Thai VI

ที่ผมเห็นจะเป็นคนตะวันออกกลางเสียส่วนใหญ่ ทั้งที่เขาพึงขึ้น
ค่าบริการการคลอดลูกจาก3-4หมื่นเป็น7 หมื่นกว่า ทีแรกผมคิดว่า
ลูกค้าจะไม่สู้ราคากันเสียอีก ทีไหนได้ มีแต่ลูกค้าต่างชาติมากขึ้น
แต่คนไทยคนจีนน้อยลงเหมือนกัน เอ หรืออีกหน่อยคนไทยที่มาใช้
บริการที่นี่คงน้อยลง แล้วไปไหนกันหรือ

หรือเขาไปใช้ประกันสังคมกันคับ

ใช่ เห็นซื้อกันทีเป็นล้านๆ หุ้น แย่งกันจัง

PE 14กว่า (ยังไม่คิดหุ้นกู้)
PB 6กว่า
ทำไมคนสนใจซื้อกันเยอะจัง
แนวโน้มการขยายตัวธุรกิจดีมากหรือครับ?

แต่วันนี้แรงซื้อจากนอกไม่มาเลย

Forbes เล่มล่าสุดที่ลงเรื่อง 2005 Investing Guide มี Fund Manager ของ Hedge Fund ต่างประเทศท่านหนี่งเลือกหุ้นตัวนี้อยู่ด้วย เป็นหุ้นไทยเพียงตัวเดียวที่ปรากฏในเล่ม

ท่านสุมาอี้เคยบอกว่า หุ้นดีแค่ไหน ถ้าแพงก็ไม่มีทางซื้อ

แปลว่าต้นทุนท่านสุมาอี้น่าจะแถวๆ 10 บาท

CK เขียน:ท่านสุมาอี้เคยบอกว่า หุ้นดีแค่ไหน ถ้าแพงก็ไม่มีทางซื้อ

แปลว่าต้นทุนท่านสุมาอี้น่าจะแถวๆ 10 บาท

หรือต่ำกว่านั้น 8)

12.1 บาทครับ (คนที่ซื้อในวันแรกที่หลุดจาก Rehab มีต้นทุนแค่ 8 บาทเท่านั้น)

ผมไม่ใช่วีไอครับ ผมว่าการยึดหลักว่า หุ้น PE ต่ำแปลว่าถูก หุ้น PE สูงแปลว่าหุ้นแพง ก็เหมือนกับการบอกว่า รถ TีukTuk ที่ราคา 1 ล้านถูกว่ารถ Ferrari ที่ราคา 2 ล้าน ซึ่งผมว่าไม่ใช่

หุ้นจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับ Growth opportunities ด้วย ฺรพ.ที่คนไข้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 22 เปอร์เซนต์ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะเป็นอย่างนั้นต่อไป ผมว่า PE ปัจจุบันที่ 17 เท่ากว่าๆ ไม่ได้เป็นหุ้นที่แพงนัก

ผมว่าตอนนี้ SOLAR ก็เป็นหุ้นตัวหนึ่งที่ไม่แพงถ้าดูจากอัตราการเติบโต (แต่ไม่กล้าซื้อเพราะไม่มั่นใจธรรมภิบาล และไม่เข้าใจธรกิจนี้ดีพอ)

ในขณะที่หุ้นอย่าง TOP ฺBECL BEC AIS ตอนนี้ผมว่าแพงมากๆ หุ้นพวกนี้มีโอกาสเติบโตจำกัด บางตัวกำไรมีแนวโน้มลดลงด้วยซ้ำ แบบนี้ผมให้ PE ไม่เกิน 7 ครับ

แล้วถ้าราคามันขึ้นมาสูงมากเกินราคาที่เหมาะสม
ถึงแม้ว่าธุรกิจนั้นจะยังเป็นธุรกิจชั้นดี
VI จะขายออกไปหรือไม่ครับ?

