล้วมันไม่ถูกตามที่ผมคิด ผมก็เสียซิ

อีกอย่าง กลัวบางท่านยืมหุ้นผมไปShortด้วย

เดี๋ยวไง จะค่อยๆวิแคะที่ละจุด ที่ละจุด ละกัน

ผมมองไปถึง3ปี ภายในเดือนเดียวราคาหุ้นคงไม่ไปไหนหรอก

ถึงผมรู้ว่าตัวไหน ก็อาจไม่ได้ซื้อก็ได้ครับ

อีกอย่าง ถ้าผมสนใจ ก็ถือยาวมองไปหลายๆปีเหมือนกันครับ

PSL เป็นคำตอบสุดท้าย

nanchan เขียน:
ความรู้ข้าน้อยยังด้อยเร่งศึกษา

คือผมก็ไม่ค่อยเข้าใจคำว่าFree cash flow เท่าไร ว่ารวมอะไรอยู่บ้าง

แต่ที่บอกมานี่เป็นเงินสดที่จะได้จากการดำเนินงาน
คิดเป็น26%ของราคาหุ้น

ส่วนเงินลงทุนผมยังไม่ได้คิด
จริงๆถ้าผมบอกว่ามีGrowth15% นั่นก็หมายความว่าจะต้องมีการลงทุนอย่างไรเพิ่มขึ้นเท่าไรให้Growth เพิ่ม15% อย่างนั้นใช่ไหมครับ

เอาไว้จะไปลองคำนวณด้านเงินลงทุนดูบ้าง

เท่าที่อ่านมา ผมว่าคุณ nanchan ยังสับสนเรื่อง Free Cash Flow อยู่นะครับ

ผมเลยไม่มั่นใจที่คุณบอกว่าบริษัทจะมี Cash Flow ในอนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน

ถ้าคุณเอาเพียงกระแสเงินสดจากการดำเนินงานปัจจุบันแล้วให้ Growth ที่ 15%ต่อปี นั้นผมว่าคงไม่ใช่

เพราะอัตราการเติบโตที่ 15% ของมาจากยอดขายหรือไม่ก็กำไรสุทธิ คงไม่ใช่อัตราการเติบโตของกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน

ถึงแม้บริษัทจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 15% แต่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานคงไม่เพิ่มถึง 15%

เนื่องจาก กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน เป็นการรวม กำไรสุทธิ ค่าเสื่อมราคา และการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียน

ดังนั้นถึงแม้ กำไรสุทธิจะเพิ่ม 15% แต่ค่าเสื่อมราคาก็คงเท่าเดิม

อีกประการ ปรกติแล้วถ้าบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น บริษัทก็ย่อมมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในส่วนของสินค้าคงคลังและลูกหนี้การค้า ถ้าไม่ใช่ธุรกิจค้าปลีกที่มียอดเจ้าหนี้การค้าที่สูงกว่า

สุดท้ายบริษัทอาจจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานมาก แต่อาจจะหมดไปกับการลงทุนก็ได้ครับ

การประมาณการกระแสเงินสดในอนาคต เราต้องประมาณการงบดุล งบกำไรขาดทุนก่อนนะครับ