อืม แต่นางพยาบาลหน้าใหม่ใหม่เพิ่มขึ้นเยอะเหมือนกันคับแปลกจัง

งานนี้แบบนี้ต้องใช้นางพยาบาลมากขึ้นด้วยหรือ

pe 17 อืม สมมุติ ลงทุน 100 กำไร 5.88

แล้วโต 22 %

อืม เอาเป็นสมมุติกำไรโต 22 % ซัก 5 ปีต่อเนื่องละกัน

ปีแรก 5.88
ปีที่สอง 7.17
ปีที่สาม 8.75
ปีที่สี่ 10.67
ปีที่ห้า 13.00

นั่นหมายถึง ปีที่ 5 pe จะเป็น 7.6

ซื้ออนาคตที่ pe 7.6 โดยตั้งบนสมมุติฐานว่า ต้องกำไรโต 22 %

5 ปีซ้อน แบบทบต้นด้วย

ขอเสริมข้อมูลของท่านสุมาอี้ ใน Forbes เล่มล่าสุด เจ้า Hedge Fund นี้ เค้าบอกว่าเป็น Greater Asian Hedge Fund ซึ่งกองทุนมีขนาด 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผู้จัดการกองทุนกองนี้ที่เค้าไปสัมภาษณ์ชื่อ William Kaye ใน Port สำหรับการลงทุนระยะยาวเค้ามี บำรุงขวัญราษฎรรวย (ไทย) Fisher&Paykel (นิวซีแลนด์) Henderson Group (UK) Takeda Phama (JAP) และ UOB (Sing)

ส่วน Top pick อื่นๆ ที่กล่าวไว้ในเล่มนี้ ก็จะมุ่งเน้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะบริษัทจีน และพวกพลังงานทดแทน (ลม+แสงอาทิตย์) และกลุ่มโทรคมนาคม

บำรุงขวัญราษฎรรวย (ไทย) อาจจะโตได้เฉลี่ย 22% จริงครับ แม้ในยามเศรษฐกิจ
ไม่ดี แต่ก็ยังมีความเสี่ยง

เทียบกับบริษัทที่สามารถโตได้ 100% ใน 4 ปี และตอนนี้ p/e แค่ 7.6 ...

บริษัทใดหรือครับ ท่านชอการช่าง

อย่าเพิ่งไปทักมัน CK มันกำลังลงมาเรื่อยๆ

มีสองสามบริษัทมังครับ เป็นอย่างน้อย
แต่โปรดใช้วิจารณญาณ การลงทุนมีความเสี่ยง
ถ้าไม่เข้าใจความเสี่ยง การลงทุนก็เป็นได้แค่การพนัน

CK เขียน: เทียบกับบริษัทที่สามารถโตได้ 100% ใน 4 ปี และตอนนี้ p/e แค่ 7.6 ...

ถ้าผมพบว่าหุ้นตัวไหนเป็นแบบนั้น ผมซื้อแน่ครับ เผลอๆ ขาย BH เทมาซื้ออันนี้ด้วย แต่ตอนนี้ยังหาไม่พบครับ

Jeng เขียน:
pe 17 อืม สมมุติ ลงทุน 100 กำไร 5.88

แล้วโต 22 %

อืม เอาเป็นสมมุติกำไรโต 22 % ซัก 5 ปีต่อเนื่องละกัน

จำนวนคนไข้โตร้อยละ 22 กำไรจะโตมากกว่านั้น ถ้าสมมติว่าคนไข้ทุกคนใช้จ่ายเท่าเดิมโดยเฉลี่ย รายได้จะโต 22 แต่กำไรจะโตมากกว่า เพราะทุกบริษัทจะมีต้นทุนส่วนหนึ่งที่เป็นต้นทุนคงที่

ถ้าผมหวังรายได้โต 22 นั่นคือจริงๆ แล้วผมกำลังหวังกำไรสุทธิโตมากกว่า 22 อยู่ครับ (ปีที่แล้วรายได้โต 25 แต่ EBIT โต 40)

ที่ PE 17 เท่า ผมว่าไม่แพง แต่ก็ไม่ถึงกับถูกมากครับ (มี margin of safety อยู่บ้าง แต่ไม่มาก)

เมื่อปีก่อนถูกมาก

ลงมาอีกหน่อยแล้วท่าน CK (ถ้าท่านช่วยกระทืบลงมาก็ดีนะครับ)

ข้าน้อยพยายามอยู่นะท่านม้าเฉียว แต่ด่านมึ้งกวน 15.7 มันช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน
ต้องวานท่านม้าเฉียวมาช่วยกระทืบอีกแรง

ขอเดาว่าเป็นน้องอั้มครับ

ถ่านหินจะโตขึ้นไปอีกหรือครับ เป็นเพราะอะไรครับ

ถ้าเศรษฐกิจฟุบ SME จะไปก่อน แล้ว UMS ซึ่งมีฐานลูกค้าเป็นขนาดเล็กและกลาง
คงกระทบด้วย

ผมว่าท่านสุมาอี้พูดถูกเรื่องPE ถึงแม้PEจะสูงแต่หุ้นมีการเติบโตได้มาก
ค่าPE ก็สูงได้

แต่ผมว่า BH นี่ Growth จะสูงขนาดนั้นรึเปล่า
ผมก็ไม่ได้ศึกษาเหมือนกัน

แต่คิดว่าธุรกิจโรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่คนไม่อยากใช้
หรือว่าท่านสุมาอี้อยากใช้ครับ :lovl:

แล้วการขยายธุรกิจก็ทำได้ยาก
หมอเก่งๆก็หายากเล่นตัวด้วย
ลงทุนก็สูง
เทคโนโลยีก็เปลี่ยนเร็ว

มันคงไปเปรียบกับ COCA COLA ตามที่บัฟเฟตพูดถึงได้ยาก

ส่วนธุรกิจถ่านหิน ผมมองว่ามันเป็นสินค้าของพวกยุคหินนะครับ
ไม่ค่อยถนัด
เพราะบริษัทผมก็กำลังเปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้า

แต่ถ้ามองในแง่คุณภาพ ของBh
ถ้าคนรวยมากขึ้น คนก็คงจะเลือกเข้าBH
มากกว่า

ตอนนี้อัตราการใช้เตียง 100 เปอร์เซนต์แล้ว และำกำลังสร้างตึก 22 ชั้นเพื่อขยายกำลังการผลิตอยู่ น่าจะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50%

คนอเมริกันกำลังบอกกันปากต่อปากว่าที่นี่ไ้ด้มาตรฐาน JCIA เท่ากับรพ.ในอเมริกา แต่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าประมาณ 5 เท่า เฉพาะคนอเมริกันที่บินมาผ่าตัดแปลงเพศอย่างเดียวก็วันละ 2 รายแล้ว

ผมว่ารพ.เอกชนส่งออกกำลังเป็น Phenomenon อย่างหนึ่งของประเทศไทยในช่วง 10 ปีนี้ เพราะเรามี value proposition ที่ชัดเจนมาก เด็กไทยที่เก่งที่สุดนิยมเรียนหมอ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายเราต่ำ สิงคโปร์พยายามเลียนแบบอยู่แต่ยังสู้ไม่ได้เพราะเราถูกกว่ามากแต่คุณภาพทัดเทียม (คงจำเรื่องรพ.Raffles ที่ผ่าตัดแฝดอิหร่านหัวติดกันได้ รัฐบาลสิงคโปร์ subsidize และช่วยทำ PR ไปทั่วโลก) นี่ขนาดรัฐบาลไทยไม่ช่วยส่งเสริมเลยนะเนี่ย

mustang เขียน:ถ้าเศรษฐกิจฟุบ SME จะไปก่อน แล้ว UMS ซึ่งมีฐานลูกค้าเป็นขนาดเล็กและกลาง
คงกระทบด้วย

อืมมันก็มองได้สองแง่นะครับ ในอีกแง่หนึ่ง ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมว่าอย่างน้อยคนเรามันก็ต้องพยายามเอาตัวรอดก่อนด้วยการลดต้นทุนซึ่งก็อาจจะกลายมาเป็นโอกาสของ ถ่านหินบ้างก็ได้ เนื่องจากต้นทุนพลังงานถูกกว่า

ถ้าชะลอตัวลง ก็น่าจะดีกับ ums ครับ แต่ถ้ามี crash ก็โดนเต็มๆ

**แหม...ถ้าหมอหล่อๆเก่งๆและพยาบาลสวยๆ คนไข้ต้องแยะแน่ๆ
ช่วยลากไปให้สัก 20 หน่อยเท้ออออ.....แบบทำลายสถิติ.อิอิ **

คงจำเรื่องรพ.Raffles ที่ผ่าตัดแฝดอิหร่านหัวติดกันได้ รัฐบาลสิงคโปร์ subsidize และช่วยทำ PR ไปทั่วโลก

จำได้ว่า ตายทั้งคู่เลย

หุ้นโรงบาล ผมเคยดูแค่ ahc กับ kdh ดูแล้วก็ถูกใช้ได้แต่ธุรกิจแบบนี้ผม no idea กะว่าจะลองถามเพื่อนว่าในวงการเค้าว่าไงกันมั่ง

bh ผมเห็นแค่ ชดช้อย โสภณพนิช ถึอหุ้นอยู่ 0.5% ผมละเกลียดป้าคนนี้ที่สุดเลย